บทที่ 8 งานคืนสู่เหย้า
สัปดาห์ต่อมา
“พวกแกปีนี้งานเลี้ยงรุ่นที่มหาลัยจะไปกันรึเปล่า…” แพมนำบัตรเข้างานคืนสู่เหย้า ที่จะมาถึงในอีกสามวันข้างหน้าให้นุ๊กและเฟื่องเพราะแพมเป็นประธานรุ่นของคณะ
“อ่ะนี่บัตรเข้างานได้มาสามใบพอดีฉันได้โซน VIP เพราะเป็นประธานรุ่น”
“ไปสิจ๊ะ ปีที่แล้วสนุกมากคิดถึงเพื่อน ๆ และอาจารย์จะแย่” นุ๊กรีบหยิบบัตรเชิญมาดูทั้งสามเพื่อนซี้จะไปด้วยกันเสมอซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่สองของพวกเธอ
“เค้ามีธีมให้ใส่ชุดสีอะไรป่ะ”
“ไม่นะอีเฟื่องเอาชุดที่คิดว่ามึงสวยที่สุดในงานแหละ ปีที่แล้วมึงก็สร้างตำนานเริสสแมนแตน” นุ๊กเบ้ปากยืนกรอกตาใส่เฟื่องเพราะปีที่แล้วเธอเป็นคนแบกร่างของเฟื่องกลับคอนโดเพราะเพื่อนสาวเมาจนร่วง
“ปีนี้มึงก็แบกกูกลับอีกนะอีนุ๊ก ฮ่า ๆ ๆ”
“โอ๊ย! ไม่ๆๆถ้ามึงจะเมาเละขนาดนั้นกูจะทิ้งมึงเลยค่า”
“แพมอีนุ๊กมันจะทิ้งเรา”
“เบาได้เบานะเฟื่อง” แพมอีกคนที่เตือนให้เพื่อนสาวดื่มแต่พอดี เพราะกว่าจะพากันกลับคอนโดได้มันไม่ง่ายเลย
“เหอะ ปีนี้ฉันไม่เมาหรอกเชื่อปะ” ร่างบางหยักไหล่พร้อมกับประกาศไปว่าจะไม่เมาเหมือนปีที่แล้ว
“ชิ! คออ่อนแต่เสือกอยากดื่ม”
“โหย…อีแพมอย่าบูลี่”
สามวันต่อมาที่งานเลี้ยงรุ่นมหาวิทยาลัย
บรรยากาศภายในงานรื่นเริงเหล่าบรรดาศิษย์เก่าต่างตบเท้าเข้ามาร่วมโต๊ะตามโซนและบัตรเสียงดนตรีและการแสดงบนเวทีเริ่มขึ้น วันนี้เป็นวันแห่งการคืนสู่เหย้าร่างบางที่วันนี้แต่งตัวในชุดเดรทเว้าหลังเปลือยถึงเอวรัดรูปสีขาวสะอาด เธอสวยและสง่าใบหน้านั้นถูกเติมแต่งแต่ทว่าไม่ได้หนักแต่ละมุนสวยฉ่ำเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อนลอนสวย เสื้อผ้าหน้าผมนั้นถูกเพื่อนสาวสองอย่างนุ๊กนั้นเป็นคนเนรมิตจัดหาและแต่งให้ ส่วนแพมเองก็สวยไม่แพ้กันเธอมากับแฟนหนุ่มที่เป็นรุ่นเดียวกันคณะบริหาร
“สวัสดีเลือดสีฟ้าขาวศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย BA ทุกท่านวันนี้จะมีโชว์พิเศษจากศิษย์เก่าหนุ่มๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ รับรองว่าจะทำให้สาว ๆเซอร์ไพรส์ไปกับพวกเค้า” พิธีกรหนุ่มหล่อบนเวทีได้กล่าวเปิดงานและเตรียมการแสดงไฮไลต์เอาไว้
“แปะ! แปะ! โฮ่ว ๆ ๆ…กรี๊ดดด!” เสียงปรบมือและเสียงโฮ่ร้องกรี๊ดสนั่นเมื่อผ้าม่านที่ปิดกั้นฉากบนเวทีเลื่อนออก ปรากฏภาพนักร้องหนุ่มหล่อในชุดสูทสุภาพและวงของเขาหน้าตาดีกันทุกคน
