สยบรักเพลย์บอยตัวร้าย

83.0K · จบแล้ว
ขนมปังรสหวาน
62
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพลย์บอยแบบเขาโดนเพื่อนในกลุ่มท้าให้จีบสาวน้อยผู้แสนจะอ่อนต่อโลก มีหรือที่เขาจะพลาด ก็ของรางวัลมันน่าสนใจ เพราะเขาจะได้ทั้งเธอ และทั้งรถสปอร์ตอย่างไรล่ะ ม่านฟ้า หรือ เจ้าขา เปรียบเสมือนนางฟ้าตัวน้อยในครอบครัว แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยหญิงสาวจึงย้ายไปอยู่คอนโดเพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตในแบบผู้ใหญ่ด้วยตนเอง แม้ครอบครัวจะไม่เห็นด้วย แต่ด้วยความรักและเชื่อใจลูกสาว ทุกคนจึงยอมให้เธอได้ทำตามต้องการ เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เจ้าขากลายเป็นดาวเด่น มีแต่คนสนอกสนใจเธอ ไม่เว้นแม้แต่กับอาทิตย์หรือไฟ หนุ่มเพลย์บอยแถวหน้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ อาทิตย์ถูกใจเจ้าขาตั้งแต่แรกพบ แต่เมื่อถูกเพื่อนยื่นข้อเสนอให้จีบเธอคนนี้ให้ได้เพื่อแลกกับรถหรู คนอย่างอาทิตย์ที่ไม่เคยแพ้ใครก็ยินยอมรับคำท้าทันทีเพราะกลัวว่าตนเองจะเสียหน้า แต่ไปๆ มาๆ เมื่อรับเดิมพันนั้นไปแล้ว หัวใจของเขากลับหลงรักเจ้าขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความรู้สึกที่มีต่อคนที่ตัวเองเรียกว่าแฟน ไม่ได้เป็นแค่ความต้องการเอาชนะเดิมพันอีกต่อไป ทว่าความลับก็ไม่เคยมีในโลก เพราะเมื่อเจ้าขาได้มาล่วงรู้ความจริง ว่าคนที่เธอรักและมอบตำแหน่งแฟนให้ ทำทุกอย่างไปเพียงเพราะมันเป็นแค่เกมเดิมพันเกมหนึ่ง เจ้าขารับไม่ได้ในเรื่องนั้นและหนีจากไปทันที ซึ่งอาทิตย์ก็ได้รู้ซึ้งในเวลานี้เองว่า เขารักเจ้าขามากเกินกว่าจะยอมเสียเธอไปได้ และต้องทำทุกทางเพื่อให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้เห็นเธอเป็นเพียงแค่สิ่งเดิมพันเพื่อความสนุกอย่างที่เข้าใจ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันดาวมหาลัยหนุ่มเจ้าสำราญแบดบอย

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

ยามค่ำคืนที่เงียบสงัดภายในบ้านหลังใหญ่ปิดไฟมืดสนิทแต่มีอยู่หนึ่งห้องที่ยังเปิดไฟสลัวจากโคมไฟบนโต๊ะของตนเอง ม่านฟ้าเปิดโน้ตบุ๊กแล้วค้นหาหอพักและคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตนเองกำลังจะเข้าไปเป็นนักศึกษาที่นั่น

หลาย ๆ ที่ดูน่าสนใจ เธอดูรายละเอียดทั้งในเรื่องของราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จนตาลาย ดวงตาเริ่มหรี่ลงจะหลับเสียให้ได้ แต่เธอมีเวลาในการเตรียมตัวเรื่องที่พักไม่มากนักจึงต้องพยายามค้นหาต่อไป

มือเล็กป้องปากหาวอยู่หลายรอบ เอกสารหอพักหลายแผ่นรวมกันเป็นปึก มีทั้งราคาถูกและแพงปนกันมา เธอคิดว่าเลือกแค่นี้ก็พอแล้วถึงได้ปิดโน้ตบุ๊กและปิดโคมไฟลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

ม่านฟ้าตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ มีความอิดโรยเจืออยู่เพราะนอนดึกกว่าทุกที หญิงสาวรีบลุกไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวอย่างเร่งรีบ เหตุเพราะจะต้องนำที่พักที่หาเอาเมื่อคืนลงไปให้บิดาของตนเองได้เลือก

“อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อ อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่” ม่านฟ้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส แต่ผู้เป็นแม่ก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของลูกหมองกว่าปกติ แต่ก็ทำเป็นนิ่งไว้ก่อน เพราะหากถามไปในตอนนี้ลูกสาวก็อาจจะโดนพ่อที่ขึ้นชื่อว่าทั้งหวงลูกสาวที่สุดและทั้งดุเค้นถามเอาได้ เธอตั้งใจว่าเดี๋ยวจะหาเวลาคุยกับลูกสาวในภายหลัง

“เอกสารอะไรน่ะลูก” ฉัตรเทพถามขึ้นมาเมื่อเห็นในมือของลูกมีเอกสารอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องสำคัญถึงได้หอบเข้ามาที่โต๊ะอาหารด้วยแบบนี้

“เจ้าขาเอาที่อยู่คอนโดที่จะไปเช่าอยู่มาให้พ่อกับแม่ช่วยเลือกค่ะ” ม่านฟ้ายื่นกระดาษหลายแผ่นในมือตนเองไปให้บิดาดูอย่างกระตือรือร้น

“หือ คอนโดอะไร” ฉัตรเทพหันไปมองหน้าภรรยาด้วยความสงสัย เขารับกระดาษพวกนั้นไปแล้วนั่งดูกับภรรยา

“ที่อยู่? เจ้าขาหมายความว่ายังไงลูก” นวลปรางเอ่ยถามลูกสาวออกไปอย่างสงสัย

“ก็ที่อยู่คอนโดที่เจ้าขาจะไปอยู่ในตอนเรียนไงคะ” ม่านฟ้ารีบบอกพ่อกับแม่ของเธอทันที

“ไม่ได้!!!” พ่อแม่ของเธอตอบกลับพร้อมกันทันที น้ำเสียงทรงพลังเสียจนคิดว่าจะขัดไม่ได้ แต่ม่านฟ้าไม่ยอมแพ้ เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าพอเข้ามหาวิทยาลัยเธอจะต้องได้ย้ายไปอยู่ข้างนอกให้ได้ จึงเริ่มยกเหตุผลทั้งหมดขึ้นมาอ้าง

“ทำไมล่ะคะ บ้านเราไกลจากมหา’ลัยมากเลยนะ ถ้าให้เจ้าขาตื่นแต่เช้าไปเรียน และกว่าจะเลิกเรียนถึงบ้านก็จะมืดไปเลย เจ้าขาไม่ไหวนะคะ อีกอย่างเจ้าขาเคยขอพ่อกับไม่ไว้แล้วไงคะ ว่าถ้าเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าขาขอไปอยู่คอนโดใกล้ๆ มหาวิทยาลัยเพื่อความสะดวก ยิ่งปี 1 ยิ่งกิจกรรมเยอะ อีกไม่นานเจ้าขาก็จะเปิดเทอมแล้ว ก็เลยหาที่อยู่เอาไว้เพื่อให้พ่อกับแม่ช่วยเลือกด้วยไงคะ” ม่านฟ้าพูดออกไปอย่างออดอ้อนและทำสีหน้าให้ดูจริงจังบ้านของเธออยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร เพราะกิจการที่เป็นการนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูป จึงใช้พื้นที่เยอะอยู่ชานเมืองที่อ้อมน้อย สมุทรสาคร ถนนในตอนเช้าและเย็น รถก็มักจะติดหนักมาก เพราะมีแต่คนต้องรีบร้อนไปเรียนไปทำงาน

“มันไม่ได้ไกลมากขนาดนั้น” ฉัตรเทพพูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย แววตาของเขานิ่งเรียบ น้ำเสียงก็จริงจังตามแบบฉบับของพ่อที่หวงลูกสาว

ม่านฟ้ากะพริบตาปริบ ๆ กำลังใช้ความคิดว่าจะอ้างยังไงดี ก่อนจะใช้ลูกอ้อนที่ได้ผลมาตลอด

