บท
ตั้งค่า

ตอน "ความฝันในอดีตที่ฝังใจ" 2

เดวิดนอนกระสับกระส่าย สะดุ้งสุดตัวตื่นลุกขึ้นนั่งทั้งที่สติยังอยู่ในความฝัน ชายหนุ่มยังอยู่ในห้วงของความฝันอันโหดร้ายและเจ็บปวดที่สุด

เสียงร้องไห้โหยหวนและภาพขัดขืนดิ้นหนีอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มนั้นช่างเป็นภาพที่สะเทือนหัวใจอย่างมาก เดวิดคอยโอบกอด เขาจูบขมับน้อยปลอบขวัญ มือใหญ่ที่คิดว่าเป็นเกาะป้องกันเด็กน้อยได้ก็ลูบแผ่นหลังเล็กๆ พร้อมทั้งเอ่ยเสียงทุ้มนุ่มหูกระซิบบอกให้เด็กกล้วยไม้ให้หายหวาดกลัว

“ไม่เป็นไรแล้วนะคนดีของคุณเด ต่อไปนี้คัทลียาจะมีคุณเดเพียงคนเดียว...คุณเดจะเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ และเป็นทุกอย่างให้กับหนูเองนะ”

เดวิดกระซิบเสียงสั่นเทาชิดดวงหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อย ริมฝีปากหยักได้รูปกระจับก็เช็ดน้ำใสๆ ร้อนระอุบออกจากพวงแก้มย้วยให้อย่างนุ่มนวล

เสียงพร่ำเพ้อเหมือนคนสิ้นหวังดังอยู่ข้างในห้องนอนซึ่งเสียงแบบนี้ทำให้เลขาฯ ส่วนตัวนามว่า ‘เจสัน’ ผู้ชายตัวโตผิวสีดำทมิฬ ชายหนุ่มเป็นเสมือนมือขวาของเดวิดและเป็นคนที่เดวิดไว้ใจมากที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขารับรู้เรื่องราวต่างๆ ของเดวิดไม่ว่าปัจจุบันหรือแม้แต่เรื่องในอดีตของเจ้านาย...

เจสันและลูกน้องอีกสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าห้อง ต่างมองหน้ากัน แล้วเจสันก็พยักหน้าสั่งลูกน้องทั้งสองให้เฝ้าหน้าห้องให้ดีๆ ส่วนตัวเขาก็รีบเปิดประตูห้องเข้าไปดูเจ้านาย

“เมอซิเออร์ครับ”

ภาพของเดวิดที่นั่งหลับตา พูดเสียงกระซิบกระซาบคล้ายคนละเมอ แขนกำยำทั้งสองข้างของชายหนุ่มกอดหมอนไว้แน่น มือก็คอยลูบหมอนใบนั้นอย่างทะนุถนอม ดวงหน้าคมสันของเจ้านายซุกไซ้ไปตามใบหมอน เจสันเห็นภาพและอาการแบบนี้จนชินตา

เขาเดินเข้าไปยืนตรงข้างเตียง เอ่ยเสียงเรียกเจ้านายให้มีสติตื่นจากความฝัน แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่ม

“ชู่วว...คนดีของคุณเด ไม่ร้องนะครับ...” เดวิดยังตกอยู่ในโลกแห่งความฝัน

“เมอซิเออร์ครับ ตื่นได้แล้วนะครับ” เจสันยื่นมือเข้าไปจับบ่าตบเบาๆ ให้เดวิดได้รู้สึกตัว

“เจสัน...นายเจอตัวกล้วยไม้แล้วเหรอ” ความเคยชินเวลาตื่นจากฝันร้าย เขามักจะเรียกชื่อหญิงสาวจากคัทลียาเป็นกล้วยไม้

“ฝันถึงเรื่องเดิมๆ อีกแล้วเหรอครับ” ตลอดสิบกว่าปีกับคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ของเจ้านาย ทำให้เจสันไม่ตอบ เพราะเขาไม่รู้จะตอบเจ้านายอย่างไรดี เพราะเรื่องของหญิงสาวในความฝันของชายหนุ่มนั้น ไม่มีวี่แววที่จะตามหาเธอเจอเลย

“ฉันถามไม่ได้ยินเหรอฮะ นายได้เบาะแสเรื่องของคัทลียาแล้วใช่ไหม!” เดวิดเริ่มรู้สึกตัว เขายกมือทุบท้ายทอยอันหนักอึ้งแล้วใช้มือทั้งสองข้างเสยเส้นผมตรงหน้าผากแล้วลูบใบหน้าของตัวเองแรงๆ

“ผมกำลังให้คนตามสืบอยู่ครับ” เจสันยืนก้มหน้า เขาไม่กล้าสบตาดุดันดุจสายตาของพญาเหยี่ยว เพราะรู้นิสัยของเจ้านายดีว่า เวลาชายหนุ่มโกรธจะเป็นอย่างไร

“ฉันจ้างนายมาเป็นมือขวาของฉัน เป็นหูเป็นตาให้ฉัน แต่สิ่งที่ฉันตามหามาสิบกว่าปี นายกลับมาพูดกับฉันว่ากำลังสืบหาอยู่เหรอฮะ!”

เดวิด ชายหนุ่มวัยสี่สิบเอ็ดปี เขารวยที่สุดและทรงอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส เดวิดได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองโดยการทำธุรกิจเปิดบาร์ ไนต์คลับ หลายแห่งในเมืองปารีสและยังมีอีกหลายสาขาทั่วประเทศ และนี่คือฉายาของชายหนุ่มที่ทุกคนทั่วประเทศตั้งให้เขา ‘เจ้าพ่อแห่งสถานที่เริงรมย์ยามค่ำคืน’

“ผมกำลังให้คนไปสืบดูไนต์คลับย่านปิกาล์ล อยู่ครับ” เสียงตะคอกของชายหนุ่มช่างเหมือนสิงโตเจ้าป่าคำราม ได้ยินแล้วทำให้เจสันต้องหดตัวเข้าหากันเพราะเกรงกลัวเจ้านายจอมโหด

“อย่าสืบอย่างเดียว นายต้องตามหาด้วย” เดวิดอยากจะหักคอไอ้ลูกน้องเฮงซวยเสียเหลือเกิน เมื่อเฉียดสายตามองเด็กสาวสองนางที่นอนกองกันอยู่บนพื้นพรมข้างปลายเตียง อายุของพวกเธอก็คงจะเท่าๆ คัทลียาแน่เลย

“รับทราบครับ” เจสันพยักหน้ารับคำ

“นายโง่หรือเปล่าฮะ? ที่พาพวกเธอสองคนนั้นมาให้ฉันดูตัว” เดวิดเบื่อหน่ายกับการดูตัวเด็กผู้หญิงวัยประมาณยี่สิบกว่าๆ ไม่ใช่ดูเพื่อจะมีเซ็กซ์กับพวกเธอ แต่เขาดูเพื่อจะหาร่องรอยอะไรบางอย่างบนร่างกายของพวกเธอก็เท่านั้นเอง

“ผมสอบประวัติของพวกเธอมาอย่างดีนะครับ...พวกเธอมาจากประเทศไทย พ่อเป็นคนไทย แม่เป็นคนลาวครับ”

เจสันที่ยืนอยู่ข้างเตียง เขารีบเบี่ยงตัวหลบหมอนที่เจ้านายเหวี่ยงใส่ แต่หมอนกลับลอยไปปะทะสองสาวชาวเอเชียที่นอนกองกันเหมือนศพไม่มีญาติ

‘ผู้หญิงอะไร นอนได้น่าเกลียดน่ากลัวที่สุด’

เจสันมองสภาพของสองสาวอย่างสมเพช นี่พวกเธอคงจะถูกเดวิดใส่ยานอนหลับในเหล้าให้กินเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ขึ้นมาโชว์ตัวบนห้องนี้แน่ละสิ ถึงหลับปานตาย ขนาดเสียงตะโกนของเดวิดดังคับห้อง นางทั้งสองก็ยังไม่รู้สึกตัว

“ประเทศไทยพ่อแกล่ะสิ...แกมองหนังหน้าของพวกเธอสิ นั่นผู้หญิงแขกชัดๆ..นายดูสิ หน้าพวกเธอเหมือนคัทลียาของฉันไหม? ก็ไม่เหมือนเลยสักนิด”

เดวิดก้าวลงจากเตียง ยืนด้วยความสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งชายหนุ่มมีความสูงและมีร่างกายใหญ่โตกว่าลูกน้อง จึงทำให้เจสันต้องเขย่งปลายเท้าใส่ชุดคลุมให้กับเจ้านายอย่างทุลักทุเล

“เดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปดูที่ ‘เซ็กซี่เลิฟไนต์คลับ’ ให้อีกทีครับ”

เมื่อใส่ชุดคลุมให้เจ้านายเรียบร้อย เจสันก็เดินเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายบนพื้นเพื่อไม่ให้เจ้านายได้เหยียบย่ำ ซึ่งรวมถึงสองสาวที่นอนเปลือยอยู่บนพื้นนั่นด้วย เขาจับเสื้อผ้าของพวกเธอโยนปกคลุมบนกายเปลือยเปล่า แล้วดันให้พวกเธอกลิ้งหลีกทางให้เจ้านาย

“ทำไม!”

เดวิดถามกลับอย่างเร็ว ดวงตาสีน้ำทะเลก็จ้องหน้าลูกน้องอย่างสงสัย เขาหยุดเดินเมื่อลูกน้องไม่ตอบ นึกสงสัย บาร์โชว์นั้นเขาไปทุกคืน แต่ทำไมซูซี่ไม่เล่าเรื่องสำคัญแบบนี้ให้เขาฟังเลย

“ผมเพิ่งสืบประวัติของเธอมาได้ครับ เธอมาจากประเทศไทยตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อเป็นไทย แม่เป็นลาวครับ ถูกญาติขายให้กับชาวเวียดนามตั้งแต่อายุเจ็ดหรือแปดขวบนี่แหละครับ มีคนเล่าให้ผมฟังว่า เธอถูกคนเวียดนามขายเธอให้กับคนอาหรับ แล้วคนอาหรับก็ได้ขายเธอให้กับคุณซูซี่ ซึ่งผมสืบมาว่าคุณซูซี่ซื้อเด็กคนนั้นมาเป็นทาสตั้งแต่อายุประมาณสิบสี่ สิบห้าปีนี่แหละครับ” เมื่อเห็นเจ้านายตั้งใจฟัง เจสันจึงเล่าประวัติของหญิงสาวอย่างละเอียดยิบ

“นายว่าอะไรนะ!” เดวิดไม่ได้สนใจร่างของสองสาวที่นอนขวางทาง เขาเดินข้ามพวกเธอไปโดยไม่คิดว่าเท้าจะเหยียบถูกร่างสองสาวหรือไม่ ความรู้สึกในขณะนี้ ทำไมมันหม่นหมอง เจ็บหัวใจกับเรื่องผู้หญิงที่เจสันพูดถึงเหลือเกิน...

เดวิดไม่อยากจะคิดว่าเด็กสาวนั้นเป็นกล้วยไม้ แต่ทำไมเรื่องที่ได้ฟังและได้รับรู้เมื่อสิบห้าปีที่แล้วช่างสอดคล้องกันเหลือเกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel