สตรีผู้นี้คือฮูหยินข้า

62.0K · จบแล้ว
หลินซี
30
บท
31.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

การแต่งงานทุกคนต่างก็ต้องการสิ่งที่คู่ควรกับตนกันทั้งนั้น แต่มีคนที่้ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก อีกทั้งคนผู้นั้นก็เคยผ่านการใช้ชีวิตคู่มาแล้ว แต่กลับมีความลับที่ซ่อนอยู่ให้ต้องค้นหา

โรแมนติกแต่งงานสายฟ้าแลบนิยายจีนโบราณแต่งงานก่อนรักนิยายรักโรแมนติกแม่ทัพจีนโบราณนักวรยุทธ18+

1. ชะตาชีวิต

ท้องฟ้าที่ดูสดใสกว่าทุกวัน ชั่งเป็นวันที่เหมาะแก่งานมงคลยิ่งนัก สายลมที่พัดพากลิ่นหอมของดอกท้อที่กำลังผลิบาน เป็นบรรยากาศที่น่าจะมีความสุข 

แต่คนที่เป็นเจ้าสาวนั่งอยู่ในห้องหอภายในจวน ที่รอเจ้าบ่าวกลับไม่มีทีท่าของความสุขเลยแม้แต่น้อย 

" คุณหนูพี่จะออกไปดูข้างนอกหน่อยนะ ป่านนี้ท่านแม่ทัพอาจจะเมาไปแล้วก็ได้ " 

" ไม่เป็นไรพี่ชินลี่ หากท่านแม่ทัพยังไม่มา เราก็ดับไฟนอนเถอะ ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพคงไม่อยากร่วมหอกับข้ามากกว่า ขนาดไปรับข้าที่จวนท่านตา ท่านแม่ทัพยังไม่ไปรับเลย " 

" คุณหนูท่านแม่ทัพทำเช่นนี้ไม่ถูกเลยนะคะ เห็นคุณหนูเป็นอะไร ถึงได้ทำเช่นนี้ น่าจะให้ฮ่องเต้จับไปโบยนัก" 

" ข้าก็แค่หญิงสาวที่เคยผ่านการมีสามีมาแล้ว ที่ได้แต่งงานกับท่านแม่ทัพก็เพราะเป็นราชองค์การของฮ่องเต้ ท่านแม่ทัพเองก็มิได้เต็มใจ หากท่านแม่ทัพจะทำเช่นนี้ข้าก็ไม่โกรธหรอก " 

ชินลี่มองคนที่ตอนนี้เปิดผ้าคลุมหน้าออกด้วยตัวเองแล้ว เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นครึ่งหัว ปล่อยสลวยลงมา ใบหน้าเรียวจมูกโด่งรับกับใบหน้าที่อวบอิ่ม ดวงตาที่เย้ายวน กับริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มรูปกระจับ 

" เหตุใดฮ่องเต้ถึงได้มีราชองค์การเช่นนี้ได้ พี่ไม่เข้าใจจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าก่อนนี้ คุณหนูก็ขึ้นชื่อว่ามีสามีแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไมถึงยังมีราชองค์การให้แต่งงานเช่นนี้อีก คิดจะให้คุณหนูตกอยู่ในสถานะเช่นนี้ไปถึงเมื่อใดกัน " 

" เรื่องของราชสำนักนั้นซับซ้อนมาก คนที่มีอำนาจหากจะมีอำนาจมากขึ้นไปอีกก็คงจะคุมยากขึ้น  เห็นว่าคนที่ท่านแม่ทัพหมายปอง เป็นถึงบุตรสาวของท่านมหาเสนาบดี เท่าที่ข้าเคยได้ยินมา ดูเหมือนท่านมหาเสนาคิดที่จะกบฎ อยากจะครองบัลลังก์ " 

ฝูหรงเอ่ยกับพี่เลี้ยงไปก็ถอดชุดแต่งงานไปด้วย ชินลี่เข้ามาช่วยคุณหนูตนถอดชุดเช่นกัน

" จริงๆหรือค่ะ ข้าคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือของเหล่าองครักษ์เสียอีก เช่นนี้เลยให้คุณหนูเข้ามาเป็นฮูหยินที่นี่ ก่อนที่จะรับคุณหนูชิงชิงเข้ามาสินะ ฝ่าบาทนี่ชั่งวางแผนดีจริงๆ " 

