บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ฉันคืออคิรา

เอี๊ดดด!…

เสียงเบรครถสปร์อตหรูคันงามดังขึ้นหน้าสำนักพิมพ์ร่างบางของเฟื่องนิมมานรีบวิ่งลงจากรถด้วยความตื่นตระหนัก ใบหน้าสวยที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอมุ่งหน้ามาที่ห้องฝ่ายบัญชีทันที

“เฟื่องมาแล้ว”

“มันเกิดขึ้นได้ยังไงพี่นกเฟื่องคิดไม่ถึงว่าพี่จะหักหลังพวกเรา”

“พี่ไม่ได้โกงนะน้องแพมใส่ร้ายพี่ค่ะ น้องแพมนั่นแหละเป็นคนเอาเงินนั่นไป”

“เฮ้ย! อีพี่นกฉันเป็นคนจับโป๊ะพี่ได้ยังจะมาหน้าด้านใส่ความฉันอีก”

“นุ๊กพี่พัตเตอร์แพมสรุปคือยังไง ทำไมพี่นกถึงพูดแบบนี้”

“เฟื่องกูไม่ได้ทำนะกูต่างหากที่เป็นคนจับได้มึงเชื่อใจกูได้” แพมน้ำตาคลอทุกคนอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด

“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม เฟื่องนิมมาน” ร่างสูงของชายหนุ่มผู้ที่ทุกคนต่างตกใจคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาเคนโซ่เดินตามเฟื่องนิมมานเข้ามาที่ห้องฝ่ายบัญชี

“เคนโซ่นี่นายมาได้ยังไง?” นุ๊กและแพมต่างตะลึงที่เห็นเขาเข้ามาที่สำนักพิมพ์

“ฉันมาส่งเฟื่องเองเรื่องมันยาวน่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องช่วยง้างปากโจรปากแข็งสักทีอย่าให้ต้องถึงมือฉัน”

“โซ่เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายกลับคอนโดไปเถอะขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้” เฟื่องเธอไม่อยากให้เขาต้องมารับรู้เกี่ยวกับปัญหาของเธอในสำนักพิมพ์

“เหอะ! แต่เท่าที่ดูเธอจัดการไม่ได้นะเฟื่อง” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปากเบา ๆ เขามองดูทุกคนที่ต่างจัดการปัญหาและคนโกงไม่ได้

“น้องแพมค่ะ น้องแพมเป็นคนเอาเงินไปทั้งหมดนกไม่เกี่ยว” หัวหน้าฝ่ายบัญชีปฏิเสธเสียงแข็งเธอยืนยันว่าคนที่ยักยอกเงินคือแพม

“อีพี่นกทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ”

“ใจเย็นๆแพม” พัตเตอร์รุ่นพี่ที่ดูแลระบบไอทีและแอปพิเคชั่นของสำนักพิมพ์ปลอบใจรุ่นน้อง และห้ามไม่ให้แพมเข้าไปทำร้ายหัวหน้าฝ่ายบัญชี

“ทุกคนออกไปก่อนขอผมคุยอะไรกับพี่บัญชีสักสิบนาที เดี๋ยวก็คงได้คำตอบ” เคนโซ่ขอให้ทุกคนออกไปจากห้องเขามีท่าทางจริงจังและหนักแน่นสายตาเขาดูดุและน่าเกรงขามมาก

“ได้เคนโซ่พวกเราจะรอที่หน้าห้อง”

จากนั้นทุกคนจึงออกไปนอกห้องบัญชีเหลือเพียงหัวหน้าฝ่ายบัญชีและเขา ร่างสูงของเคนโซ่จึงเดินเข้ามาใกล้เธออย่างช้า ๆ และนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าหัวหน้าบัญชีที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ มือหนาจึงเชิดคางเธอขึ้นพร้อมกับถามคำถาม

“คุณช่วยพูดความจริงให้ผมฟังหน่อย”

“ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันไม่ได้ทำคนที่ทำคือน้องแพม”

“งั้นเหรอ….ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่ยอมรับผมจะใส่กระสุนที่ปืนหนึ่งนัดถ้าคุณโกหกหนึ่งครั้งผมจะยิงหนึ่งครั้ง”

ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบปืนลูกโม่ขนาดพกพาขึ้นมาเขาเลือกปืนชนิดนี้เพราะต้องการจะข่มขู่ ถ้าหากเขาต้องการจะยิงจริง ๆ คงจะไม่เลือกกระบอกนี้มา

“คะ…คุณเป็นใครเกี่ยวอะไรด้วย” หัวหน้าบัญชีพูดติด ๆ ขัด ๆ เสียงสั่นเหงื่อแตก เธอมองดูชายหนุ่มรูปหล่อแต่เขาดูน่ากลัวอำมหิตดวงตาไร้แววปราณี

“หึ! ฉันคือ อคิรา ส่วนเฟื่องนิมมานคือผู้หญิงของฉันเธอรนหาที่ตายเองนะ” ปากหยักแสยะยิ้มสายตาเยือกเย็นโทนเสียงทุ้มกดต่ำมือหนาก็ค่อยๆยื่นกระบอกปืนเล็งไปที่หัวของหัวหน้าบัญชีกำลังจะเหนี่ยวไก

“กรี๊ดดด! กลัวแล้วๆๆฉันยอมแล้ว ฮือ ๆ ๆ อย่ายิงฉันเลย” หัวหน้าฝ่ายบัญชีร้องลั่นตัวสั่นเหมือนลูกนกเธอกลัวจนฉี่ราดเพราะเคนโซ่นั้นดูน่ากลัวมาก

“บอกกูมาว่าใครเป็นคนเอาเงินเฟื่องไป”

“ฮือ ๆ ๆ ฉันเองฉันเป็นคนเอาเงินนั่นไป”

“เหอะ! เลวกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”

“เอาปืนออกไปก่อน ฮือ....”

“จะให้ฉันโทรแจ้งตำรวจเลยไหมถ้าเธอไม่เอาเงินที่เอาไปมาคืน”

“อย่านะคุณอคิรา ดิฉันขอร้องเงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะหาคมคืนคุณเฟื่องเอง อย่าแจ้งตำรวจเลยนะฮือ ๆ ๆ” หัวหน้าบัญชีร้องไห้เธอกลัวเขามากจึงนั่งลงไปกับพื้นกอดขาของเคนโซ่เพื่อขอความเห็นใจไม่ให้แจ้งความเอาผิด

“เธอรู้ตัวไหมนอกจากเธอทำผิดยังไม่ยอมรับแล้วยังโยนความผิดให้กับแพมเพื่อนของเฟื่องอีก เธอเป็นคนที่เลวสมบูรณ์แบบจริง ๆ”

“อึก! ฮือ ๆ ๆ ขอร้องฉันไหว้คุณแล้วก็ได้อย่าแจ้งความนะฉันมีครอบครัวต้องดูแล” หัวหน้าบัญชียกมือไหว้เขาและสะอื้นไห้

ทางด้านหน้าประตูที่มีพัตเตอร์เฟื่องนุ๊กและแพมแอบฟังอยู่ทุกคนได้ยินทุกคำพูดของเคนโซ่และหัวหน้าฝ่ายบัญชี และต่างต้องตกใจล้มกลิ้งเสียหลักเพราะเคนโซ่ดึงประตูเพื่อเปิดให้ทุกคนเข้ามา

“แกร่ก”

“ว๊ายย!…ตาเถร!”

“แอบฟังฉันคุยกับขโมยอยู่ละสิ ชิ!”

“ไม่ต้องแอบเสียงดังลั่นห้องขนาดนั้นฉันได้ยินหมดแล้ว” เฟื่องนิมมานที่ได้ยินทุกอย่างที่เคนโซ่พูดโดยเฉพาะประโยคที่เขาบอกหัวหน้าฝ่ายบัญชีไปว่า

“หึ! ฉันคือ อคิรา ส่วนเฟื่องนิมมานคือผู้หญิงของฉันเธอรนหาที่ตายเองนะ” ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเธอรู้สึกตื่นเต้นหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง

“หมดหน้าที่ฉันแล้วนะเฟื่องส่วนเรื่องเงินหรือคดีความ เธอให้ฝ่ายนิติจัดการหรือจะจ้างทนายก็ได้”

