ตอน "ความฝันในอดีตที่ฝังใจ" 3
ย้อนไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว...
“มาหาใครเหรอพ่อหนุ่ม” ชายชราอายุประมาณหกสิบห้าปี เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษผสมไทย
“สวัสดีครับคุณลุง” เดวิดเดินเข้าไปหาชายชรา พร้อมทั้งยกมือไหว้แบบคนไทยเขาทักทายกัน
“จะมาเช่าบ้านเหรอพ่อหนุ่ม”
ชายคนนั้นมองหน้าเดวิดอย่างสงสัย เพราะเมื่อวานไอ้ฝรั่งตัวยักษ์นี่ก็มายืนด้อมๆ มองๆ บ้านไม้หลังเก่าซอมซ่อหลังนั้น แล้ววันนี้ยังมาทำท่าทีมีพิรุธอีก
“เปล่าครับ”
เดวิดหันหลังไปมองบ้านหลังนั้น ซึ่งเป็นบ้านที่เขาเช่าให้เด็กกล้วยไม้อยู่กับพี่เลี้ยงชาวเวียดนาม ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับไปประเทศฝรั่งเศส
‘กิมหยง’ ผู้หญิงชาวเวียดนามที่หนีสงครามเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวและเป็นจิตอาสาอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพที่ทางประเทศไทยตั้งไว้คอยช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้าน เธอจะคอยช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนหนีสงความจากประเทศตัวเองเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย
ช่วงเวลานั้น เดวิดต้องเข้ากรมทหาร เขาไม่สามารถที่จะพากล้วยไม้เข้าไปอยู่ด้วยได้ จึงจ้างให้กิมหยงเป็นคนดูแลกล้วยไม้แทนเขาชั่วคราว
“ไม่ได้มาเช่าบ้าน แล้วพ่อหนุ่มมายืนด้อมๆ มองๆ ทำอะไรที่บ้านหลังนั้นล่ะ” ชายแก่ถามเดวิดอย่างสงสัย
“ผมมาหาคนครับ” เดวิดบอกชายแก่ แล้วชี้ไปยังบ้านหลังนั้นอีกครั้ง
“ใครล่ะ...บ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่ตั้งหลายปีแล้วนะพ่อหนุ่ม” ชายแก่มองตามนิ้วมือของเดวิดที่ชี้ไปยังบ้านเช่าหลังนั้น
“คุณลุงรู้จักพี่กิมไหมครับ” ท่าทางเขาและชายแก่จะคุยกันไม่รู้เรื่อง เดวิดจึงอธิบายรูปร่างหน้าตาของกิมหยงให้ชายแก่ฟัง
“กิมไหน เพราะคนชื่อกิมเยอะมากแถวนี้” ชายแก่ทำหน้างุนงง เพราะไม่เคยเห็นชาวต่างชาติหน้าตาดีเข้ามาแถวนี้และถามหาใครสักที
“พี่กิมที่อยู่บ้านหลังนั้นไงครับ”
สองปีที่เดวิดทิ้งให้กล้วยไม้อยู่กับกิมหยง เขาก็ไม่เคยทอดทิ้งและขาดการติดต่อ ชายหนุ่มยังส่งเงินและเขียนจดหมายหาพวกเธอทุกเดือนและยังเก็บรูปถ่ายที่กิมหยงส่งไปให้ไว้ทุกภาพ...
เดวิดทำไม้ทำมือบอกว่ากิมหยงมีเด็กอายุประมาณนี้ แล้วเดวิดก็เอารูปถ่ายของเด็กน้อยให้ชายแก่ดู
“อ๋อ...นังกิมหยงน่ะเหรอ” เมื่อชายแก่เมื่อเห็นรูปของเด็กกล้วยไม้ ก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันที
“ครับ...คุณลุงรู้ไหมครับว่า พี่กิมไปไหน ทำไมบ้านปิดเหมือนไม่มีคนอยู่เลยครับ” เดวิดถามชายแก่อย่างร้อนใจ
“นังกิมหยงมันไปอยู่ที่อื่นตั้งนานหลายปีแล้วละพ่อหนุ่ม...”
“ไปอยู่ที่อื่น! ที่ไหนครับ...คุณลุงรู้ไหมครับ พี่กิมไปอยู่ที่ไหนครับ” เดวิดสีหน้าเริ่มเครียด และเป็นห่วงกล้วยไม้ขึ้นมาทันที
“เอ...อันนี้ลุงก็ไม่รู้สิ...ว่าแต่พ่อหนุ่มจะอยากรู้เรื่องของนังผู้หญิงใจยักษ์ไปทำไมกันล่ะฮึ...”
“ผมเป็น...” คำว่าผมเป็นผู้ปกครองของกล้วยไม้ จะมารับเธอไปอยู่ด้วยถูกชายแก่พูดตัดบท
“พ่อหนุ่มรู้ไหม นังกิมหยงเนี่ย มันเลวมาก ไม่รู้หัวใจมันทำด้วยอะไร...มันเป็นโสเภณีขายตัวยังไม่พอ...มันยังขายลูกสาวของมันเพื่อแลกกับเงินน้อยนิดอีกนะ...อีนี่มันเลวจริงๆ” ชายแก่เล่าวีรกรรมอันโชกโชนของกิมหยงให้เดวิดฟัง
“ขายลูก!”
กิมหยงจะขายกล้วยไม้ให้กับคนอื่นได้ไง ในเมื่อหนูกล้วยไม้เป็นคนของเขา เดวิดเริ่มใจคอไม่ดี สีหน้าของชายหนุ่มเริ่มแดงก่ำ
“อื้อ...ลุงล่ะสงสารนังหนูนั่นมากที่มีแม่ใจยักษ์”
“คุณลุงรู้ไหมครับ พี่กิมเขาขายลูกสาวให้กับใครครับ” เดวิดหายใจไม่ออก จุกหน้าอก ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนอยากจะอาเจียนเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของชายแก่
คำพูดแต่ละคำของลุงแก่เหมือนมีดแหลมคมเฉือนหัวใจของเขาให้ขาดออกจากขั้ว...เดวิดแทบล้มทั้งยืน ร่างโตเซถอยหลังเล็กน้อย หมดเรี่ยวแรงที่จะยืน ทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นอย่างคนสิ้นหวัง
“มันก็ขายให้กับเพื่อนของมันที่มาอาศัยอยู่กับมันที่นี่แหละ” ชายแก่เข้าไปประคองเดวิด แต่ก็ยังเล่าให้เดวิดฟังอีกว่า เด็กน้อยถูกกิมหยงใช้งานยิ่งกว่าทาส
ความเงียบและไม่มีคำพูดตอบโต้ของเดวิด จึงทำให้ชายแก่พูดเสริมขึ้นอีกครั้ง
“นังกิมหยงมันทำกับลูกของมัน ยังกับว่านังหนูนั่นไม่ใช่ลูกของมัน มันใช้งานนังหนูยังกับทาส บางวัน ลุงเห็นนังกิมหยงมันไล่ให้นังหนูออกมานอนนอกห้อง แล้วยังทุบตีเหมือนหมาตัวหนึ่ง” ชายแก่พูดเพราะเห็นกับตา และยังท้าให้เดวิดไปถามชาวบ้านแถวนี้ดูก็ได้ ถ้าชายหนุ่มไม่เชื่อ
“แล้วพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันครับ แล้วลูกสาวของพี่กิมล่ะครับ อยู่ไหนครับ” เดวิดดวงหน้าเริ่มแดงหน้าดำ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลก็เริ่มเปล่งแสงเพลิงมองตัวบ้านที่เขาเป็นคนเช่า มือทั้งสองข้างกำแน่น เขาอยากจะฆ่ากิมหยง อยากจะแล่เนื้อของกิมหยงแล้วเอาเกลือทา
‘ผู้หญิงสารเลว อย่าให้กูเจอตัวนะ รับรองมึงจะต้องตายอย่างทรมานแน่ อีผู้หญิงใจมาร’ เดวิดเค้นเสียงดุดันด่าทอกิมหยงอยู่ในใจ
“ลุงก็ไม่รู้หรอกนะว่า พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน แต่เมื่อปีที่แล้ว ชาวบ้านแถวนี้เขาลือกันว่า นังกิมหยง มันถูกผัวแมงดาฆ่าตายที่บ้านหลังนั้นแหละ” ลุงแก่เล่าเรื่องกิมหยงให้เดวิดฟัง แต่เดวิดหาใส่ใจ และไม่ต้องการจะรับรู้
“แล้วลูกสาวของแกล่ะครับ...คุณลุงรู้ไหม เด็กคนนั้นไปอยู่ที่ไหน” เดวิดเอาภาพของกล้วยไม้ให้ลุงแก่ดูอีกครั้ง
“ลุงก็ไม่รู้นะว่านังหนูนี่ไปอยู่ที่ไหน” ชายแก่พยักหน้าให้เดวิดหงึกๆ บอกเป็นนัยๆ ว่า เขาจำเด็กคนนี้ได้ แล้วชายแก่ก็ยื่น
ล็อกเก็ตคืนให้กับเดวิด