" เอาล่ะดึกแล้ว ข้าจะไปอาบน้ำพี่ช่วยเตรียมน้ำให้ข้าหน่อยเถอะ อย่ามั่วแต่พูดถึงคนพวกนั้นเลย เรายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกนะอย่าลืมเสียล่ะ" 

หลานฝูหรงยิ้มให้กับพี่เลี้ยงที่โตมากับตนตั้งแต่เด็ก ฝูหรงก่อนหน้านี้อยู่ในฐานะฮูหยินรองของหมอยาที่เก่งเรื่องสมุนไพร ย้ายไปอยู่ที่ต่างแคว้นเกือบปี บัดนี้ทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันแล้ว จนตอนนี้กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ก็มีราชองค์การให้แต่งงานกับแม่ทัพใหญ่ของแคว้นอีก

ด้วยวัย 19 ปีในตอนนี้ แม้จะเป็นสาวงามที่ใครเห็นก็หันกลับมามอง ด้วยโครงหน้าที่ชวนมองผมที่ยาวสลวย และนัยตาที่น่าหลงใหล แต่กลับไม่เป็นที่ถูกใจของแม่ทัพใหญ่ เพียงเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่คู่ควรกับตน เพียงเพราะเป็นสตรีที่เคยอยู่กินกับชายอื่นมาแล้ว แต่นั้นก็เป็นเพราะอีกคนยังไม่เคยได้พบหน้าเจ้าสาวของตนนั้นเอง

" หยางฟานอวี้ เจ้าไม่คิดที่จะเข้าไปดูหน้าเจ้าสาวของเจ้าหน่อยหรือ " 

" นั้นสิ ข้าได้ยินว่านางงดงามมากเลยนะ เสียแค่เคยเป็นของผู้อื่นมาแล้วเท่านั้นเอง ฮ่าๆ " 

เสียงหัวเราะของขุนนางบางคน และเหล่าบุตรชายของขุนนางที่ไม่ชอบความเย็นชาของแม่ทัพใหญ่ของแคว้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย  

เจ้าบ่าวที่นั่งไม่สบอารมณ์อยู่กับการแต่งงานในครั้งนี้ แม้ใบหน่าจะดูเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้บดบังในหน้าอันหล่อเหล่านี้เลยสักนิด รูปร่างสูงใหญ่สง่างามตามแบบบุรุษหนุ่ม อีกทั้งท่าทีที่ดูสุขุมยิ่งทำให้สตรีในแคว้นต่างก็หลงใหลอยากครอบครอง 

" ข้าไม่ได้พึงใจนาง เหตุใดข้าจะต้องสนใจ คนที่ข้าพึงใจและมีใจก็อยู่ตรงนี้แล้ว " 

ฟานอวี้หันไปมองคนที่นั่งไม่ไกลจากตน เสี่ยวชิงชิงมองแม่ทัพหยางฟานอวี้พร้อมกับรอยยิ้มหวานจนผู้ที่อยู่ในงานต่างก็มองด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป บ้างก็อดนึกสงสารไม่ได้ บ้างก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควร 

แต่ดูเหมือนคนทั้งสองจะไม่สนใจกับเรื่องนี้ เพราะการแต่งงานครั้งนี้ต่างก็รู้กันว่าเป็นเพราะราชองค์การ 

ในดึกดื่นเมื่องานแต่งงานและกินเลี้ยงเสร็จสิ้นลง ความเงียบก็เข้าปกคลุม บนหลังคามีสองร่างที่ยังไม่หลับเช่นคนอื่นๆ กำลังมุ่งหน้าไปตำหนักของฮ่องเต้ 

"มากันแล้วหรือ คิดว่าเจ้าจะเข้าหอจนมาไม่ได้เสียอีก " 

" ฝ่าบาทก็ทรงตรัสไปเรื่อยนะเพคะ ท่านแม่ทัพของฝ่าบาทไม่แม้แต่จะไปรับคุุณหนูที่จวนท่านราชครูด้วยซ้ำ ป่านนี้คงมีความสุขกับคุณหนูเสี่ยวชิงชิงแล้วล่ะเพคะ " 

" พี่ชินลี่ อย่าเสียมารยาท " 

ฝูหรงเอ่ยเตือนคนของตน 

" ขออภัยเพคะฝ่าบาท " 

" อืม ขอโทษที่ข้าให้เจ้าทำเรื่องเช่นนี้อีกครั้ง ทั้งที่เจ้าควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ " 

" ฝูหรงเต็มใจเพคะ อย่าได้กังวลไปเลย " 

ฝูหลงเอ่ยกับฮ่องเต้ ก่อนที่ราชครูจะเอ่ยขึ้น 

" หลังจากนี้คงต้องลำบากเจ้ามากขึ้นแล้วนะ หากแม่ทัพฟานอวี้ร่วมมือกับมหาเสนาคงจะรับมือยากมากขึ้นไปอีกเป็นแน่ " 

" นั้นสิ หากท่านแม่ทัพหลงรักบุตรสาวของมหาเสนาถึงเพียงนี้ เห็นทีคงจะร่วมกันก่อกบฏในไม่ช้าเป็นแน่ " 

หานตงองครักษ์ของฮ่องเต้เอ่ยขึ้น 

" แต่เท่าที่รู้จักกับท่านแม่ทัพมา ก็เป็นชายหนุ่มที่มีความภักดีต่อราชวงค์ไม่น้อยนะพะยะค่ะ แม้จะอายุไม่มากแต่หม่อมฉันเชื่อว่าคงจะไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูงเช่นมหาเสนาเป็นแน่ อีกทั้งแม่ทัพหยางก็จงรักภักดีต่อราชวงศ์มานาน บุตรชายก็คงไม่ต่างกันหรอกพะยะค่ะ " 

" แต่ท่านตาอย่าลืมว่าราชองค์การที่ฝ่าบาทพระราชทานครั้งนี้ ท่านแม่ทัพไม่เห็นชอบนะเจ้าค่ะ " 

ฝูหรงเอ่ยขึ้นจนทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องเงียบไป 

" ถึงอย่างนั้นหากไม่ทำเช่นนี้ ปล่อยให้ฟานอวี้แต่งงานกับบุตรีของมหาเสนา อำนาจก็จะอยู่ในมือของมหาเสนาเต็มที่เป็นแน่ มีเพียงวิธีนี้ที่จะทำให้ท่านแม่ทัพไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบได้ " 

ฮ่องเต้เอ่ยออกมากับคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตน ฟูหรงยิ้มออกมาน้อยๆ เพื่อให้รู้ว่าตนไม่เป็นไร จนราชครูเองก็มีสีหน้าที่เศร้าเช่นกัน 

" หลังจากเรื่องนี้จบแล้วขอพระราชทานอนุญาตฝ่าบาทให้ฝูหรงออกจากวังหลวงด้วยเถอะนะพะยะค่ะ " 

" เจ้าไม่ต้องขอหรอก ข้าคิดไว้แล้ว หากเสร็จสิ้นงานนี้ข้าจะให้เจ้ามีอิสระใช้ชีวิตตามที่เจ้าต้องการฝูหรง " 

" ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท " 

ชินลี่หันไปหาคุณหนูของตนยิ้มอย่างดีใจ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป สองร่างที่อยู่บนหลังคาเหาะเหินไปตามหลังคาของจวนที่ทอดยาวไป จนมาถึงจวนของท่านแม่ทัพใหญ่ 

เสียงครางกระเส่าของสองร่างที่กำลังมีความสุขกันโดยที่ไม่สนใจผู้ใด และความถูกต้องกำลังก่อเกิดขึ้น 

แต่จู่ๆประตูก็ถูกพลักออกทำให้สองร่างนั้นผละออกจากกันทันที เสี่ยวชิงชิงที่เสื้อผ้าหลุดหรุ่ยกอดเอวหนาไว้แน่น 

" บังอาจ เจ้าเป็นใคร แล้วเจ้าเข้ามาได้ยังไงกัน ชั่งไร้ยางอายเสียจริง ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร" 

" เอะ ท่านแม่ทัพนี่แต่งงานเพียงแค่วันเดียวก็จำฮูหยินไม่ได้แล้วหรือเจ้าค่ะ อืม แต่ก็ไม่แปลกเพราะท่านแม่ทัพยังไม่ได้พบข้าเลยนี่ " 

" นี่เจ้าจะบอกว่าเจ้าคือหญิงเหลือเดนคนนั้นน่ะหรือ " 

คำพูดจากปากของฟานอวี้ไม่ได้กระทบกับอีกคนเลยแม้แต่น้อย รอยยิ้มน้อยๆกับเกิดขึ้นมาบนใบหน้าสวยงดงามนี้ จนคนที่ยืนจ้องมองด้วยดวงตากราดเกรี้ยวอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว 

แต่ก็ไม่นานเมื่อได้ยินเสียงของคนที่กอดรัดตนอยู่ สายตาก็แข็งกร้าวขึ้นอีก 

" ท่านพี่ข้าอับอายมากเลย บ่าวไพร่ด้านนอกคงได้ยินกันหมดแล้วเป็นแน่ " 

" ไม่ต้องกังวลไป พรุ่งนี้พี่จะไปสู่ขอเจ้าที่จวนท่านมหาเสนา  พี่จะรับเจ้าเป็นฮูหยินของพี่อีกคน " 

เสี่ยวชิงชิงยิ้มเยาะเย้ยส่งไปให้กับคนที่ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่ จนเสี่ยวชิงชิงมองว่าฝูหรงคงจะบ้าไปแล้วเป็นแน่ 

" คุณหนูชิงชิงเอ่ยว่าอับอายเช่นนี้ ข้าไม่รู้จริงๆว่าท่านอายอย่างเช่นที่พูดหรือไม่ เพราะหากคนที่อายจริงคงจะไม่มาคบชู้กับเจ้าบ่าวของข้าในวันที่ข้าแต่งงานเช่นนี้เป็นแน่ เช่นนี้แล้วหากชาวเมืองหรือคนทั่วแคว้นรู้ เห็นทีท่านมหาเสนาคงได้อับอายยิ่งกว่าบุตรสาวตอนนี้เป็นแน่ " 

ฝูหรงมองทั้งสองพร้อมกับยิ้มน้อยๆออกมา จนฟานอวี้และชิงชิงต่างมองด้วยความแค้นเคือง 

" เจ้าคิดที่จะเป่าประกาศเรื่องนี้เช่นนั้นหรือ ลองดูสิหากเจ้าทำให้ชิงชิงเสียชื่อ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ " 

" ท่านแม่ทัพจะสั่งโบยข้าเพราะหญิงชู้ผู้นี้เช่นนั้นหรือเจ้าค่ะ ชั่งไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ข้าคงต้องบอกท่านตาข้าเสียแล้วล่ะ ว่าท่านลบหลู่หมิ่นเกียรติข้าเช่นนี้ เช่นนี้แล้วฮ่องเต้จะว่าอย่างไรกันนะ ตระกูลแม่ทัพใหญ่คบชู้ในวันแต่งงาน โอ้ะ ช่างน่าอับอายเสียจริง " 

ฝูหรงหันไปหาชินลี่

" ไปเถอะพี่ชินลี่ ข้าจะไปหาท่านตาเพื่อกราบทูลฮ่องเต้ ท่านแม่ทัพหยามหมิ่นข้าถึงเพียงนี้ ข้าจะไม่ทน " 

ฝูหรงทำทีแสร้งเสียใจ ​​​​​​ก่อนที่จะพยักหน้าให้ชินลี่เดินออกจากห้องไป ฟานอวี้รู้ดีว่าราชครูนั้น เป็นทั้งอาจารณ์และที่ปรึกษาของฮ่องเต้ หากทรงรู้เรื่องนี้เข้าคงจะไม่ดีเป็นแน่ เพราะโทษของคนที่คบชู้กันในเมืองหลวงอีกทั้งในราชสำนักนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเลย   

" ชิงชิงแต่งตัวให้เรียบร้อยพี่จะให้หานชิงไปส่งเจ้า รอให้พี่จัดการเรื่องนี้ก่อน แล้วพี่จะไปสู่ขอเจ้าแน่นอน " 

" ท่านพี่อย่าลืมนะเจ้าค่ะ ต้องรีบไปสู่ขอข้านะ " 

#  ไรท . ท่านแม่ทัพก็ทำเกินไป วันเข้าหอแท้ๆ 

วันแรกก็เจอฤทธิ์ฮูหยินซะแล้ว จะจัดการยังไงละทีนี่ 

ฝากติดตามด้วยนะคะ 

​​​​​​