วิศวะร้ายพ่ายรักนักเขียน ( Love Enginrre )
บทย่อ
"ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใคร....อย่ามายุ่งกับฉันอีก เคนโซ่ นายมันคนเห็นแก่ตัวไอ้คนสารเลว"
บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
“โซ่! นายช่วยอธิบายมาสิว่าถุงยางที่ใช้แล้วในถังขยะนี่เป็นของใคร?”
“ห้องนี้มันเป็นห้องฉันของทุกอย่างมันก็เป็นของฉันเธอจะถามเพื่อ….”
“นายมีผู้หญิงที่นอนด้วยอีกคนหรือหลาย ๆ คนใช่ไหมไหนนายว่าโสด?”
“ก็โสดเลยมาคบกับเธอนี่ไงเฟื่องยังต้องการอะไรอีก…หืม”
“ฉันขอถามนายครั้งสุดท้าย….นายเอาใครมานอนที่ห้องนอกจากฉัน”
“พิมพ์มาดา”
“ไอ้เคนโซ่…ไอ้คนสารเลวฉันไม่ใช่ตัวแทนของใครอย่ามายุ่งกับฉันอีก นายมันคนเห็นแก่ตัว”
“เพี๊ยะ!…” มือบางที่สั่นเทาตบไปที่ใบหน้าหล่อเหลาเฟื่องนิมมานเจ็บปวดแสนสาหัดแฟนคนแรกที่เขาเข้ามาจีบและเธอก็รักเขามากเพราะแอบชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง หักหลังเธอโดยการพาสาวสวยดาวคณะมาร่วมหลับนอนบนเตียงทิ้งหลักฐานไว้ให้ดูต่างหน้า มันเป็นความอัปยศที่เกินจะรับไหว
“ตบทำไมวะ…เธอก็รู้ดีว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายที่นอนกับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว ตอนแรกเหมือนจะรับได้แต่ตอนนี้เป็นบ้าอะไรขึ้นมาวะเฟื่อง?”
“เหอะ!…รับได้เหรอใครว่าฉันรับได้ล่ะโซ่การที่นายยังไม่มีแฟนจะนอนกับใครมันก็ไม่ผิด แต่ตอนนี้ฉันคือแฟนนายและนายก็ควรหยุด”
“ไม่มีทาง…ฉันมันก็เป็นแบบนี้ สามเดือนที่ผ่านมาฉันก็นอนกับเธอมาตลอดเธอก็เป็นแฟนเพียงคนเดียวคนอื่นฉันไม่เคยให้สถานะ เธออย่ามาล้ำเส้นกันให้มากเลยเลิกงี่เง่าสักทีเถอะ”
“กรอด~ ~” เฟื่องนิมมานขบฟันแน่นด้วยความโกรธที่แฟนหนุ่ม
วิศวะไม่รู้สึกผิดและยังด่าเธอว่าล้ำเส้น ไม่มีแม้แต่คำว่าขอโทษเธอทำได้เพียงกำหมัดแน่นและร้องไห้ออกมาเพื่อระบายเท่านั้น
“ชอบมันมากใช่ไหม…พิมพ์มาดา ทำไมถึงไม่ไปคบกับมันล่ะนายมาขอคบกับฉันทำไมโซ่?” ใบหน้าหวานที่ตอนนี้กลั้นน้ำตาไม่อยู่เอ่ยถามเขาไปตรงๆ
“อืม…ใช่”
“ถ้าชอบเขาขนาดนั้นก็ไปอยู่กับเขาสิอย่ามายุ่งกับฉันอีกเราเลิกกันเถอะ”
“เธอคิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดคำนั้นออกมาเฟื่อง” ร่างสูงยืนกอดออกคิ้วหนาเลิกขึ้นดันลิ้นในกระพุ้งแก้ม แล้วถามแฟนสาวที่เพิ่งจะคบได้เพียงสามเดือนให้แน่ใจ
“เออ!”
