บท
ตั้งค่า

ตอน "ความฝันในอดีตที่ฝังใจ (๒)" 3

“ฉันเคยเห็นเมอซิเออร์เดวิดด้วยนะพวกเธอ”

ซาร่าล้มตัวลงนอนบนที่นอนของกล้วยไม้ เธอก็ฝันเห็นใบหน้าคมคายของเจ้าพ่อแห่งวงการเริงรมย์ ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับมองเพดานห้องแล้วหลับลง อยากให้ห้องนอนใต้หลังคาห้องนี้แปรเปลี่ยนเป็นห้องนอนใหญ่สุดหรูเหมือนห้องนอนของ

เมอซิเออร์เดวิด

“เธอน่ะแค่เคยเห็น” แอนนาเบะปากใส่ซาร่า

ซาร่าที่นอนกลิ้งอยู่บนที่นอนนั้นรีบลุกขึ้นนั่ง เธอเบะปากใส่แอนนาแล้วลุกขึ้นยืน เดินผ่านหน้าแอนนาไปหากล้วยไม้ หล่อนนั่งลงข้างกล้วยไม้

“อย่าไปเชื่อยัยแอนนาให้มากนะ ยัยนี่ชอบขี้โม้” ซาร่าเอียงหน้าเข้าหากล้วยไม้ ส่งเสียงกระซิบข้างหูเพื่อน

กล้วยไม้ที่นั่งกอดเข่า ศีรษะน้อยพิงขอบหน้าต่าง แววตาเศร้าสร้อยเหม่อมองไปรอบหลังคาบ้านหลายหลัง หญิงสาวจิตใจเลื่อนลอยสายตาพร่ามัวคลอน้ำตามองยอดแหลมๆ ของหอไอเฟลที่อยู่ใต้ท้องฟ้าสีอึมครึม

สีของฟ้าดำทมิฬนั้นช่างเหมือนหัวใจของเธอที่ขุ่นมัวมืดมิด หาทางออกให้กับตัวเองไม่มี

เสียงของซาร่าทำให้กล้วยไม้สะดุ้งตกใจ เธอแอบเช็ดน้ำตาแล้วหันมายิ้มให้เพื่อน

“ฉันเคยไปบ้านของเมอซิเออร์เดวิดมาแล้วนะ” แอนนาหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาใส่ปาก เธอจุดไฟตรงปลายบุหรี่ดูดแรงๆ แล้วพ่นออกพร้อมคำโวโอ้อวด

“ฉันรู้มาว่าบ้านของเมอซิเออร์ยังกับคฤหาสน์เลยใช่ไหมแอนนา” ซาร่าตื่นเต้น เอ่ยถามแอนนา

“แน่นอน...บ้านของเมอซิเออร์เดวิดยังกับชาโตว์ราชวังเลยนะพวกเธอ ขนาดห้องนอนที่จัดไว้หลับนอนกับผู้หญิง ก็ใหญ่โตและหรูหราสวยงามมาก” แอนนาฝันค้าง นึกถึงร่างกายของเมอซิเออร์เดวิด นึกเสียดายที่ชายหนุ่มรูปงามไม่เคยทำอะไรหล่อนเลย แม้แต่ปลายเส้นผม ชายหนุ่มก็ไม่เคยแตะ

“แอนนาเล่าต่อ...ฉันอยากฟัง” ซาร่าหน้าแดงระเรื่อเขินอาย ยามนึกถึงร่างกายของเทพบุตรสุดหล่อที่พวกเธอพูดถึง เสียงพูดและท่าทางของแอนนาทำให้ซาร่าหัวใจหวั่นไหว สมองของหล่อนเบลอ ฝันไปกับคำพูดของแอนนา

“พวกเธอรู้ไหม ร่างกายใหญ่โตแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อทุกส่วนสัดกำยำมาก เวลาเขาเปลือยกายช่างเหมือนรูปปั้นประติมากรรมเดวิดมาก ยังมีอีกนะที่ฉันประทับใจลืมไม่ลงจนถึงทุกวันนี้ ตอนที่เขาเดินย่างสามขุมเหมือนพญาสิงโตเข้ามาอุ้มฉันไปนอนบนเตียงใหญ่หนานุ่ม พวกเธอรู้ไหม ตอนนั้น ฉันเหมือนหนูตัวน้อยๆ อยู่ในอุ้งมือของพญาราชสีห์มาก” แอนนานอนแผ่หลาบนที่นอน หล่อนฝันค้างไปไกลและกลัวเสียหน้า อับอายเพื่อนจึงเล่าเหตุการณ์ที่ไม่ใช่ความจริงให้เพื่อนฟัง

“ที่เขาลือกันว่ามาม่าซังซูซี่เป็นเมียเก็บเมอซิเออร์เดวิดจริงหรือเปล่า แอนนา” ซาร่าถามเพื่อความแน่ใจ

“ก็แค่นางบำเรออันดับหนึ่งที่เมอซิเออร์เดวิดเรียกใช้บริการบ่อยที่สุดก็เท่านั้นเอง” แอนนาบอกซาร่า

“ฉันเห็นมาม่าซังซูซี่ชอบคุยกับพวกผู้หญิงในบาร์ เธอห้ามทุกคนไม่ให้เข้าใกล้เมอซิเออร์นะ โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าตาสะสวย” ซาร่าเล่าให้แอนนาฟัง ซึ่งกล้วยไม้ก็ได้ยินด้วย

“ทำเป็นหวงก้าง...เมอซิเออร์เดวิด เขาไม่เอาผู้หญิงขายบริการอย่างมาม่าซังซูซี่ทำเมียหรอก” แอนนาแสยะยิ้ม นึกหมั่นไส้คนที่เอ่ยถึงขึ้นมาทันควัน ครั้งหนึ่ง เธอกับซูซี่ตบตีกันเพราะแย่งเดวิด

“เมอซิเออร์เดวิด เขามีหน้าตาแบบไหนเหรอ”

‘เมอซิเออร์เดวิด คุณเดวิด คุณเด’

กล้วยไม้ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ เอ่ยชื่อของชายหนุ่มสลับกันไปมาอยู่ในใจ อยากรู้จริงๆ ว่า เมอซิเออร์เดวิด คุณเดวิด หรือคุณเด จะเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่

“นี่อย่าบอกนะว่า เธอไม่เคยเห็นเมอซิเออร์เดวิด” ซาร่าถามกล้วยไม้

“ก็ไม่เคยน่ะสิ” กล้วยไม้พูดเสียงอ่อยๆ

“เมอซิเออร์เดวิด เขามาหามาดามซูซี่ทุกคืน เธอไม่เคยเห็นเขาเลยเหรอ” ซาร่ามองกล้วยไม้ส่ายหน้า หล่อนถอนหายใจแผ่วเบานึกสงสารเพื่อนที่ดันมาเป็นคนของมาดามซูซี่

‘นี่สงสัยมาม่าซังซูซี่คงจะเก็บแคทซี่ไว้ขายเก็งกำไรให้กับผู้ชายอื่นแน่’

ซาร่ารู้มาว่ามาดามซูซี่ร้ายกาจมาก หล่อนทำทุกอย่างเพื่อตัวเองและมักจะอิจฉาเด็กทุกคนที่ได้ดีกว่าหล่อน

“ก็เธอเล่นเป็นนางฟ้าเฝ้าห้องน้ำ จะไปเห็นเทพบุตรสุดหล่อได้ไงยะ” แอนนาพูดเสียงเยาะเย้ย แววตามองถากถางกล้วยไม้

“ฉันอยากเห็นเมอซิเออร์เดวิด ต้องทำยังไงบ้างเหรอ” กล้วยไม้มองหน้าแอนนาและซาร่า ถามความคิดเห็นจากเพื่อนทั้งสอง

“ออกไปเต้นสิ รับรองเธอได้เห็นเมอซิเออร์เดวิดแน่” แอนนาแนะนำ

“ใช่ๆ ...ถ้าเธอออกไปเต้นโชว์เหมือนพวกเรา...ฉันรับรองว่าเมอซิเออร์เดวิด เขาต้องเห็นเธอและจะต้องเรียกเธอไปพบแน่เลย”

ซาร่าคลานเข้าไปนั่งตรงหน้ากล้วยไม้ ยื่นมือเข้าไปโอบอุ้มดวงหน้างามของเพื่อน ดวงตาดำขลับมองสำรวจร่างบางอรชรอ้อนแอ้น ซาร่าจ้องดวงหน้าสวยรูปไข่ของเพื่อนพยักหน้าให้กล้วยไม้รับรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก

“ทำไมต้องเรียกไปพบด้วยล่ะ” กล้วยไม้ถามเพื่อนๆ

“อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงไร้เดียงสา แกล้งไม่รู้หน่อยเลยแคทซี่” แอนนาพูดเสียงเยาะเย้ยกล้วยไม้

“ฉันรู้มาว่าเมอซิเออร์เดวิด จะพาผู้หญิงหน้าใหม่ๆ ไปนอนด้วยทุกคืน” ซาร่าพูด

“เพราะเมอซิเออร์เดวิด เขาชอบนอนกับผู้หญิงหน้าใหม่ๆ น่ะสิ” แอนนาเป็นคนพูดเอง

“แล้วเธอล่ะซาร่า เมอซิเออร์เดวิดเคยพาเธอไปไหม” กล้วยไม้ถามซาร่า ความรู้สึกที่อยากเจอชายหนุ่มหดหายไปทันทีเมื่อได้รู้กิตติศัพท์ของชายหนุ่ม

“ถ้าเธอออกไปเต้นโชว์คืนนี้ เธอเสร็จเมอซิเออร์เดวิดแน่” แอนนาพูดให้กล้วยไม้กลัว หล่อนลุกขึ้นยืน เดินเต้นส่ายสะโพกเข้าไปยืนตรงหน้ากล้วยไม้ แล้วยื่นมือให้กล้วยไม้จับ เมื่อหล่อนจับมือของกล้วยไม้ก็ออกแรงฉุดให้กล้วยไม้ลุกขึ้น

“ออกไปเต้นบนฟลอร์เหรอ?” กล้วยไม้เหมือนคนละเมอ ยืนมองตาค้าง เมื่อเห็นแอนนาเต้นยั่วยวนส่ายสะโพกไปมา

“แต่อย่าหวังสูงนะ...เมอซิเออร์เดวิดเขากินแค่ครั้งเดียวก็เขี่ยทิ้งเหมือนหมาตัวหนึ่ง” แอนนาหยุดเต้น เธอยืนนิ่งกอดอก พยักหน้าหงึกๆ ให้กล้วยไม้ทำตามที่หล่อนเต้นให้ดูเมื่อกี้นี้ หล่อนบอกให้กล้วยไม้เต้นส่ายสะโพกไปมาแล้วย่อตัวลง ให้กล้วยไม้ค่อยขยับตัวส่ายสะโพกลุกขึ้นแบบนี้ และยังสั่งให้เธอทำหน้าตาให้เซ็กซี่ด้วย

“เมอซิเออร์เดวิด เขาอายุเท่าไหร่แล้วเหรอ” กล้วยไม้สนุกกับการเต้นยั่วยวน เธอยิ้มหวานเมื่อเห็นซาร่าเข้ามากอดเอวคอดของเธอ เธอทั้งสองพากันเต้นหมุนรอบห้อง หัวเราะชอบอกชอบใจ

“อย่าสนใจอายุของเมอซิเออร์เดวิดเลย...ฉันจะบอกให้ เมอซิเออร์เดวิดเขาหล่อเหมือนเทพบุตรเดินดิน ขนาดมีแผลเป็นบนใบหน้า เมอซิเออร์ก็ยังคงหล่อเหลา เพอร์เฟ็กต์มาก” แอนนาฝันละเมออีกครั้งเมื่อพูดถึงเมอซิเออร์เดวิดผู้มีอิทธิพลต่อบรรดาสาวๆ ทั่วประเทศ ผู้หญิงทุกคนต่างพากันฝันที่จะได้เข้าไปอยู่ในกลางหัวใจของเจ้าพ่อสถานเริงรมย์ที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดในประเทศฝรั่งเศส

‘มีแผลเป็นบนใบหน้าเหรอ คงจะไม่ใช่คุณเดของเราแน่’

กล้วยไม้นึกในใจ เธอผลักจากซาร่าหยุดเต้นเดินใจลอยไปยืนตรงหน้าต่างอีกครั้ง แววตาอ้างว้างมองความวุ่นวายและเสียงเอะอะโวยวายของผู้คนดังอยู่ด้านล่าง

“เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดมีมารยาทหน่อยสิยะ เข้าห้องคนอื่นทำไมไม่เคาะประตู” เสียงแว้ดๆ ของแอนนาทำให้กล้วยไม้ต้องหันหลังกลับไปมอง

“หนูขอโทษค่ะ” เด็กสาวชาวลาว นามว่า ‘เรไร’ อายุสิบหกปียืนตัวสั่นก้มหน้างุดเมื่อเจอเสียงตวาดของแอนนา

“มีอะไรก็ว่ามา แล้วรีบออกไป” แอนนาทำตาดุใส่เด็กสาว

“มาดามซูซี่บอกให้คุณแคทซี่ไปพบค่ะ” เด็กสาวค่อยเงยหน้าขึ้นมองกล้วยไม้

“มาดามเรียกฉันเหรอ” กล้วยไม้เดินผ่านซาร่าและแอนนาตรงไปยังหน้าประตูห้อง

“ค่ะ” เด็กสาวรีบก้มหน้าหลบสายตาของกล้วยไม้

“เธอไปบอกมาดามได้ไหม เดี๋ยวฉันจะรีบลงไปพบ” กล้วยไม้ทำหน้าฉงน แปลกใจจังที่มาดามเรียกหา จึงยื่นมือเข้าไปเชยปลายคางของเด็กเรไรให้เงยหน้ามองตากัน เธอยิ้มให้เด็กสาวชาวลาว เมื่อนึกถึงตัวเองตอนอายุเท่าเด็กสาวตรงหน้า

“มาดามให้คุณแคทซี่ไปหาเดี๋ยวนี้ค่ะ” เด็กน้อยกลัวคำสั่งของมาดามซูซี่ จึงคว้ามือของกล้วยไม้มากุมไว้ พยักหน้าบอกให้กล้วยไม้รีบไป

“เรไร...เดี๋ยวสิ” กล้วยไม้ดึงมือออกจากมือของเรไร

“รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวมาดามจะรอนาน แล้วดุหนูอีก” เด็กเรไรเสียงสั่นเครือ ดวงตาบ้องแบ๊วคลอน้ำตามองหน้ากล้วยไม้อย่างเว้าวอน...

ห้าเดือนก่อน เด็กเรไรถูกพ่อแม่บุญธรรมเอาเธอมาขายขัดดอกให้เป็นคนใช้ของซูซี่

“เรไรรู้ไหม...มาดามเรียกหาฉันทำไม” เมื่อเห็นน้ำตาบนของดวงตาของเด็กเรไร กล้วยไม้ก็เกิดความสงสารจึงเดินตามเด็กน้อยไป

“ไม่รู้ค่ะ”

เด็กเรไรหันมาพูดยิ้มดีไจ เธอเดินนำหน้า มือของเรไรยังกุมมือกล้วยไม้พากันเดินลงบันไดมาถึงชั้นที่สองซึ่งเป็นบริเวณห้องพักของมาดามซูซี่

พวกเธอทั้งสองพากันเดินมาหยุดยืนหน้าห้อง...กล้วยไม้หันมองหน้าเรไรที่ยังยืนอยู่ข้างๆ และเรไรยังพยักหน้าให้เธอเคาะประตู

“เข้ามา!” เสียงของผู้หญิงฟังดูมีอำนาจดังอยู่ข้างในห้อง

“มาดาม” กล้วยไม้เปิดประตูให้กว้างเล็กน้อย ไม่กล้าเดินเข้าไปหา ได้แต่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าประตู

“ปิดประตูด้วย...”

“มาดาม มีอะไรให้ฉันรับใช้เหรอคะ” กล้วยไม้ทำตามหญิงสาวที่กุมชีวิตของเธอ เธอเดินหมอบเข้าไปนั่งทับส้นเท้าบนพื้นพรมตรงหน้าของซูซี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว

“ไปหยิบกล่องสีดำในนั้นมาให้ฉันหน่อยสิ”

ซูซี่ หยัง ในวัยสามสิบห้าปี หล่อนมองกล้วยไม้ด้วยแววตาถากถาง เรียวปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีแดงเลือดหมูนั้นแสยะยิ้มออกคำสั่งเสียงเยือกเย็น จนทำให้คนฟังต้องรีบคลานเข้าไปยังตู้เก็บของสำคัญ

“นี่ค่ะ” กล้วยไม้คลานเข่ากลับมาหาซูซี่ มือสั่นถือกล่องสีดำยื่นให้หญิงสาวมากอำนาจ

“ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ ฉันสิ” ซูซี่นั่งขาไขว่ห้าง มือที่คีบบุหรี่นั้นก็ยกขึ้น ริมฝีปากอวบเผยอเล็กน้อยคาบก้นบุหรี่ดูดเอาควันสีเทาเข้าปอดแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ

ดวงตากลมโตกรีดอายไลเนอร์สีดำปรายหางตามองหญิงสาวตรงหน้า

‘ไม่เสียแรงที่เก็บซ่อนเธอไว้ให้ไกลสายตาของเจ้าพ่อสถานที่แห่งนี้ แล้วยื้อเวลารอคอยวันเหมาะสม เธอเป็นสินค้าราคาแพงที่ฉันจะขายได้เงินมหาศาลจริงๆ’ ซูซี่พูดในใจ

“ขอบคุณค่ะ” กล้วยไม้คลานเข้าไปนั่งพับเพียบตรงปลายเท้าของมาม่าซัง ‘ซูซี่’ หล่อนกุมความเป็นตัวตนของเธอไว้ แม้แต่อิสรภาพทางใจก็ไม่มี เพราะเธอเป็นเด็กรับใช้ของหญิงสาวตรงหน้า

“ฉันมีงานให้เธอทำ เพื่อของสิ่งนี้” ซูซี่หยิบสร้อยกับแหวนขึ้นมาดู หล่อนอยากรู้ความรู้สึกของกล้วยไม้จึงปรายหางตามองหน้าหญิงสาวแล้วหันกลับมามองของในมือ

“งานอะไรเหรอคะ” กล้วยไม้เสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตคลอเบ้ามองแหวนของคุณเดอยู่ในนิ้วมือของซูซี่

“คืนนี้จะมีแขกคนสำคัญมาที่นี่...ฉันอยากให้เธอออกไปต้อนรับเขา” ซูซี่ทาบสร้อยคล้องแหวนบนตัวของกล้วยไม้ หล่อนส่ายหน้าเมื่อกล้วยไม้จะจับแหวน

“ตะ...แต่” กล้วยไม้ไม่เข้าใจในความคิดของซูซี่ แววตาของหล่อนที่มองเธอนั้นเปลี่ยนแปลง บ้างก็มองเธออย่างหวังดี บ้างก็มองเธออย่างดูถูกถากถาง

“ถ้าเธอออกไปรับใช้เมอซิเออร์อาเล็ก สัญญาทุกอย่างในเอกสารใบนี้ ฉันจะฉีกมันทิ้ง แล้วฉันจะคืนของพวกนี้ให้กับเธอ” ซูซี่เอียงหน้ามองกล้วยไม้

“แหวนวงนั้นด้วยใช่ไหมคะ” กล้วยไม้ใจสั่นอยากจะจับแหวนของคุณเด อยากจะเห็นเรียวหน้าของเขา เธอจำคำพูดของชายหนุ่มได้ทุกคำว่า

‘ถ้าคิดถึงคุณเดให้ดูแหวนวงนี้ หัวใจของคุณเดจะสิงอยู่ในนี้’

หัวใจอันอ้างว้างโหยหาคุณเด มือบางยกขึ้นแอบเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองแหวนวงนั้นอย่างอาวรณ์

“แน่นอน ถ้าเธอทำให้เมอซิเออร์อาเล็กถูกใจ” ซูซี่เก็บของสำคัญของกล้วยไม้ใส่ในกล่องสีดำ แล้วขยับตัวลุกขึ้นยืน

“ฉันไม่เคยทำงานแบบนั้นค่ะ” กล้วยไม้แหงนหน้ามองมาม่าซัง เอ่ยปฏิเสธเสียงสั่นเครือ

“งานไม่ได้ยากเลยสักนิด” ซูซี่สั่งด้วยนิ้วชี้กระดิกขึ้นลงให้กล้วยไม้ลุกขึ้นยืน หล่อนยิ้มร้าย แววตางามคู่นั้นร้ายกาจเป็นบางครั้งจับจ้องมองสำรวจผิวพรรณผุดผ่องของหญิงสาวบริสุทธิ์ ขนาดมีเสื้อผ้าเก่าไร้ราคาห่อหุ้ม หญิงสาวยังดูสวยสง่างาม

“ให้ฉันทำอย่างอื่นได้ไหมคะ?” กล้วยไม้ยืนตัวแข็งเป็นท่อนไม้ ปล่อยให้ซูซี่ถอดชุดกระโปรงของเธอออกทีละชิ้น...หญิงสาวหนาวสะท้าน น้ำตาคลอเบ้าปริออกเมื่อเธอหลับตาหนีความอับอาย กล้วยไม้รีบยกแขนขึ้นปิดทรวงอกทั้งสองข้าง และมืออีกข้างก็ปิดกุมนาน้อยของตัวไว้

“เธอเป็นผู้หญิงสวยมากรู้ตัวไหม แคทซี่” ซูซี่ใส่ชุดนอน

เซ็กซี่วันพีซสีแดงสดให้กล้วยไม้ ถึงในใจจะนึกอิจฉาความงามบนเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้าก็เถอะ แต่เมื่อนึกถึงเงินมหาศาลที่จะได้รับจากอาเล็กแล้ว หล่อนก็ยิ้มมุมปากมีความสุข

“ถ้าฉันไม่ทำล่ะคะ” กล้วยไม้ยืนสั่นสะท้านขนกายลุกซู่เมื่อลมเย็นจากด้านนอกพัดผ่านเข้ามากระทบผิวเนื้อที่มีเพียงชุดนอนวันพีซบางเบาปกปิดร่างกาย

“เห็นยายแก่ที่ยืนอยู่หน้าตึกนั้นไหม” ซูซี่จับบ่าให้หันมามองเผชิญหน้ากัน แล้วจับให้กล้วยไม้หันหลังดันให้กล้วยไม้เดินตรงไปยังหน้าต่าง

“เขาเล่ากันว่ายายแก่นั้นเคยทำงานเป็นเด็กนั่งเฝ้าห้องน้ำในบาร์แห่งหนึ่ง แกเป็นคนที่สวยมาก สวยแบบเธอนี่แหละ เธอรู้ไหมทำไมแกถึงต้องใช้ชีวิตแบบนั้น” ซูซี่หยุดพูด หล่อนจับดวงหน้าของกล้วยไม้ให้มองไปตรงข้างทางตรงต้นไม้ใหญ่ บอกกล้วยไม้ว่าลังใหญ่นั้นคือบ้านพักของยายแก่

“มีผู้ชายเยอะแยะมากมายจะให้เงินแกเพื่อจะได้ครอบครองเรือนร่างอันสวยงามของแก แต่ยายไม่ได้ใช้ความสวยบนร่างกายให้เป็นประโยชน์ถึงต้องมาเป็นขอทานข้างถนนไง” ซูซี่ใช้นิ้วจิ้มตรงขมับของกล้วยไม้ แนะนำให้เธอคิดใหม่เพราะการที่เธอจะมารักศักดิ์ศรีบ้าบอแบบยายแก่นั่น เธอก็จะต้องพบกับจุดจบแบบยายแก่นั่นเหมือนกัน

“ฉันสามารถทำงานอย่างอื่น เอาเงินมาใช้หนี้ได้ค่ะ” กล้วยไม้มองยายแก่ นับถือในตัวของแกที่รักศักดิ์ศรีไม่ยอมขายร่างกายให้กับผู้ชายหลายคน กล้วยไม้ถอนหายใจเกิดความสงสารหญิงชรา ไม่อยากมองความโหดร้ายของหญิงชราที่เดินขอทานพูดเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว กล้วยไม้เมินหน้าหนีหันไปมองทางอื่น

“หึ! เงินหลายแสนฟรังก์อยู่นะ พาสปอร์ต บัตรทำงานเธอก็ไม่มี แล้วเธอจะไปหางานดีๆ ที่ไหนทำ นอกจากทำงานนั่งเฝ้าห้องน้ำที่นี่ แต่คงยากหน่อยนะ ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหาเงินมาไถ่ของพวกนี้ได้หรอก” ซูซี่ผายมือบอกให้กล้วยไม้มองกล่องสีดำที่ยังวางอยู่บนโต๊ะรับแขก

“ฉันจะพยายามหาเงินพวกนั้นมาไถ่ของคืนค่ะ” กล้วยไม้ที่ยืนก้มหน้า เธอเอียงหน้ามองกล่องสีดำ

“เมอซิเออร์อาเล็กเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่ฉันอยากให้เธอบริการเขา” ซูซี่เดินกลับไปนั่งบนโซฟาตัวเก่า หล่อนจับบุหรี่ขึ้นมาดูด แววตาหวังดีผสมร้ายจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า...ซูซี่บอกให้กล้วยไม้มองของมีค่าในห้องนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วมีแต่ของใช้ดีๆ ทั้งนั้น

“ให้เวลาฉันได้ไหมคะ?” กล้วยไม้ยังยืนอยู่ที่เดิม หญิงสาวไม่ได้สนใจสิ่งของในห้องหรูหรานี้ ไม่ต้องการที่จะขายเรือนร่างเพื่อแลกกับความสุขสบาย ความหนาวเย็นของอากาศทำให้กล้วยไม้ใช้แขนทั้งสองข้างกอดตัวเองไว้แน่น เธอหนาวหัวใจ ว้าเหว่เหลือเกินยามไม่มีใครปกป้อง

“ใช้หน้าตาอันสวยงามและร่างกายอันสมบูรณ์ ทำให้

เมอซิเออร์อาเล็กพอใจในตัวเธอ” ซูซี่กระดิกนิ้วเรียกให้กล้วยไม้เดินเข้ามา หล่อนสั่งด้วยสายตาบอกให้เธอถอดชุดนอน

“มาดาม...ให้เวลาฉันทำใจสักวันได้ไหมคะ” กล้วยไม้ถอดชุดนอนน่าเกลียดนั้นออกจากกาย แล้วรีบใส่เสื้อผ้าตัวเก่า เธอคลานเข้าไปนั่งตรงปลายเท้าของมาม่าซัง วิงวอนขอร้องด้วยคำพูดและสายตาอันร้าวราน

“ฉันเป็นคนให้ชีวิตใหม่เธอ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะทำงานเอาเงินส่วนที่ฉันเสียไปมาคืนฉันสักที...ไป...ฉันจะอาบน้ำให้เธอเอง”

ซูซี่ขยี้ก้นบุหรี่บนที่รองบุหรี่ แล้วลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปหากล้วยไม้ หล่อนจูงมือของกล้วยไม้พาเดินเข้าไปห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำในห้องนอนของซูซี่ผิดกับห้องน้ำในห้องนอนของเธอ

“ฉะ...ฉันอาบเองได้ค่ะ”

“ฉันบอกว่าจะอาบให้ไง”

เสียงกระซิบเยือกเย็นมาพร้อมด้วยแววตาแข็งกร้าวมองนั้น ทำให้กล้วยไม้ทำตามอย่างไม่มีขัดขืน

“ถ้าเธอทำตามความต้องการของเมอซิเออร์อาเล็ก เธอจะได้ทุกอย่าง ห้องนอนสุดหรู ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง แม้แต่สบู่หอมก้อนนี้เธอก็จะได้ใช้มัน” ซูซี่เดินไปนั่งบนขอบอ่างอาบน้ำ หล่อนพูดไป มือเรียวงามก็เปิดน้ำใส่อ่าง ครีมอาบน้ำมียี่ห้อดีถูกเทลงในน้ำอุ่น

ซูซี่ผายมือให้กล้วยไม้มอง แล้วออกคำสั่งด้วยแววตาเยือกเย็นให้กล้วยไม้ลงไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ...ซูซี่ยิ้มร้าย ใช้ฟองน้ำเนื้อนุ่มชุบน้ำที่มีฟองสบู่ขัดไปตามผิวขาวผ่องอย่างเบามือ ริมฝีปากอวบอิ่มก็บอกให้กล้วยไม้ดูสิ่งของในห้องพักที่มีค่าราคาแพง...

ซูซี่แนะนำให้กล้วยไม้รู้จักใช้ร่างกายขาวผุดผ่องให้เป็นประโยชน์ หล่อนสอนให้กล้วยไม้ให้ทำตัวให้น่ารัก เชื่อฟังทำทุกอย่างที่อาเล็กต้องการ แล้วทุกอย่างที่เธออยากได้ก็จะได้มันมาอย่างง่ายดาย…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel