บทที่ 13 แผนคนเจ้าเล่ห์
คอนโดมิเนียมของเฟื่อง
“ถึงแล้วขอบคุณนะ ส่วนเสื้อนายฉันจะซักแล้วคืนให้”
“เรื่องเล็กแต่เรื่องใหญ่กว่านั้นคือตอนนี้ฉันปวดท้อง”
“นายก็รีบขับไปเข้าห้องน้ำในปั้มใกล้ ๆ สิ”
“สกปรกฉันขอใช้ห้องน้ำที่ห้องเธอได้ไหม โอ๊ย!”
“ไม่ได้เด็ดขาด”
“เฟื่องเธอจะใจดำเกินไปแล้ว”
“ห้องน้ำด้านล่างคอนโดก็มีตามฉันมาสิ”
“โอ๊ย! เธอก็รู้ว่าฉันชอบความสะอาด อื้อ...ให้ตายเถอะ”
ใบหน้าหล่อเหลาทำหน้าเหยเกมือหนาก็กุมท้องไว้เฟื่องนิมมานพยายามชั่งใจอยู่ว่าควรจะให้เขาขึ้นไปห้องส่วนตัวดีหรือไม่ เคนโซ่จะไม่ได้หลอกหรือทำอะไรมิดีมิร้ายเธอหรือเปล่ายิ่งนิสัยไม่ดีสักเท่าไหร่
“แค่เข้าห้องน้ำเองคงจะไม่มีอะไรถ้าเขาปวดหนักจริง ๆ คงจะแย่ หมอนี่เรื่องมากจะตายคงไม่ยอมเข้าห้องน้ำสาธารณะ” ใบหน้าสวยครุ่นคิดในใจเธอจึงตัดสินใจพาเขาขึ้นห้อง
“ก็ได้ตามฉันมาสิสัญญานะว่าเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจะรีบกลับ เพราะฉันอยากจะพักผ่อนก่อนไปบาร์”
“อื้อ ๆ เร็วเหอะ”
“นายถือกระเป๋าเป้อะไรไปด้วย”
“ของใช้ส่วนตัวเธออย่าเรื่องมากรีบไปเหอะ”
เคนโซหยิบเป้สีดำใบหนึ่งแล้วเดินตามเฟื่องไปที่ห้องคอนโดแห่งนี้ก็มีความหรูหราพอควร อาจจะน้อยกว่าคอนโดที่เขาอยู่ไปบ้างเพราะเป็นคอนโดมิเนียมหรูหลักร้อยล้านซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สร้างและขาย ในย่านทำเลทองสายตาคมจึงมองดูรอบ ๆ สำรวจทุกที่ที่เดินผ่าน
“อยู่ชั้นไหน?”
“ชั้นบนสุด”
“ติ่ง!”
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมหรูร่างบางจึงเดินนำหน้าไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องของตัวเอง เธอยืนใส่รหัสห้องแต่ก็ไม่พ้นสายตาคมของเคนโซ่ที่แอบมองและจดจำได้แล้วเพราะเขาฉลาดหัวไวมากความจำเป็นเลิศ
“รีบเข้าไปสิปวดท้องไม่ใช่หรือ ห้องน้ำมีสองห้องนะนายใช้ห้องใหญ่ไปฉันจะใช้ห้องเล็กในห้องนอน”
“ขอบใจ” เคนโซ่จึงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเขานั้นเข้าไปสักพัก เฟื่องนิมมานจึงออกมานั่งรอเขาที่โซฟารับแขกพร้อมกับน้ำเย็น ๆ อีกหนึ่งแก้ว
“แกร่ก!” ร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำเขาเองก็ทำหน้านิ่ง ๆ สายตาก็สำรวจในห้องแล้วเดินมานั่งตรงโซฟาข้าง ๆ เธอ
“เฮ้อ….ค่อยยังชั่วฉันคิดว่าจะตายซะแล้ว” มือหนาหยิบน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มอย่างกระหายดวงตากลมโตที่มองดูอยู่เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่อยากให้เขาอยู่นานสักเท่าไหร่ครั้นจะไล่ไปก็จะเสียมารยาทอยู่บ้าง
“นายไม่รีบไปอาบน้ำทานข้าวเย็นเหรอโซ่ นี่มันก็หกโมงเย็นแล้วนะ”
“ฉันไม่รีบเพราะฉันจะอาบน้ำที่นี่”
“หะ ห่ะ! นายจะมาอาบห้องฉันไม่ได้ฉันไม่อนุญาต ไหนจะเสื้อผ้านายล่ะ” มือหนาหยิบกระเป๋าเป้สีดำขึ้นมาแล้วยิ้มจนตาหยี
“นายทำบ้าอะไรนี่ห้องฉันกลับไปอาบที่ห้องนายนู้น” ใบหน้าสวยเบ้ปากเธอผลักร่างสูงแต่เขากลับไม่ไหวติง เคนโซนั้นแข็งแรงและตัวโตกว่าเธอมาก
“เฟื่องอย่าใจดำแค่อาบน้ำเอง วันนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้วตอนนี้ก็หิวมากด้วยเดี๋ยวสั่งอะไรมากินด้วยกันนะ” เขาออดอ้อนพูดจาเสียงนุ่มเพราะอยากจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับเธอ เคนโซ่คิดแผนเอาไว้แล้วว่าต้องมาดูความเป็นอยู่ของอดีตแฟนสาวที่เขานั้นยังเฝ้าหวงแหนมาโดยตลอด
“หึ! ทำอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของเคนโซ่นายนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริงๆ”
“ถ้าฉันไม่หน้าด้านฉันคงไม่ได้เธอหรอก”
“ยี๊! หยุดพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาได้แล้ว”
“เหอะ! เธอเองก็แอบชอบฉันไม่งั้นไม่ตกลงยอมคบกับฉันง่าย ๆหรอก”
“แวะ! หลงตัวเองตอนนั้นฉันแค่หน้ามืดเสียสติคิดว่านายจะเป็นคนดีไม่ได้เลวแบบที่คนอื่นเขาพูดกัน”
“ชิ! เลวยังไงก็ผัวเธอนะเฟื่องผัวคนแรกด้วย” มือหนาจึงเชิดคางมนขึ้นมาให้หันมาสบตาเขาคนที่ถูกจับจึงปัดมือทิ้งและหลบสายตาคมคู่นั้นทันที
“พอๆฉันเถียงนายคงไม่มีวันชนะหรอก”
“รู้ตัวก็ดีงั้นอย่าเถียงฉันอีก ทำให้เหมือนเมื่อก่อนสิไม่เถียงไม่ถามพูดหวานๆคะขากับฉัน”
“ฮ่ะ ๆ ๆ นายฝันอยู่รึเปล่าโซ่”
“จะความฝันหรือว่าความจริงเธอก็ยังเป็นคนของฉันอยู่ดี”
“พูดมากนายจะไปอาบน้ำก็รีบไปฉันจะไปอาบแล้ว ส่วนไอ้รอยบ้า ๆนี่ถ้านายจูบฉันอีกฉันจะกัดปากนายให้เลือดสาดเลยคอยดู”
“หืม! เธอขู่ใครอยู่เฟื่อง” ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วขึ้นสูงยักไหล่ท้าทายคำขู่ของแมวที่มาขู่เสือแบบเขา
“เธออยากกินอะไรสั่งได้เลยนะเดี๋ยวฉันจ่ายเอง กินเสร็จแล้วเราก็ออกไปที่ร้านด้วยกันเธอก็ไม่มีรถขับเพราะฉะนั้นห้ามเถียง”
“เชอะ! น่ารำคาญ”
เมื่อทั้งคู่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเฟื่องที่ยังใส่เสื้อยืดธรรมดา ๆ กางเกงขาสั้น เธอรอกินข้าวเย็นก่อนถึงจะแต่งหน้าแต่งตัวเพราะเหลือเวลาอีกนาน ส่วนอีกคนแต่งตัวหล่อพร้อมออกเดินทางเพราะเขาเตรียมมาแค่ชุดเดียว
“มองอะไรฉันหล่อจนต้องตะลึงเลยรึไง” เฟื่องนิมมานรีบหันหน้าหนีกลัวเขาจะจับได้เพราะเธอแอบมองเขาอยู่เคนโซ่เขาใส่ชุดอะไรก็ดูดีไปหมด
“บ้าเอ้ย! จะหล่อไปไหน” คนที่ถูกจับได้แอบบ่นตัวเองที่เผลอไปมองจนเขาต้องแซวจนเธอหน้าแดง
“ฉันสั่งมื้อเย็นให้แล้ว”
“อื้ม! ยังจำได้ว่าฉันชอบกินอะไรดีมาก” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเฟื่องเธอสั่งอาหารที่เขาชอบทุกอย่าง เธอยังจำได้ว่าเขาชอบกินอาหารประเภทไหน
“มั่ว! ฉันไม่ได้จำแค่เห็นว่าเมนูนี้มันได้ดาวเยอะคนรีวิวเพียบต่างหากก็เลยสั่ง”
“เหรอเชื่อก็ได้” เคนโซ่ส่ายหน้าเบา ๆ เขาจึงไปหยิบจานในครัวทำตัวเหมือนกับเป็นห้องของตัวเอง เฟื่องจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันขายาวๆนั้นเดินไปอย่างคล่องแคล่ว
“เธอนั่งรอเถอะเดี๋ยวฉันจัดการเอง” เคนโซ่จัดการเตรียมอาหารทุกอย่างใส่จานอย่างดีเขาเองก็ไม่ได้ติดหรูอะไรมากมาย เพราะใช้ชีวิตสมัยเรียนก็ทำตัวสบาย ๆ แบบนี้เหมือนวัยรุ่นทั่วไปเขาค่อนข้างจะกินง่ายอยู่ง่าย
“ฉันไม่กินแป้งมื้อเย็น”
“ทำไมตัวแค่นี้จะไปมีแรงทำอะไรได้แค่เดินก็ปลิวแล้วกินข้าว”
“เดี๋ยวไปที่ร้านก็ต้องกินอีกไม่เอา”
“นี่เธอหัดเชื่อฟังฉันบ้างเถอะ ทำไมถึงดื้อผอมอย่างกับไม้เสียบรู้ตัวหรือเปล่า”
“ดุเป็นพ่อเลย” เฟื่องนิมมานจำใจตักข้าวสวยและอาหารใส่ปากเพราะเคนโซ่บังคับให้เธอกินมื้อเย็นเป็นเพื่อนเขา ซึ่งเคนโซ่เองก็ตักอาหารใส่จานให้เธอมากจนกินแทบไม่ทัน
“ยังไม่ถึงครึ่งจานเลยเฟื่อง เธอจะประชดฉันเหรอ”
“ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ เคนโซ่นายกินเถอะเดี๋ยวฉันจะนั่งรอ”
“เธอจะกินดี ๆ หรือจะให้ฉันป้อน”
“อะไรของนายมาบังคับฉันเนี่ย…”
“กินอีกหน่อยเถอะเธอกินยังไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสี่ในจานข้าวเลย เธอสวยแล้วแค่นี้ผู้ชายก็รุมแย่งไม่หวาดไม่ไหวฉันเหนื่อยที่จะต้องไปคอยกันท่าพวกมัน”
“เหอะ! กันท่ามีสิทธิ์อะไรมิทราบ”
“เดี๋ยวก็รู้”
หลังจากทานข้าวเสร็จเคนโซ่จึงเดินออกไปที่หน้าระเบียงเขาหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบ เฟื่องเองก็ไปแต่งตัวเธอเลือกชุดที่เป็นแนวเซ็กซี่เป็นเดรทรัดรูปสีดำผ่าหน้าขาและเว้าตรงอกโชว์เนินอกอวบ
“โชคดีนะที่ใช้ของแพงคอนซีลเลอร์นี่เอาอยู่ทุกจุดไอ้หมาบ้าเคนโซ่”
“เฟื่องฉันปวดหลัง” เคนโซ่เดินเข้ามาในห้องนอนของเฟื่องนิมมานเธอตกใจไม่คิดว่าเขาจะกล้าเข้ามา
“โซ่ ฉันยังแต่งตัวไม่เสร็จนายอย่าเพิ่งเข้ามาง่วงก็ไปนอนรอที่โซฟาสิ”
“ฉันปวดหลังนอนแล้วที่โซฟามันไม่สบายเธอแต่งตัวนานของีบสักหน่อย” คนที่เอาแต่ใจจึงเดินเข้ามาแล้วล้มตัวลงนอนที่เตียงนิ่มไม่สนคนที่เป็นเจ้าของที่ร้องห้าม
“ตกลงใครเป็นเจ้าของห้องกันแน่” ก่อนจะนอนเคนโซ่ถอดนาฬิกาหรูแล้ววางไว้ข้างเตียงเขาค่อย ๆ หลับตาลงช้าๆและหลับไปในที่สุด เฟื่องที่ได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอของคนตัวโตที่นอนอยู่เพราะบรรยากาศในห้องนั้นเงียบจึงเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ
“หลับจริงแฮ่ะ”