“โถ่ พ่อขา แต่เจ้าขาต้องนั่งรถหลายต่อเลยนะคะพ่อ การเดินทางไม่ใช่ว่านั่งรถเพียงสายเดียวก็ถึงมหาวิทยาลัยเลยสักหน่อย แถมปีหนึ่งก็มีกิจกรรมเยอะแยะเลย บางทีต้องอยู่มหาวิทยาลัยจนมืด เจ้าขาไม่อยากเสี่ยงกลับบ้านดึกๆ นะคะ แท็กซี่ทุกวันนี้ก็ไว้ใจได้ยาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ห่วงเจ้าขาเหรอคะ” ม่านฟ้าพูดไปก็เข้าไปกอดเอวพ่อของตนเองและเอาหน้าถูไถเหมือนแมวที่กำลังอ้อนเจ้าของ

ฉัตรเทพคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางนั้นของลูกสาว ม่านฟ้ายิ้มตามอย่างมีความหวัง

“พ่อไม่ปล่อยให้ลูกสาวของพ่อต้องขึ้นรถไปหรอกลูก พ่อจะให้คนขับรถที่บ้านไปส่งเจ้าขาเองดีไหมลูก เจ้าขาจะไม่เหนื่อย”ฉัตรเทพยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาว ก่อนจะพูดออกมาอย่างอ่อนโยน

รอยยิ้มบนใบหน้าของม่านฟ้าหายไปในทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น“โหยพ่ออ่ะ!” หญิงสาวร้องโอดโอย ก่อนจะผละออกมาจากอกพ่อ เธอไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนนกน้อยในกรงทองอีกแล้ว เธอมีความฝันที่จะโบยบินอย่างอิสระไม่มีใครมาคอยควบคุม

พ่อแม่เป็นห่วงมากน่ะเธอรู้ แต่เธอก็อยากได้ใช้ชีวิตของตัวเอง เธอหาหอและคอนโดมาทั้งคืนแต่พ่อกลับไม่สนใจเลย

“กินข้าวซะลูก” ฉัตรเทพตักอาหารใส่จานของลูกสาวอย่างใส่ใจ และส่งปึกกระดาษให้แม่บ้านเอาออกไปไว้ที่อื่น

‘ใครจะไปกินข้าวลงกันล่ะ!’ ม่านฟ้าก้มหน้ามุ่ยเขี่ยข้าวในจานไปมาและไม่ยอมตักใส่ปากสักที พ่อกับแม่ดูท่าทางของลูกสาวแล้วหันไปมองหน้ากัน ก่อนที่ฉัตรเทพจะพยักหน้าให้เป็นหน้าที่ของภรรยา

“พ่อกับแม่เป็นห่วงเจ้าขามากนะลูก เจ้าขาน่าจะรู้นะ” นวลปรางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ม่านฟ้าเป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นคนเล็ก พ่อกับแม่ทั้งเป็นห่วงและหวงมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอและสามีเลี้ยงม่านฟ้ามาอย่างไข่ในหิน เรียนที่โรงเรียนนานาชาติใกล้บ้านมาตลอดตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยมปลาย

“เจ้าขารู้ค่ะ” ม่านฟ้าตอบเซ็ง ๆ เธอรู้ว่าพ่อแม่ทั้งห่วงและหวงจนดูแลทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน เธอถึงได้อยากอยู่ให้ห่างจากท่านบ้างเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตของตนเองอย่างอิสระ ม่านฟ้าเฝ้ารอวันที่จะได้เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย เพราะจะขอท่านออกไปอยู่ตามลำพัง แต่ท่านก็ดับฝันของเธอลงเสียได้

“แต่อยู่ที่นี่การเดินทางก็ใช้เวลานาน เจ้าขาคงจะเพลียน่าดูนะคะ แล้วไหนจะต้องตื่นแต่เช้าอีก เจ้าขาไม่ไหวแน่ ๆ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าเจ้าขาตื่นเช้าๆ ไม่ได้” ม่านฟ้าพยายามหาข้ออ้าง เมื่อก่อนเธอตื่น 6 โมงเช้ายังไปเรียนทัน แต่นี่คงต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 แน่เลย

“ระยะทางจากบ้านเราไปมหา’ลัยไม่ถือว่าไกลมากนะลูก ที่อเมริกาน่ะมหา’ลัยอยู่ห่างจากบ้านไกลกว่านี้เยอะ ยังไปเรียนกันได้เลย” ฉัตรเทพพูดขึ้นมาบ้าง