บทที่ 4 ติดคุกหัวโต
“พวกคุณควบคุมสถานการณ์ก่อน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ฟางฮุ่ยฉงวางสายโทรศัพท์และสั่งเย่เฟิงโดยตรง “เย่เฟิง ไปขับรถออกมา แล้วส่งฉันไปที่บริษัทของยั่วหยุน!ไ
“คุณน้า ยั่วหยุนเป็นอะไรหรือเปล่า?” เหอซิงลุกขึ้นจากพื้น มองไปที่เย่เฟิงอย่างเคร่งเครียด ก็แสดงสีหน้ากังวลใจ
“ฉันก็ไม่รู้ชัดเจน ดูเหมือนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ฟางฮุ่ยฉงเห็นว่าเย่เฟิงไม่เคลื่อนไหว จึงตะโกนออกไปตรงๆ “นายยืนบื้ออะไร ไปสิ!”
เย่เฟิงไม่พูดอะไร ออกจากห้องโถงของวิลล่าเพื่อไปขับรถ
ฟางฮุ่ยฉงทั้งสามออกมาข้างนอก เหอซิงก็พูดปลอบโยน” คุณน้า ไม่ต้องกังวล ผมกับผู้มีอิทธิพลใหญ่ในเมืองนี้ยังพอมีมิตรภาพที่ดีอยู่บัาง ถ้ามีใครกล้าสร้างปัญหาในบริษัทของยั่วหยุน ผมจะสั่งสอนให้เขาไปเกิดใหม่เลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของฟางฮุ่ยฉงก็ค่อยโล่งใจหน่อย ขณะนี้เย่เฟิงก็ได้ขับรถมาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
บริษัทเครื่องสำอางของหลี่ยั่วหยุนตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรือง หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง คนทั้งสี่ก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูของบริษัท
ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากล้อมรอบประตูทางเข้าบริษัท และแต่ละคนก็ยืดคอเพื่อมองเข้าไปข้างใน
ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนด่าด้วยความโกรธแว่วมาจากในห้องโถง
“คุณไม่จำเป็นต้องอธิบาย คุณมองหน้าฉันสิ ตั้งแต่ฉันใช้เครื่องสำอางของคุณหน้าฉันก็เป็นแบบนี้! พวกคุณแสวงหาผลกำไรอย่างไร้ยางอาย แม้แต่เครื่องสำอางที่ด้อยคุณภาพเช่นนี้ก็มาขาย!”
ผู้หญิงที่โมโหด่านั้นอายุประมาณสี่สิบปี สวมชุดหลวมๆสบายๆ เดิมทีใบหน้าที่ถือว่าสวยเต็มไปด้วยสิวและน่ากลัว
หลี่ยั่วหยุนซึ่งสวมชุดสูททำงานสีขาวยืนอยู่ตรงหน้าเธอ รู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “พี่สาว เครื่องสำอางที่คุณใช้นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน พวกเราสามารถไปที่หน่วยงานเมืองเยียนจิงเพื่อตรวจสอบได้.....”
“ตรวจสอบบ้าบออะไร? ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้า ถ้าคุณไม่รักษาหน้าของฉันให้หาย กูจะทำให้บริษัทของเธอล้มละลาย และติดคุกหัวโต!”
“พี่สาว หรือไม่ก็พวกเราไปที่โรงพยาบาลดูก่อนเถอะ” ในเมื่อสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ถืออยู่คือเครื่องสำอางของบริษัทเราจริงๆ ดูจากเสื้อผ้าและบุคลิกของเธอแล้ว น่าจะไม่ใช่คนประเภทที่จะแบล็กเมล์คนอื่นนะ ดังนั้นหลี่ยั่วหยุนจึงไม่กล้าแข็งข้อ
ในขณะนี้ ฟางฮุ่ยฉงและคนอื่นรวมสี่คนก็เบียดเข้ามา
“คุณแม่ ทำไมแม่ถึงมานี่ได้?” หลี่ยั่วหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันไม่มาได้เหรอ? ตกลงเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นสิวที่น่ากลัวบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ฟางฮุ่ยฉงรู้ทันทีว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขลำบากแน่
หลี่ยั่วหยุนก็เลยอธิบายสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้น
ปรากฏว่าเมื่อวานผู้หญิงคนนี้มาที่นี่เพื่อซื้อมอยส์เจอไรเซอร์ครีมสินค้านำเข้าหนึ่งขวด หลังจากใช้เมื่อเช้านี้แล้วก็มีสิวจำนวนมากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็มาหาถึงที่นี่เลย
มอยส์เจอไรเซอร์ครีมที่นำเข้ามาในจีนมียอดขายดีมาก และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ใจเย็นๆก่อน ในเมื่อเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหาทางแก้ปัญหา คุณว่าใช่ไหม?” ฟางฮุ่ยฉงพูดอย่างสุภาพกับผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชา “วิธีแก้ปัญหา? ก็ดี ในเมื่อเครื่องสำอางที่ลูกสาวของคุณขายทำให้หน้าฉันเป็นแบบนี้ งั้นก็ขีดข่วนหน้าเธอก่อน แล้วค่อยชดเชยให้ฉันสามสิบล้าน ฉันก็จะไม่รื้อฟื้นอีกให้มันจบลงแค่นี้!”
“สามสิบล้าน?” ฟางฮุ่ยสูดลมหายใจ เรียกค่าชดใช้ซะเยอะขนาดนั้น
ในเวลานี้เหอซิงก้าวไปข้างหน้า “คุณผู้หญิงท่านนี้ เป็นคนต้องมีเหตุผล เครื่องสำอางประเภทนี้ไม่ใช่ขายให้คุณเท่านั้น คนอื่นที่ใช้ไม่มีปัญหา มีเพียงคุณเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ ซึ่งยืนยันได้ว่าสาเหตุไม่ใช่มาจากเครื่องสำอาง”
“ไอ้เด็กบ้า นายหมายความว่า ฉันจงใจมาแบล็กเมล์เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองเหอซิง
เหอซิงถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว และบังคับตัวเองให้สงบลง “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น เอาอย่างนี้ ผมรู้จักผู้อำนวยการของโรงพยาบาลศัลยกรรมหัวเหม่ยของเมืองเยียนจิง คุณตามผมไปที่โรงพยาบาลสักครั้ง ผมรับรองว่าจะฟื้นฟูใบหน้าของคุณสู่สภาพเดิม”
“ความหมายของคุณคือ……ให้ฉันไปทำศัลยกรรมเหรอ?” จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ขว้างมอยส์เจอไรเซอร์ครีมในมือไปที่เหอซิง “ไสหัวไปให้พ้น!”
“เฮ้ย ทำไมคุณถึงลงมือทำร้ายคนอื่น!” เหอซิงเจ็บปวดที่ร่างกาย และโกรธเช่นกัน “ถ้าคุณยังเอาแต่โวยวายแบบนี้ ระวังตัวด้วยผมจะแจ้งตำรวจจับคุณไป!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตำรวจจับฉันเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นทำเหมือนได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก “คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“คุณเป็นใคร” เหอซิงเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นจากหัวจรดเท้า
“คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเยียนจิง คือพี่ชายของฉัน!”
“อ๊ะ……” เหอซิงตกตะลึง และไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฟางฮุ่ยฉงและหลี่ยั่วหยุนก็ตกตะลึงเช่นกัน ทำไมถึงไปล่วงเกินผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้นะ แล้วนี่ควรทำอย่างไรดี?”
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ใจเย็นๆ ถ้าผมสามารถทำให้สิวบนใบหน้าของคุณหายได้ เรื่องนี้ก็จบลงแค่นี้ คุณคิดยังไง?”
ในขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
ทุกคนมองไปตามเสียง อยากรู้ว่าใครช่างใจกล้ากล้าพูดโอ้อวดเช่นนี้
หลี่ยั่วหยุนก็มองไปเช่นกัน พึ่งสังเกตเห็นว่าเย่เฟิงก็ตามมาด้วย แสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อ
เธอไม่แปลกใจที่เย่เฟิงไม่กลัวความยากลำบากก้าวออกมาช่วย แต่แปลกใจที่จู่จู่เย่เฟิงก็พูดได้
หลี่ยั่วหยุนกำลังจะถามเย่เฟิงว่าทำไมจู่จู่เขาถึงพูดได้ ฟางฮุ่ยฉงก็พูดเสียงเย็นชา “เย่เฟิงนายหุบปากซะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนาย!”
ฟางฮุ่ยฉงไม่อยากให้ลูกเขยไม่เอาไหนคนนี้มาสร้างความวุ่นวายเพิ่มอีก
“เย่เฟิง ดูไม่ออกว่านายจะรักษาสิวได้ด้วย รีบบอกพวกเราเร็ว คนที่ไม่ทำการทำงานเป็นไอ้เศษสวะที่เกาะเมียกินคนนี้ ไปเรียนรู้ทักษะความสามารถมาจากไหน?” เหอซิงรีบฉวยโอกาสจู่โจม
“เสี่ยวเหอ!” ฟางฮุ่ยฉงขมวดคิ้ว เหอซิงคนนี้ คิดจะประชดประชันเย่เฟิงก็ไม่เลือกเวลานะ
“เย่เฟิง ไปรับลมเย็นๆอยู่ข้างๆไป ผู้ใหญ่เขาจะจัดการปัญหา อย่ามายุ่งให้วุ่นวาย” หลี่ยั่วเสวี่ยซึ่งเป็นน้องสาวเมียโบกมือให้เย่เฟิงด้วยความหงุดหงิดรำคาญ
คำพูดของพวกเขาเย่เฟิงทำเหมือนหูทวนลม และเดินตรงไปอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนั้น “ปัญหาที่เกิดขึ้นบนหน้าคุณ ผมมีวิธีจริงๆ เชื่อผม”
เมื่อมองแววตาที่จริงใจทั้งคู่ของชายตรงข้าม หัวใจของผู้หญิงรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย ในเมื่อเรียกค่าชดใช้เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเธอไม่ได้ขาดเงิน แต่ใบหน้าของเธอคือสิ่งสำคัญกว่า
หลี่ยั่วหยุนรีบเดินหน้าไปดึงเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งเล็กน้อย “เย่เฟิงอย่ามาวุ่นวาย เรื่องของฉันฉันจัดการเองได้!”
การก้าวออกมาช่วยเหลือของเย่เฟิงหลี่ยั่วหยุนไม่ได้รู้สึกขอบคุณ เพราะเธอรู้ดีว่าความสามารถมากของเย่เฟิงมีอยู่แค่ไหน เธอรู้อย่างชัดเจน
สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโถง ทำให้ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะซุบซิบนินทา
“ชายผู้นั้นสุดยอดมาก ถึงกับเป็นแมงดาเกาะกินท่านประธานของบริษัทเครื่องสำอาง ชู้วๆพูดเบาๆ
“เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าสามารถรักษาสิวบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ใช่เหรอ พวกคุณลองเดาสิว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“เป็นบ้าบออะไร ถ้าเขามีความสามารถขนาดนี้ เขาก็คงไม่เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านไปเป็นแมงดาเกาะกินผู้หญิงหรอก!”
“ถูกต้อง ฉันคิดว่าเพื่อกู้หน้าตัวเองเลยฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้.....”
การสนทนาของทุกคนทำให้ผู้หญิงหมดความอดทนมากขึ้น “ฉันไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระของครอบครัวพวกคุณ ตอนนี้พวกคุณมีสองทางเลือก ไม่ก็รักษาใบหน้าของฉันให้เหมือนเดิม หรือไม่ก็ชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจให้ฉันสามสิบล้านพร้อมกับขีดข่วนใบหน้าผู้หญิงคนนี้!”
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่หลี่ยั่วหยุน “ไม่เช่นนั้น ประโยคเดียว บริษัทล้มละลาย และติดคุกหัวโต!”