“กรี๊ด ๆ ๆ ๆ…พี่เคนโซ่ พี่ปกป้อง พี่ภูริ พี่ดรีม วิศวะโยธา”
“อร๊ายยย!…ผัวกลับมาแล้ว”
เหล่าบรรดาสาว ๆ ต่างเซอร์ไพรส์กันทั้งหอประชุมเพราะแก็งค์วิศวะของเคนโซ่และเพื่อน ๆ ร้องเพลงโชว์บนเวที โดยคนที่เป็นนักร้องนำเสียงเพราะนุ่มทุ้มก็คือเคนโซ่ส่วนมือกลองคือภูริและมือเบสคือปกป้องทั้งสามหนุ่มร้องและเล่นดนตรีสด ในอดีตสมัยเรียนทั้งสามคนคือนักร้องของมหาวิทยาลัยเนื่องจากต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศถึงสองปีจึงห่างหายไป แต่ทว่าปีนี้พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันและมาร่วมงานคืนสู่เย้าในปีนี้
สายตาคมใบหน้าหล่อทรงผมที่เซทมาอย่างดีของนักร้องนำมองตรงมาที่สาวสวยร่างบางที่นั่งอยู่ เฟื่องนิมมานเผลอสบตาคมคู่นั้นในใจคิดว่าทำไมเขาถึงเลือกร้องเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่เธอนั้นชื่นชอบจึงพยายามหลบสายตาและเลือกที่จะชนแก้วและสนใจเพื่อนๆแทน
~ ฮู้! ฮู้! ~
~ เธอคือหัวใจ เธอคือแสงไฟ เธอคือสายลมที่พัดพา ~
~ ฉันเพิ่งรู้ใจตัวเองว่า….ฉันรักเธอและฉันรักเพียงแค่เธอ ~
~ โปรดกลับมาได้มั๊ย…กลับมาหาฉันคนโง่งมงาย ชีวิตที่ไม่มีเธอมันเหมือนคนที่ใกล้จะตายวิญญาณแหลกสลายหายไปกับสายลม~
เมื่อเพลงแรกจบลงเคนโซ่และทุกคนจึงทักทายกล่าวคำขอบคุณเหล่าอาจารย์และศิษย์เก่าทุกคน วันนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ก้าวออกมารั้วมหาวิทยาลัยพวกเขาได้คืนสู่เย้าอย่างแท้จริง
“กรี๊ดดด! เพราะมาก ๆ พี่เคนโซ่ พี่ดรีม พี่ป้อง พี่ภู เอาอีก ๆ”
“วันนี้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากครับที่ได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง ผมกับเพื่อนๆในวงก็คิดถึงบรรยากาศและอาจารย์เพื่อน ๆ พี่น้องทุกคนพวกเรากลับมาแล้วครับ”
“อร๊ายยย! ผัวฉัน ๆ กลับมาแล้วค่า….”
“ขอบคุณครับสำหรับเสียงเชียร์และการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีอีกบทเพลงหนึ่งที่มีคน ๆ หนึ่งซึ่งเธอจะชอบขอให้ผมร้องให้ฟังผมอยากจะบอกเธอนะครับว่าความหมายของเพลงนี้มันคือเพลงของเรา”
“พี่โซ่หมายถึงใครแฟนเขาพี่พิมพ์มาดารึเปล่าเธอก็มาด้วยนะ น่าอิจฉาที่สุดโรแมนติกมาก”
“ผมขอมอบเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อน ๆ ในวงซ้อมแล้วเจอกับเธอในวันนั้นเพลงนี้มีชื่อว่า…เธอคือดาวในฝัน”
“อร๊ายยย! กรี๊ดด! ฉันรักพวกเค้า…”
“ว๊าย แก็งค์วิศวะโยธาอีเฟื่องสามคนนี้โผล่มาได้ไง?”
