บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 ของหวง

Memo Club

เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มกับผู้คนมากมายนักท่องราตรีชายหญิงต่างยืนเต้นไปตามจังหวะ บรรยากาศภายในคลับนั้นครึกครื้นเฟื่องนิมมานและเพื่อน ๆ ในคณะที่ตกลงมาต่อที่คลับแห่งนี้ได้มานั่งที่โต๊ะที่ถูกจองไว้แล้ว

“เฟื่องเมาแล้วเหรอ….”

“เฟื่องยังไหวปกป้องไม่ต้องห่วง”

“ถ้ากลับไม่ไหวเดี๋ยวเราไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรเรามากับแพมและนุ๊ก”

วันนี้โต๊ะ VIP นั้นเต็มจึงต้องมาเบียดกับโต๊ะธรรมดาใกล้เวทีร่างบางที่สนุกสนานเธอดื่มและเต้นเบาๆไปโดยมีปกป้องนั้นยืนอยู่ไม่ห่าง ทั้งคู่แนบชิดเพราะเวลาอยู่ในคลับเสียงเพลงนั้นจะดังมากต้องกระซิบที่ข้างหูถึงจะได้ยินทุกการกระทำของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของเคนโซ่ตลอดเวลา

“โซ่คะ ปกป้องเขาสนใจเฟื่องใช่ไหมดูท่าทางเขาสิไม่ยอมห่างเธอเลย” ใบหน้าสวยแสยะยิ้มเธอนั่งตักแกร่งของเคนโซ่ที่โต๊ะมองดูโต๊ะของเฟื่องนิมมานกับปกป้องเช่นเดียวกับเคนโซ่

“ไม่รู้”

“ไอ้โซ่ตั้งแต่ลงจากเวทีมามึงทำหน้าเหมือนคนเล่นพนันแล้วเสียทำไมวะมาคลับทั้งทีไม่สนุกรึไง” ภูริที่นั่งอยู่กับสาวสวยรุ่นน้องที่เขาควงมาจากงานคืนสู่เหย้าของมหาวิทยาลัยชื่อดัง

“กูไม่ชอบบรรยากาศ” ใบหน้าหล่อเย็นชาสายตาก็เอาแต่มองไปที่โต๊ะด้านหน้าที่ห่างไปไม่กี่โต๊ะมองเห็นปกป้องและเฟื่องได้ชัดเจน

“หะ! ไม่ชอบมึงเป็นคนเลือกร้านนี่เองนะไอ้สัด”

“โซ่ขา…คืนนี้ไปห้องพิมพ์นะคะตั้งแต่กลับมาโซ่ก็ไม่มาหาพิมพ์เลย” ดาราสาวที่นั่งอยู่บนตักออดอ้อนเขาเธอรอให้เขากลับมา แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้เคนโซ่ดูนิ่งๆและเย็นชามากขึ้น

“ผมมีงานเช้าต้องไปไซด์งานไว้โอกาสหน้านะพิมพ์” ใบหน้าหล่อตอบเธอพร้อมกับทำหน้านิ่ง ๆ เขานั้นดูแปลกไป

“โซ่พิมพ์คิดถึงโซ่มากนะทำไมถึงได้เฉยชากับพิมพ์ได้ขนาดนี้....รึว่ามีคนใหม่” ใบหน้าสวยทำปากคว่ำเธอรู้สึกไม่พอใจและเสียหน้าเพราะที่โต๊ะมีสาวสวยรุ่นน้องที่ได้ยินทุกคำพูดของเธอและเขา

“เหอะ! พิมพ์อย่างกับเธอไม่มีใครงั้นแหละ” มือบางของพิมพ์จึงหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มและยิ้มบาง ๆ แก้เขิน เคนโซ่เขานั้นก็รู้ดีแก่ใจว่าพิมพ์มาดาไม่ได้มีเขาเพียงแค่คนเดียว

“ไม่ว่าใครก็เทียบโซ่ไม่ได้หรอก”

“หึ!”

ทางด้านโต๊ะของเฟื่องนิมมานและเพื่อน ๆ ตอนนี้ทุกคนกำลังสนุกเมื่อเห็นว่าเพื่อนเมาและไม่อยากรบกวนใคร ส่วนปกป้องก็ได้ไปหาภูริและเคนโซ่ที่โต๊ะแล้วเฟื่องที่รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำจึงเดินเข้าไปหลังร้านเพียงลำพัง เพราะร้านนี้เธอกับเพื่อนมาบ่อยจึงรู้จักทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี

“อ้าว! ไอ้โซ่กูเพิ่งจะมามึงจะไปไหน” ปกป้องที่เพิ่งมานั่งและเขาเองก็ดื่มไม่กี่แก้วเห็นร่างสูงของเคนโซ่ลุกขึ้น

“กูอยากไปสูบบุหรี่”

“ให้กูไปเป็นเพื่อนปะ”

“กูไม่ใช่เด็ก” ร่างสูงจึงรีบเดินก้าวยาวๆเข้าไปที่หลังร้านเขาไม่ได้จะไปสูบบุหรี่ตามที่บอกเพื่อน เพราะเขามาดักรอใครบางคนที่อยากจะคุยด้วยมากเมื่อทำธุระเสร็จร่างบางในชุดเซ็กซี่เธอถูกสายตาของหนุ่ม ๆ มองตั้งแต่เดินเข้ามาเพราะเธอนั้นดูดีมาก ทว่าสายตาคมของใครบางคนก็จ้องเธออยู่เช่นกัน

“ตุ๊บ!”

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” ร่างบางที่เดินไปชนเข้าอย่างแรงกับหน้าอกแกร่งของผู้ชายคนหนึ่งเขาตัวสูงกว่าเธอมากและกลิ่นน้ำหอมก็ยังคุ้น ๆ เหมือนเคยได้กลิ่นนี้มาจากคนที่รู้จัก จึงรีบถอยออกมาแต่ก็มีมือหนาของคนตัวสูงจับที่ข้อแขนเรียวเล็กเอาไว้ใบหน้าสวยจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองว่าเธอชนเข้ากับใคร

“เคนโซ่?”

“หืม!” ทั้งคู่สบตากันเฟื่องที่ตอนนี้สติไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เธอพยายามดึงสติ และพยายามเอาตัวเองให้ออกมาจากภวังค์เพราะใบหน้าหล่อเหลานั้นทำให้เธอนิ่งไปราวกับถูกมนตร์สะกด

“ทำไมถึงมาห้องน้ำคนเดียว” สิ้นเสียงนุ่มทุ้มเธอเหมือนตื่นขึ้นมาจากภวังค์จึงรีบเก็บอาการและตอบเขาไป

“มันเรื่องของฉันนายปล่อยแขนได้แล้วฉันจะไปหาเพื่อน”

“อยากจะไปหาเพื่อน หรืออยากจะไปหาไอ้ป้องกันแน่”

“ชิ! ฉันไม่จำเป็นต้องตอบเพราะในสมองนายไม่เคยมองฉันในแง่ดี”

“เฟื่อง! เธอจะกวนประสาทฉันไปถึงไหนดูสารรูปตัวเองสิแต่งตัวอย่างกับกะ….”

“อร๊าย! ไอ้ปากปีจอ...ปล่อยฉันนะ” ยิ่งเธอดิ้นและพยายามแกะมือออกเท่าไหร่มือหนายิ่งกำแขนเล็กแน่นขึ้น เขาลากเธอเข้าไปทางประตูหลังซึ่งเป็นทางออกฉุกเฉินและไม่มีใครอยู่ตรงจุดนี้

“โซ่นายพาฉันมาที่นี่ทำไม” ร่างบางเริ่มกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัยเธอจึงกวาดสายตามองดูรอบ ๆ ทั้งมืดและไม่มีคน

“ทำไมเก่งนักไม่ใช่เหรอ.....เธอกลัวฉัน” ใบหน้าหล่อดันร่างบางให้เดินถอนไปจนชิดผนังร้าน เขายังไม่ยอมปล่อยแขนเรียวเล็กให้เป็นอิสระ แขนยาวอีกข้างดันผนังแล้วโอบร่างบางให้อยู่ภายใต้อ้อมแขนก้มหน้าลงมามองเธอที่ไร้หนทางหนีไปจากร่างสูงที่กักเธอไว้

“โซ่ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะจองเวรฉันไปทำไม แต่ฉันไม่อยากจะยุ่งหรือไม่อยากข้องเกี่ยวกับนาย”

“เหอะ! เฟื่องนิมมานฉันชอบแกล้งเธอเพราะฉันมีความสุข” ปากหยักกระซิบที่หูบางกลิ่นกายหอมของเขานั้นทำเอาใจของเธอเต้นแรง เฟื่องเธอยืนตัวแข็งทื่อไม่รู้จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์กดดันแบบนี้อย่างไร

“นะ…นายเป็นโรคจิตหรือไง ไปเอากับผู้หญิงแล้วก็กดโทรมาหาฉันอีก”

“ฉันไม่ได้โทร”

“เหอะ!”

“เฟื่องฉันเคยเตือนเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าเลิกกับฉันแล้วห้ามมีคนอื่น”

“นี่โซ่นายกับฉันจบกันไปนานตั้งสองปีแล้วนะ และฉันก็รักษาคำพูดตอนเรียนปีสุดท้ายฉันก็ไม่ได้คบกับใคร”

“จะตอนนี้หรือตอนไหนเธอก็ห้ามมีโดยเฉพาะไอ้ปกป้องเธอห้ามไปยุ่งกับมันฉันรู้จักมันดี”

“ฉันชักจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะเคนโซ่นายมันบ้า ถ้านายจะหวงฉันบอกตรงๆนะไม่มีสิทธิ์เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“ได้งั้นมารำลึกความหลังด้วยกันเธอจะได้จำได้ว่าฉันเป็นอะไรกับเธอ”

“กรี๊ดด! ช่วยด้วย” ปากหยักที่กลัวว่าร่างบางจะส่งเสียงร้องให้คนเข้ามาเขาจึงชิงประกบปากบางอ่อนนิ่มร่างบางสะดุ้งและพยายามไม่เปิดปากให้เขาได้สอดลิ้นเข้ามา ปากหยักได้รูปจึงบดจูบอยู่แบบนั้นมือหนาก็โอบเอวบางให้เข้ามาชิดลำตัว

“อื้อ!”

“เฟื่อง….”

ปากหยักเมื่อสบโอกาสจึงสอดลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากเล็กกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ผสมกับน้ำลายหวานของคนทั้งคู่ เฟื่องนิมมานไม่อาจจะทนรสจูบอันแสนร้อนแรงนี้ได้เพราะเคนโซ่นั้นชำนาญเรื่องแบบนี้มากตามนิสัยผู้ชายเจ้าชู้ เธอจึงหลับตาลงปล่อยให้คนที่เอาแต่ใจอย่างเคนโซ่บดจูบเธออยู่แบบนั้น

“อื้อ! โซ่อย่าทำฉัน” เมื่อตั้งสติได้เธอจึงผลักเขาออกเคนโซ่เองก็เอามือมาเช็ดริมฝีปากเขาสายตาคมกริบมองใบหน้าสวยที่เขานั้นแสนจะหวงแหน

“นี่แค่คำเตือนนะเฟื่องอย่าให้ฉันเห็นว่าเธอยุ่งกับเพื่อนของฉันอีกไม่งั้นฉันจะทำมากกว่านี้”

“ไปบอกเพื่อนนายเถอะโซ่”

“เธอก็รู้จักนิสัยฉันดีนะเฟื่อง เวลาที่ฉันโกรธไม่ว่าใครฉันใส่ไม่ยั้งเธอน่าจะจำได้นี่”

“นายกลับไปหาพิมพ์เมียนายเถอะ แล้วอย่าทำแบบนี้กับฉันอีกนะฉันเกลียดนาย” ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นกลั้นน้ำตาเธอจำได้ดีในวันที่เธอนั้นไปกินข้าวกับรุ่นพี่ที่ตามจีบที่โรงอาหาร เคนโซ่เข้ามาทวงสัญญาแล้วชกต่อยทะเลาะวิวาทจนรุ่นพี่วิศวะเลือดกบปากภาพนั้นยังติดตาเธอมาจนถึงทุกวันนี้ เคนโซ่เป็นคนพูดจริงทำจริงและเด็ดขาดมาก

“ไม่มีใครเป็นเมียฉันทั้งนั้น”

ร่างบางที่ได้ยินคำนั้นเธอทำเป็นไม่ได้ยินและรีบวิ่งออกมาทันทีเบ้าตาที่ร้อนผ่าว นึกถึงเรื่องราวในอดีตเธอโกรธตัวเองที่ยอมปล่อยให้เขาเข้ามาใกล้ชิดและเอาเปรียบแบบนี้ ความเจ็บปวดในหัวใจที่เกือบหายสนิทมันเริ่มกลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง

“โซ่คะหายไปไหนมาตั้งนาน พิมพ์เกือบจะไปตามแล้ว”

“เหอะ! ไอ้โซ่หน้าตาระรื่นเชียวไปดูดบุหรี่มาหายเครียดแล้วดิ” ภูริเห็นสีหน้าของเคนโซ่ดูดีผิดจากตอนก่อนออกไป

“อื้ม! ดูดมาเต็มปอดค่อยยังชั่ว” ปากหยักแสยะยิ้มเอามือมาลูบปากเบา ๆ เขาไปดูดปากแฟนเก่ามาไม่ใช่ดูดบุหรี่แต่ก็เออออไปแบบนั้น

“โซ่กูขอไปหาสาวอักษรศาสตร์ก่อนนะ คืนนี้แยกย้ายตรงนี้ละกัน” ปกป้องยกแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วขอตัวแยกกับเพื่อน

“มึงเห็นผู้หญิงสำคัญกว่าเพื่อนแบบกูเหรอไอ้ป้อง” คิ้วหนาขมวดขึ้นเคนโซ่ไม่พอใจที่เพื่อนกำลังจะไปหาคนที่เขาหวงดั่งจงอางหวงไข่

“ใช่! มึงจะทำไมวะ”

“ไอ้ป้องมึงอย่ากวนตีนกูไม่ตลก” สายตาคมของเคนโซ่มองเพื่อนแบบไม่วางตา แต่ภูริที่ดูอาการของเพื่อนรักทั้งสองแล้วว่าไม่ใช่การหยอกล้อเล่นกัน เขารู้ดีว่าเคนโซ่หวงเฟื่องนิมมานกับปกป้องเพราะทั้งคู่ชอบอะไรคล้ายๆกันและมีนิสัยเหมือนกันมาก

“นี่พวกมึงหยุดเลย ห้ามตีกันวันนี้วันดีอย่าทำให้เสียบรรยากาศ”

“ไอ้ภู ก็ไอ้โซ่มันหาเรื่องกูก่อนปะวะ”

“ไอ้ปกป้องมึงอยู่ที่นี่แหละดื่มกับพวกกูไม่ต้องไปหาใครทั้งนั้นเชื่อกู”

“ไม่ไปก็ไม่ไปเห็นแก่มึงนะไอ้ภู”

จากนั้นทุกคนจึงนั่งดื่มด้วยกันและเคนโซ่ก็อาสาไปส่งพิมพ์มาดาที่คอนโดของเธอ ก่อนกลับเขาแอบมองดูเฟื่องเธอดูนิ่งๆและดื่มน้อยลงไม่ค่อยออกฤทธิ์เมื่อเห็นว่าเธอกลับไปกับเพื่อนๆจึงรู้สึกสบายใจ หลังจากกลับถึงคอนโดจึงส่งข้อความหาเฟื่องนิมมานบอกว่าถึงคอนโดแล้ว

“ติ่ง!” เสียงข้อความมือถือเฟื่องนิมมานถูกแจ้งเตือน

เคนโซ่: ถึงคอนโดแล้ว

เฟื่อง : …….

“เหอะ! ส่งมาทำไม” มือบางเปิดดูโทรศัพท์หลังจากที่ข้อความของเขาถูกส่งมาเธอเปิดอ่านมันแต่ไม่ตอบข้อความกลับ เจ้าของข้อความเขากลับยิ้มและรู้สึกดีแม้จะไม่ได้รับการตอบกลับก็ตาม

“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกเฟื่อง…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel