ตอนที่ 3 มากกว่าจูบ
เรารีบวิ่งไปที่ลิฟท์อย่างร้อนรน เพราะเราคิดว่าอยู่ที่นี่ต่อไปมันจะเป็นการรบกวนเจ้าของบ้านเปล่าๆ เขาจะทำอะไรมันจะไม่สะดวกเอานะ
พรึบ!!!!!!!!!!!
จู่ๆมีมือเข้ามาขวางไม่ให้เรากดลิฟท์ มือเขาใหญ่มากๆ หรือว่าจะเป็นแฟนเจ้าของห้อง
“จะรีบไปไหนเหรอ”
เขากระซิบข้างหูเรา เราจึงรีบหันไปหาเขาเพื่อผลักเขาออกแต่เจ้ากรรมดันปากชนกันซะงั้นเฮ้ย แบบนี้ได้ไง และพอตั้งสติได้เราก็ผลักเขาออกมันเลยทำให้เราเห็นใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน และเราก็จำเขาได้ไม่ลืมเลยเพราะเขาคือคนที่จูบพี่ปันในโรงพยาบาลวันนั้น
“เฮ้ย!!! ลุง”
เราตะโกนอย่างดังเลย แต่ดูเหมือนลุงเขาจะไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านหรือตกใจเหมือนเราเลยนี่ดิ
“ลุงมานี่ได้ไงฮะ หรือว่าลุงแอบคบกับเพื่อนพี่ปัน โหลุงนี่ลุงใจง่ายไปมั้ยฮะ”เรามาเป็นชุดเลย จนซักพักผู้หญิงที่เราเห็นเปลือยอยู่ก็แต่งตัวออกมา เราอายจังรู้สึกหน้าร้อนเลย ก็นะ ดันไปเห็นรูปร่างเขาทั้งตัวเลยนี่
“ขอโทษนะฮะที่ปอนเข้ามาแบบไม่ได้รับอนุญาต แต่พี่ปันบอกให้ปอนมาที่นี่นะฮะ”เรายกมือไหว้พี่เขาปรกๆ แต่จะว่าไปพี่สาวคนนี้ดูเด็กกว่าที่จะเป็นเพื่อนกับพี่ปันมั้ยนะ แต่ช่างเหอะพี่ปันคงคบเพื่อนหลายอายุนั่นแหละ
“ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่รู้จักพี่สาวคุณค่ะ”
“ฮะ อะไรนะฮะ” งงนะเอาจริงสรุปเรามาถูกห้องมั้ยอ่ะ หรือว่าผิด เอ๊ะมันยังไง
“ลูซี่ กลับไปก่อนนะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“ค่ะ อาจารย์”
แล้วคือผู้หญิงก็เดินออกไปเลยทิ้งไว้แต่ความงงงวยให้เรา สรุปใครคือเจ้าของห้องกันแน่อ่ะ
“ยินดีต้อนรับ หิวมั้ย”ลุงเอ่ยถามเราก่อนจะเดินไปหยิบน้ำส้มมาวางที่โต๊ะ แต่เรานี่ดิยืนงงอยู่ที่หน้าลิฟท์ไม่ไหวติงเลย
“จะยืนอีกนานมั้ย มานั่งซิ มันจะเมื่อยเอานะ”
“เดี๋ยวซิฮะลุง คือปอนไม่เข้าใจอ่ะ นี่คืออะไร ตกลงใครเป็นเจ้าของห้องนี้กันแน่ฮะ”เราถามอย่างกล้าๆกลัวๆและภาวนาเลยว่าขอไม่ให้ลุงตอบว่าเป็นลุง เพราะไม่งั้นเราตายแน่ๆ
“ก็ฉันไง ฉันคือเจ้าของที่นี่”
โอ้พระเจ้า นี่ฟ้าเล่นตลกหรือพี่ปันลงโทษเรากันแน่เนี้ย อันที่จริงเราก็ไม่ได้ดื้อขนาดนั้นที่จะต้องโดนลงโทษสถานหนักแบบนี้นะ แล้วคือเราต้องอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายโรคจิตที่มีอะไรกับผู้หญิงกลางวันแสกๆแบบเนี้ยอะเหรอ ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้ น่ากลัวหนักเข้าไปใหญ่และมันต้องเป็นอันตรายต่อชีวิตเราแน่ๆ เราเลยรีบโทรศัพท์หาพี่ปันทันที แต่ก็ยังไม่ติดอยู่ดีนั่นแหละ พี่ปันนะพี่ปัน นี่พี่จะดับอนาคตน้องรึไงถึงให้น้องอยู่กับคนโรคจิตแบบเนี้ย
“รับซิฮะ รับซี่พี่ปันรับโทรศัพท์น้องหน่อยฮะ”เรายังคงกดโทรไปเรื่อยๆทั้งที่มันก็ยังไม่ติด และเราก็รู้ด้วยว่าพี่ปันจงใจไม่รับสายเรา
“เอ้านี่ โทรติดละ”ลุงยื่นโทรศัพท์ให้เรา ซึ่งหน้าจอมันมีชื่อของพี่ปันอยู่ รออะไรละรีบเอามารับเลยดิ
“ฮัลโหล พี่ปันทำไรฮะเนี้ย”
“ถึงแล้วเหรอปอน เป็นไงห้องสวยมั้ย”พูดมาแบบได้น่าตาเฉยมากเผลอๆตื่นเต้นกว่าเราไปอีกเหอะ
“ไม่ตลกเลยฮะพี่ปัน ทำไมพี่ไม่รับสายปอนฮะ
“อะไร พี่ไม่ได้ยินจริงๆนะ”
“แล้วทำไมรัยสายลุงเขาได้อ่ะ”
“ก็ดันมาได้ยินพอดีไง”คือพี่ปันแถไปข้างๆคูๆอ่ะ ไหลเก่งมากไม่รู้ไปเอานิสัยแบบนี้มาจากใครกัน
“ว่าแต่ห้องสวยมั้ย ชอบรึเปล่า แต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้ปอนเรียกใครลุงนะ อย่าบอกนะว่าเรียกลีอ่ะ ใจร้ายจังเลยนะปอน”พี่ปันร่ายยาวมาเลย แต่หาแก่นสาระอะไรไม่ได้เลยเหมือนกัน
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องฮะพี่ปัน ปอนไม่ตลกกับพี่นะ”
“พี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนเรื่องซักหน่อย”
“งั้นพี่ปันก็บอกปอนมาฮะว่าพี่คิดอะไรอยู่ พี่ถึงจะให้ปอนมาอยู่กับคนโรคจิตที่นอนกับผู้หญิงกลางวันแสกๆแบบนี้อะฮะ คือไม่ห่วงน้องเลยเหรอ”พอเราบอกพี่ปันเงียบไปพักนึงเลยนะ สงสัยตกใจจนช็อคไปแล้วมั้ง
“นอนกับผู้หญิงกลางวันเหรอ หมายความว่าไงอ่ะ”
“ก็หมายความว่าเขาโรคจิตไงฮะ เขามีอะไรกับผู้หญิงกลางวัน แบบห้องก็ไม่ได้ล็อค คือว่าเขาไม่ปกติแน่ๆอะฮะ ปอนมั่นใจ”
“ปอน นี่แกอย่าบอกนะว่าแกเข้าไปตอนลีทำงานอ่ะ”
“ใช่”
ลุงตอบโต้กลับมาทั้งๆที่เราก็ไม่ได้เปิดโฟนเลย หูดีชะมัดเลยลุงแก่แล้วแท้ๆยังใช้หูได้ดีขนาดนี้เลยเหรอ
“ทำงานอะไรฮะ ปอนไม่เห็นเขาทำอะไรเลย นอกจาก….”
“ก็นักวาดรูปมืออาชีพไง นี่ปอน แกลองไปเสิร์ซดูนะ ชื่อพาลีพาล จิราวิวัฒน์ แล้วแกจะได้รู้ว่าเขาทำงานอะไร และพี่จะบอกให้ว่าค่าเช่าของปอน พี่ไม่ต้องออกซักบาท เป็นไง อยู่หรูดูสบายและประหยัด ไม่ชอบเหรอ”
“แต่...พี่ปัน”
“ แค่นี้นะพี่จะนอน”
“เดี๋ยวดิฮะพี่ปัน”
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สรุปคือวางสายไปเฉยเลย อะไรกันครับเนี้ย แล้วเราสรุปยังไงเรื่องที่อยู่เราอ่ะ แล้วไอ้งานที่เขาบอกอีก คืออะไร
“ขอคืนด้วย”เขายื่นมือมาขอโทรศัพท์จากเรา ส่วนมืออีกข้างก็จับหนังสือแล้วคือตาเขาก็ปรายตามองมาที่เราและยิ้มเบาๆ อะไร ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง ยิ้มโคตรมีนัยยะเลย
“ฮะ”
เราส่งคืนเขาก่อนจะเอาโทรศัพท์ตัวเองไปเปิดดู ว่านายพาลีพาล จิราวิวัฒน์ที่พี่ปันบอกเขาเป็นใครกันแน่ และข้อมูลที่ขึ้นหน้าจอเราก็ทำเอาเราขาก้าวแทบไม่ออกเลย เรียกว่าแทบทรุดเลยก็ว่าได้ คือเขาเป็นทายาทตระกูลดังที่มีทรัพย์สินรวยมหาศาล แต่อาชีพที่เขาเป็นคือนักจิตกรศิลปะภาพนู้ดที่วาดออกมากี่ครั้งภาพก็ถูกซื้อตลอด แถมยังถูกจองใราคาหลัก 10 ล้านอีกด้วย คืออะไรมีอาชีพแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ
“เข้าใจรึยังว่าฉันไม่ได้โรคจิต”
เขาเข้ามาทางด้านหลังเราอีกแล้ว แต่คราวนี้เราไม่ยอมหรอก เราไหวตัวทันก่อนจะซัดหมัดใส่เขาซึ่งแน่นอนว่าเราคิดว่าต้องโดน แต่เปล่าเลย ไม่โดนแม้แต่ปลายขนแถมเรายังเซจนเกือบจะล้มโชคดีที่เขามารับตัวเราไว้ได้ทันนะไม่งั้นเจ็บตัวแน่
“ระวังหน่อยซิ พื้นมันลื่นนะ” เสียงลุงโคตรอ่อนโยนอ่ะ แล้วคือทั้งสายตาและทั้งน้ำเสียงมันชวนให้คนตกหลุมเขาได้แบบไม่ต้องคิดเลย แต่มันต้องไม่ใช่เราซิ ผู้ชายมันไม่มีใครเชื่อได้ซักคนหรอก
“ละ...ลุง”
“เรียกลุงแล้วสบายใจเหรอ”เขาขมวดคิ้วถามเรา แลดูสงสัยมากนะกับคำว่าลุงที่เราเรียกเนี้ย
“ฮะ ..กะ...ก็ลุงแก่แล้วอะฮะ แก่พอๆกับพี่ปันเลย”
“แต่หน้ากับหุ่นฉันยังดูดีอยู่เลยนะ ไม่ได้แก่ตามอายุซักหน่อย”
เขายิ้มให้เราซึ่งเอาจริงๆปะ เราไม่เคยเห็นใครยิ้มสวยเท่านี้มาก่อนเลย และที่ลุงบอกว่าเขายังหล่ออยู่นั้นมันก็เป็นความจริง แต่ถึงยังไงเราก็ยังไว้ใจคนๆนี้ไม่ได้ก็เพราะเขาจูบพี่สาวเรายังไงละ เราจึงรีบตั้งตัวและผลักเขาออก
“ลุงฮะ ปอนคิดว่าเราควรตกลงกันใหม่นะฮะ ถ้าจะให้ปอนอยู่ที่นี่”
คือตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ เพราะเท่าที่ดูการที่เราจะใช้ชีวิตแบบไม่ต้องพึ่งพาพี่ปันมาก เพราะไม่งั้นพี่ปันจะเอาเราไปอยู่ด้วย เราก็ต้องมีที่อยู่ที่มันยังไม่ต้องลงทุนอะไรก่อน อย่างเช่นที่นี่ ทางที่ดีเราควรตกลงกันและหาทางออกที่ดีที่สุดจะดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็น่ากลัวอยู่ดี เราทำปากขมุบขมิบก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม แล้วไง แล้วลุงจะเดินมาทำไมอ่ะ
“อืมได้ซิ เรื่องอะไรละ”
“ก็ข้อตกลงอยู่ร่วมกันไงฮะ คือปอน ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับปอนโดยเฉพาะผู้ชาย”
“ทำไมเหรอ”
“เหตุผลส่วนตัวฮะ ลุงไม่ต้องรู้หรอก”
“อืม ก็ได้ แล้วไงอีก”
“แล้วก็ ถ้าลุงจะทำงานลุงก็ติดป้ายหน่อยว่าทำงานอยู่ปอนจะได้รู้”
“อืม ได้ แล้วไงต่อ”
“คือ กับข้าว ปอนจะเป็นคนทำเอง ส่วนเรื่องผ้า ก็ซักใครซักมัน ส่วนบ้านผลัดกันทำคนละวัน โอเคมั้ยฮะ”
เขานั่งไขว่ห้างฟังเราไปด้วยคือเราอธิบายยาวรึไงถึงไม่ตอบอ่ะ แต่ที่น่าหมั่นไส้ไปกว่านั้นคือเขายกนำชาขึ้นมาดื่ม คือเรียกได้ว่าภูมิฐานนี่คุณชายโดยแท้เลย
“ไม่ตกลง เพราะทุกอย่างที่เธอพูดมา ฉันมีแม่บ้านทำให้อยู่แล้ว อาหารก็เหมือนกัน จะมีภัตตราคารมาส่งให้ทุกมื้อเธอไม่ต้องกลัวลำบากหรอก”
วิถีคนรวยชัดๆ คนอย่าเราบอกเลยว่าเข้าไม่ถึงการใช้ชีวิตสุดๆ
“แล้วแต่ลุงเลยฮะ แต่ของปอน ปอนทำเองได้ ไม่ต้องลำบากลุงเลย”
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าลำบากนี่”
ไม่รู้จะต่ออะไรแล้วอ่ะ เราเลยลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าสุดที่รักของตัวเองมากอดไว้
“ห้องปอนอยู่ไหนฮะ” พอได้ยินคำถามเราเขาก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา แล้วชี้ไปทางด้านขวา
“ห้องโน้น”
“ขอบคุณฮะ”
เรารีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีและล็อกทุกอย่างแบบว่าแน่นหนา คืออะไร พี่ปันเอาเรามาทำอะไรที่นี่ โคตรน่ากลัวเลย แต่ก็ช่างเหอะ มันมาแนวนี้แล้วนี่นา จะให้เราทำไงอ่ะ ในเมื่อบ้านก็ไม่มีกลับ จะให้เช่าตลอดไปโดยพี่ปันไม่ส่งก็คงลำบากแน่ๆ คงต้องอยู่แบบนี้จนกว่าจะหาลู่ทางได้ก็แล้วกันนะ พอคิดตกแล้วเราก็เดินไปเปิดสวิตซ์ไฟ แต่ขอบอกเลยนะว่าพอไฟเปิดเราตะลึงเลยเพราะห้องมันสวยมาก ทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นระเบียบสุดๆเราจึงโดดลงไปนอนเตียงด้วยความเหนื่อยล้าและเหนื่อยใจ การมาอยู่บ้านคนรวยมันก็ดีเหมือนกันนะ นอนสบายดีเหมือนกัน
และเราก็นอนเล่นอยู่ซักพักจนเราเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ คือเราหลับทั้งๆที่ไม่ได้อาบน้ำนั่นแหละ แต่พอมารู้สึกตัวกลางดึกเพราะว่าปวดฉี่ แล้วคือมันหนักจนเราลุกไม่ได้ เอาแล้วไง ผีอำรึยังไงถึงได้มีอาการแบบนี้ เอ๊ะ ต้องใช่แหละเพราะเราลืมไหว้พระก่อนนอน เจ้าพระคุณลูกขอโทษลูกมาขออาศัยเฉยๆนะฮะ ไม่ได้คิดมาทำร้ายอย่ามาหลอกมาหลอนลูกเลย คือเราพยายามนึกในใจ แต่ยังไม่ทันจะท่องบทสวดมนต์จบเราก็รู้สึกถึงลมหายใจของใครบางคนเราจึงตัดสินใจหันไปดู โอ้โหชัดเลย ไฟสว่างแบบนี้เห็นหน้าโคตรชัด มันไม่ใช่ผีอ่ะแต่มันคือ
“ลุงฮะ!!!!!!!!!!”
