วุ่นวายนัก เผลอรักลุงขี้อ่อย

133.0K · จบแล้ว
muaon
45
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อสาวน้อยมาดทอมบอยแต่จิตใจหวานกว่าผู้หญิงต้องมาเจอลุงสายอ่อยที่พร้อมจะอ่อยเธอทุกครั้งที่ได้เจอ แถมจู่ๆเธอก็ต้องได้ย้ายมาอยู่ที่เดียวกับลุงบ้ากามคนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ตายละซิอยู่กับลุงมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ เธอจะทำอย่าไงกับชีวิตที่แสนวุ่นวายนี้กันดีละ มาช่วยกันเชียร์ลุงให้อ่อยสาวน้อยอย่าง ปอนารี ได้สำเร็จไปด้วยกันนะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานนางเอกเก่งแก้แค้นเศรษฐีดราม่ารักหวานๆโรแมนติก

ตอนที่ 1 ฉันมาก่อน

“กรี้ด ช่วยด้วยโจรขโมยกระเป๋า ช่วยด้วย”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เดือดร้อนกำลังดังขึ้นเราที่ซึ่งเป็นคนปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้ไปไม่ได้จึงรีบวิ่งไปยังเสียงนั้นทันที และเราก็ได้เห็นว่ากำลังมีโจรมากระชากกระเป๋าของผู้หญิงท้องแก่อยู่ รออะไรละโดดถีบซิจ้ะ เอาให้กลิ้งเป็นลูกขนุนไปเลย

“อีเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มึงอย่ายุ่งเรื่องของกู”โจรร้องด่าเรา แหม ปากดีซะด้วย

“แล้วถ้าอยากยุ่งละฮะ ลุงจะทำอะไรเหรอ”

“มึงก็ตายแน่ไง”

อีลุงโจรรีบเอามีดพุ่งใส่เราทันทีเชียว แต่เราก็หลบได้พร้อมกับใช้เท้างามๆนี่เตะเข้าที่ชายโครงของลุงโจรเต็มแรง เรียกได้ว่า เต็มข้ออะนะเล่นเอาลุงโจรลงไปกองทันที เราจึงไปกระชากกระเป๋ากลับมาแล้วส่งคืนให้ผู้หญิงคนนั้น

“นี่ฮะ ของคุณใช่มั้ยฮะ”

“ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“ไม่เป็นไรฮะ”

แล้วเธอก็รีบเดินไปด้วยความหวาดกลัว ส่วนลุงโจรเราก็ทิ้งไว้แบบนั้นแหละเพราะแกแก่แล้ว ก็ถ้าติดคุกไปไม่รู้จะตายในคุกรึเปล่า และพอเราเดินพ้นจากตรงนั้นมาได้เราก็ลงไปกองกับพื้นเลยด้วยความกลัวสุดขีด

“ตกใจหมดเลย ถึงจะเป็นลุงแต่ก็เป็นผู้ชายนะ น่ากลัวชะมัด” เรารีบหยิบยาแก้หอบขึ้นมาพ่น คือเราเป็นหอบไง แต่ก็ไม่อบเห็นใครถูรังแกแบบว่าพอเห็นเป็นต้องเข้าไปช่วยทั้งๆที่ใจนี่โคตรกลัว จนซักพักลุงโจรวิ่งตามเรามา เราจึงรีบลุกขึ้นยืนเพื่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“หนูเดี๋ยว”

เราค่อยๆหันไปมองลุงโจรด้วยความสงสัย คืออะไรที่ตามมานี่จะตามมาฆ่าหรือว่าอะไร อีกเดาไม่ถูกเลยนะ แต่ถ้าคิดทำอะไรไม่ดีเราคงต้องถีบไปก่อนแล้วค่อยวิ่งแล้วกัน

“ทำไมไม่เรียกตำรวจมาจับฉันละ”

อ้อ นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็อยากติดคุกนี่เอง

“ทำไมฮะ ลุงอยากติดคุกเหรอ”

“ไม่ใช่ฉันก็แค่สงสัยว่าทำไมหนูไม่ส่งฉันเข้าคุกกเท่านั้น”

“ก็ไม่มีอะไรฮะก็แค่ไม่อยากส่งลุงไปตายๆก็เท่านั้นเองดูท่าในคุกมันคงลำบากน่าดูเลยฮะ”

“ขอบใจ”ลุงโจรพูดเสียงอ่อยเลยก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆถังขยะ แกคงเจ็บแหละก็เราซัดเต็มข้อขนาดนั้น น่าสงสารเหมือนกันนะ แต่ถ้าจะให้เข้าไปดูก็น่ากลัวอยู่ดี

“เป็นไรมั้ยฮะลุง ไปหาหมอมั้ยฮะ”

“ไม่เป็นหรอก”

แกบอกไม่เป็นไรแต่แกก็กุมท้องไว้ตลอดนะ สงสัยช้ำในแน่เลย นี่ถ้าแกตายเราจะผิดมั้ยอ่ะ

“ถามจริงนะลุงทำไมไปปล้นเขาอ่ะ มันไม่ดีก็รู้ใช่ปะ”

“รู้ดิ แต่ลุงไม่มีเงินแล้ว มันหมดแล้วจริงๆ”

ลุงพูดซะน่าสงสารเลย เราเลยหยิบเงินในกระเป๋าแล้วส่งให้ลุง 1 พัน แกนี่หน้าเหว๋อเลยนะ

“อะไรของเอ็งนังหนู”

“ก็เงินไงฮะ”

“เออข้ารู้แต่เอ็งให้ข้าทำไม”

“ก็ลุงลำบากไม่ใช่เหรอ แล้วก็พอดีปอนเงินออกด้วยฮะ เอาไปเถอะฮะลุงถือว่าเรามีบุญพาวาสนาต่อกันก็แล้วกันนะฮะ”

ลุงเงียบไปพักนึงก่อนจะหยิบเงินจากมือเราแต่ก็ดูน้ำตาซึมนะ แล้วจู่ๆแกก็ดึงเราไปกอด แต่ด้วยความที่ร่างกายเราไม่ชอบเราเลยผลักลุงซะแรงเลยเล่นเอาแกเหว๋อไปอีกรอบ นี่โชคดีแค่ไหนแล้วลุงที่ขาไม่ไวกว่ามืออ่ะ

“ขอโทษฮะลุงพอดี ปอนไม่ชอบฮะ”เราถอยกรูดพร้อมกับก้มลงขอโทษแก คือยังไงแกก็เป็นผู้ใหญ่อะนะ

“ เองคงไม่ชอบผู้ชายซินะ ห้าวขนาดนี้ งั้นข้าขอโทษ แล้วก็ขอบใจเอ็งด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรฮะ เออ พอดี ปอนสายแล้วฮะ ปอนไปก่อนนะฮะลุง”

“โชคดีนะเอ็ง”

เราพูดกับลุงเสร็จเราก็รีบวิ่งมาแล้วไปขึ้นรถเม โหยยย กว่าจะผ่าจุดนั้นมาได้หัวใจเกือบวายเลย แต่เอาจริงๆเราก็เข้าใจลุงนะ ที่ลุงคิดว่าเราไม่ชอบผู้ชายก็เราห้าวแบบนี้ไง แต่มันก็เป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่เกิดจากปมและเหตุผลบางอย่างของเราก็เท่านั้นที่มันทำให้เราต้องเป็นแบบี้ ที่จริงเราชอบอะไรหวานๆจะตาย เราชอบเหมือนผู้หญิงทั่วไป เราอยากแต่งตัวสวยๆ แต่มันทำแบบนั้นไม่ได้ไงเพราะใจมันยังไม่กล้าพอ

ที่จริงวันนี้เรามีนัดกับพี่สาวที่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะว่าพี่ปันทำงานหนัก พี่ปันจะส่งเงินมาให้เราอย่างเดียว ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมพี่ปันถึงอยากเจอเรา แล้วพอมาถึงร้านที่พี่ปันนัดเราไว้เราก็เอ๋อเลย เพราะที่นี่กำลังจัดงานรื่นเริงอยู่เรียกว่างานปาร์ตี้ก็ได้นะ นี่เรามาผิดที่รึเปล่าอ่ะ

“อ้าวปอน มาแล้วเหรอ เข้าไปหาพี่เธอข้างในซิ”เพื่อนพี่ปันเข้ามาทักเรา นี่แสดงว่ามาไม่ผิดจริงๆเพราะพี่โฉมคือเพื่อนสนิทของพี่ปันเลย เราจึงพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน แต่ภาพที่เราเห็นหลังจากที่เดินเข้ามามันทำเอาเราปวดใจสุดๆอ่ะ คือพี่ปันใส่ชุดสวยมากๆและกำลังจูบกับผู้ชายคนนึงอยู่ซึ่งเราก็คงไม่ยืนเฉยๆดูแบบนั้นหรอกเรารีบพุ่งไปกระชากคอเสื้อผู้ชายคนนั้นอย่างแรงก่อนจะลงหมัดไปที่ใบหน้าของมันเต็มแรงด้วยเช่นกัน ทั้งๆที่เราก็กลัวเขานั่นแหละ แต่ความหวงพี่สาวของเรามันมีมากกว่าความกลัวไง บอกไว้ก่อนนะว่าถึงตัวเราจะเล็กและผอมบางแต่แรงเราเยอะพอๆกับผู้ชายเลยเพราะเราฝึกมวยมาก่อน เพื่อเอาไว้ป้องกันจากผู้ชายที่คิดไม่ดี

“ว้ายยยย อะไรเนี้ยปอน แกทำอะไร”เสียงพี่ปันโวยวายขึ้นมาทันที รวมไปถึงคนในงานด้วยที่ตกใจกันไปหมด

“แล้วนี่มันคืออะไรฮะ มีปันกำลังทำอะไรอยู่ ผู้ชายคนนี้กำลังจูบพี่นะ พี่ต้องห้ามตัวเองหรือไม่ก็ต้องออกมาห่างๆเขาซิฮะ ไม่ใช่ยืนให้เขาจูบแบบนั้น”

“ก็ปาร์ตี้สละโสดไง แกเข้าใจปะ ป้ายก็มีว่ามันคือปาร์ตี้สละโสด” เรารีบหันไปมองป้ายตามมือของพี่ปัน คือมันเขียนจริงๆนะว่าปาร์ตี้สละโสดอ่ะ แล้วก็มีชื่อพี่ปัน กับชื่อของไมเคิล ไมเคิลเหรอ ใครอ่ะ

“อะไรนะฮะ ปาร์ตี้...สละโสดงั้นเหรอ ของใครฮะ”เราถามทั้งๆที่เห็นอยู่แล้ว ก็มันไม่อยากจะเชื่อไงคือเรารู้มาตลอดว่าพี่ปันมีแค่เรา มันไม่ควรมีคนอื่นมาแทรกมั้ย

“ของฉันเอง”

เอ่อออ มันวิ้งแฮะ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มันเหมือนกับหูดับเลยอ่ะ คือเอาจริงๆปคือเราช็อคแหละ ที่พี่สาวที่อายุต่างกันราวๆ 22 ปีกำลังจะแต่งงานหนีเราไป คือแก่แล้วปะ จะแต่งงานเพื่ออะไรอีก แล้วไง แล้วเราจะอยู่ยังไง

“ปอน ปอน ได้ยินฉันมั้ย”เสียงพี่ปันแว้ดๆอยู่คนเดียว จนเรารู้สึกตัวขึ้นมา ทุกคนมองเราอย่างกับตัวประหลาดเลยอ่ะ

“ได้ยินฮะ”

“งั้นก็ฟัง พี่รู้ว่าแกกำลังตกใจ แต่พี่ก็ขอโทษที่ไม่ได้บอกเพราะถ้าพี่บอกแกแกก็ไม่ให้พี่แต่งแน่ๆ”

“อยากแต่งขนาดนั้นเลยเหรอฮะ”

“ใช่เพราะพี่รักเขามาก”

“แล้วปอนละฮะ พี่ปันไม่รักปอนเหรอฮะ”

“แกก็ไปอยู่กับพี่ไง ไปอยู่ด้วยกันเพราะพี่กำลังจะย้ายไปอเมริกา พี่จะเอาแกไปด้วย แกจะได้ไม่ต้องลำบาก เพราะคุณไมเคิลเขาจะดูแลแกเหมือนที่ดูแลพี่เลย”เรามองไปที่ผู้ชายที่จะเป็นเจ้าบ่าวของพี่ปันทีแล้วก็หันมามองพี่ปันอีกที ไม่รู้ดิ เราคงทำใจไม่ได้จริงๆ ที่วันนี้จะมีผู้ชายแปลกหน้าที่เราไม่รู้จักเข้ามาแทรกชีวิตของเรากับพี่ปัน