“ได้งั้นฉันเอาตามที่เธอต้องการ”
สัปดาห์ต่อมาที่ไนต์คลับใกล้มหาลัย
“เฟื่องมึงโคตรสวยเลยใครจะไปคิดว่ามึงจะซ่อนรูปขนาดนี้”
“ฉันต้องสวยค่ะและต้องฉลาดด้วยที่สำคัญต้องหน้าด้านด้วยนะผู้ชายชอบ… เฟื่องคนเดิมที่นิ่ง ๆ เรียบร้อย ๆ มองโลกในทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์มันตายไปแล้วจ๊ะ”
“กรี๊ดด!…โคตรเพี้ยวเลยว่ะแก เอ้า…เพื่อนอกหักต้องฉลอง”
“อีนุ๊กมึงก็ชนแก้วอยู่นั่นอีเฟื่องมันคอแข็งซะที่ไหนกันล่ะ มึงเป็นกะเทยควายก็แบกมันกลับห้องด้วยนะ”
“ชิ!…อีแพมอีชะนีที่เอาเปรียบกะเทยตัวน้อย ๆ อย่างกู”
เฟื่อง แพม และนุ๊ก สามเพื่อนซี้คณะอักษรศาสตร์วันนี้มารวมตัวกันที่คลับดังใกล้มหาวิทยาลัย หลังจากที่เฟื่องเลิกกับเคนโซ่เธอก็เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่สะบัดลุคใส ๆ กลายเป็นสาวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน วันนี้เธอแต่งตัวได้ยั่วยวนละลายหนุ่มๆในคลับมาก ผิวขาวร่างบางแต่ก็ไม่ได้ผอมจนเกินไปมีสัดส่วนโค้งเว้าน่าดึงดูดใจชายขาเรียวยาวขับกับชุดเปิดหน้าเปิดหลังสั้นจนเกือบจะเห็นบั้นท้ายขาวเนียน เธอแต่งหน้ากรีดตาจนสวยเฉี่ยวกลายเป็นสาวแซ่บละลายใจผู้ชายไปแล้ว
“เฮ้ย!..โซ่นั่นใช่เฟื่องเมียมึงรึเปล่าวะ?”
“อืม”
“เชี่ย!…อย่างกับคนละคนแน่”
“โซ่คะ...พิมพ์อยากไปเข้าห้องน้ำค่ะโซ่ช่วยไปเป็นเพื่อนพิมพ์หน่อยจะได้มั๊ย?”
“ครับ”
หลังจากเดินตามพิมพ์มาดาหญิงสาวที่เคนโซ่ชอบและหลงรักนั้น แม้ว่าเธอจะนอนกับเขาแต่เธอก็ไม่ได้ให้สถานะแฟนกับเขา ซึ่งทางไปห้องน้ำเขาต้องเดินผ่านโต๊ะของเฟื่องและเพื่อนๆของเธอไประหว่างที่เดินตามหลังพิมพ์มาดาไปนั้น เขาก็เห็นเฟื่องนั้นคลอเคลียกับหนุ่ม ๆ ที่เข้ามาขอร่วมโต๊ะ
“หึ!…เป็นเอามากนะเฟื่อง เลิกกับฉันแค่หนึ่งอาทิตย์จ้องจะหาผัวใหม่แล้ว” สายตาคมมองไปที่ร่างบางที่กำลังกอดคอชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง หัวเราะร่าด้วยกันท่าทางสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัว เคนโซ่ทำได้เพียงมองและส่งสายตาดุดันแล้วคิดในใจเพียงเท่านั้น
“อีเฟื่องๆ…เมื่อกี้ผัวเก่ามึงเดินผ่านมานางมากับยัยพิมพ์มาดามองมึงกับผู้ด้วยแหละ” นุ๊กเพื่อนสาวสองสะกิดเพื่อนสาวและบอกให้รู้ว่าเคนโซ่มองเธออยู่
“เหรอ?…ดีงั้นจะได้รู้กันไปเลยว่ากูไม่ได้สนใจมันแล้ว คอยดูนะคืนนี้กูจะทำให้โลกรู้ว่ากูไม่แคร์ผู้ชายเชี่ย ๆ แบบมันแล้วจ้า”
เมื่อพูดจบเฟื่องนิมมานและเพื่อนๆที่กำลังกรึ่ม ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ได้เต้นโยกย้ายตามจังหวะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มภายในร้าน ร่างบางเต้นโชว์สเตปเซ็กซี่นัวชายหนุ่มที่มาสนใจ มือหนาของเขาก็โอบเอวบางของเธอเอาไว้ตลอดเฟื่องเธอสวยและมีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก
“กรี๊ดดดด!…เฟื่องแกขึ้นไปทำอะไรระวังเดี๋ยวตกนะ” แพมและ
นุ๊กร้องเสียงหลงที่จู่ ๆ ร่างบางก็ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน เธอเต้นเซ็กซี่โดยอีกมือหนึ่งก็จับมือหนาของชายหนุ่มเอาไว้นาทีนี้ทุกคนที่มองเห็นต่างอ้าปากค้างบางคนหยิบมือถือขึ้นมาแล้วถ่ายเอาไว้
“ตัวแม่จะแคร์เพื่อ..…อีเฟื่องกูจะบ้าตายลูกสาวฉันลอกคราบจากดักแด้กลายเป็นผีเสื้อแล้วค่ะ” นุ๊กถึงกับอุทานออกมาในความเผ็ดของเพื่อนสาวเฟื่องนิมมานใจเด็ดและเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อเคนโซ่และกลุ่มเพื่อน ๆ เห็นโต๊ะด้านหน้าที่มีสาวสวยคนหนึ่งเต้นอยู่เขาถึงกับขยี้ตาตัวเองเฟื่องนิมมานทำเขาหัวใจกระตุก ในใจนั้นอยากจะไปกระชากเธอให้ลงมาจากโต๊ะแล้วลากกลับคอนโดแทบขาด แต่เขาเองทำไม่ได้เพราะมากับพิมพ์มาดาสาวที่เขาคลั่งรักหนักหนา
“เชี่ย!..ไอ้โซ่เฟื่องเธอเด็ดว่ะใครจะไปคิดว่าเลิกกับมึงแล้วจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ได้ข่าวว่ารุ่นพี่รุ่นปู่เราตามจีบกันทั้งนั้นเอาจริง ๆ นะกูยังชอบเลย” ภูริเพื่อนสนิทในกลุ่มแก็งค์วิศวะเขาก็หล่อโปรไฟล์ดีไม่แพ้เคนโซ่ชมและมองดูเฟื่องนิมมานไม่วางตา
“ไอ้โซ่…มึงไม่ได้คบกับเฟื่องจริงแล้วนะงั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะโว้ย!” ปกป้องเพื่อนอีกคนที่มาด้วยเขาก็อยู่กลุ่มเดียวกันเป็นหนุ่มหล่อดีกรีลูกชายนายแพทย์คนดัง ที่มีคลินิกโรงพยาบาลเอกชนใหญ่รวยและหล่อเรียนเก่งมาก ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมเลือกเรียนวิศวะโยธาเหมือนกันและอยู่ห้องเดียวกันมีนิสัยคล้าย ๆ กันจึงคบกันได้ยาว
“ชิ!..แฟนเก่าโซ่ทรงนี้นี่เอง ตอนแรกพิมพ์คิดว่าโซ่ชอบแต่ตอนนี้ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้เลิก” พิมพ์มาดาเบะปากมองดูเฟื่องนิมมานที่ยังสนุกสนานออกลีลาร้อนแรงยั่วยวนชายหนุ่มที่อยู่กับเธอ
“พิมพ์โซ่รู้สึกไม่ค่อยสบายเรากลับกันก่อนไหมพรุ่งนี้โซ่มีเรียนเช้า”
“ก็ได้ค่ะ คืนนี้ให้พิมพ์ไปนอนเป็นเพื่อนไหมคะ?”
“ผมกลัวพิมพ์จะติดไข้ไว้วันหลังนะครับเดี๋ยวโซ่ไปส่งนะ”
“ก็ได้ค่ะงั้นเราไปกันเถอะ”
หลังจากไปส่งพิมพ์มาดาเคนโซ่จึงโทรเช็คกับเพื่อน ๆ ว่าเฟื่องเธอยังอยู่ในร้าน เขารีบตีรถกลับแล้วมาที่คลับมานั่งดื่มต่อที่โต๊ะเดิมเขาโกหกพิมพ์มาดาว่าป่วยขอตัวกลับคอนโดอันที่จริงเขากำลังคิดแผนร้ายในใจบางอย่าง
“เฮ้ย! นึกว่ามึงจะกลับไปนอนกับพิมพ์มึงยังมาอยู่เนอะ”
“เรื่องของกูไอ้ภูมึงชงเหล้ามาดิขอเข้ม ๆ”
“หึ!..กูไปชนแก้วโต๊ะเฟื่องมาแล้วน่ารักว่ะ วันนี้เป็นดาวเด่นในคลับเลย” ปกป้องแกล้งแหย่เคนโซ่เล่นเพราะเขาพอจะมองออกว่าเพื่อนกำลังโกรธและหวงก้าง
“แรด…ผู้หญิงอะไรวะร้าย”
“ร้าย ๆ นี่แหละเอาคนเชี่ย ๆ อย่างมึงอยู่ไอ้โซ่” ภูริยกแก้วขึ้นมาดื่มพร้อมกับเอามือตบไปที่ไหล่ของเคนโซ่อย่างพอใจ
“แต่ทำไมกูมองดูท่าทางอาการของเฟื่องเหมือนเธอฝืน ๆ วะอย่างกับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ดูดื่มก็ไม่เก่งเมาซะขนาดนั้นถ้าคืนนี้ยังอยู่ต่อกูเดาได้เลยอีกไม่กี่นาทีร่วง”
“ยัยนั่นดื่มเหล้าเป็นซะที่ไหนใจ แตกตอนปีสามหัดเที่ยวหัดอ่อยผู้ชาย ชิ!..ไร้สาระ”
“ไอ้โซ่แล้วที่มึงกลับมาเนี่ย มึงอยากจะดื่มกับพวกกูหรือจะมาเฝ้าเมีย”
“ก็ต้องอยากดื่มกับพวกมึงสิวะ ใครจะอยากเฝ้ายัยนั่นกันเล่า”
“เออดีงั้นให้ไอ้ตี๋หน้าหล่อนั่นพาเฟื่องกลับ ดูสภาพแล้วคงกลับเองไม่ไหวเพื่อน ๆ แต่ละคนก็เมาขนาดนั้น”
“ไม่ต้องถึงมือไอ้ห่านั่นหรอก ดูท่าทางก็รู้ว่ามันต้องการเคลมยัยเฟื่อง ดูไม้ดูมือมันสิอย่างกับปลาหมึกถ้ามันสิงร่างเฟื่องได้มันคงสิงไปนานแล้ว”
“ชิ!..ปากดีนะมึงไอ้เคนโซ่หึงเค้ามึงก็บอกกูมา”
“กูแค่ช่วยดูแลความปลอดภัยในฐานะแฟนเก่าที่หวังดีมันก็แค่นั้นปะไอ้ป้อง”
“สัด!…เถียงกันอยู่ได้โน้นเฟื่องโดนไอ้ตี๋หน้าหล่อลากไปจากโต๊ะออกไปแล้ว”
“หึ!..ไอ้เชี่ยเผลอไม่ได้เลยนะไวยิ่งกว่าแสง”
ลานจอดรถ
“เฟื่องครับคอนโดอยู่แถวไหนสาว ๆ ทุกคนด้วยเดี๋ยวผมไปส่งเอง”
“อยู่คอนโดโมเมนตัมค่ะพวกเราอยู่คอนโดเดียวกัน” แพมที่เมาน้อยที่สุดเธอยังพอมีสติจึงบอกชายหนุ่มไปเพราะเขาอาสาไปส่งทุกคน
“งื้อ…โจเฟื่องยังไม่เมาค่า เราไปดื่มกันต่อที่คอนโดไหม”
“แฮร่ ๆ ๆ…เฟื่องนี่น่ารักดีโสดจริงๆปะเนี่ย”
“งึก ๆ ๆ” ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำอางสวยเฉียบพยักหน้าตอบ เธอเมาและกำลังติดลมอยากจะดื่มต่อ
“เฟื่อง!”
“เสียงใครวะคุ้น ๆ รึว่ากูหูแว่ว” ร่างบางในอ้อมอกแกร่งของชายหนุ่มได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นหูเธอคิดว่าตัวเองเมาจนหูฝาดไป
“โจขา…เราไปดื่มต่อที่ห้องเฟื่องกันนะแพมนุ๊กมาดื่มด้วยกันสิ”
“ครับเอางั้นก็ได้”
“เฟื่องนิมมานเธอจะไปไหน….”
“เคนโซ่”
แพมและนุ๊กตกใจเมื่อเห็นร่างสูงในชุดแบรนด์เนมทั้งตัวยืนกอดอกอยู่ด้านหลังของโจและเฟื่องนิมมาน เขาทำสีหน้าตึงบ่งบอกถึงความไม่พึงพอใจ
“หึ!..ไงนายมาเที่ยวเหรอ?”
“เออ”
“เคบาย” มือบางโบกลาอดีตคนรักเธอไม่สนใจและเมินเขา
“เธอต้องกลับคอนโดกับฉันเท่านั้นเฟื่อง”
“ไม่กลับไอ้คนหลายใจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันออกไปไกลๆเลยนะ โจขาเฟื่องเมาเดินไม่ไหวแล้วช่วยอุ้มเฟื่องทีค่ะ” ร่างบางออดอ้อนโจชายหนุ่มที่เจอในคลับเธอเมาและพูดเสียงยาน ๆ แม้ว่าจะเมาแค่ไหนแต่สิ่งที่ไม่เคยลืมในสมองคือความเกลียดชังที่มีต่อเคนโซ่
“ครับ ๆ ยืนนิ่ง ๆ นะเดี๋ยวผมอุ้มเอง”
“ไอ้เชี่ยออกไปนะ”
ร่างสูงของเคนโซ่รีบพุ่งเข้ามาผลักร่างของโจออกเขาเซทันทีสร้างความตกใจให้กับแพมและนุ๊กรวมถึงเฟื่องมาก เขารีบมาช้อนร่างบางที่อยู่ในชุดวาบหวิวที่มันโป๊รัดรูปจนแทบจะเห็นทุกอย่าง
“กรี๊ดด!..ไอ้โซ่ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“เหอะ!..ทำไมจะแตะไม่ได้ฉันเป็นผัวเธอนะเฟื่อง”
“ไม่นายไม่ใช่ผัวฉัน”
“ใจเย็นๆนะโซ่ โจคุณกลับไปก่อนนะไว้เราค่อยเจอกันขอบคุณสำหรับวันนี้มากๆค่ะ”
“พวกเธอสองคนกลับกันเองได้ใช่ไหม” เคนโซ่เอ่ยถามแพมและนุ๊กทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับ
“โซ่นายเลิกกับเฟื่องแล้วนี่ ทำไมถึงยังตามเธออีกล่ะ”
“ฉันแค่เป็นห่วงเดี๋ยวเฟื่อง หายเมาเมื่อไหร่ฉันจะไปส่งเองไม่ต้องห่วง”
“มันจะดีเหรอ….”
“ทำไมจะไม่ดีล่ะ ฉันดูแลเฟื่องได้”
“ปล่อยนะ ไม่ฉันไม่ไป”
“นี่คุณผู้หญิงเขาไม่ไปด้วยเธอปฏิเสธปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ” ด้วยความเป็นห่วงโจจึงขอร้องให้เคนโซ่ปล่อยเฟื่องนิมมานออกมาจากออมแขน
“เสือก!..ไอ้ตี๋นี่เมียกูเดี๋ยวกูจัดการเอง มึงคนนอกกลับไปอย่าให้เห็นอีกครั้งนะว่ามายุ่งกับคนของกู”
จากนั้นเคนโซ่จึงอุ้มร่างของเฟื่องนิมมานขึ้นรถของตัวเองเขาต้องใช้กำลังอย่างมากในการจับเธอมา เพราะเธอนั้นทั้งดิ้นทั้งจิกและกัดเขาตลอดเวลาในที่สุดจึงเผลอหลับไปในรถเพราะเมาสุด ๆ และใช้แรงเยอะมาก