7. เป็นห่วง
เมื่อถึงจวนฮูหยินเฉียวก็ลงจากรถม้า พร้อมกับสั่งคนไปเรียกแม่ทัพให้รีบมารับฮูหยินเข้าจวน
ฟานอวี้เมื่อได้ยินว่าฮูหยินของตนเกิดป่วยกระทันหันก็รีบวิ่งออกมาจากจวนทันที เมื่อเห็นคนตัวเล็กที่เดินลงมาจากรถม้า แต่กลับต้องชะงักเมื่อเห็นเสื้อคลุมของคนสนิทอยู่บนร่างกายของฮูหยินตนอาการหงุดหงุดที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเกิดขึ้นทันที
" ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรมากนี่ท่านแม่ ยังคงเดินเหินได้ดี "
ฟานอวี้เอ่ยออกไปเมื่อคิดว่าคนตัวเล็กคงไม่ได้เป็นอะไรมาก
จางเหยารีบเดินเข้ามาหาแม่ทัพทันที
" ฮูหยินได้รับบาดเจ็บถูกคนรอบยิงธนูได้รับบาดเจ็บที่แขนขวาขอรับ แต่เพราะไม่อยากให้ฮูหยินเฉียวเป็นห่วงเลยบอกว่าไม่สบายเท่านั้น "
" อะไรนะ "
ฟานอวี้ร้องออกมาอย่างตกใจ จนจางเหยาต้องรีบสะกิดให้หันไปมองคนที่ยืนอยู่
" เจ้าร้องตกใจอะไรกัน รีบพาฮูหยินเจ้าเข้าบ้านสิ "
" ขอรับท่านแม่ "
ฟานอวี้รีบเดินเข้าไปหาคนที่ยืนหน้าซีดอยู่ มือหนาเปิดเสื้อคลุมดูบาดแผล พอเห็นรอยเลือดก็ทำให้ใจหายทันที
" เจ้าเจ็บถึงเพียงนี้เชียวหรือ จางเหยาตามหมอเดี๋ยวนี้ "
ฟานอวี้เอ่ยเบากับคนตรงหน้า ก่อนที่จะหันไปสั่งคนของตน แล้วรีบอุ้มฮูหยินเข้าจวนทันที
เมื่อเข้ามาในห้องไม่นานหมอก็ถูกพาตัวเข้ามา เพราะจางเหยาสั่งให้ผู้ติดตามไปตามหมอตั้งแต่เข้ามาในเมืองแล้ว
"ท่านหมอแค่บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง แล้วท่านก็ช่วยหันหน้าออกจากฮูหยินข้าด้วย "
" เออ แล้วท่านอ๋องจะทำแผลเป็นหรือขอรับ "
" ข้าบอกให้เจ้าบอกวิธีรักษา เจ้าก็ทำตามเถอะ "
ฟานอวี้เอ่ยสั่งหมอที่มารักษาฮูหยินตน จนคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นไม่เข้าใจในการกระทำ ฟานอวี้ปลดเสื้อของฮูหยินออกเบามือ
" ถ้าถูกแผลเจ้าบอกข้านะ เหตุใดเจ้าถึงไม่ปริปากออกมาบ้างเลย เจ็บก็ร้องออกมาสิ เจ้าเป็นหญิงแท้ๆ นะ "
" ร้องแล้วจะหายเจ็บหรือไม่ล่ะเจ้าค่ะ"
ฟานอวี้ชะงักกับคำพูดของคนตัวเล็ก ก่อนที่จะถอดชุดออกไปจนหมด เหลือเพียงชุดด้านใน ฟานอวี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สายตาไม่ได้จ้องที่บาดแผลของคนตรงหน้า แต่กลับค้างอยู่ที่เนินเขาอวบที่มีเชือกผูกไว้ จนฝูหรงนั้นอายจนหน้าแดง
" ข้าง่วงแล้วหากท่านแม่ทัพไม่อยากทำแผลให้ข้า ก็ให้พี่ชินลี่ทำเถอะเจ้าค่ะ "
" ง่วงแล้วหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าจะรีบทำแผลก็แล้วกัน "
ฟานอวี้รีบทำแผลตามที่ท่านหมอบอก เมื่อเสร็จแล้วก็บอกให้หมอกลับไปทันที
" ชินลี่ให้คนไปส่งท่านหมอด้วย "
ชินลี่ทำตามคำสั่งอย่างขัดไม่ได้ ฝูหรงมองตามชินลี่ด้วยสายตาที่วิงวอน ฟานอวี้มองเห็นสายตาของฝูหรงก็อดเอ็นดูไม่ได้
" กลัวที่จะอยู่กับข้าลำพังหรือ เจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ "
" รอพี่ชินลี่ก่อนเถอะเจ้าค่ะ เดียวพี่ชินลี่เปลี่ยนให้ข้าเอง ท่านแม่ทัพอย่าลำบากเลยเจ้าค่ะ "
ฟานอวี้ไม่ฟังคำพูดของคนตัวเล็กเดินไปที่ประตูก่อนจะสั่่งจางเหยาอย่าให้ใครรบกวน แล้วจึงปิดประตูลง ก่อนจะเดินกลับมาหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง
" ท่านแม่ทัพปิดประตูทำไมเจ้าค่ะ เออพี่ชินลี่ยังไม่กลับมาเลยนะเจ้าค่ะ "
" ข้าสั่งให้ไปพักผ่อนแล้ว "
" แต่คืนนี้ข้าอยากให้พี่ชินลี่นอนเป็นเพื่อนข้าน่ะเจ้าค่ะ "
ฟานอวี้ไม่สนคำพูดที่ออกมาจากปากอวบอิ่ม ปลดเชือกที่ผูกชุดของคนตัวเล็กออก มือเล็กรีบจับมือหนาไว้ทันทีด้วยความตกใจ
" ท่านแม่ทัพจะทำอะไรกันเจ้าค่ะ อ่ะ "
" อยู่เฉยๆเถอะไม่เช่นนั้นข้าจะทำมากกว่าเปลี่ยนชุดให้เจ้านะ หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าทำเหมือนตอนอยู่บนรถม้าล่ะ "
ฝููหรงรีบปล่อยมืออกจากมือหนาทันที จึงทำให้ชุดที่กำไว้หลุดลงไปกองที่เอวเล็ก ฟานอวี้จองมองเนินเขาที่ประดับด้วยเม็ดสีสด ที่แข็งเป็นไต่น่าหลงใหลและชวนให้สัมผัส
" ท่านแม่ทัพ ข้าหนาวเจ้าค่ะ "
ฝูหรงรีบเอ่ยหาทางออกทันทีเมื่อเห็นอีกคนมองไม่วางตา ฟานอวี้ได้สติจึงรีบยิบชุดนอนมาสวมใส่ให้คนตรงหน้าทันที ก่อนที่จะทนไม่ไหว ผิวขาวผุดผ่องน่าสัมผัสยังคงติดตาฟานอวี้
" เสร็จแล้ว เจ้ากินยาแล้วก็นอนพักเถอะ ข้าจะนอนที่นี่กับเจ้าคืนนี้ "
" เออ แค่ท่านแม่ทัพให้พี่ชินลี่มานอนเป็นเพื่อนข้าก็พอเจ้าค่ะ ข้าไม่รบกวนท่านแม่ทัพหรอก "
" ข้าบอกว่าข้าจะนอนที่นี่ ถ้าเจ้ายังดื้ออยู่เช่นนี้ข้าก็อาจจะทำอย่างอื่นมากกว่านอนก็ได้นะ นอนเถอะ "
ฟานอวี้จับคนตัวเล็กให้นอนลง ก่อนที่ตนจะนอนลงข้างๆ จนคนตัวเล็กเกร็งไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ฟานอวี้หันหลังให้กับอีกคนเพื่อไม่ให้ต้องอึดอัดที่มีตนนอนด้วย
ฝูหรงจึงหลับไปเพราะพิษบาดแผล เมื่อคนตัวเล็กเงียบไปฟานอวี้จึงหันไปหาคนที่หลับไปแล้ว
" บาดเจ็บถึงเพียงนี้ เจ้าทนได้ยังไงกัน เพียงแค่ไม่อยากให้ท่านแม่เป็นห่วงแค่นั้นนะหรือ เจ้าเป็นคนเช่นไรกันฝูหรง "
ฟานอวี้เอามือเรียวลูบที่หัวของคนตัวเล็ก ปัดปอยผมที่ปกลงมาที่แก้มออก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกเป็นห่วงคนตรงหน้านี้นัก
" เจ้าทำอะไรกับข้ากันฝูหรง "
ฟานอวี้จ้องมองคนที่หลับอยู่จนหลับตามไป ตกดึกฝูหรงก็รู้สึกตัว เพราะมีอาการหนาวสั่น ฟานอวี้กอดคนตัวเล็กไว้ให้ความอบอุ่น จนอีกคนสงบลง
สายของอีกวันฝูหรงตื่นขึ้นมาก็ยังอยู่ในอ้อมกอดของฟานอวี้ ฝูหรงนอนมองคนที่กอดตนไว้ ภายในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า คนที่บอกว่ารังเกียจตน เหตุใดจึงทำตรงข้ามทุกอย่างกับสิ่งที่พูดเช่นนี้
" จ้องข้าขนาดนี้หายดีแล้วสินะ "
" อ่ะ ท่านแม่ทัพตื่นแล้วทำไมถึงไม่ลุกออกไปล่ะเจ้าค่ะ "
" ข้าแค่อยากแน่ใจว่าเจ้าดีขึ้น ข้าจะออกไปเรียกชินลี่ให้เข้ามาดูแลเจ้านะ เจ้านอนพักต่อเถอะ วันนี้ก็อย่าพึ่งออกไปไหน ข้าจะต้องไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ อีกไม่นานจะต้องเดินทางไปออกศึก "
" ที่แคว้นซางไห่ ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ "
" อืม แคว้นที่เจ้าเคยอยู่กับสามีเก่าเจ้านั่นแหละ"
ฟานอวี้เอ่ยขึ้นเองแล้วก็หงุดหงิดเอง
"ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า แต่เอาไว้ข้ากลับมาก่อนแล้วกันนะ ทานอาหารและยา พักผ่อนในจวนอย่าออกไปไหน "
ฟานอวี้สั่งคนตัวเล็กเสร็จก็ออกไปจากห้อง ชินลี่ก็เข้ามา
" ฮูหยินล้างหน้าก่อนนะเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ เออ ไม่ได้ทำอะไรฮูหยินใช่ไหมเจ้าค่ะ "
" ท่านแม่ทัพไม่ได้ทำอะไรข้าพี่ชินลี่ "
" ดูท่านแม่ทัพจะเป็นห่วงฮูหยินมากเลยนะเจ้าค่ะ แล้วก็หวงมากด้วย ขนาดท่านหมอจะทำแผลยังไม่ยอมให้เห็น แม้แต่แขนฮูหยินเลย "
" เป็นไปไม่ได้หรอก ท่านแม่ทัพรังเกียจข้า พี่ชินลี่ก็รู้นี่ "
" รังเกียจแบบไหนกันเจ้าค่ะ ถึงได้ทำตรงข้ามกับคำว่ารังเกียจเช่นนั้น ข้าอยากจะรอดูจริงๆว่า ถึงวันที่ฮูหยินเดินออกไปจากจวน ท่านแม่ทัพจะทำยังไง "
ชินลี่เอ่ยสิ่งที่ตนคิดออกมา แต่พอนึกได้เรื่องที่ศาลเจ้าก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
" แล้วเหตุใดตอนนั้นฮูหยินถึงไม่หลบล่ะคะ ทั้งที่สามารถหลบได้ "
" ก็ตอนนั้นจางเหยาและคนอื่นก็อยู่น่ะสิ ข้าถึงไม่ให้พี่ชักกระบี่ออกมาไงล่ะ หากคนในจวนรู้ว่าเรามีวรยุทธคงจะไม่ดีแน่ "
" นั้นสินะ พี่ก็ลืมไปแต่ดีที่พกยาถอดพิษไว้นะคะ ไม่เช่นนั้นก็คงจะแย่แน่ "
" อืมข้าก็ไม่คิดว่าจะมีพิษ คงคิดที่จะให้ข้าตายไปเลย "
" นางคุณหนูชิงชิงนี้ร้ายกาจกว่าที่คิดนะคะฮูหยิน นี่ถ้าท่านแม่ทัพได้มาเป็นฮูหยินจริงๆ อำนาจการควบคุมทหารคงจะหนีไม่พ้นมหาเสนาเข้าควบคุมเป็นแน่ "
# ไรท์ อีพี่ใจอ่อนแล้วล่ะสิ เห็นขาวๆเป็นไม่ได้
จะรักหรือจะเกลียดเอาสักทางนะแม่ทัพฟาน
ฝากติดตามด้วยนะคะ