“หึ! ฉันชักจะไม่สนุกแล้วอ่ะแก”
“คนตั้งเยอะไอ้สามตัวนั้นมันไม่เห็นพวกเราหรอกมา ๆ ชนแก้ว ๆ วู้ว!” แพมเลือกที่จะชนแก้วเธอนั้นเริ่มกรึ่ม ๆ เพราะวันนี้มากับแฟนหนุ่มและเธอเองเป็นประธานรุ่นของคณะจึงสนุกเพราะได้เจอเพื่อน ๆ และรุ่นพี่
“เออ ๆ ช่างแมร่ง ไม่เกี่ยวอะไรกันสักหน่อยอย่าไปสนอ่ะหมดแก้ว” เฟื่องนิมมานยกแก้วเหล้าขึ้นมาและชนไม่ยั้งเธอเลือกที่จะไม่สนใจวงของนักร้องหน้าหล่ออดีตคนรักบนเวที เพราะกลัวใจตัวเองว่าจะหวั่นไหวไปกับเขาอีกครั้งเนื่องจากเคนโซ่นั้นหล่อเท่ห์และร้องเพลงเก่งเขาดูดียิ่งกว่าตอนสมัยเรียนขึ้นมาก
“เอ้า! วันนี้ไม่เมาไม่กลับฉันคิดถึงพวกแกมากขอบคุณนะที่มาเฟื่อง นุ๊ก แพม” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกอดคอและยกแก้วชนเพราะความคิดถึงและดีใจ หลังจากเรียนจบก็ไม่เคยมีโอกาสได้พบกันงานคือสู่เหย้าจึงเป็นงานที่ได้เจอเพื่อน ๆ
“อื้อ ฉันก็ดีใจ”
“อีเฟื่องมึงหน้าแดงแล้ว ฮ่า ๆ ๆ”
“อย่าได้แคร์เดี๋ยวงานเลิกไปต่อกูเลี้ยงพวกมึงเองวู้…” ร่างบางที่กำลังกรึ่ม ๆ เอ่ยปากชวนกลุ่มเพื่อนเก่าที่ร่วมโต๊ะVIP ไปดื่มต่อเพราะติดลม
“อีแพมบอกผัวมึงอย่าเมานะคืนนี้ ต้องพากูกับอีนุ๊กกลับคอนโดด้วย” เฟื่องนิมมานเริ่มพูดเสียงยานเพราะเริ่มเมา
“ตามสบายเลยเฟื่องเราจะไปส่งทุกคนเอง” แฟนหนุ่มของแพมเขาเป็นสุภาพบุรุษอาสาไปส่งทุกคนเขานั้นจะตามแพมกับเพื่อนของเธอไปเที่ยวบ่อย ๆ จึงชิน
“เฟื่อง”
“อ้าว ปกป้อง”
“เราขอชนแก้วหน่อยดิพอดีกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วอยากจะมาทักทาย” ปกป้องหลังจากลงจากเวทีเขาก็มุ่งตรงมาหากลุ่มของคณะอักษรศาตร์เพราะเวลาอยู่บนเวที โต๊ะของเฟื่องและเพื่อน ๆ นั้นมองเห็นชัดเจนวันนี้เฟื่องสวยเซ็กซี่และสง่าออร่ามากที่สุดในกลุ่ม
“ยินดีนะปกป้องที่เรียนจบนายต้องได้เกียรตินิยมแน่เลย”
“ไม่พลาดฉันกับไอ้โซ่ได้อยู่แล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มปกป้องนั้นชื่นชอบในตัวของเฟื่องมานานแล้ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปทักทาย
“อื้ม! ป้องเก่งอยู่แล้วเฟื่องไม่แปลกใจ” มือบางยกแก้วขึ้นมาและจิบบางๆยืนคุยอย่างออกรสกับเพื่อนของอดีตคนรัก
“โซ่ เคนโซ่ร้องเพลงเพราะจังเลยพิมพ์ไม่ได้ยินโซ่ร้องเพลงมานานมาก” ดาราสาวสวยพิมพ์มาดาก็มางานเลี้ยงรุ่นในวันนี้กว่าเธอจะฝ่าวงจากเพื่อน ๆ ออกมาได้ก็ยากเธอทั้งโดนขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น
“อื้ม! ฉันไม่ได้ร้องมานานไม่ได้ซ้อมด้วยเพิ่งจะมาเตรียมเมื่อเช้านี่เอง” ใบหน้าหล่อทำหน้านิ่งแต่ทว่าสายตาก็แอบมองโต๊ะของเฟื่องที่ยืนคุยสนิทสนมกับปกป้อง เพื่อนสนิทที่ชอบและมีรสนิยมเหมือนกันกับเขา
“ปกป้องล่ะภูริหายไปไหนเมื่อกี้ยังเล่นเบสอยู่บนเวทีอยู่เลยเท่เอาเรื่อง” มือบางยกนิ้วให้กับภูริเพราะวันนี้วงของพวกเขาร้องดีและเท่ห์มากจริง ๆ
“นู้น! ไปหลีหญิงคณะอักษรโซนVIP” นิ้วเรียวของภูริชี้ไปที่เพื่อนเพราะเขาตัวสูงเด่นและแต่งตัวภูมิฐานยืนอยู่กับเฟื่องนิมมาน
“นั่น…กลุ่มของเฟื่องนิมมานนี่นาตอนนี้ดังแล้วนะพิมพ์กำลังจะเล่น
ซีรี่ย์ที่เป็นบทประพันธ์ของเธอ”
“ไม่น่าเชื่อเฟื่องมีอะไรที่น่าเซอร์ไพรส์เสมอ” ภูริยกยิ้มขึ้นมุมปากสายตาเขาก็มองไปที่ใบหน้าของเคนโซ่ที่มันดูครุ่นคิดและดูไม่สบอารมณ์ เพราะปกป้องนั้นเข้าไปหาคนที่เคนโซ่นั้นหวงมากตั้งแต่ไหนแต่ไร
“โซ่ ไม่สนุกเหรอคะเราไปหาป้องไหม”
“ดีเหมือนกัน”
ร่างสูงก้าวเท้าเดินตรงไปที่โต๊ ะVIP คณะอักษรศาสตร์เขาเดินลิ่วนำหน้าพิมพ์มาดาไม่สนใจเธอ ร่างบางในชุดเดรทสายเดี่ยวรัดรูปโชว์สัดส่วนรีบเดินตามทันทีเมื่อมาที่โต๊ะทุกคนต่างมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบนิ่งไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้
“เฮ้ย! ไอ้โซ่มากับพิมพ์เหรอ?”
“อ้าว! ปกป้องหวัดดี”
“หวัดดีพิมพ์ เดี๋ยวตามไปที่โต๊ะนะไอ้โซ่มึงมาตามกูทำไมวะ”
“กูจะไปต่อที่ร้านข้างนอกในนี้คนเยอะอึดอัด” ใบหน้าหล่อมองไปที่ร่างบางสายตาคมกริบจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาไม่ชอบชุดที่เฟื่องนิมมานสวมใส่มันดูดีแต่มันโชว์เนื้อหนังมากเกินไป มองดูแล้วจิตใจเขานั้นไม่สบายว้าวุ้นและขัดสายตาไปหมด
“กูขอไม่ไปกับมึงนะวันนี้เพราะกูจะไปกับกลุ่มของอักษรศาสตร์โต๊ะนี้” ปกป้องปฏิเสธเสียงแข็งเขานั้นอยากจะไปกับสาวสวยแซ่บมากความสามารถอย่างเฟื่องนิมมาน
“ร้านไหน?”
“Memo CIub”
“กูก็จะไปร้านนี้กับไอ้ภูพอดี”
“เหอะ! ร้านมีตั้งเยอะมึงทำไมต้องไปร้านเดียวกับพวกกูปกติมึงไม่ชอบร้านแนวนี้นี่”
“กูก็อยากเจอเพื่อนเก่าๆแบบมึงไงไอ้ป้อง” พูดเสร็จร่างสูงก็หันหลังเดินกลับไปก่อนเขาจะไปก็มองไปที่เฟื่องนิมมานตั้งแต่หัวจรดเท้าสลับกับเพื่อนของเขา เฟื่องแพมและนุ๊กเลือกที่จะเงียบไม่ทักทายหรือพูดคุยกับเขาเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ชิ! ไอ้โรคจิตอย่าเมาแล้วแรดเอากับผู้หญิงแล้วโทรมาหาฉันอีกนะ” เฟื่องได้แต่ด่าเขาในใจเพราะวันนี้เธอดูสีหน้าท่าทางของเคนโซ่ เขาดูน่ากลัวและดูดุทั้งสีหน้าแววตาและคำพูดมันฟังดูไม่เป็นมิตร