บท
ตั้งค่า

ตอน "ความฝันในอดีตที่ฝังใจ (๒)" 2

กล้วยไม้ละเมอ ร่างบางกระตุกบ้างเป็นบางครั้งอยู่บนที่นอน เธอส่งเสียงสะอื้นไห้ดังยิ่งกว่าเก่า เมื่อภาพในความฝันค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ ภาพและอาการของเธอทำให้เพื่อนร่วมห้องเดียวกันเห็นจนชินตา

“อ๊ายย!! ยัยแคทซี่...นี่เธอจะนอนละเมอฝันบ้าบอคอแตกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนยะ”

‘แอนนา’ หญิงสาวชาวแอฟริกัน หล่อนทนนอนฟังเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของกล้วยไม้ไม่ไหวจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หล่อนโกรธกล้วยไม้มาก เธออยากให้เพื่อนตื่นจากความฝันประหลาดนั้นจึงฟาดหมอนข้างใส่กล้วยไม้ แต่กลับทำให้หญิงสาวส่งเสียงร้องละเมอเสียงดังยิ่งกว่าเก่า

“คัทลียา...ทางนี้...คุณเดอยู่ทางนี้...”

เสียงเรียกฟังดูอบอุ่นนุ่มหูดังกังวานสะท้อนเป็นคลื่นๆ ดังแว่วๆ อยู่ข้างหู ซึ่งทำให้หญิงสาวตัวบอบบางครางฮือๆ แขนทั้งสองข้างก็ยกขึ้นพยายามไขว่คว้าอะไรบางอย่างอยู่กลางอากาศ

“คุณเด...ชะ...ช่วยด้วย...ช่วยกล้วยไม้ด้วย ยะ...อย่า...แม่จ๋าพ่อจ๋าช่วยกล้วยไม้ด้วย...คุณเดอย่าทิ้งกล้วยไม้ไว้ที่นี่...กล้วยไม้ไม่อยากอยู่ที่นี่...ฮึกก...ให้กล้วยไม้ไปอยู่กับคุณเดนะคะ กล้วยไม้สัญญา กล้วยไม้จะเป็นเด็กดี จะไม่ดื้อกับคุณเดอีกแล้วค่ะ...ฮืออ...”

ในความฝันของเธอจะวนเวียนเป็นเรื่องราวในอดีต ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทำให้เธอจำฝังใจ พ่อแม่ถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา ความเสียใจที่รอคอยความหวังจากเขา ผสมกับความเจ็บปวดที่เขาทิ้งเธอให้อยู่กับผู้หญิงใจร้ายฝังลึกอยู่กลางหัวใจอันบอบช้ำ

“ยัยบ้าเอ๊ย!” แอนนาบ่นให้กล้วยไม้ เธอจะทำร้ายคนที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวต้องหยุดชะงักเมื่อมีเพื่อนอีกคนเข้ามาห้ามไว้

“ไปนอนเตียงฉันก็ได้นะ” ‘ซาร่า’ เพื่อนสาวชาวอาหรับรีบลุกออกจากเตียง เดินตรงไปแอนนา

‘ตัวดำยังไม่พอยังมีจิตใจดำอีกต่างหาก’ ซาร่าตำหนิเพื่อนในใจ

“ชิ!!” แอนนาหันขวับ เธอจ้องหน้าซาร่าตาเป็นมันแล้วรีบสะบัดหน้าหนี เธอไม่อยากจะมีเรื่องกับซาร่าจึงลุกออกจากเตียงตัวเองเดินไปยังเตียงนอนของซาร่า

หญิงสาวผิวเนียนดำสนิทล้มตัวลงนอนใช้หมอนของตัวเองที่หอบติดมือมาปิดหูปิดตาไม่อยากได้ยินเสียงละเมอบ้าบอนั้น

“แคทซี่...ตื่น!” ซาร่าหันมองแอนนาแล้วส่ายหน้าให้เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน

“ชะ...ช่วยด้วย...ยะ...อย่า!” ความฝันของกล้วยไม้มีทั้งความทุกข์ลำบากและความสุขผสมปะปนกัน ซึ่งทำให้เธอร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง

“แคทซี่! ฉันเอง” ซาร่าที่นั่งอยู่ข้างเตียงสะกิดให้เพื่อนตื่นจากความฝัน

“ซะ...ซาร่า...ฉะ...ฉันฝัน...” หญิงสาวในนามใหม่สะดุ้งสุดตัวตื่นจากความฝัน ดวงตาที่หลับสนิทค่อยๆ ลืมขึ้นมองใบหน้าของเพื่อนที่อยู่ชิดกันเพียงคืบ...

แคทซี่เป็นชื่อใหม่ที่เพื่อนหรือใครๆ ในที่ทำงานเรียกขาน เธอลุกขึ้นนั่งอย่างเร็ว ใบหน้างัวเงียตื่นตระหนกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงความฝัน...กล้วยไม้จะเล่าความฝันให้เพื่อนที่เธอรักฟัง แต่คำว่า ‘ฉันฝันเห็นคุณเดอีกแล้ว’ ก็ถูกแอนนาพูดประชดประชัน

“วันนี้ นางฟ้าขัดห้องน้ำฝันถึงเจ้าชายองค์ไหนอีกล่ะยะ” แอนนาซึ่งคิดว่าจะได้นอนหลับฝันถึงเจ้าชายต่อ แต่กลับนอนไม่หลับ แววตาดำขลับก็จับจ้องมองแคทซี่อย่างถากถาง

“ฉะ...ฉันขอโทษ”

กล้วยไม้ไม่ตอบโต้แอนนา เพราะแอนนาพูดถูก เด็กเฝ้าห้องน้ำเป็นตำแหน่งที่เธอทำมาตั้งแต่อายุสิบห้า เธอพอใจที่จะเป็นเด็กขัดห้องน้ำมากกว่าที่จะเป็นนางโลม ที่ต้องนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นไปเต้นโชว์เนื้อหนังบนเวทีให้ผู้ชายมากหน้าหลายตาได้เห็นเรือนร่างของเธอ

“เธอนอนฝันร้ายบ่อยมากนะช่วงนี้ มีอะไรในใจหรือเปล่าแคทซี่” ดวงหน้าสวยหวานปานน้ำผึ้งของเพื่อนดูเหลืองซีด ซาร่าจับมือเพื่อนมากุมไว้บีบเบาๆ ให้กำลังใจ

“อย่าริอ่านฝันถึงเมอซิเออร์เดวิดของฉันนะ ถ้าเธอฝันถึงเขา เธอตายแน่” แอนนาเดินไปยังเตียงนอนของตัวเอง หล่อนสั่งซาร่าให้ลุกออกจากเตียงด้วยสายตาเขียวปั้ด และเมื่อซาร่าลุกออกจากเตียง เธอก็นั่งลงที่เดิมของซาร่า

“แอนนา เธอนี่ท่าจะบ้า...แคทซี่จะไปฝันถึงเมอซิเออร์เดวิดได้ยังไงกันล่ะ” ซาร่าขยับตัวลุกไปนั่งบนเตียงของกล้วยไม้ เธอก็มองตำหนิแอนนาด้วยสายตาหยันๆ เหมือนกัน

“ฉันอยากเห็นหน้าเจ้าชายในฝันของเธอจัง จะหล่อขนาดไหนเชียว” แอนนานั่งขาไขว่ห้าง เธอหยิบบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะโคมไฟขึ้นมาถือไว้

“คุณเดเป็นผู้ปกครองของฉัน” พูดเสียงอ่อยๆ เธอเฝ้ารอให้เขามาเป็นผู้ปกครองอย่างที่ชายหนุ่มให้คำมั่นสัญญา...กล้วยไม้พับผ้าห่มเก็บที่นอนของตัวเองกองไว้ตรงหัวเตียง เธอไม่อยากนั่งดมกลิ่นบุหรี่ที่แอนนาชอบดูด จึงลุกขึ้นออกจากเตียงเดินไปนั่งบนพื้นตรงหน้าต่าง

“ถ้าคุณเดของเธอหน้าตาหล่อ หุ่นล่ำบึ้ก น่ากินเหมือนเจ้าพ่อบาร์โชว์อย่างเมอซิเออร์เดวิดละก็ ฉันยอมฝันถึงทุกคืนเลย ถึงแม้ว่าความฝันนั้นจะเลวร้ายแค่ไหน ฉันก็จะฝันถึงเขา” แอนนาดูดบุหรี่ทั้งที่ยังพูด หล่อนเบะปากใส่กล้วยไม้ เธอไม่ชอบใจที่กล้วยไม้ชอบทำตัวเป็นผู้หญิงสูงส่งบริสุทธิ์

“พวกเธอเคยเห็นเมอซิเออร์เดวิดกันไหม?” กล้วยไม้ขยับตัวนั่งกอดเข่า ดวงตาเศร้าสร้อยมองห้องนอนใต้หลังคาบ้าน ซึ่งเมื่อก่อนห้องนี้เป็นห้องเก็บของ หญิงสาวกระตุกยิ้มกับชีวิตที่เป็นสินค้าถูกขายเป็นทอดๆ ให้คนนั้นคนนี้ และสุดท้ายเธอก็ถูกขายอีกครั้ง

“ซ่องนางโลมนี่คะ?”

เด็กสาววัยสิบห้าปีใบหน้าจิ้มลิ้มสะสวยถักเปียสองข้างยืนตัวสั่นหวาดกลัว ดวงตากลมโตคลอน้ำตามองป้ายชื่อ ‘เซ็กซี่เลิฟไนต์คลับ’ เด็กกล้วยไม้ก้มหน้าหลบงุดเมื่อได้เจอแววตาหื่นกระหายของผู้ชายหลายคนที่เดินเข้ามาผ่านหน้าเธอไป

‘ผู้ชายพวกนี้คงจะมาปลดปล่อยความใคร่สินะ’ กล้วยไม้นึกในใจ

“เธอต้องอยู่ที่นี่”

‘ซูซี่ หยัง’ หญิงสาวชาวเวียดนามตอบเพียงสั้นๆ เธอมองเด็กสาวอายุยังน้อยตั้งแต่ปลายเท้ามองจนถึงศีรษะ แววตาคู่งามมองอย่างถากถางบนใบหน้างามของเด็กสาวแรกรุ่น

“ค่ะ” กล้วยไม้น้ำตาคลอพยักหน้ารับฟัง เพราะไม่มีที่จะไป

ชีวิติของกล้วยไม้ไม่เหลือใครแล้ว เธอต้องพึ่งพาตัวเองมาตลอดตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ หลังจากถูกเดวิดทิ้งให้อยู่กับกิมหยงได้ปีกว่าๆ หญิงเวียดนามใจร้ายนั้นก็ขายเธอให้กับสองผัวเมียชาวเวียดนาม

กล้วยไม้ถูกสองผัวเมียชาวเวียดนามซื้อตัวมาเป็นคนใช้ เขาทั้งสองพาเธอมาอยู่ที่ฝรั่งเศส อยู่ได้ไม่นาน เธอก็ถูกสองผัวเมียขายเธอให้กับผู้ชายอาหรับ และผู้ชายอาหรับก็พาเธอมาขายให้กับมาม่าซังซูซี่

“เห็นแบบนี้แล้ว ก็น่าจะเดาออกนะว่าฉันเป็นใคร”

ซูซี่เข้ามาทำงานที่นี่ตอนอายุสิบห้า หล่อนได้รับตำแหน่งมาม่าซังตั้งแต่อายุยี่สิบ และมีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิงทุกคนเพราะเจ้าพ่อบาร์ให้สิทธิ์หล่อนทุกอย่าง ซึ่งหล่อนไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวเองให้เด็กสาวรู้ เพราะในสถานนางโลมแห่งนี้ใครๆ ก็รู้จัก แม้แต่เด็กน้อยอมมือที่เดินผ่านก็รู้ว่าสถานที่แบบนี้คืออะไร

“ค่ะ...มาดาม”

กล้วยไม้ยืนตัวสั่นสะท้าน แขนทั้งสองข้างก็กอดกระเป๋าเสื้อผ้าใบเก่าไว้แน่น กลัวเหลือเกินยามเดินตามมาม่าซังเข้าไปยืนกลางห้องโถงขนาดใหญ่

“ดูไว้ก็ดีนะ โตขึ้นจะได้ไม่ต้องสอนอะไรเยอะ”

ซูซี่เดินเข้าไปยืนด้านหลังของกล้วยไม้ เธอกระซิบบอกให้กล้วยไม้เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวนางหนึ่ง หญิงนางนั้นเต้นอย่างเชื่องช้าอ่อนช้อยไปตามเสียงเพลงคลาสสิกบรรเลง เธอโปรยยิ้มให้กับแขกที่นั่งมองกันตาค้างอยู่หน้าฟลอร์

หญิงคนนั้นเมื่อได้รับเงินจากชายคนหนึ่ง เธอก็ค่อยๆ ถอดชุดบิกินี่ชิ้นน้อยออกจากร่างชิ้นแล้วชิ้นเล่า และเริ่มเต้นบิดตัวเป็นเกลียวเหมือนงูที่เลื้อยไปตามเสากลางฟลอร์

ดวงตากลมโตแทบจะถลนออกจากเบ้าเมื่อเห็นผู้คนหนึ่งยื่นเงินให้เธอคนนั้น แล้วชายคนนั้นก็ล้วงเข้าไปในบิกินี่ตัวจิ๋วของผู้หญิงคนนั้น

“มะ...มาดาม...จะ...จะให้กล้วยไม้ทำอะไรบ้างคะ” หัวใจดวงน้อยสั่นไหวกลัวมากที่จะได้ไปอยู่บนฟลอร์นั้น...

กล้วยไม้ส่ายหน้าปฏิเสธไปมา แล้วรีบขยับตัวหันหลังให้กับภาพเปลือยเปล่าของผู้หญิงคนนั้น เธอหลับตาปี๋ก้มหน้าหลบสายตาแพรวพราวของซูซี่เจ้านายคนใหม่

“เธอไม่ได้ชื่อกล้วยไม้ ไม่ใช่เหรอ?”

ซูซี่ยื่นมือเข้าไปจับปลายคางน้อยดันให้ใบหน้ารูปไข่เงยขึ้น หล่อนยิ้มมุมปาก เมื่อได้สำรวจรูปร่างหน้าตาของเด็กสาวตรงหน้า ไม่เสียดายเงินก้อนโตที่เสียไปเลยจริงๆ เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้า มันก็จะกลับมีกำไรมหาศาลจากเด็กสาวหน้าสวยนี่

“กล้วยไม้ เป็นชื่อพ่อแม่เรียกค่ะ” กล้วยไม้ปากคอสั่น ดวงตากลมโตดำขลับนั้นเริ่มแดงช้ำเมื่อนึกถึงพ่อและแม่ มองแผ่นหลังของมาดามซูซี่ที่เดินนำหน้าขึ้นบันได

“กล้วยไม้ เป็นชื่อที่เรียกยากสำหรับที่นี่...ฉันจะตั้งชื่อใหม่ให้เธอละกัน” ซูซี่หยุดเดินกลางบันได หล่อนหันหลังมองเด็กสาวที่ยังยืนอยู่ที่เดิน จึงกวักมือเรียกให้เดินตาม

“คะ?”

กล้วยไม้รีบกระตือรือร้นเดินขึ้นบันไดตามซูซี่ เด็กสาวไร้เดียงสาหวาดกลัว ได้แต่เดินก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าที่จะมองห้องนอนแต่ละห้องที่เดินผ่าน บางห้องก็จะมีเสียงแปลกประหลาด เสียงร้องครางฮือๆ ผสมเสียงร้องโอดครวญเหมือนสัตว์ป่าผสมพันธุ์

“ต่อไปนี้เธอชื่อแคทซี่ ส่วนกล้วยม้งกล้วยไม้อะไรของเธอนั่นก็อย่าเอามาใช้ล่ะ” ซูซี่หยุดยืนตรงห้องชั้นบนสุด ซึ่งห้องนี้เป็นห้องเก็บของที่อยู่ใต้หลังคาบ้าน

“ขอบคุณค่ะ” กล้วยไม้กลัวซูซี่จึงทำตามคำสั่งของหล่อน

เด็กน้อยเปิดประตูห้องสภาพห้องเก็บของที่รกเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่พวกผู้หญิงบริการเอามาทิ้ง ไหนจะมีฝุ่นหนาและมีหยากไย่แมงมุมเต็มห้อง แต่มันไม่ได้ทำให้เด็กสาวผู้อาภัพต้องวิตกกังวล หนักกว่านี้เด็กสาวก็เคยเจอมาแล้ว

“นี่เป็นห้องพักของเธอ”

กลิ่นเหม็นอับชื้นของห้องโชยมาเตะปลายจมูก ซูซี่หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากระโปรงขึ้นปิดปลายจมูกทันที

“ค่ะมาดาม” กล้วยไม้ยังยืนนิ่งกอดกระเป๋าใบเก่าไว้แน่น เธอทำตัวไม่ถูกว่าจะเก็บกวาดจุดไหนก่อนดี เพราะห้องมันรกและสกปรกมาก

“ฉันให้เวลาเธอเก็บกวาดสามสิบนาที แล้วลงไปหาฉันที่ห้อง” ซูซี่สั่งงานเสร็จก็รีบเดินลงบันได ปล่อยให้กล้วยไม้ยืนคว้างอยู่กลางห้องอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel