บท
ตั้งค่า

บทที่๓ ตอน "หัวใจที่ถูกทิ้ง" 1

เมื่อถึงเวลาห้าทุ่มตามที่นัดไว้ ซูซี่ก็บอกให้เด็กไปตามกล้วยไม้ลงมาหาอีกครั้ง หล่อนพากล้วยไม้เดินออกจากห้องพักของตัวเองที่อยู่ชั้นสี่และก็พากล้วยไม้ลงไปยังชั้นสาม ซึ่งเจ้าของบาร์โชว์ได้จัดชั้นนี้ไว้เป็นห้องพักสุดหรูระดับห้าดาวที่มีราคาแพงมากเกินคนธรรมดาจะซื้อบริการได้ ซึ่งจะมีแต่บรรดาผู้ชายระดับใหญ่โตมีเงินเท่านั้นที่จะได้รับการต้อนรับและบริการจากหญิงสาวที่ผ่านมือชายไม่โชกโชน

ทุกย่างก้าวของหญิงสาวไร้ที่พึ่งที่เดินตามหลังซูซี่นั้นช่างเปรียบเสมือนเจ้าตัวเดินตามนางปีศาจพาลงขุมนรกจริงๆ กล้วยไม้น้ำตาคลอเบ้าเมื่อมองทางเดินเข้าห้อง สีแดงของพรมเนื้อดีถูกปูยาวไปจนสุดทางเดินเข้าห้องแต่ละห้อง

“อย่าทำเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาหน่อยเลย สักวันเธอก็ต้องทำ ไม่ทำวันนี้ วันหน้า เธอก็ต้องทำ” ก่อนที่ซูซี่จะเคาะประตูห้อง หล่อนก็หันมาทำเสียงดุกล้วยไม้

“ค...ค่ะ” กล้วยไม้สะดุ้งตื่นตกใจ ดวงตาหวาดกลัวคลอน้ำตาละจากป้ายชื่อแต่ละห้องมาจับจ้องมองชื่อห้องที่เธอจะต้องเข้าไป

‘ลิลลี่สีขาว’ กล้วยไม้อ่านป้ายชื่อห้องเสียงสั่นเครืออยู่ในใจ

“เช็ดน้ำตาด้วย!” ซูซี่ปรายหางตามองกล้วยไม้อย่างหมั่นไส้ หล่อนยื่นมือเข้าไปเชยคางมนให้เงยขึ้น แล้วล้วงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกจากหน้าอก เอามาซับน้ำตาบนพวงแก้มให้กล้วยไม้อย่างลวกๆ หล่อนดุกล้วยไม้ที่ชอบลบสีแดงบนเรียวปากออก หล่อนจึงแต้มลิปสติกสีแดงบนกลีบปากอิ่มให้ดูสวยขึ้นอีกครั้ง

“ค่ะ มาดาม” กล้วยไม้ตอบเสียงสั่นเครือแผ่วเบามาก ร่างน้อยสะท้านไหวระริกเกรงกลัว เมื่อเสียงของคนด้านในเดินลงส้นหนักหน่วงมาเปิดประตู ซึ่งหญิงสาวไม่กล้าที่จะมองจึงได้แต่ยืนหลับตา ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะยกมือขึ้นปิดหูของตัวเองด้วย

“เมอซิเออร์อาเล็กล่ะ?” เมื่อคนที่มาเปิดประตูไม่ใช่ชายหนุ่มที่หล่อนต้องการพบ ซูซี่ก็เอ่ยถามเสียงสะบัด หล่อนชะเง้อคอยาวมองผ่านหัวไหล่ของบอดี้การ์ดตัวใหญ่นามว่า ‘เชอัน’ ที่ยืนเต็มประตู

“มาดามซูซี่ เข้ามาสิครับ” เสียงเข้มดังกังวานน่ากลัวดังอยู่ข้างในห้องทำให้กล้วยไม้ลืมตาโพลง ใบหน้าหวาดกลัวเงยขึ้นมองเข้าไปด้านใน

“คุณอาเล็ก”

ซูซี่ยิ้มเยาะลูกน้องของอาเล็ก หล่อนออกคำสั่งให้ไอ้ยักษ์ที่ยืนขวางทางประตูให้หลีกทาง และเมื่อชายหนุ่มโค้งคำนับหลีกทางให้ หล่อนก็จับมือของกล้วยไม้พาเดินเข้าไปยังห้องรับแขก

