

ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ม่านฟ้าตะลึงกับคำหักล้างของบิดา เอาส่วนไหนมาเทียบการเดินทางในอเมริกากับในกรุงเทพ
“โถ่พ่อ การเดินทางในอเมริกา มันเทียบได้กับการเดินทางจากอ้อมน้อยไปกรุงเทพได้ยังไงคะพ่อ ถนนหนทางก็ก่อสร้างตลอดจนเขาทำคลิปล้อเลียนแล้วนะคะ อีกอย่างเจ้าขาอยากอยู่กับเพื่อนบ้างนิคะพ่อ เจ้าขาโตแล้วนะคะ อยากมีชีวิตแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่นๆ บ้าง” ม่านฟ้ายกเรื่องการก่อสร้างถนนขึ้นมาอ้าง และออกมาตรง ๆ เลยว่า เธออยากอยู่กับเพื่อน ๆ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ้างตามแบบชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย
“อยู่ที่นี่เจ้าขาจะพาเพื่อนมาบ้านตอนไหนก็ได้ พ่อไม่ห้ามเลยลูก พ่ออนุญาตและจะให้แม่บ้านทำกับข้าวอร่อย ๆ ไว้ให้กินด้วย” ฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วตักข้าวกินไปพลาง ๆ โดยไม่สนใจเหตุผลของลูกสาว เพราะยังไงเขาก็ไม่ยอมให้คนที่เขารักมากที่สุดออกไปอยู่ไกลสายตาแน่
ม่านฟ้าทนไม่ไหว หากพูดอะไรออกไปก็ต้องถูกหักล้างไปซะหมด หญิงสาวลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นระหว่างพ่อและแม่“นะคะพ่อ แม่ ให้เจ้าขาไปอยู่หอพักนะคะ” ม่านฟ้าพูดออกมาอย่างออดอ้อนแขนเรียวโอบกอดขาพ่ออย่างออดอ้อน แววตาอ้อนวอนของลูกที่มองสบตามาไม่ได้ทำให้ฉัตรเทพใจอ่อนลงง่าย ๆ ทว่ากับนวลปรางนั้นแสนง่ายดาย แค่ม่านฟ้าเปลี่ยนไปกอดขาแม่แล้วมองอ้อน แม่ของเธอก็ใจอ่อนลงทันที
“เจ้าขาอยากออกไปอยู่แถว ๆ มหา’ลัยจริง ๆ นะคะแม่ แม่อนุญาตให้เจ้าขาไปเถอะนะคะ” ม่านฟ้าอ้อนแม่และทำตาปริบๆ
“เอ่อ...” นวลปรางเอ่ยขึ้น“ไม่ได้!” นวลปรางยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา ฉัตรเทพก็เอ่ยเสียงแข็ง เขารู้ทันว่าภรรยาใจอ่อนให้กับลูกสาวได้ง่าย ๆ เพราะปกติเพียงแค่ลูกอ้อนนิดเดียวก็ยอมตามใจลูกแล้ว
“พ่อคะ ให้เจ้าขาไปอยู่คอนโดนะคะ” ม่านฟ้าหันไปมองพ่อแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า แต่ถึงยังไงฉัตรเทพก็ไม่หลงกลของม่านฟ้าได้ง่าย ๆ ใบหน้าของฉัตรเทพยังเรียบนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนลง
ม่านฟ้าคิดว่ากับพ่อคงไม่มีทางอ้อนสำเร็จ เธอต้องเข้าทางแม่เท่านั้น! แต่พอหันกลับมาหาแม่ ท่านก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินข้าว ไม่ยอมสบตากับม่านฟ้าเลย นวลปรางกลัวว่าจะใจอ่อนอีก
“เจ้าขาอยากไปอยู่ข้างนอกค่ะแม่ ถ้าหอพักไม่ปลอดภัย เป็นคอนโดก็ได้ค่ะ เจ้าขาดูมาหลาย ๆ ที่แล้วก็มีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนาอยู่นะคะ และเจ้าขาจะโทรรายงานตัวบ่อยเลยค่ะ เจ้าขาสัญญา” ม่านฟ้าพยายามที่จะพูดอ้อนวอน แต่คำพูดของเธอก็เหมือนหายไปในอากาศเพราะดูแล้วไม่มีใครสนใจเลย
“แม่ขา” แต่ม่านฟ้าไม่เชื่อหรอกว่าพ่อและแม่จะไม่สนใจฟังอยู่ หญิงสาวซบหน้าลงที่ตักมารดาอยู่อย่างนั้นและเขี่ยขาแม่อย่างออดอ้อน นวลปรางทนไม่ไหว ไม่อยากให้ลูกมานั่งอ้อนแล้วไม่ยอมไปกินข้าวแบบนี้
“ลุกไปกินข้าวได้แล้วเจ้าขา” นวลปรางเอ่ยออกมาเสียงแข็ง ‘จะต้องใจแข็งไว้ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด’ เธอบอกตัวเองในใจ
ม่านฟ้าไม่พูดอะไร เธอนั่งซบหน้ากับตักของแม่เหมือนเดิม
“ลุกเถอะลูก” นวลปรางเอ่ยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เสียงอ่อนลงมาก
ม่านฟ้าเงยหน้าขึ้นมองมารดาด้วยแววตาเศร้า นวลปรางพูดไม่ออกเพราะเห็นใจลูกสาวของตนเอง คงอยากออกไปอยู่ข้างนอกมาก ถึงได้อ้อนไม่หยุดแบบนี้ ปกติหากฉัตรเทพปฏิเสธไปแล้วม่านฟ้าจะถอดใจไปเอง แต่คราวนี้ต่างออกไป
“เฮ้อ” นวลปรางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ฉันว่าเราอนุญาตให้ลูกออกไปอยู่แถวมหาลัยดีกว่าค่ะคุณ ลูกจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางด้วย” นวลปรางหันไปหาสามีแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะคงไม่มีใครช่วยลูกได้อีกแล้วนอกจากเธอ ยังไงสุดท้ายสามีก็ฟังความเห็นของเธอมาตลอด
“ผมว่ามันอันตรายนะคุณ” ฉัตรเทพพูดขึ้นอย่างไม่ยินยอม เขาเห็นแววแพ้ลูกสาวมาแต่ไกล เพราะสุดท้ายเขาก็ไม่เคยขัดใจภรรยาได้สักครั้ง
“ลูกเราโตแล้วนะคะคุณ ลูกขอแบบนี้แสดงว่าลูกต้องดูแลตัวเองได้และคงอยากใช้ชีวิตแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยจริงๆ เราก็แค่ดูทีที่ดีที่สุด ปลอดภัยมากที่สุดให้ลูกก็พอ อีกอย่างลูกก็บอกแล้วว่าจะโทรรายงานตัวบ่อยๆ ” นวลปรางพูดขึ้นตามเหตุผลที่ลูกอ้างมา
“แต่...” ฉัตรเทพอ้าปากจะแย้ง แต่ทว่า..
“ไม่มีแต่ค่ะ ตามนี้นะคะ เจ้าขาลุกไปกินข้าวให้เสร็จ แล้วเราจะไปเลือกคอนโดให้ลูกด้วยกัน” นวลปรางตอบกลับสามีทันที ก่อนจะหันไปบอกลูกสาว
“....” สามีอย่างฉัตรเทพทำได้แค่ปิดปากเงียบและกินข้างต่อไป
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าลอบยิ้มออกมาก่อนจะลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะ ‘อ้อนแม่แล้วได้ผล ให้แม่เป็นคนพูดยังไงพ่อก็ไม่กล้าขัด คิกคิกคิก’ หญิงสาวเก็บอาการดีใจของตนเองไว้ในใจ แล้วหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ
“เจ้าขาสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะพ่อ และเจ้าขาจะกลับบ้านทุกวันเสาร์อาทิตย์ที่ไม่มีกิจกรรมนะคะ” ม่านฟ้าเอ่ยออกมาอย่างออดอ้อนและจริงจัง
“โอเค พ่ออนุญาตให้เจ้าขาออกไปอยู่แถวมหาลัยก็ได้ แล้วอย่าลืมทำตามที่สัญญาไว้ล่ะ ต้องโทรรายงานตัวบ่อยๆ และกลับบ้านในวันหยุด” ฉัตรเทพพูดขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะกำชับลูกสาวให้ทำตามสัญญา
“ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณนะคะแม่” ม่านฟ้าลุกขึ้นไปกอดพ่อและแม่ของตัวเองและหอมแก้มอย่างออดอ้อน จากนั้นเดินไปเอากระดาษปึกนั้นกลับมาเพื่อให้พ่อกับแม่เลือกคอนโดให้
“พ่อจะหาให้เอง แล้วจะซื้อให้เจ้าขาเป็นของขวัญวันเปิดเทอมเลยดีไหม” ฉัตรเทพหยิบเอกสารมากองไว้โดยยังไม่ดู แล้วพูดขึ้น เพราะเขาจะเลือกด้วยตัวเองเท่านั้น
“ขอบคุณนะคะพ่อ จุ๊บ จุ๊บ” ม่านฟ้าเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอคลี่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู พร้อมกับเจ้าไปกอดคอหอมแก้มพ่อกับแม่คนละที แล้วกลับมากินข้าวอย่างอารมณ์ดี
นกน้อยตัวนี้จะได้หลุดออกจากกรงทองแล้ว