เราตะโกนใส่หูอีตาลุงโรคจิตแบบเต็มๆแต่ดูเหมือนตาลุงจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรแถมยังค่อยๆลืมตามาอีกด้วย
“มีอะไรเหรอ”เสียงทุ้มๆของลุงทำเอาเราชะงักไปเลย มันมีคนที่ตื่นนอนแบบไม่ตั้งใจและยังหล่อแบบนี้อยู่บนโลกอีกเหรอ เหอะๆ
“ นี่ลุงถามว่ามีอะไรลุงบ้ามั้ยฮะ นี่ห้องปอนนะ ลุงเข้ามาได้ไง”
เราพยายามมองไปที่ประตูแต่คือมันก็ล็อคจากด้านในอย่างแน่นหนาแล้ว อ้าวแล้วลุงเข้ามาได้ไง
“ก็เข้ามาทางประตูไง”
“ประตูเหรอ ประตูไหนฮะ”
“ก็ประตูห้องฉันที่เชื่อมกับห้องนี้ไง”
ลุงชี้ไปทางประตูโอ้โห เปิดไว้ซะกว้างเชียว คืออะไร ไอ้ประตูที่เราเข้าใจว่าประตูตรงนั้นคือประตูห้องน้ำที่แท้เราคิดผิดเหรอ มันไม่ใช่ห้องน้ำเว้ย แต่มันคือประตูเชื่อมไปอีกห้อง อ้าวแล้วห้องน้ำอะมันอยู่ไหน
“หมายความว่าไงฮะลุง ถ้าลุงบอกว่าประตูนั้นคือประตูเชื่อมต่อห้องปอนไปหาห้องลุง แล้วห้องน้ำห้องปอนละฮะอยู่ไหน” เรามองซ้ายมองขวาเพื่อหาห้องน้ำของเรา แต่คือมันไม่มีประตูไหนอีกแล้วไง
“ห้องน้ำเธอนะเหรอ ก็อยู่ในห้องฉันไง”
คือเราต้องตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ มันจะมีอะไรให้เราตื่นแต้นจนหัวใจจะวายแบบนี้อีกกี่ครั้ง
“บ้าาาาาาไปแล้ว ลุงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลยฮะ”
“ฉันจะนอนแล้วพรุ่งนี้ฉันมีนัด”
“ลุง”
“นอนเหอะ พูดเยอะจังนะปอน”
ลุงใช้มือที่โคตรใหญ่จับหัวเรากดลงไปกับเตียง โอ้โห แค่มือก็ทำให้เราขยับไม่ได้แล้ว แรงจะเยอะไปไหนอ่ะ แต่เราไม่ยอมหรอก เราพยายามผลักลุงออกแล้วดันตัวเองจนเกือบจะตกเตียงเลย เรียกว่าตกแน่ๆดีกว่า แต่ที่มันไม่ยอมตกเพราะลุงรั้งแขนเราไว้ ลุงนี่ปฎิกิริยาไวมากจริงๆ
“เดี๋ยวตกเตียงนะ”ละมุนอีกแล้ว เสียงกระเสร่าแกมดุของลุง ทำเราใจสั่นอ่ะ
“ก็เพราะใครละฮะ”
“เพราะใครนะเหรอ ไม่รู้ซิ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เลยลุง ก็เพราะลุงนั่นแหละเข้ามาแบบนี้มันไม่ใช่มั้ยฮะลุง”
“เหรอ”
เขาพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอ่ะ แล้วก็ดึงเราเข้าไปหาเขา คือหน้าเราซบอกเขาเลยนะ นี่เราลอยมาได้ไกลขนาดนี้เลยจริงดิ
“นอนดีกว่าพรุ่งนี้มีอะไรให้ทำอีกเยอะ”
“ไม่เอาฮะ ลุง”เราดิ้นจนเหนื่อยอ่ะแต่คราวนี้ดูเหมือนลุงจะไม่ยอมให้เราขยับไปได้เลย
“นอนเหอะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วย เพราะห้องนี้ไม่มีผี”
“แต่ลุงจะกอดปอนแบบนี้ไม่ได้นะฮะ”
“แค่กอดไว้กันปอนตกเตียงเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก ”ลุงเรียกเราว่าปอนอีกแล้ว รู้สึกแปลกจัง แต่ก็ช่างเหอะลุงจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ลุงเลย
“ลุง มันไม่ตกง่ายๆมั้ยฮะ”เราเงยหน้าไปดุลุง แต่คือลุงก้มลงมาจูบเราเฉยๆแบบที่เราไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลย อกอีแป้นจะแตก จูบแรกของสาวน้อยอย่างเราถูกกระชากไปเพราะลุงบ้ากามแล้ว เรานี่แข็งทื่อเป็นหินเลย มันอาจจะเพราะกลัวด้วยแหละ
“ถ้ายังดื้อและไม่ยอมนอน มันอาจจะมากกว่าจูบก็ได้นะปอน”