บทที่ 14 เลี้ยงที่บาร์โฮส
คอนโดมิเนียมของเฟื่องนิมมาน
“โซ่ตื่นฉันแต่งตัวเสร็จแล้วเดี๋ยวอีแพมอีนุ๊กรอ”
“อื้อ!”
“แบบนี้ทุกทีนายไม่เคยเปลี่ยนเลยนะนิสัยที่หงุดหงิดเวลาปลุก”
“งั้นฉันไปคนเดียวนะเชิญหลับให้สบายไม่ตื่นขึ้นมายิ่งดี”
“หมับ!” แขนเล็กถูกมือหนาของเคนโซ่จับเอาไว้เพราะไม่ให้เธอทิ้งเขาไว้คนเดียว
“ฉันตื่นก็ได้” ร่างสูงงัวเงียตื่นขึ้นมาลืมตาดูร่างบางที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดจนเขาต้องทำหน้าเหวอ
“นี่มันชุดบ้าอะไร ผ้าขี้ริ้วเช็ดโถส้วมรึไง”
“ปากปีจอนี่ชุดที่เค้ากำลังฮิตกัน กว่าฉันจะไปแย่งมาได้รอตั้งครึ่งเดือน” ใบหน้าสวยยิ้มภูมิใจกับการได้มาของชุดแซ่บที่เธอแย่งซื้อมาเพราะมีจำนวนจำกัด
“ไปเปลี่ยนถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่ต้องไปมันขัดหูขัดตา”
“ทำไมฉันต้องเชื่อฟังนายด้วยเคนโซ่ นี่มันร่างกายฉันเงินก็เงินฉันซื้อเอง”
“เธอซื้อมาเท่าไหร่ฉันขอซื้อคืนให้อีกสามเท่าพอใจยัง”
“อวดรวยไม่ขาย หนึ่งแสนก็ไม่ขาย”
“ สามแสน”
“ อึก! นะ…นายว่าอะไรนะฉันหูฝาดไปปะ” ใบหน้าสวยเริ่มเปลี่ยนท่าทีเธอตกใจกับข้อเสนอของเขา เพราะราคาชุดที่ซื้อมาเพียงหลักพัน
ต้น ๆ ที่พูดไปนั้นแค่ต้องการประชดเขาเท่านั้น
“ฉันบอกว่าสามแสนขอซื้อชุดผ้าขี้ริ้วนี่และต้องไปเปลี่ยนชุดที่มันดูดีกว่านี้มาด้วย” สายตาคมจ้องมองร่างบางตาเขม็งเขาไม่พอใจและต้องการให้เฟื่องตามใจเขาสักเรื่องก็ยังดี
“โอนมาก่อนเบอร์ฉันนายมีแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหอะ! หน้าเงิน” มือหนาหยิบโทรศัพท์ราคาครึ่งแสนแล้วกดอะไรบางอย่าง
“ชิ! งั้นไปชุดนี้ก็ได้”
“ติ่ง!” เสียงข้อความแจ้งเตือนการโอนเงินเข้าบัญชีเฟื่องนิมมานยิ้มมุมปากเบาๆเคนโซ่ชอบแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยเงิน มันกลายเป็นนิสัยเสียของพวกลูกคนรวยไปแล้วจริง ๆ
“ได้งั้นชุดนี้นายจะเอาไปขัดส้วมอย่างที่บอกก็ได้นะฉันจะไปเปลี่ยนชุดใหม่”
“ไปสิยืนบื้อทำไม เดี๋ยวฉันเปลี่ยนใจนะชุดนี้มันยิ่งล่อตาล่อใจอยู่บรรยากาศก็ได้” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเขาพอใจที่เฟื่องยอมแม้จะต้องจ่ายหนักหลักแสนก็ตาม
“ค่ะคุณอคิรา กรุณารอสักครู่นะคะ” หลังจากร่างบางเดินไปเลือกชุดที่ตู้เสื้อผ้าเธอเลือกอยู่นาน หยิบมาให้เขาดูหลายต่อหลายชุดแต่ทว่าเขาเองก็ไม่ชอบสักชุดจนเธอเริ่มเหนื่อยและท้อใจในความจู่จี้เอาแต่ใจ
“เหอะ! จะหมดตู้แล้วนะโซ่ถ้านายไม่โอเคงั้นฉันไม่ไปแล้วนายไปคนเดียวเถอะ”
“เอาชุดนั้น” นิ้วเรียวชี้ไปที่เดรทสีชมพูหวานสั้นเหนือเข่าชุดนี้ดูเรียบร้อยที่สุด
“ให้ตายเถอะเพื่อนฉันแซวตายเลยนะโซ่ นายเชื่อปะชุดนี้ฉันใส่ตอนไปเซ็นหน้าปกหนังสือออกงานครั้งเดียวเป็นทางการมาก”
“แต่ฉันชอบ”
“ฉันขอเปลี่ยนเป็นสายเดี่ยวกับกางเกงยีนส์ได้ปะชุดนี้มันไม่ได้จริง ๆ” เฟื่องนิมมานเธอแต่งตัวเก่งแต่ชุดนี้มันไม่เหมาะกับการไปเที่ยวสถานบันเทิงเลย
“จะโชว์หน้าอกให้พวกผู้ชายมองทำไมเดี๋ยวฉันก็ไปต่อยมันคว่ำอีกหรอก เธอก็รู้ว่าฉันทำจริงคนที่จะล้มฉันได้มีน้อยถ้าไม่เก่งจริงฉันเรียนชกมวยตั้งแต่แปดขวบ”
“งั้นเสื้อกล้ามค่ะขอแค่เสื้อกล้ามกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบลุคสบาย ๆไปจ่ายตลาดเลยอ่ะนี่โอเคนะคนละครึ่งทาง” มือบางยื่นเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงยีนส์ขาบานรัดรูปให้เขาดู
“อื้ม! พอรับไหวชุดนี้แหละ” เคนโซ่พยักหน้าตอบตกลงใบหน้าสวยยิ้มจนตาหยีเธอดีใจแม้เขาจะเผด็จการ แต่ถ้าด้วยเหตุและผลมันก็คุยกันได้ ร่างบางจึงหยิบชุดเดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกลับเดินออกมาในชุดใหม่ ไม่ว่าเฟื่องจะใส่อะไรเธอก็ดูดีไปหมด ทั้งรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณแต่งตัวสบายๆแบบนี้ก็ยังสวยสะดุดตา
“เสร็จแล้ว อ่ะนี่ชุดที่นายซื้อ” มือบางยื่นชุดสุดแซ่บให้เขาเคนโซ่รับเอาไว้แล้วมองดูชุดในมือพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ แล้วถอดหายใจ
“เฮ้อ….ฉันซื้อแล้วตอนนี้จะทำอะไรกับมันก็ได้” ร่างสูงลุกขึ้นยืนเดินออกจากเตียงเขาเอาชุดของเธอไปทิ้งลงถังขยะต่อหน้าต่อตา เฟื่องนิมมาน เธอยืนอ้าปากค้างเขาทำอะไรกันแน่
“หึ! นายนี่มันนิสัยเสียจริง ๆ ดีนะที่ฉันเลิกกับนายไม่อย่างนั้นคงอกแตกตายเหมือนอีนุ๊กมันว่า”
“คบกับฉันอกเธอไม่แตกแน่นอนเพราะหน้าอกเธอมันของจริงฉันขยำแรงยังไงมันก็ไม่แตกอยู่ดี หึ! ประหยัดเงินฉันค่าไปทำซิลิโคน” ใบหน้าหล่อยิ้มไปกวนประสาทเธอไปเขาพูดจาหยาบคายหน้าตาเฉย จนคนที่ฟังอยู่รู้สึกใจเต้นแรงเขินขึ้นมาทันที
“โอ๊ย! ทะลึ่งฉันอยากจะเอาอะไรมายัดปากนายนักโซ่”
“ได้สิยัดปากนิ่ม ๆ ของเธอมาฉันยินดีรับ”
“กรี๊ดดด! นายมัน…” เฟื่องรู้สึกโกรธและเอือมระอากับคำพูดกวนโทสะของเขาไม่ได้เคนโซ่เขาปากร้าย เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าหลงไปชอบคนแบบเขาได้อย่างไรกันเพราะตอนนั้นที่เธอเจอเขาครั้งแรกเขาไม่ได้พูดมากขนาดนี้
“ฮ่ะ ๆ ๆ แกล้งเธอแล้วสนุกเวลาเธอทำหน้าโกรธทำหน้าแบบนี้แหละน่ารักฉิบหาย” ใบหน้าหล่อยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่มุมปากเขาลืมตัวหัวเราะออกมาอย่างพอใจเฟื่องที่มองดูอยู่ก็รู้สึกเสียอาการทันที
“โห่! ยิ้มจริง ๆ จัง ๆ นายโคตรละลายเลย ฉันไม่แปลกใจเลยที่นายจะมีผู้หญิงเข้าหามากมายทำใจฉันเต้นอีกแล้วบ้าที่สุด…” เฟื่องนิมมานมองดูรอยยิ้มนั้นเธอพูดกับตัวเองภายในใจไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกนี้ออกไป เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นเหยื่อเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เขาใช้ปรนเปรอบนเตียงเท่านั้น
“ไปกันได้แล้วร้านไหนเธอบอกทางฉันนะ”
“ได้”
เคนโซ่และเฟื่องมุ่งหน้าไปร้านประจำตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลานัดหมายกับเพื่อนๆแล้วเธอและเพื่อนจะมีร้านประจำอยู่แห่งหนึ่งคือบาร์โฮสที่มีหนุ่มหล่อคอยบริการเอาใจพวกเธอทุกครั้ง เป็นร้านที่ดังที่สุดและหนุ่มๆก็หน้าตาดีที่สุดเช่นกัน
ริวกิบาร์
“ลงรถสินั่งนิ่งทำไมล่ะหรือนายจะกลับ”
“เฟื่องนี่มันบาร์โฮสนี่นา….เธอเที่ยวที่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็ใช่นะสิร้านประจำฉันเองฉันเป็นเมมเบอร์ที่นี่นายไม่ต้องเกร็งทำใจสบาย ๆ ฉันก็เที่ยวประจำตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ ๆ”
“บ้าเธอให้ฉันมาที่แบบนี้เนี้ยนะกลับเถอะไปนอนคอนโดฉันดีกว่า ที่ห้องฉันหรูและก็สบายมากเลยเธอจะดื่มไวท์แพง ๆ ก็ได้” มือหนากุมมือบางเอาไว้เขาทำสายตาเว้าวอนไม่อยากจะเข้าไปในร้านนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขาเข้ามา
“ฝันไปเถอะใครจะไปกับนาย เพื่อนฉันอยู่ข้างในวันนี้อีนุ๊กอีแพมมันจะเลี้ยงขอบคุณนายฉันเองก็จะเลี้ยง”
“ฉันไม่คิดว่าพวกเธอจะมาสถานที่แบบนี้”
“ตามใจงั้นลาตรงนี้ฉันขอตัว” ร่างบางเดินลงจากรถเธอมุ่งหน้าไปที่ร้านพร้อมกับยิ้มให้กับการ์ดรักษาความปลอดภัยหน้าร้านทุกคนจำเธอได้เพราะเธอมาเป็นประจำ
“เชี่ย! ผู้หญิงอะไรเที่ยวโฮสเฟื่องเธอมันร้ายเกินไปแล้วฉันไม่อยู่แค่ สองปีทำตัวเหลวแหลกขนาดนี้ได้ยังไง?” เคนโซ่สบถคำออกมาเขาไม่คิดว่าเธอจะเที่ยวจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้เฟื่องเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริง ๆ ไม่ใช่แค่การแต่งตัวเท่านั้น
เมื่อเฟื่องนิมมานเดินเฉิดฉายเข้ามาข้างในบาร์สุดหรูเธอจะมีโต๊ะประจำคือโต๊ะ VIP ใกล้เวที บรรยากาศข้างในนั้นสะอาดสะอ้านแสงสีเสียงเวทีการแสดงสุดอลังการเหล่าบรรดาเด็กโฮสสุดหล่อล่ำกล้ามปูใส่ชุดวาบหวิวเพียงกางเกงในตัวเดียวเดินโชว์ตัวอยู่บนเวที
“กรี๊ด!..กรี๊ด! น้องภูภา น้องซัน”
“กว่าจะเสด็จนะแม่ไหนละผัวเก่ามึง”
“กูไม่มีผัว สามเดือนไม่นับ”
“ย่ะ! แล้วเขาไม่มาด้วยเหรอสงสัยจะอายที่มาบาร์โฮส” นุ๊กเธอรู้ดีว่าผู้ชายไม่เที่ยวสถานที่แบบนี้อยู่แล้วเธอกะจะลองใจเคนโซ่ว่าที่เขากลับมาครั้งนี้เขาเข้าหาเฟื่องจริง ๆ หรือแค่บังเอิญเท่านั้น
“ไม่กล้าลงจากรถสงสัยอายว่ะ” เฟื่องนิมมานหัวเราะที่คิดถึงหน้าของเคนโซ่ที่เสียอาการเมื่อเธอชวนเขาลงจากรถ
“มันใช่ที่ที่ผู้ชายจะมาปะวะมึง เป็นกูกูก็ไม่ลงจากรถโกรธขับรถหนีแล้ว” แพมที่เธอเข้าใจดีเพราะนุ๊กนั้นเลือกสถานที่ไม่เกรงใจเจ้าภาพงานเลี้ยงเสียเลย
“ดีฉันจะได้เรียกน้อง ๆ มานั่งคุยคืนนี้จะให้เล่นเกมตอบคำถามได้เงินฟรีมาตั้งสามแสนอีเฟื่องจะเปย์ให้หมด”
“เงินอะไร”
“เหอะน่า! เงินบริสุทธิ์อย่าไปคิดมากเรียกน้อง ๆ มา”
“จ้า ๆ ตาเป็นประกายเชียวนะชะนีเดี๋ยวฉันเรียกให้อย่างแกน้อง ๆอยากนั่งจะตายจ่ายหนักดริ้งค์ทีเด็กตั้งตัวได้”
“มึงก็เว่อร์อีนุ๊ก”