ตอนที่ 5 เด็กโง่
พูดจบลุงก็เดินหายไปในห้องที่ลุงใช้ทำงานและเดินออกมาด้วยสภาพที่มีผ้ากันเปื้อนคลุมตัวอยู่ เหมือนแปลงร่างเลย อันนี้ดูหล่อแบบไม่เป็นทางการดีแฮะ
“ไปเตรียมหนังสือมาซิ เดี๋ยวเข้าไปติวกับฉันในห้อง”
“อะไรนะฮะ ติวข้างใน ไม่เอาฮะ ไม่เอา”
“ตกลงอยากสอบได้จริงๆมั้ยหรือว่าแค่พูดเล่นๆ”ลุงคราวนี้จริงจังแปลกๆ แถมยังพูดดูถูกเราอีก
“ปอนพูดจริงฮะ แล้วปอนก็จะสอบให้ได้ด้วย”
เรารีบเช็ดมือและเตรียมหนังสือเดินเข้าไปในห้องของลุง เอาจริงๆปะ ห้องนี้ดูสวยนะ ลุงจัดได้แบบน่านั่งอ่ะ
จนซักพักก็มีคนเข้ามา ลุงคงให้รหัสลิฟท์กับนางแบบแหละ และพอเธอเห็นเราเธอก็ตกใจไปนิดนึงนะ แต่พอหันไปมองน้าลุงที่นิ่งๆเธอก็ไม่ได้พูดอะไร และจัดการถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด ใช่ทั้งหมดเลย ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว โหตายแล้ว ตื่นเต้นจัง เพราะเธอไม่ใช่คนเดียวกับคนเมื่อวานไง
เรานั่งมือสั่นเลยนะตอนนี้ ไม่รู้จะทำไงต่อเลย ส่วนลุงก็วาดแบบตั้งหน้าตั้งตาอ่ะ สรุปให้เรามาทำอะไรเนี้ย
“ถามมาซิ ไม่เข้าใจตรงไหน”เสียงลุงพูดทั้งๆที่ตามองแต่ภาพตรงหน้ากับภาพนางแบบเนี้ยนะ แต่ในเมื่อลุงบอกว่าลุงจะช่วยติว ลุงก็คงอยากช่วยเราจริงๆ และเราก็ต้องติวในแบบที่ลุงถนัด เราจึงถามลุงในสิ่งที่เราไม่รู้ และคิดว่าลุงจะรู้ สรุปคือลุงแค่ฟังคำถามจากเราลุงก็ตอบได้แล้ว ไม่ว่าเราจะถามอะไรคือตอบได้หมด เรียกว่าโคตรเทพเลยมากกว่า ซึ่งเราได้ความรู้มาเต็มเลยก็ว่าได้ แต่สายตาลุงนี่ไม่หลุดโฟกัสจากนางแบบกับกระดานวาดภาพเลยนะ แล้วคือเราก็อยู่ในห้องทำงานลุงจนเราเผลอหลับไปเลย ลุงนี่ทำงานโคตรนาน นางแบบก็อยู่โคตรทน
“อืม” เราค่อยๆรู้สึกตัว และพอเราบิดขี้เกียจเราก็รู้ได้เลยว่าเรากำลังอยู่ที่โซฟา เฮ้ย แล้วเรามาอยู่ที่โซฟาได้ยังไง เราเลยรีบดีดตัวขึ้นมาทันที
“ตื่นแล้วเหรอ”เราผงะไปแปบที่เห็นลุงกำลังนั่งไขว่ห้างมองเราอยู่ที่โซฟาด้านข้าง
“ฮะ แล้ว ปอนมาอยู่ตรงนี้ได้ไง ในเมื่อปอน….”
“ก็ปอนหลับจนน้ำลายเปื้อนหนังสือไปหมดนะซิฉันเลยต้องอุ้มมานอน”
“น้ำลาย ไม่ใช่แน่ๆฮะ ปอนไม่นอนน้ำลายยืดแน่ๆ”
“ดูคลิปมั้ย”
อีตาลุงโรคจิตโชว์โทรศัพท์ให้เราดู เรานี่รีบคว้ามาให้ไวและเปิดหาคลิปทันที แต่ก็ว่างเปล่าไม่เห็นมีอะไรเลย
“55555 ปอนนี่หลอกง่ายจังนะ”ลุงหัวเราะเยาะเราอย่างสะใจเลย ปั้ดโธ่เสียท่าให้ลุงจนได้
“ไม่ต้องมาพูดเลยฮะ ลุงแกล้งปอนอีกแล้ว”
“งอนเหรอ”
“ไม่งอนฮะ แต่ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบ งั้นฉันคงต้องง้อปอนด้วยนี่แล้วแหละ”
ลุงลุกเดินไปที่เคาเตอร์ครัว ที่จริงอยากมองตามนะว่าลุงไปเอาอะไรแต่ก็กลัวลุงเห็นแล้วเราจะเสียฟอร์ม เราเลยไม่มอง
“กินมั้ย”
ลุงยื่นเค้กสตอเบอร์รี่มาตรงหน้าเรา หูยยยย หอมมาก ไม่เคยเจอเค้กหอมอะไรแบบนี้เลย
“ไม่ฮะ”
แต่เราก็จำเป็นต้องปฎิเสธ เพราะเราจะเห็นแก่ของกินแบบนี้ไม่ได้
“เค้กร้าน ฟอเรฟเวอร์ด้วยนะ น่ากินจริง”
อะไรนะเค้กร้านฟอเรฟเวอร์งั้นเหรอ ให้ตายเหอะร้านที่เค้กชิ้นละ 300 บาทอะนะ นี่ถ้าพลาดอันนี้ไปถือว่าน่าเสียดายที่สุดแล้วนะ
“ตกลงปอนไม่กินจริงๆเหรอ”ลุงถามย้ำเราอีกครั้ง เอาไงดีอ่ะ จะกินดีเปล่า
“ก็ได้ งั้นฉันกินคนเดียวก็ได้”
ลุงตัดเค้กคำเบ่อเริ่มเลย ไม่ได้แบบนี้ไม่ได้ มันต้องหมดแน่ๆ เราจึงรีบแย่งมาจากมือลุงแล้วจัดการกินมันซะเลย
“โหยยยย อร่อยอ่ะ”มันอร่อยจริงๆ อร่อยจนต้องร้องขอชีวิตกันเลย บอกเลยนะชิ้นละ 300 ก็ยอมควักเงินซื้ออ่ะ
“เปื้อนหมดแล้ว”
ลุงพูด เราเลยเงยหน้ามองลุง
“เปื้อนตรงไหนฮะ”
เรารีบเอามือเช็ด แต่ดูเหมือนลุงจะขำหนักมากนะ
“ไม่ใช่”
“อ้าว แล้วตรงไหนละฮะ”
งงเลยทีนี้เพราะเราเอามือปาดที่ปากเลยนะ จะมาขี้ตู่ว่าเปื้อนอีกไม่ได้แล้วเพราะเช็ดทั้งปากเลย
“ตรงนี้ต่างหาก”
ลุงเอามือที่จิ้มเค้กเรามาแตะที่ปากและโน้มตัวลงมาเลียเค้กไปเฉย ตาย ตายแน่ๆ มาแบบนี้เราช็อคตายแน่ๆ
“บอกแล้วไงว่ามันเปื้อน”
………………………………………..
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลุง ลุงทำอะไรฮะ ลุงทำแบบนี้ได้ไง”เราโวยวายทั้งๆที่มือก็ยังถือเค้กอยู่นะ ไม่ให้มันหกหรอกเพราะมันแพง
“ก็มันเปื้อนไง ฉันก็เช็ดให้ปอน ฉันผิดอะไร”
“ก็มันไม่ได้เปื้อนนี่ฮะ ลุงเอามันมาป้ายปากปอนชัดๆอ่ะ”
“เหรอ อืม…. คงใช่มั้ง”
“ลุงฮะ”
“รีบกินเหอะ จะได้รีบไปติวส่วนที่เหลือต่อ”
แล้วลุงก็เดินเข้าห้องไป เฮ้ย อะไรอ่ะ ลุงมาทำแบบนี้ได้ไง เราหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่นานเลย กว่าจะเดินไปอาบน้ำซึ่งลุงก็กำลังคุยโทรศัพท์พอดีเลยเราได้ทีไปอาบน้ำอย่างสบายใจ และพอออกมาคราวนี้ เราสวมชุดอนน่าจะ 5 ชั้นได้ ลุงไม่มีทางล่วงล้ำมายุ่งกับเราได้เด็ดขาดเชื่อเราดิ
“ปอน ทำไมตัวบวมๆอ่ะ”เสียงลุงดังมาจากข้างหลังเรา เอาน่า ใส่เยอะแบบนี้ลุงทำอะไรเราไม่ได้หรอกเราเลยหันไปพูดกับลุง แต่แม่เจ้าพูดไม่ออกเลย ก็ลุงดันใส่ผ้าเช็ดตัวนี่ซิไหนจะซิกแพ็คที่เปียกน้ำอีก แล้วไอ้หัวเซอๆที่โดนน้ำนั่นอีก ตาย ช็อตนี้ตายอีกแล้ว ตายซ้ำตายซากจริงๆ
“นี่ใส่ชุดซ้อนกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ อย่าบิกนะว่าปอนกลัวฉันปล้ำ”
เอ้าๆ พอได้ยินคำว่าปล้ำพิรุธมาเลย ล่อกแลกจัด
“ปะ..เปล่าอะ เปล่า”
“ลิ้นพันกันแล้ว ให้ฉันช่วยมั้ยลิ้นจะได้ไม่พันกัน”
อีตาลุงพยายามโน้มตัวลงมาเรานี่รีบผลักออกเลยก่อนจะวิ่งหนีออกมา คือห้องเรามันล็อกประตูที่ลุงมาหาเราไม่ได้ไง เราเลยวิ่งไปที่ห้องทำงานของลุง แล้วล็อกประตูซะ คือตอนนี้ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วคือราต้องหนีเท่านั้น แต่พอเราหันมามองรอบๆ บ้า ห้องนี้ไม่มีห้องน้ำ เอ้าแล้วถ้าปวดห้องน้ำจะทำไง เรานี่คิดจนปวดหัวเลย แต่ก็คงต้องช่างมันอีกแล้ว เพราะมันไม่มีทางเลือกไง
สรุปคือเรานอนห้องนี้ แต่มันดันปวดฉี่นี่ซิ แถมมันก็เพิ่งจะตี 2 เองด้วย เราพยายามกลั้นนะ แต่มันปวดมากจริงๆ และที่สำคัญที่นี่มันมีห้องน้ำห้องเดียว คือห้องที่อยู่ในห้องลุง บ้าชะมัดใครมันช่างออกแบบ โอ้ยยย ปวดจะตายแล้ว ไม่ไหว ขืนปล่อยไว้ฉี่แตกแน่ๆ เราเลยตัดสินใจเปิดประตูออก แล้วย่องไปในห้องลุง เอาน่า ป่านนี้ลุงน่าจะหลับไปแล้ว และพอเข้ามาได้ ลุงก็หลับไปแล้วจริงๆ เราเลยรีบไปฉี่ บอกเลยว่าโล่งสุดๆ มันโล่งมาก รอดตายอย่างหวุดหวิดเลยเรา เอาละ ลุงนอนหลับแบบบี้ เราคงนอนห้องเราได้แล้วมั้ง เราเลยออกจากห้องนี้เพื่อที่จะได้ไปห้องเรา
“จับได้แล้ว”
เราสะดุ้งสุดตัวเลย ก็เพราะไอ้ลุงโรคจิตนะซิดันมากอดเรา เรียกว่ารวบตัวถึงจะถูกซะมากกว่านะ
“เฮ้ย ลุงทำไรฮะ”เราดิ้นอีกแล้ว ตายละอยู่กับลุงต้องดิ้นรนอย่างเดียวเลยถึงจะรอด แบบนี้มันปกติจริงๆเหรอ
“แล้วปอนละไปไหนมา จะให้ฉันมาปล่อยง่ายๆได้ไง”
“มันก็เรื่องของปอนมั้ยฮะ ไม่เกี่ยวกับลุงเลย”
“เกี่ยวซิก็ปอน คือเด็กในความดูแลของฉัน ฉันก็ต้องรู้ทุกเรื่องของปอนถูกมั้ย”
เสียงลมหายใจของลุงถูกเป่าผ่านมาที่ต้นคอเรา โอ้ยยยตายแล้ว ไม่ไหวแล้วนะแบบนี้ เราจะตายแล้วใจจะหลุดออกมาเต้นแร้งเต้นกาข้างนอกแล้วเนี้ย
“ลุงฮะ ไม่เอา ปล่อยปอนนะ”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ปล่อยละ ปอนจะทำไม”แบบนี้สถานการณ์แย่สุดๆอ่ะ
RRRRRRRRRRRRRRR แต่ฟ้าคงยังอยากให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปแหละ เพราะโทรศัพท์ของลุงดันดังขึ้นมานี่ซิ และพอเราชะเง้อไปดูก็เห็นว่าเป็นพี่ปันนะที่โทรมา ลุงรีบปล่อยเราและตรงไปเปิดไฟก่อนจะรับสายนั้นทันที นี่ดูจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าลุงแคร์พี่ปันมากแค่ไหนขนาดโทรศัพท์ยังไม่ให้รอนานเลย นี่ถ้าแคร์พี่ปันขนาดนี้แล้วจะมายุ่งกับเราทำไมอ่ะ
“ว่าไงปันเป็นไงบ้าง”
“เฮลโหลลลลล ลี” เสียงพี่ปันแหลมมาเชียว ดูท่าจะมีความสุขดีนะเพราะหน้าชื่นตาบานดี
“ยิ้มได้แบบนี้ ที่โน่นคงถูกใจละซิ”
“ถูกใจมากเลยลี สบายสุดๆ ว่าแต่ ทำไมยังไม่นอนกันอ่ะ รับไวจัง”
คือพี่ปันโทรมาตอนนี้แล้วถามว่าทำไมยังไม่นอน เราคิดว่าพี่ปันน่าจะบอกว่าตัวเองไม่ควรโทรมามากกว่ามั้ง นี่มัน ตี2 แล้วนะ ไม่ใช่บ่ายๆแบบพี่ปัน แต่ก็อีกนั่นแหละ การที่พี่ปันโทรมานั่นเลยทำให้เรารอดตายไง
“พอดี ลีทำธุระอยู่”
“เหรอ แล้วปอนอ่ะปอนอยู่ไหน หลับไปแล้วเหรอ”
“ก็อยู่นี่แหละ”
ลุงเอนโทรศัพท์มาทางเรา เอาจริงปะ แค่เห็นแค่นี้ก็โคตรคิดถึงแล้วอ่ะ อยากไปอยู่ด้วยจัง แต่เราก็ไม่อยากเป็นภาระพี่ปันไง
“เฮลโหลลลล ปอนน้อยของเจ้ เป็นไงบ้าง”
พี่ปันยิ้มแก้มแทบแตก นี่คงเป็นการย้ำเราว่าดีแล้วที่ปล่อยพี่ปันไปใช่มั้ย
“ก็ดีฮะ”พูดไปน้ำตาก็พาลจะไหลอ่ะ
“ก็ดี นี่หมายความว่าไง นี่ลี ลีดูแลปอนไม่ดีเหรอ”
คราวนี้พี่ปันแว้ดใส่ลุงทันทีเลย พร้อมกับชี้หน้าลุงผ่านหน้าจอด้วย
“ใครบอก ลีดูแลน้องของปันอย่างดีเลยต่างหาก”
“อ้าว แล้วทำไมปอนยังบอกก็ดีอ่ะ”
“ดีฮะ ดีมากๆเลยฮะ ไม่ใช่แค่ก็ดีแต่มันดีมากฮะ”
เรารีบตัดบทเพื่อตัดปัญหาเพราะไม่งั้นพี่ปันไม่จบแน่ๆ
“จริงนะ”
“ฮะ”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โอนเงินไปนะ ปอนจะได้เก็บไว้ใช้”พี่ปันก็ยังคงเป็นพี่ปันเสมอ ห่วงเรามาก่อนสิ่งอื่นใดเลย
“ไม่เป็นไรฮะ ปอนหาเงินเองได้ พี่ปันไม่ต้องส่งหรอก”
“นี่ปอนจะเกรงใจพี่ไปถึงไหน”
“ปอนทำงานเองได้จริงๆฮะ แต่ถ้าไม่พอจริงๆ เดี๋ยวปอนจะขอพี่ปันเอง”
“จริงนะ”
“จริงฮะ”
“อืม ก็ได้”
พี่ปันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่ในระหว่างนั้นแฟนพี่ปันก็เดินเข้ามาทั้งหอมทั้งกอดพี่ปัน เรานี่เลิ่กลักแล้วนะ และเราก็รีบหันไปมองลุงทันที มันเลยทำให้เราได้เห็นอ่ะว่าลุงมีสีหน้าไม่ดีเอาซะเลย
“อ้าวลี เป็นไง”
“อืมสบายดี”
“งั้นฉันขอเอาตัวภรรบาไปนอนก่อนนะ คนเนี้ยดื้อสุดๆไม่ยอมพักผ่อนกลางวันบ้างเลย”
“อืมได้ซิ”
“โอเค ไปนะปอน”
เขาหันมาบอกเราด้วยก่อนจะอุ้มพี่ปันไป คือครอบครัวดูน่ารักมากๆอ่ะ และพอปิดวีดีโอคอล ลุงก็นั่งลงที่ปลายเตียงทันที ลุงดูแปลกไปเลยแหละ ไอ้เราจะหนีไปนอนก็ทำไม่ได้อีกเราสงสารลุง
“ลุงฮะ เป็นอะไรมั้ยฮะ”
“ไม่เป็นไร ปอนไปนอนเถอะมันดึกแล้ว”
อ้าวคราวนี้ลุงมาเงียบๆเลย ไอ้กิริยาที่แกล้งเราเมื่อกี้หายไปหมดเลยอ่ะ เรารู้สึกสงสารลุงแบบบอกไม่ถูก เราเลยนั่งลงไปกับพื้นและเงยหน้ามองลุงที่นั่งก้มหน้าอยู่
“ลุงชอบพี่ปันมากเลยเหรอฮะ”
“อืม ก็ชอบมาตั้งแต่เรียนมหาลัยเลยละ”
“แล้วทำไมลุงไม่บอกชอบพี่ปันไปละฮะในเมื่อชอบมานานขนาดนั้น”
“ก็เพราะปันไม่เคยคิดกับฉันเป็นแบบคนรักเลยไง ปันบอกฉันตลอดว่าฉันคือเพื่อนที่ดีที่สุด ฉันเลยไม่อยากทำลายน้ำใจของปัน”
“เลยแอบรักอยู่แบบนี้เหรอฮะ”
“อืม มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่”
ลุงยิ้มให้เรา แต่รอยยิ้มของลุงครั้งนี้มันดูเศร้ามากๆ เศร้าจนน่าสงสารเลย เราเลยค่อยๆลุกขึ้นมาแล้วกอดลุงเอาไว้ และถึงแม้ตัวลุงจะใหญ่แต่เราก็กอดลุงมิดได้ ลุงดูผงะตกใจนิดๆนะที่เราทำแบบนั้น
“ร้องไห้มั้ยฮะลุง อย่างน้อยมันก็อาจจะทำให้ลุงคลายความเสียใจได้บ้าง”
เล่นเอาลุงเงียบไปเลย ลุงคงคิดว่าเราบ้าละมั้ง
“นี่ฉันน่าสงสารขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เปล่าฮะ ปอนก็แค่อยากเห็นรอยยิ้มของลุงที่มันดูมีความสุขก็เท่านั้น”
“เด็กโง่”
“คงงั้นมั้งฮะ ปอนคงโง่จริงๆถึงได้ทำอะไรแบบที่ตัวเองกลัวขนาดนี้”
ใช่เรากลัว ขนาดเรากอดลุงเพื่อปลอบเราก็ยังกลัวอยู่ แต่เราปล่อยลุงให้จมกับความเสียใจแบบนี้ไม่ได้
“แล้วอย่างไปบอกใครละว่าฉันอ่อนแอขนาดนี้”
“ฮะ จะเหยียบให้มิดเลย ไม่บอกใครแน่ๆฮะ”
ลุงค่อยๆกอดตอบเราและร้องไห้ เราไม่รู้เลยนะว่าวิธีแบบนี้มันจะได้ผลรึเปล่า แต่อย่างน้อยลุงก็คงได้ระบายความอัดอั้นออกมาบ้างแหละ