“ขอโทษนะฮะ ปอนดูแลตัวเองได้ และถ้าพี่ปันคิดจะทิ้งกันแล้วแบ่งความรักที่เคยมีให้ปอนไปแบ่งให้ผู้ชายคนนี้ ปอนก็คงไม่มีอะไรจะพูดแล้วฮะ”

เราเดินออกมาทันทีแต่ดูเหมือนพี่ปันจะไม่ยอมนะพี่ปันรีบมากระชากแขนเรา แต่เราก็ไม่หยุดเดินหรอกก็บอกแล้วไงว่าเราแรงเยอะ

“ไอ้ปอน แกหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ แกจะไปไหน”

“มันก็เรื่องของปอนฮะ ไม่เกี่ยวกับพี่ปันแล้ว”

“แต่ฉันเป็นพี่แกนะ แกต้องบอกฉันซิ”

“มันใช้ไม่ได้แล้วฮะคำเนี้ยเพราะพี่ปันก็ไม่ได้บอกปอนเหมือนกันว่าจะแต่งงาน”

“ไอ้ปอน”

เราไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว แต่จู่ๆพี่ปันก็ร่วงลงไปกองกับพื้นแบบไร้สาเหตุ เราตกใจเลยนะเพราะพี่ปันไม่มีท่าทีว่าจะเป็นแบบนี้เลย เราจึงรีบเข้าไปดูแต่พี่ปันก็ไม่รู้สึกอะไรเลย

“พี่ปันฮะ พี่ปัน พี่ปันได้ยินปอนมั้ยฮะ พี่ปัน พี่พันฮะ”

เราเรียกชื่อพี่ปันอย่างร้อนรน ส่วนเจ้าบ่าวก็เตรียมจะอุ้มพี่ปันนะ แต่ดูเหมือนชุดพี่ปันจะเป็นอุปสรรคมากๆ ทำให้อุ้มลำบากมันเลยมีอีกคนมาอุ้ม ซึ่งเขาพาพี่ปันไปนั่งรถหรูและขับออกไปเลย อะไรอะผู้ชายคนนั้นเป็นใครทำไมดูเป็นห่วงพี่ปันขนาดนั้น

“ปอน มากับพี่มั้ยไปโรงพยาบาลกัน”ผู้ชายที่เป็นเจ้าบ่าวของพี่ปันเข้ามาจับที่บ่าเรา เรารีบเบี่ยงทันทีพร้อมกับเมินเขาคือเราไม่อยากยุ่งไง

“ไม่ฮะ ปอนไปเองได้”

“ตอนนี้ควรนึกถึงพี่เธอเป็นหลักนะ อย่ามัวเอาแต่ใจตัวเองซิ”

คำพูดของเจ้าบ่าวพี่ปันทำให้เราจำใจต้องไปขึ้นรถกับเขา แต่เราไม่ชอบเลยจริงๆนะ นี่ถ้าไม่จำเป็นมันจะไม่เกิดภาพนี้ขึ้นเป็นอันขาดเลย และตลอดเส้นทางที่นั่งไปด้วยกัน เราไม่พูดกับผู้ชายคนนี้ซักคำ ก็ไม่มีอะไรจะพูดมั้ยอ่ะ

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องรู้สึกแย่”เขาพูดขึ้น ซึ่งเขาคงพูดกับเราแหละ แต่เราก็ยังคงเงียบก็มันไม่มีอะไรจะพูดไง

“พี่รู้ว่าเธอเกลียดพี่ แต่พี่ก็แค่อยากจะบอกว่าพี่รักพี่สาวของเธอจริงๆนะ พี่อยากดูแล”

เขาก็พูดของเขาต่อไปนั่นแหละ จนไม่นานรถมาถึงโรงพยาบาลเราเลยรีบวิ่งลงจากรถและตรงไปหาประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลซึ่งพี่ปันถูกพาเข้าห้องไปแล้วอะไรจะไวขนาดนั้น เราจึงไปยังชั้นที่พยาบาลบอก และพอเปิดเข้าไปเราก็เห็นผู้ชายคนที่อุ้มพี่ปันขึ้นมากำลังจูบพี่ปันที่กำลังหลับ เขาดูไม่ได้ตกใจอะไรเลยนะที่เห็นเราโผลงเข้าไปแบบนั้น แต่เป็นเราต่างหากที่ตกใจ แล้วทำไงอ่ะ แบบนี้ต้องโวยวายมั้ยแต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรออกเลย ผู้ชายคนนั้นก็ถึงตัวเราแล้วเขาเอามืออุดปากเราและจับเราไปพิงที่พนังคือเราไม่ได้เจ็บอะไรเพราะเขาเอามือซ้อนหลังเราไว้ด้วย และขอบอกว่าไอ้แรงเราที่ว่าเยอะยังสู้แรงผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย โหย อะไรกันเนี้ย น่ากลัวชะมัด

“อย่าเสียงดังไปซิ เดี๋ยวพี่สาวเธอก็ตื่นหรอก”

เขาเอาหน้ามาใกล้เรามากๆ เราจึงจำใจต้องพยักหน้าเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเรารู้แล้ว ไม่งั้นเขาต้องมาใกล้กว่านี้อีกแน่ๆ และถึงแม้ว่าเราจะยอมจำนนและไม่คิดจะโวยวายเขาก็ไม่ปล่อนเราซักที เราเลยหลับตาปี๋พร้อมกับยืนตัวสั่นไปหมด เขาถึงได้ปล่อยมือจากปากเรา คงเห็นว่าเราสั่นมากไปละมั้ง

“สั่นขนาดนี้กลัวฉันเหรอ”ผู้ชายคนนี้พูดได้นิ่มมาก แต่ถึงอย่างนั่นเราก็ไม่ควรเชื่อใจเขานะ

“ป่าวฮะ ว่าแต่คุณทำไรฮะ”

“เปล่าไม่ได้ทำอะไร ก็แค่….แค่ก็จูบพี่สาวเธอไง”เขายักคิ้วให้เรา อะไร นี่ดูไม่ได้เดือดร้อนหรือว่ารู้สึกผิดเลยงั้นเหรอ

“รู้แล้วฮะว่าจูบ แต่พี่สาวปอนมีแฟนแล้วนี่ฮะ คุณก็รู้ แล้วคุณก็เห็นด้วยว่าเขาจะแต่งงานกัน”

“อืม… ฉันรู้แต่ฉันมาก่อนนี่”

“อะไรนะฮะ...มาก่อนเหรอ”

เราคือไม่เข้าใจอะไรซักนิดจนประตูเปิดออกเขาถึงได้ออกห่างจากตัวเรา และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ชายคนนี้ไว้ใจไม่ได้ บอกเลยว่าควรห่างไว้ซัก กิโลท่าจะดี

“อ้าว ลี ปันเป็นไงบ้างวะ”เจ้าบ่าวพี่ปันเขาเดินเข้ามาพร้อกับถามถึงพี่ปันทันที ผู้ชายคนนี้จึงเดินไปหาเขา ส่วนเราก็นั่งที่โซฟาเพื่อมองการกระทำของทั้งคู่ บ้าน่า พี่ปันคงไม่น่าคบผู้ชาย2 คนในคราวเดียวกันหรอกมั้ง

“ปลอดภัยแล้ว”เขาตอบเจ้าบ่าวพี่ปันเสียงเรียบ สร้างภาพชัดๆ เมื่อกี้ยังจูเจ้าสาวเขาอยู่เลย เราไม่พอใจอะนะ บอกเลย แต่จู่ๆผู้ชายคนนั้นก็มองมาที่เราพร้อมกับยกนิ้วชี้ทาบไปที่ปาก เรารีบหันหน้าหนีเลย คนๆนี้คือตัวอันตรายมากๆ

“ค่อยโล่งอกหน่อย ว่าแต่ขอบใจแกมากนะลีที่รีบพาปันมาโรงพยาบาล ไม่งั้นปันต้องแย่แน่ๆ”

“อืม ไม่เป็นไรหรอก เล็กน้อย”