ตอนที่6. โปรดเข้าใจข้าด้วย
“ท่านเชียวโปรดเข้าใจข้าด้วย ในเมื่อคุณหนูเชียวเป็นผู้ร้องทุกข์ต่อข้า มิหนำซ้ำข้าคือคนที่ช่วยเหลือนางมาด้วยตนเอง เรื่องนี้ถือว่าคนอยู่เบื้องหลังมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย หากข้าปล่อยผ่าน เช่นนั้นแล้วกฎหมายบ้านเมืองจะศักดิ์สิทธ์ได้หรือ”
“ไม่นะ! นางปรักปรำข้า ท่านเจ้าเมืองคนใบ้ไม่อาจพูดได้ นางจะเขียนคำโกหกต่อท่านแบบไหนก็ได้ ข้าไม่เกี่ยวนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำอันใดเลยจริง ๆ นะเจ้าคะ”
เชียวฮูหยินร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมคำพูดที่พรั่งพรูราวคนเสียสติ ส่วนท่านเจ้าเมืองและเชียวอวิ๋นได้แต่ยิ้มในหน้า เพราะทั้งคู่ไม่ทันได้พูดให้กระจ่าง แต่วัวสันหลังหวะกลับพูดมันออกมาเสียเอง โดยไม่ต้องสืบสาวให้เปลืองแรง
ท่านอาจารย์ของนางไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ขนาดท่านเจ้าเมืองยังช่วยเหลือ โดยที่นางไม่ต้องอธิบายอะไร มีเพียงอาจารย์ของนางเป็นคนพูดและสั่งการต่อท่านเจ้าเมือง ผลออกมาเหมือนอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คนในจวนนี้คือผู้ที่หวังทำลายเจ้าของร่าง
“คนใบ้ไร้ค่าเยี่ยงนาง ขนาดพ่อแม่แท้ ๆ ยังไม่เอา พวกเขาส่งสวะนี้มาให้เราเลี้ยงดู ทุกอย่างล้วนสิ้นเปลือง...”
เพี๊ยะ! ใบหน้างามสะบัดตามแรงฝ่ามือ เมื่อเชียวหลางไม่อาจทนฟังคำพูดของภรรยาได้อีกต่อไป
“เจ้ารู้อะไรไหม! เงินทองเสื้อผ้าเนื้อดีที่เจ้าสวมใส่ มันล้วนมาจากบิดาของอวิ๋นเอ๋อร์ทั้งสิ้น หน้าที่ของเจ้าแค่ดูแลนางให้ดี ไยเจ้าถึงได้มองเพียงแค่นางพูดไม่ได้ แล้วคือปัญหาไปได้เล่า”
“ถ้านางไม่ใช่ตัวปัญหา ทำไมพี่ชายของท่านถึงต้องส่งนางมาที่นี่ ทำไมไม่ให้นางอยู่เป็นคุณหนูใหญ่เฉิดฉายอยู่ในเมืองหลวง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาก็อับอายที่มีนาง”
เชียวฮูหยินยังคงเถียงสามีคอเป็นเอ็น นางไม่ชอบให้ใครมองว่าลูก ๆ ของนางต้องอาศัยทุกสิ่งอย่างจากเชียวอวิ๋น ในงานปักปิ่นของหลานสาวสามี บอกชัดว่าแม้จะเป็นใบ้ เชียวอวิ๋นก็ยังได้รับความเอ็นดูจากผู้คนไม่น้อย
อีกทั้งสาสน์สำคัญจากเมืองหลวง ที่นางแอบซ่อนไว้ มันทำให้นางต้องกำจัดเชียวอวิ๋นไปซะ! เพื่ออนาคตอันสดใสของบุตรสาว หญิงใบ้เอาอันใดมาได้ดีกว่าหญิงสาวที่เพียบพร้อมเช่นลูกของนางได้เล่า
“ท่านพ่อ! โปรดอภัยให้ท่านแม่ด้วยนะเจ้าคะ ข้ามิอยากเป็นพี่อวิ๋นแล้วก็ได้ ไม่แต่งเข้าจวนอ๋องอะไรนั่นด้วย”
“เงียบปากไปซะ! เจ้าจะพูดทำไมกัน!”
เชียวฮูหยินตวาดแวดใส่บุตรสาว ที่มิรู้ความอันใดเลย ทุกคำพูดของบุตรสาวมันจะทำให้เรื่องที่ยุ่งยากอยู่แล้ว เพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีกหลายเท่าตัว
“นี่เจ้าคิดจะให้ลูกของเรา สวมรอยเป็นอวิ๋นเอ๋อร์ เพื่อไปแต่งเข้าจวนอ๋องเช่นนั้นรึ! เจ้ามันโง่เขลานัก”
“ทำไม! นางเป็นสวะไร้ค่า ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาสักนิด อีกอย่างอีกตั้งสามปีกว่าจะถึงเวลานั้น ลูกของเราก็จะเติบโตสมบูรณ์แบบเหมาะแก่ฐานะพระชายา”
ทุกคนที่ได้ฟังทางถอนหายใจหนัก ๆ ความรักของแม่นับเป็นเรื่องที่ดี แต่มันผิดที่เป้าหมายมันไม่ถูกต้องเท่านั้น แล้วมันยิ่งน่าสมเพชเข้าไปอีก เมื่อต้องมีคนตายเพื่อความเฉิดฉายของใครอีกคน
ตอนที่ 5 นับจากนี้
“เชิญท่านเจ้าเมืองทำตามกฎหมายเถอะขอรับ ข้าน้อยต้องขอตัวก่อน ชิงชิงไปกับพ่อ”
เชียวหลางเอ่ยได้เพียงเท่านั้น ก็ได้คว้าแขนลูกสาวพากลับเข้าเรือน ปล่อยให้ภรรยาหวีดร้องด่าทอเขาอยู่ด้านหลัง สิ่งที่นางทำเขาไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
บ่าวไพร่เก่าแก่ที่นี่ก็มีมาก ทุกคนจะคิดอย่างไรที่ภรรยาเขาคิดจะสลับตัวลูกของตัวเองกับหลานสาว เพียงเพื่อให้ได้แต่งงานกับคนในราชวงศ์ โดยที่นางไม่รู้เลยว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เพราะเป็นสิ่งที่พี่ชายกำชับมา
เชียวอวิ๋นค้อมศีรษะให้แก่ท่านเจ้าเมือง เพื่อเป็นการขอบคุณ ก่อนจะเดินกลับไปยังเรือนของตนเอง โดยอาศัยความทรงจำเจ้าของร่างนำทาง เย็นนี้ท่านอาจารย์คงจะส่งสาวใช้คนใหม่มาให้นาง
และนับจากนี้ไปนางต้องทุ่มเทเวลา ศึกษาร่ำเรียนวิชาอย่างหนัก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก นางไว้ใจใครไม่ได้เลยในจวนแห่งนี้ เพราะจากสายตาของผู้เป็นอาแล้ว มันไม่ยุติลงแค่นี้อย่างแน่นอน
สามปีต่อมา เมืองหลวง ณ สกุลเชียว
รถม้าจากจวนเชียเมืองฮั่วโจว ได้หยุดลงยังหน้าจวนสกุลเชียว ก่อนที่ชายหนุ่มในชุดสีเข้มสองคน จะก้าวมายืนรอยังบันไดรถม้า เพียงครู่เดียวสาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มได้ก้าวลงมา ก่อนที่คุณหนูใหญ่เชียวอวิ๋น จะติดตามลงมาหยุดยืนต่อหน้าคนสนิททั้งสาม
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย สาวใช้ข้างกายได้ก้าวไปยังหน้าประตูจวน ก่อนจะทำการเคาะเพื่อเรียกคนด้านใน เชียวอวิ๋นมองสำรวจทุกอย่างด้วยสายตานิ่งเรียบ
“ผู้ใด!”
เสียงกร้าวจากด้านหน้าประตู ทำให้นายบ่าวทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านล่างช้อนตามอง แต่ยังคงไร้ซึ่งปฏิกิริยาใด ๆ
“คุณหนูใหญ่เดินทางมาถึงแล้ว”