“มาดาม...” อาเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียว ชายหนุ่มรีบลุกออกจากที่แล้วเดินตรงไปหาซูซี่ เขาจับมือของมาม่าซังยกขึ้น แล้วดวงหน้าคมคายก็โน้มลงริมฝีปากแตะลงบนหลังมือนุ่มแผ่วเบา

ดวงตาสีน้ำตาลเปล่งประกายเจ้าเล่ห์เมื่อเหลือบขึ้นมองเห็นหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของซูซี่

‘แม่เจ้า ทำไมเธอถึงเป็นผู้หญิงเอเชียที่สวยที่สุดที่เคยเจอมา’

“สวยใช่ไหมคะ?” ความสูงของอาเล็กทำให้ซูซี่เขย่งปลายเท้าที่ห่อหุ้มรองเท้าส้นสูงราคาแพงขึ้น หล่อนยิ้มหวานกระซิบเสียงยั่วยวนชิดข้างแก้มของชายหนุ่ม

“มาดมัวแซลล์?” อาเล็กเอ่ยเสียงเหมือนคนละเมอ เขาปล่อยมือของซูซี่ คนงามตัวเล็ก ความสูงของเธอแค่หน้าอกของเขา ร่างบอบบางตรงหน้าช่างมีมนต์สะกดจิตให้เขาเดินเข้าไปหาเธอ

“แคทซี่ เธอชื่อแคทซี่ค่ะ” ซูซี่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบ หล่อนเดินเข้าไปยืนข้างอาเล็ก สะกิดเบาๆ ให้ชายหนุ่มตื่นจากความฝัน

“คุณแคทซี่พูดภาษาฝรั่งเศสได้ใช่ไหม?”

ความงามอ่อนหวานใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวตรงหน้า ทำให้อาเล็ก ผู้ชายที่ทุกคนต่างให้ฉายาแก่เขาว่า ‘เสือผู้หญิง’ นั้นต้องตกอยู่ในห้วงของความลุ่มหลง…อาเล็กกำลังหลงในรูปร่างของกล้วยไม้ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัส

“ดะ...ได้ค่ะ” กล้วยไม้พยักหน้ารับทั้งที่ยังก้มหน้า หญิงสาวพยายามที่จะดึงมือของตัวเองออกจากมือผู้ชายตรงหน้า หัวใจของเธอขณะนี้หวาดกลัวเหลือเกิน

“ผม...อาเล็กนะครับ” เสือผู้หญิงอย่างอาเล็กรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าใสบริสุทธิ์ เขาจึงไม่ทำอะไรรุ่มร่ามกักขฬะกับหญิงสาว ชายหนุ่มก้มหน้าจูบมือเธอ แล้วปล่อยมือหอมนั้นเป็นอิสระ แล้วเดินนำหน้าพาพวกเธอไปนั่งที่โต๊ะรับแขก

“อย่าทำให้อะไรให้เรื่องมันยุ่งยากสิ” ซูซี่นั่งลงตามคำเชิญของชายหนุ่ม หล่อนเอียงหน้ามองกล้วยไม้ที่ยังไม่ยอมนั่ง เธอจึงจับมือกระชากให้หญิงสาวนั่งลงบนโซฟาข้างอาเล็ก

“อุ๊ยย!” กล้วยไม้ไม่ทันระวังตัว เลยทำให้ตัวเองที่ถูกผลักให้ล้มลงให้นั่งลงบนตักของชายหนุ่มที่เพิ่งจะได้คุยกันเพียงไม่กี่คำ

“ฮ่าๆ ๆ ไม่เป็นไรครับ...ผมชอบ” คนเจ้าเล่ห์นิสัยกักขฬะจะให้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษได้นานคงเป็นไปได้ยาก เมื่อร่างน้อยที่เขาหลงใหลถลาเข้ามานั่งบนตัก มีหรือชายหนุ่มจะปล่อยให้เหยื่อเนื้อหวานๆ หลุดออกจากวงแขน

“ฉะ...ฉันขอโทษค่ะ” กล้วยไม้อยากจะร้องไห้ในสิ่งที่ซูซี่ทำ เธออดทน กักกลั้นน้ำตาแห่งความอดสูไว้จนขอบตาทั้งสองข้างแดงช้ำและบวมเป่ง

“ตัวคุณเบาเหมือนปุยฝ้ายมากครับ” อาเล็กกอดกระชับวงแขนแน่นมากขึ้นเมื่อคนตัวน้อยดิ้นขัดขืน

“ปละ...ปล่อยฉันเถอะค่ะ” กล้วยไม้ยกมือดันหน้าอกของเขาไว้ ดวงตาไหวระริกหวาดกลัวเหลือเกินยามได้สบตากัน ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าไม่เห็นสุภาพอย่างที่ซูซี่เล่าให้ฟังเลยสักนิด

“ร่างอ้อนแอ้น อรชรมากครับ ผมชอบ คืนนี้ ผมจะทำให้คุณมีความสุข...”

เสียงเยือกเย็นเหมือนเกล็ดหิมะกระซิบดังข้างหูทำให้กล้วยไม้ที่อยู่ในห้วงนึกถึงคำพูดของซูซี่ตื่นสะดุ้งตกใจ เมื่อลมหายใจร้อนระอุเป่ารดต้นคอของตัวเอง

“เมอซิเออร์ ยะ...อย่าค่ะ” กล้วยไม้ขอร้องเสียงสั่นเครือ เธอรีบย่นคอหมอบตัวลงแนบแผ่นอกแข็งแกร่ง ไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้จูบสัมผัสพวงแก้มของตัวเองได้

“ผมของคุณหอมมาก...ผิวกายก็นิ่ม หอมกลิ่นกุหลาบสีขาวด้วย” อาเล็กกระซิบเสียงหื่นชิดกระหม่อมน้อย หวังจะได้เชยชมดมกลิ่นหอมจากพวงแก้มเนียนนั้น กลับแปรเปลี่ยนเป็นเรือนผมดำเงาเสียนี่...อาเล็กกระตุกยิ้มร้ายตรงมุมปากเมื่อสาวน้อยในอ้อมกอดขัดขืน

“อะแฮ่มๆ”

ซูซี่เหยียดยิ้มเย้ยหยัน หล่อนแกล้งทำเสียงไอเพื่อช่วยให้กล้วยไม้ได้หลุดพ้นจากผู้ชายหยาบคาย

“ดื่มอะไรสักหน่อยไหมครับ” อาเล็กยิ้มมุมปาก เขาก้มมองคนในอ้อมกอดแล้วจับใบหน้าสวยให้เงยขึ้น รู้สึกพอใจในตัวของกล้วยไม้นักหนา เขาโน้มหน้าเข้าหาข้างแก้มของกล้วยไม้ แตะริมฝีปากลงบนพวงแก้มนุ่มหอมกรุ่น แล้วชายหนุ่มก็อุ้มเธอออกจากตักให้นั่งลงบนโซฟา

ซึ่งรอยสัมผัสบนพวงแก้มขาวทำให้กล้วยไม้ขยะแขยงจึงใช้มือเช็ดรอยนั้นออก ดวงตาคลอน้ำตาก็มองตามหลังของอาเล็กและ

ซูซี่ที่พากันไปนั่งบนหน้าเคาน์เตอร์บาร์

“ต่อไป คุณคงไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาอีกแล้วสินะ”

ซูซี่เดินตามอาเล็กไปนั่งที่เก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์ หล่อนเริ่มหมั่นไส้กล้วยไม้และเกิดอาการหวงของที่เคยเป็นของหล่อน อย่างไร พวกเขาทั้งสองก็เคยคุ้นเคยรู้ใจกัน อย่างสุภาษิตว่าไว้ ‘วัวเคยขาม้าเคยขี่’ ถึงแม้ในใจจะไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรกับอาเล็ก แต่เพราะเงินมหาศาลที่อาเล็กเปย์ให้จึงทำให้ซูซี่พร้อมพลีกายให้

“หึ...ท่าทีแบบนี้ คุณน่าจะไปทำกับพี่ใหญ่มากกว่าที่จะมาทำกับผมนะ...”

‘อาเล็ก เคาน์ชิคาโด้’ เขาเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเดวิดและชายหนุ่มได้เลือดแม่ชาวมาเลเซียมาเยอะจึงทำให้หน้าตาของเขาหล่อแบบลูกผสม อาเล็กยังเป็นผู้บริหารดูแลกาสิโนขนาดใหญ่และทุกสาขาในประเทศที่พี่ชายของเขาเป็นเจ้าของ แววตาเจ้าเล่ห์หื่นกระหายแฝงความเห็นแก่ตัวมองร่างเย้ายวนอวบอั๋นของซูซี่ ที่เขาเคยเชยชมมาแล้วนับไม่ถ้วน...

อาเล็กสะใจ ยิ้มเยาะ เมื่อเห็นผู้หญิงที่พี่ชายไว้ใจมอบอำนาจให้หล่อนเป็นถึงแม่เล้าและยังยกย่องหล่อนให้ควบคุมสถานที่แห่งนี้ ทำหน้ากระเง้ากระงอด

“แต่เราก็คุ้นเคยกันไม่ใช่เหรอคะ” ซูซี่ยิ้มหวานแววตาแพรวพราวมองหน้าชายหนุ่มที่มีความหล่อ ร่างกายบึกบึน รวยอำนาจและเงินทองไม่แพ้พี่ชายเลยสักนิด

“คุณคงไม่คุ้นเคยผมแค่คนเดียวหรอกมั้ง” อาเล็กเอ่ยถามด้วยเสียงหยันๆ แววตาสีน้ำตาลเข้มมองผู้หญิงใช้ร่างกายแลกเงินอย่างดูถูก

“ขอบคุณค่ะ” ซูซี่ไม่ได้รู้สึกถึงสายตาดูถูกของชายหนุ่ม หล่อนยิ้มแล้วรับแก้วไวน์ขาวมาถือไว้ ก่อนที่หล่อนจะดื่มไวน์รสดีนั้นก็วนแก้วไปมา แล้วดมกลิ่นหอมของน้ำเมา เรียวปากอิ่มเอิบเคลือบลิปสติกสีส้มจรดบนขอบแก้วจิบไวน์ขาวรสดีเพียงเล็กน้อย

“ผมชอบเธอ”

อาเล็กเทบรั่นดีลงในแก้ว ชายหนุ่มยกแก้วบรั่นดีขึ้นจรดริมฝีปากตรงขอบแก้ว กระดกน้ำเมาเข้าปาก กลืนลงคอทีเดียวจนหมดแก้ว แล้วก็เทบรั่นดีใส่แก้วอีกครั้ง ดวงตากระหายหิวเนื้อหอมหวานที่ติดอยู่ปลายจมูกก็เหลือบขึ้นมองกล้วยไม้ผ่านหัวไหล่ของซูซี่

“ฉันรู้ว่าคุณชอบเด็กนั่น” ซูซี่ดื่มไวน์ในแก้วจนหมด หล่อนไม่ได้ห้ามเมื่ออาเล็กเทไวน์รสดีใส่แก้วให้หล่อนอีกครั้ง

“ผมอยากได้เธอมาเป็นผู้หญิงของผมคนเดียว” อาเล็กจ้องมองซูซี่

“อย่าห่วงเลยค่ะ...ฉันจะเก็บเด็กนั่นไว้ให้คุณ” เสียงเข้มดุดันของอาเล็กทำให้ซูซี่รับรู้จุดประสงค์

“ดี...” อาเล็กดื่มน้ำเมาจนหมดแก้วอีกครั้ง เมื่อได้ฟังซูซี่เล่า ถ้าเขาช้าสักวัน ผู้หญิงที่เขาหมายปองก็ต้องตกเป็นผู้หญิงของพี่ชาย ไม่วันนี้ก็วันหน้าแน่

“เด็กคนนี้ยังไม่เคยต้องมือชายนะคะ” ซูซี่จับมือของชายหนุ่มไว้ไม่ยอมให้เขาเขียนเช็ค หล่อนยื่นหน้าเข้าไปกระซิบเสียงเบาๆ ที่ข้างหูของชายหนุ่มให้ได้ยินเพียงหล่อนและเขา

“คิดจะโก่งค่าตัวเหรอครับ” อาเล็กยิ้มหยันๆ มองหน้าแม่เล้าอย่างดูแคลน

‘ผู้หญิงหน้าเงิน นิสัยไม่เคยเปลี่ยน’ อาเล็กดูถูกซูซี่ในใจ

“ของใหม่ไร้มลทินก็ต้องแพงหน่อยสิคะ” ซูซี่ไม่ได้สนใจสายตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองหล่อนอย่างหยันๆ กลับกัน หล่อนลงจากเก้าอี้บาร์ เดินเข้าหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ตัวสูง ร่างอวบอั๋นยืนกระแซะอยู่ระหว่างกลางขาใหญ่ทั้งสองข้าง

“บอกมา...คุณต้องการเท่าไหร่” อาเล็กแกะแขนสลวยที่โอบลำคอของตัวเองอยู่นั้นออก แล้วผลักให้หล่อนยืนให้ห่างจากกาย

“เจ็ดล้านฟรังก์ขาดตัว” ท่าทีไม่สนใจในรูปร่างเย้ายวนของเธอนั้นทำให้ซูซี่เสียหน้า หล่อนเอียงหน้ามองกล้วยไม้แล้วหันมาจ้องตาของชายหนุ่ม และลองใจเขาดูว่าจะสู้ไหวไหมกับราคาที่เธอตั้งขึ้นใหม่

“แพงไปหรือเปล่าคุณซูซี่!!” อาเล็กหรี่ตามองหน้าหญิงสาว ถามเพื่อความมั่นใจ

“ฉันอุตส่าห์เก็บเธอไว้ให้คุณคนเดียว ถ้าราคาเจ็ดล้านแพงสำหรับคุณ ก็ไม่เป็นไรค่ะ คงมีอีกหลายคนที่ต้องการเชยชมหญิงสาวบริสุทธิ์ เดี๋ยวฉันจะไปเสนอราคาให้เมอซิเออร์ฟรังซัวก็ได้ค่ะ” ซูซี่กระซิบเสียงเซ็กซี่ชิดข้างแก้มสากของชายหนุ่ม

“เธอเป็นสมบัติของผม ห้ามให้เธอรับแขกเด็ดขาด ถ้าผมรู้ว่าคุณพาเธอไปรับใช้บริการผู้ชายคนไหน ผมฆ่าคุณแน่!!”

อาเล็กมองกล้วยไม้ที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรือนร่างขาวนวลที่นอนบนที่นอนหนานุ่มรอเขาให้ได้สัมผัสชมเชย

“เชื่อใจฉันเถอะค่ะ เธอจะเป็นผู้หญิงของคุณตลอดไป จนกว่าคุณจะเบื่อเธอ...”

“อย่าคิดตุกติกใช้วิธีสกปรกกับผมเด็ดขาด”

อาเล็กเขียนเช็ค ก่อนที่เขาจะยื่นให้หญิงสาวก็เอ่ยเสียงเย็นกำชับให้หล่อนรับรู้ว่าอย่าเล่นกับไฟและพาผู้หญิงของเขาไปให้ใครเชยชม

“ทำไมห้าล้านคะ แล้วอีกสองล้านล่ะคะ” ซูซี่ไม่ได้สนใจคำพูดของอาเล็ก เมื่อได้มองตัวเลขที่เขียนในเช็ค หล่อนมองหน้าของชายหนุ่มอย่างสงสัย

“หนี้เก่าของคุณยังไม่จ่ายผมเลยนะครับ” อาเล็กบอกหญิงสาว

“ตายแล้ว!! นี่เจ้าพ่อกาสิโน ร่ำรวยมหาศาล หนี้แค่ล้านสองล้านยังไม่ลืมอีกเหรอคะ?” ซูซี่ยกมือทาบอกแกล้งตกใจกับหนี้สินที่หล่อนติดค้างชายหนุ่ม

“หรือคุณจะไม่เอา!!” อาเล็กยิ้มหยัน

ใช่ เขาเป็นเจ้าพ่อกาสิโนที่ใครๆ กล่าวถึงและนับถือ แต่ก็เป็นได้แค่เพียงในนามเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว เจ้าพ่อกาสิโนตัวจริงและอยู่เบื้องหลังก็คือพี่ชายนอกสายเลือดของเขานั่นเอง

‘หึ! กูจะเอาทุกอย่างที่เป็นของมึงมาเป็นของกูให้หมด รวมทั้งบาร์แห่งนี้ และผู้หญิงของมึงด้วย’ อาเล็กยิ้มร้ายอยู่ในใจเพียงคนเดียว

“เอาสิคะ” ซูซี่พูดงอนๆ แล้วรีบดึงเช็คเงินหลายล้านจากมือของอาเล็กมาถือไว้ เมื่อเห็นชายหนุ่มจะแย่งคืน หล่อนก็รีบยัดเช็คซ่อนไว้ในร่องอกอวบ

“ผมอยากพักผ่อน” อาเล็กดื่มบรั่นดีเป็นแก้วที่ห้า แววตาสีน้ำตาลเข้มเปล่งประกายหื่นกระหายมองร่างบอบบางที่ยังนั่งเป็นหุ่นนุ่มนิ่มอยู่บนโซฟาตรงหน้า ชายหนุ่มเริ่มมึนเมาอยากให้ร่างกายที่เริ่มแข็งแกร่งได้ใกล้ชิดเสียดสีช่อผกางามนั้น

“มาดามจะไปไหนคะ?” กล้วยไม้ที่ถูกปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียว เมื่อเธอเห็นพวกเขาทั้งสองเดินออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์ตรงไปยังประตู เธอก็รีบลุกขึ้นเดินไปดักหน้าของซูซี่ไว้

“อย่าทำให้เมอซิเออร์อาเล็กต้องผิดหวังนะ...เธอจะสบายถ้าทำตามคำสั่งของเมอซิเออร์” ซูซี่กุมมือของกล้วยไม้ไว้ หล่อนพูดโน้มน้าวให้หญิงสาวเชื่อฟัง

“ตะ...แต่” กล้วยไม้มองไปรอบๆ ห้อง แล้ววกสายตาอันหวาดกลัวมามองหน้าซูซี่ วิงวอนขอร้องหล่อนอีกครั้ง

“ไปรอผมในห้องนอนนะครับ”

เสียงเข้มทรงอำนาจสั่งให้ไอ้ยักษ์เดินตรงมาหากล้วยไม้ เธอถูกเชิญให้เดินนำหน้าไปยังห้องนอนที่เจ้าตัวคิดไว้ตลอดเวลาว่า มันเป็นขุมนรกที่ถูกสร้างให้เป็นห้องนอน

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!! มาดามช่วยฉันด้วยค่ะ!!!”

เสียงประตูนรกปิดดังแกร๊ก ก็ทำให้กล้วยรีบวิ่งตรงไปยังประตู เธอเอาแต่ทุบๆ และร้องให้คนข้างนอกช่วย

“เธอยังใหม่อยู่ คุณเบาๆ กับเธอหน่อยนะคะ” เสียงร้องให้ช่วยดังอยู่ในห้อง ทำให้ซูซี่มองผ่านหัวไหล่ของอาเล็กที่ยืนเต็มประตู หล่อนยิ้มหวาน เดินเข้าไปใช้แขนทั้งสองข้างเกาะบ่าหนาไว้แล้วปลายเท้าก็เขย่งขึ้น เสียงหวานใสปานน้ำผึ้งกระซิบเสียงชิดปลายคางหนา

อาเล็กยืนกอดอกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาคลายแขนออก ยกขึ้นผลักดันหล่อนออกจากการเกาะบ่า ชายหนุ่มพยักหน้าให้ลูกน้องช่วยส่งแขกที่ขณะนี้เป็นส่วนเกินไปเสียแล้ว

ซูซี่เมื่อถูกลูกน้องของอาเล็กเดินต้อนให้มาถึงมุมหนึ่งของทางเดิน หล่อนสั่งให้ไอ้ยักษ์ไม่ต้องลงไปส่งเธอด้านล่าง...

ซูซี่ยืนเกาะราวบันได ดวงตาเย้ยหยันมองแผ่นหลังไอ้ร่างยักษ์เดินกลับไปยังห้องพักของนายมัน หล่อนสะบัดหน้าหนีเมื่อเจอแววตาหื่นๆ ของไอ้ผู้ชายร่างยักษ์ที่มันหันหลังมามองหล่อน จึงรีบเดินลงบันไดอย่างรีบเร่ง แต่ในใจก็ยิ้มภูมิใจกับเช็คเงินสดจำนวนมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในทรวงอกอวบอั๋น…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel