12. ฤทธิ์ยามันแรง
เฟยเฟยมองภาพบุรุษตรงหน้าที่ยังคงยืนยิ้มหยันให้นาง นึกแค้นใจเป็นอย่างยิ่งที่พลาดท่าในครานี้ รอให้ผ่านไปก่อนเถอะ ตนจะเอาคืนให้สาสมเชียว
“เฉินเห่ยฟางเจ้าไม่ตายดีแน่” แม้จะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าร่างของเฟยเฟยกลับโผเข้าหาอีกฝ่ายจนไม่ทันได้ตั้งตัว นางจู่โจมรั้งท้ายทอยเขาลงมาจูบแลกลิ้นอย่างเร่าร้อน จนเขาแทบจะสำลัก เพราะฤทธิ์ยายามนี้มันทำให้นางควบคุมร่างกายไม่ได้เลย ต้องปลดปล่อยเท่านั้นจึงจะหายจากอาการที่มี
แม้นางจะรับรู้ว่าสามีพยายามถอยหนี ทว่ามือขาวก็ยังรั้งไว้ทั้งจูบและดูดดึงจนรู้สึกเจ็บ ตามมาด้วยการขบกัดจนเลือดออก ราวกับจะลงโทษที่อีกฝ่ายวางยาตนให้เกิดกำหนัด
ในเมื่ออยากได้แบบนี้ นางก็จะทำให้เขาลืมไม่ลงไปเสียเลย จากนั้นค่อยหาทางหย่า เพราะตนจะไม่มีวันอยู่กับเขาเด็ดขาด
เฟยเฟยยังคงปลุกปล้ำอีกฝ่ายอย่างมัวเมาเพราะขาดสติ ยามนี้ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับอยู่ในฝัน บางครั้งก็มองสามีเป็นเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายมันก็กลับมาที่สามีจอมชั่วคนเดิม ทว่าใครก็ช่างเพราะร่างกายมันอยากปลดปล่อยเต็มที
นางจับเขาปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจนไม่เหลือสักชิ้น นัยน์ตาคมหม่นลงเมื่อเห็นอาการร้อนรนจนน่าสงสาร ทว่ายามนี้ต้องช่วยให้นางผ่อนคลายเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเฟยเฟยคงธาตุไฟแตกได้
เขาตอบสนองความต้องการของนาง ไม่ว่าคนตัวเล็กจะทำสิ่งใดบนร่างกายเขาก็ยินดีรับมันทุกอย่าง ซึ่งเฟยเฟยคิดว่าเขาคงพอใจมาก จึงได้ยิ้มตลอดเวลาจนน่าหมั่นไส้
“ฮึ่ม…ใจเย็น ๆ นะเมียจ๋า…มันจะเจ็บเอานะ” ครางบอกเมื่อคนตัวเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา พร้อมกับตั้งท่าจะสอดใส่แก่นกายตนเข้าไป เพราะขนาดมันไม่ได้ธรรมดาเลย เกรงนางจะระบมจนไม่สามารถลุกได้ในวันพรุ่ง
“อย่าขัดใจข้าเห่ยฟาง เจ้าต้องการให้มันเป็นเช่นนี้เอง” สิ้นคำนางก็กดร่องรักกลืนกินดุ้นเนื้อเข้าไปจนมิด และทั้งคู่ก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน เพราะความคับแน่นด้านในซึ่งมีมากเหลือเกิน
“อื้อ…เจ็บ” ครางออกมาทันที
ร่างกายที่เคยทรมานยามนี้ มีความเจ็บปวดแทรกซึมเข้ามาแทนที่แล้ว ทว่ามันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างเล็กก็เริ่มขยับโยกสะโพกกลมของตนเคลื่อนไปตามจังหวะ และหนักหน่วงขึ้นเมื่อการเสียดสีเริ่มคล่องตัว
“อ๊า…เบาหน่อย ประเดี๋ยววันพรุ่งจะเดินไม่ได้เอานะ” ครางบอกคนด้านบน เมื่อนางเอาแต่อัดกระแทกร่องงามลงมาใส่แก่นกายของเขาซึ่งตั้งรอรับอย่างเต็มใจ ใครจะคิดว่าเฟยเฟยจะน่าฟัดถึงเพียงนี้ เต้าอวบสองข้างก็เด้งดึ๋งกระเพื่อมมิหยุด
บางครามือนางก็ยกขึ้นมาบีบบี้ขยำอย่างเมามัน พร้อมกับมองร่างแกร่งที่อยู่ใต้ร่างตน ซึ่งยามนี้นางคือผู้ควบคุมทุกอย่าง เขาทำได้เพียงแค่ครางและช่วยนางขยับสะโพกเท่านั้น จากวันนี้ไปสามีอาจจะร้องขอและตามตอแยตนไม่เลิกก็เป็นได้
“อ๊ะ…อ๊า…เสียว…อื้อ” ครางกระเส่าพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น นางอยากกระแทกให้หักคาไปเลยด้วยซ้ำ โทษฐานวางยาจนนางมิอาจควบคุมตนเองได้ ร่อนสะโพกบนตัวเขาไม่รู้จักอายเลย
เฟยเฟยก้มมองผู้ที่อยู่ใต้ร่างตน ซึ่งมันก็ยังสลับเปลี่ยนไปมาระหว่างคนชั่วและเพื่อนสนิท ดีที่เกิดจินตนาการนี้ขึ้นมา ทำให้เฟยเฟยไม่ถึงกับต้องทุกข์หนัก อย่างน้อยเธอก็อยู่บนตัวของคนที่อยู่ในใจ และมันก็ช่วยให้ปลดปล่อยได้ง่ายขึ้นด้วย
“อื้อ…จางรั่ว…ฉันเสียว” เผลอครางเรียกชื่อคนที่อยู่ในใจ ทำเอาร่างแกร่งถึงกับขบกรามแน่นข่มอารมณ์ที่มี ไม่คิดว่านางจะเอ่ยชื่อของบุรุษอื่นในขณะที่กำลังร่วมรักกัน
ทว่ายังไม่ทันได้ถามอันใด ริมฝีปากอิ่มก็แนบลงมาประกบเสียก่อน พร้อมกับปลายลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าตวัดดูดเลียกัน เพิ่มปรารถนาที่มีให้มากขึ้น เพราะต่างก็อยากปลดปล่อยความต้องการที่กักเก็บอยู่ภายในซึ่งกำลังลุกโหม
แม้จะเหงื่อโทรมกายก็ไม่คิดจะหยุด มันยิ่งกระตุ้นกำหนัดให้เพิ่มขึ้นอีกมากกว่า จนร่างแกร่งจับนางพลิกนอนหงายเสียเอง แล้วเร่งซอยเอวถี่รัว
“อื้อ…แรงอีก..จะมาแล้ว…อ๊ะ…อ๊า” ร้องขอไม่รู้จักอาย เมื่อถูกอีกฝ่ายขยับสะโพกเข้าหาราวกับไม่เคยได้พบพานมาก่อน
“ผัวจัดให้จ๊ะเมียจ๋า” คนตัวโตเอ่ยบอกเสียงแหบพร่า ก่อนจะตรึงเอวคอดไว้ อัดแก่นกายของตนเข้าร่องรักรัว ๆ จนทั้งคู่ครางออกมาแทบไม่เป็นภาษาเพราะความสุขกำลังทะลักล้น
เฟยเฟยเกร็งกระตุกจนตัวงอ หลั่งน้ำรักออกมาชโลมดุ้นเนื้ออีกฝ่ายจนอุ่นวาบ ไม่ต่างจากเขาที่ปล่อยเข้าไปทุกหยาดหยด
ทว่ามันยังไม่พอ ในเมื่อฤทธิ์ยายังแล่นไปทั่วร่างกายนี้
ร่างเปลือยที่แสนเย้ายวนจึงไม่รอช้า พลิกตัวขึ้นคร่อมสามีอีกหน ก่อนที่นางจะควบเขาไม่ต่างจากม้า และมันก็ถูกใจคนใต้ร่างยิ่งนัก เขาจึงช่วยด้วยการเด้งเอวเสยดุ้นใส่เข้าไปด้วย
กว่าฤทธิ์ยาในร่างกายจะหมดนางก็รีดน้ำเขาไปเสียหลายรอบ เรียกได้ว่าสลบคาอกเขาเลยทีเดียว
มือเรียวเกลี่ยปอยผมที่ชื้นเหงื่อออก แล้วจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา เขาพลิกตัววางนางลงข้างกาย ก่อนจะลุกมาสวมใส่อาภรณ์ตามเดิม เพราะยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีก
สายของวัน
เปลือกตาสวยเปิดขึ้น พร้อมกับร่างกายที่ปวดระบม แก้มเนียนขึ้นเป็นสันนูน เพราะกำลังกัดฟันข่มอารมณ์คุกรุ่นในยามนี้
“ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้ดังขึ้นเรียกสติ ทว่าไม่มีเสียงตอบรับมาจากคนบนเตียง
“ข้าน้อยบอกแล้วว่าอย่าออกไปเที่ยวตากลม จับไข้เลยเห็นหรือไม่” เพราะเสี่ยวจูไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น นางเองก็ถูกขังไว้ในเรือนสาวใช้ กว่าจะถูกปล่อยออกมาก็เช้าของอีกวัน และนางก็ถูกตามตัวให้มาดูแลผู้เป็นนายที่นี่
“ข้าจับไข้หรือ?” พยายามลุกขึ้นมาถามผู้ที่นั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีถ้วยยาพร้อมอยู่ในมือเพื่อป้อนผู้เป็นนาย
‘นี่อย่าบอกนะว่าเสี่ยวจูไม่รู้เรื่อง’
“เจ้าค่ะ เห็นว่าเป็นตั้งแต่กลับมาถึงแล้ว คุณชายพาท่านออกไปก็ไข้ขึ้นจนหมดสติ จึงไม่ได้ไปพบกับแขกที่มาเยี่ยม แต่เห็นพวกบ่าวคุยกันว่าจะกลับมาอีก เพราะยังไม่ได้มอบของที่ท่านหญิงฝากมาเลย” รายงานอย่างละเอียด
“งั้นหรือ” เสียงถอนใจดังขึ้นมา ก่อนที่คิ้วสวยจะเริ่มผูกกันเป็นปม เมื่อมองดูห้องที่ตนอยู่ มันต่างออกไปจากเรือนพัก และไม่ใช่เรือนที่นางถูกพาไปขังไว้แน่
“เสี่ยวจู ที่นี่ที่ไหนกัน” ถามคนของตนที่น่าจะรู้
“ก็ห้องของท่านอย่างไรเจ้าคะ แต่เป็นจวนสกุลมู่เจ้าค่ะ ข้าน้อยก็ไม่รู้เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าฮูหยินจะไข้ขึ้นสูงจนละเมอกลับมาที่นี่เจ้าคะ” คนไม่ประสาเอ่ยไปเรื่อย
คิ้วสวยผูกกันเป็นปมทันที มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเดินมาที่นี่เอง หนึ่ง เจ็บระบมร่างกายเพียงนี้ ออกพ้นประตูได้ก็บุญแล้ว
สอง มู่เฟยเฟยไม่ใช่คนเดิมอย่างที่เข้าใจกัน นางไม่รู้ว่าจวนสกุลมู่อยู่ทิศไหนของเมืองด้วยซ้ำ จะกลับมาบ้านได้เยี่ยงไร
ใครกัน? ที่พาเรากลับมา
นางครุ่นคิดอยู่เช่นนั้นแต่ก็หาคำตอบให้ตนเองไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในยามนี้คือต้องหายายับยั้งการตั้งครรภ์มากินเสียก่อน นางไม่ยอมให้กำเนิดบุตรของเฉินเห่ยฟางเป็นแน่ จึงเล่าความจริงให้สาวใช้ฟังเพื่อให้เสี่ยวจูช่วยเหลือ
“ข้าน้อยจะรีบไปนะเจ้าคะ” เมื่อรู้ว่าผู้เป็นนายไม่ได้เจ็บไข้ และยังถูกคุณชายวางยากำหนัด เสี่ยวจูจึงไม่รอช้าที่จะช่วยนายของตน ซึ่งนางก็เฝ้าต้มยาให้จนครบตามที่หมอสั่ง
เฟยเฟยครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยามนั้นตนไม่ได้สติเอาเสียเลย แม้จะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็เถอะ ทว่าร่างกายมันควบคุมไม่ได้ เคยได้ยินว่าในยุคปัจจุบันมียาเสียสาวที่แรงมาก ทำให้คนมีอารมณ์เคลิบเคลิ้มอยากมีเซ็กส์
แต่ไม่คิดว่าสมุนไพรในยุคนี้ที่ตนโดนเมื่อคืน มันจะรุนแรงเทียบได้กับช้างตกมัน ฮึกเหิมและเร่าร้อนจนเธอเสียการควบคุม ที่สำคัญมันยังช่วยให้จินตนาการถึงใครบางคนที่อยู่ในใจได้ด้วย
นี่สินะภาพหลอนของจริง อยู่กันคนละยุคเธอยังลากมาขึ้นเตียงได้ แต่ก็ถือว่าดีอย่างน้อยช่วงเวลานั้นเธอก็ไม่ต้องเป็นทุกข์ เพราะคิดว่าตนนั้นหลับนอนกับคนในใจอยู่
ทว่ายามนี้เมื่อได้สติขึ้นมาแล้ว นางก็รู้สึกเกลียดสามีเข้าไส้ ใครจะคิดล่ะว่าเขาจะกล้าสั่งคนให้วางยากำหนัดตน และเข้ามาย่ำยีในภายหลัง คนผู้นี้โฉดชั่วเกินไปจริง ๆ
“คิดหรือว่าการทำเช่นนี้ จะทำให้ข้าไม่คิดหย่า ข้าไม่ใช่สตรีอ่อนแอโหยหาความรักผู้นั้นอีกแล้ว เห่ยฟาง สิ่งที่เจ้าทำมีแต่จะสร้างปัญหาให้สกุลเฉิน รอให้ข้าหายดีก่อนเถอะ”
“ฮูหยินท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไปเจ้าคะ” เอ่ยถามอย่างกังวล
“ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าว่าฮูหยินอีก เรียกแซ่เดิมของข้า ข้าไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสกุลเฉินอีกแล้ว และเราจะอยู่ที่นี่” เสียงหนักแน่นเปล่งออกมาให้ได้ยิน
“เกรงแต่มันจะไม่ง่ายน่ะสิเจ้าคะ”
“ง่ายหรือไม่ ข้าก็ไม่มีทางกลับไปที่นั่นอีกแล้ว” นางกล่าวในสิ่งที่ตนตั้งใจ ซึ่งเฟยเฟยก็ทำเช่นนั้นจริง
#ตกลงใครย่ำยีน้อง