

ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา ปลุกคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทให้ตื่นจากนิทรา ม่านฟ้าลุกขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีท่าทางอิดออด
“อืบบบบ” ม่านฟ้าลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไปมาเพื่อไล่ความง่วงและเรียกความสดชื่น ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้จะต้องตื่นแต่เช้าตรู่ แต่เธอก็ยังสดชื่น เพราะเมื่อคืนเข้านอนแต่หัวค่ำ อีกทั้งยังตื่นเต้นกับการเริ่มต้นการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
หญิงสาวรีบไปอาบน้ำแล้วสวมชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาพอดีตัว เธอติดเข็มตรามหาวิทยาลัยเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าเรียบร้อย ม่านฟ้าหมุนตัวอยู่หน้ากระจกอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง ชุดนี้ทำให้เธอดูโตขึ้นมาอีกนิด ผิดกับตอนที่สวมชุดมัธยมปลาย
นักศึกษาสาวเตรียมของจำเป็นใส่กระเป๋าสะพายและจัดหนังสือที่ต้องเรียนในวันนี้ไปด้วย เธอเดินลงมาจากชั้นสองด้วยสีหน้าสดใสอารมณ์ดี แม่บ้านมองคุณหนูที่ดูโตขึ้นแล้วคลี่ยิ้มเอ็นดู
“คุณหนูของป้าจะเป็นสาวแล้ว” ป้าแก้วแม่บ้านเก่าแก่พูดขึ้นมาอย่างภูมิใจในคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
“ขอบคุณนะคะป้าแก้ว ที่ดูแลเจ้าขามาอย่างดี”
ม่านฟ้าได้ยินแม่บ้านเอ่ยออกมาแบบนั้น เธอคลี่ยิ้มหวานให้แล้วสวมกอดอย่างสนิทสนม เพราะป้าแก้วเป็นแม่บ้านที่อยู่คู่บ้านหลังนี้มาเนิ่นนานจึงสนิทกันเหมือนเป็นญาติคนหนึ่ง เธออยากได้ยินคนบอกว่าเธอโตขึ้นแล้วเพราะที่ผ่านมาแม้อายุจะมากขึ้นทุกวัน แต่การเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมของพ่อและแม่ ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา
“เจ้าขามากินข้าวก่อนลูก เดี๋ยวพ่อและแม่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัย” นวลปรางเดินออกจากห้องอาหารเพื่อมาตามลูกสาวไปกินข้าว
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าเดินตามมารดาเข้าไปในห้องอาหาร พ่อของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเข้าไปยกมือไหว้ กอดและหอมแก้มอย่างที่เคยทำทุกวัน “สวัสดีค่ะพ่อ”
“สวัสดีลูก มานั่งกินข้าวจะได้รีบเดินทาง” ฉัตรเทพยกมือขึ้นตบหัวลูกสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะบอกให้เธอไปนั่งเพื่อกินข้าว
“ป้าแก้วตักข้าวได้เลยจ้ะ” คุณนวลปรางบอกแม่บ้านในตอนที่มานั่งพร้อมกันแล้ว
แม่บ้านตักข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ ม่านฟ้ากินอย่างเอร็ดอร่อยและกินค่อนข้างไว เพราะอยากรีบไปมหาวิทยาลัยเต็มแก่
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็สำลักหรอก” แม่ของเธอต้องรีบบอกว่าเพราะกลัวลูกสาวจะสำลัก
“ค่ะแม่” หญิงสาวเงยหน้ายิ้มตอบ แต่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อ ให้หมดชามโดยเร็ว
ฉัตรเทพเห็นท่าทางของลูกก็เข้าใจว่าลูกคงตื่นเต้นมาก เขาเอ็นดูลูกสาวมากจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพากันรีบกินข้าว เพื่อจะได้ออกเดินทางไปมหาวิทยาลัย
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยด้วยรถตู้คันหรูสมฐานะของเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูป
*****
“จอดค่า” ม่านฟ้าร้องออกมากะทันหัน จนคนขับรถต้องรีบเหยียบเบรกทันที
“จะให้จอดทำไมลูก” ฉัตรเทพเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ยังอยู่แค่หน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น
“ไม่ได้ส่งแต่ที่หน้ามหา’ลัยเหรอคะ” ม่านฟ้าหันไปถามพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พ่อกับแม่ไม่ปล่อยให้เจ้าขาเดินเข้ามาอย่างโดดเดี่ยวหรอกลูก วันนี้พ่อกับแม่จะไปส่งให้ถึงห้องเรียนเลย” นวลปรางยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน
ม่านฟ้าได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วต้องปล่อยให้ท่านเข้ามาส่งอย่างไม่มีทางเลือกเพราะเธอขัดอะไรไม่ได้ ยังไงท่านก็คงยืนกรานอย่างเดิมแน่นอน พ่อกับแม่ทำแบบนี้ตั้งแต่เธอเป็นเด็กจนถึงเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ทุกวันเปิดภาคเรียนใหม่ ท่านทั้งสองจะต้องมาส่งมาเธอจนถึงหน้าตึกด้วยความเป็นห่วง ซึ่งความเป็นห่วงนี้ก็ตามมาจนถึงการเปิดเรียนของมหาลัยเลยทีเดียว
“ตั้งใจเรียนนะเจ้าขา” นวลปรางเดินเข้ามาถึงหน้าตึกคณะพร้อมกับสามีของเธอ
“ค่ะแม่ แล้วคอนโดของเจ้าขาล่ะคะ” ม่านฟ้ายิ้มขอบคุณและเอ่ยถามเรื่องคอนโดของเธอ
พ่อของเธอจึงเอาคีย์การ์ดให้พร้อมกับบอกที่อยู่ของคอนโดให้ลูกสาวรับรู้
“นี่คีย์การ์ดนะ เย็นนี้พ่อจะให้คนขับรถมารับและพาไปที่คอนโด ข้าวของของลูก เดี๋ยววันนี้พ่อจะให้คนงานที่บ้านเป็นคนขนขึ้นไปจัดไว้ให้เอง เจ้าขาไปถึงก็จะเห็นของเองลูก” ฉัตรเทพบอกอย่างอ่อนโยน เขาจะกลับไปสั่งแม่บ้าน คนสวน คนขับรถให้ช่วยกันขนของของม่านฟ้าไปไว้ที่คอนโด มีทั้งที่ซื้อใหม่และของเก่าที่เธอใช้ประจำ
“ขอบคุณค่ะพ่อ แค่เอาไปไว้ในห้องก็พอค่ะ เดี๋ยวเจ้าขาจัดของเอง” ม่านฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับรับคีย์การ์ดมา คอนโดแห่งนี้พ่อเธอเพิ่งทำการซื้อและใส่ชื่อท่านไว้ก่อนเพราะเธออายุยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่สุดท้ายมันก็ต้องเป็นของเธอ
“จะจัดเองให้เหนื่อยทำไม พ่อว่าให้คนงานของเราจัดให้ดีกว่า” ฉัตรเทพบอกอย่างใจดี เพราะปกติลูกสาวคนนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว
“เจ้าขาอยากทำเองค่ะ พ่อให้เจ้าขาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างสิคะ เจ้าขาโตแล้วนะคะ” ม่านฟ้ายืนกรานเสียงแข็ง ใบหน้าสวยเจือความเซ็งอยู่ในที จึงทำหน้ายู่ใส่พ่อ
“ตามใจก็แล้วกัน งั้นเดี๋ยวพ่อให้คนขนไปให้ แล้วลูกก็จัดเอาเอง” ฉัตรเทพต้องยอมให้ลูกจัดของเอง เห็นเธออารมณ์ดีมา ก็ไม่อยากให้ต้องหงุดหงิดก่อนขึ้นไปเรียนวันแรก
“ขอบคุณค่ะ” คราวนี้ม่านฟ้าคลี่ยิ้มแป้น แล้วยกมือไหว้พ่อและแม่อย่างอารมณ์ดี
“ไปเรียนได้แล้วลูก พ่อกับแม่จะกลับแล้ว เจอกันวันหยุดนะลูก” นวลปรางดึงลูกสาวเข้ามากอด ก่อนจะผละออกแล้วบอกให้ลูกสาวไปเรียน ส่วนเธอกับสามีก็เดินไปขึ้นรถตู้เพื่อกลับบ้าน
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าตอบกลับพ่อแม่และยืนรอจนรถวิ่งออกไป