“ไม่ค่ะคุณเฟื่องพี่นกจะคืนเงินที่ยักยอกไปทุกบาททุกสตางค์เองค่ะ พี่ไม่ได้ใช้เงินนั่นเลยสักบาทและพี่ก็ขอโทษน้องแพมด้วยที่ใส่ร้าย ขอโทษทุกๆคนจากใจค่ะที่ทำอะไรแย่ ๆ ลงไป”

“ดีค่ะพี่นก แพมถือว่าเป็นบทเรียนนะคะพี่อย่าทำแบบนี้กับใครอีก”

“พี่นกเฟื่องคงต้องไล่พี่ออกและจะไม่ให้เงินเดือนพี่ลาออกสามเดือนแบบคนอื่น”

“ขอบคุณน้องเฟื่องแค่นี้พี่นกก็ดีใจมากแล้วค่ะ นี่คือสมุดบัญชีเงินฝากของพี่เงินทั้งหมดอยู่ในนี้ค่ะ” หัวหน้าบัญชียื่นสมุดบัญชีเงินฝากให้เธอและเฟื่องนิมมานจึงรับเอาไว้เธอเปิดดูก็พบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีสิบล้านบาทจริงๆ

“งั้นเราไปที่ธนาคารกันค่ะพี่นกไปกับเฟื่องและเคนโซ่ เพราะเขามีปืน ถ้าพี่ตุกติกคิดจะหนีหรือไม่คืนเฟื่องคงต้องพึ่งเขา” ใบหน้าสวยหันไปสบตาร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่เขาพยักหน้าตอบรับพร้อมที่จะไปกับเธอ

“ให้พี่ไปด้วยไหมน้องเฟื่อง” พัตเตอร์หนุ่มหล่อเนิร์ดถามรุ่นน้องเจ้าของสำนักพิมพ์ด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะพี่พัตเตอร์ แค่โซ่คนเดียวเขาไหวถึกอย่างกะวัว”

“นี่! เฟื่องเธอหลอกด่าฉันเหรอ” เคนโซ่ถลึงตาใส่เฟื่องทันที

“คิ!คิ!..” ทุกคนต่างหัวเราะที่ได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน

“เฮ้อ….หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะ สงสัยคงต้องได้ทำบุญใหญ่สำนักพิมพ์กันแล้วพวกเรา

“อีนุ๊ก มึงรู้จักพระสงฆ์องค์เจ้ากะเค้าด้วยเหรอ”

“อ้าว อีนี่เดี๋ยวเถอะ”

หลังจากนั้นเคนโซ่จึงอาสาขับรถพาเฟื่องและหัวหน้าฝ่ายบัญชีไปธนาคารที่ใกล้ที่สุด เขานั้นขับรถไปด้วยความระมัดระวังไม่เหมือนตอนขามาที่เร็วเหมือนพายุเมื่อเสร็จธุระเงินถูกถอดแล้วนำมาฝากเข้าบัญชีสำนักพิมพ์ทั้งหมดเคนโซ่จึงพาเธอกลับสำนักพิมพ์

สำนักพิมพ์นิมมาน

“พวกเราทุกคนต้องขอบคุณเคนโซ่จากใจจริงนะ” นุ๊กที่นั่งอยู่ในห้องทำงานของเฟื่องและทุกคนก็มารวมตัวที่ห้องนี้

“ไม่เป็นไรฉันไม่ได้ลำบาก”

“เฟื่องแล้วรถแกล่ะ”

“อยู่ที่กองถ่ายพรุ่งนี้ค่อยไปเอา”

“แกเชื่อใจฉันใช่ไหมเฟื่อง ตอนที่พี่นกกล่าวหาว่าฉันเป็นคนเอาเงินไป?”

“อื้ม! ฉันไว้ใจแกฉันไม่เชื่อพี่นกนั่นหรอก”

“ขอบคุณนะเฟื่องฉันรักแก” เพื่อนรักทั้งสามนุ๊กเฟื่องและแพมยืนกอดกันด้วยความตื้นตันใจเพราะทุกคนรักสำนักพิมพ์นี้มากและรักเพื่อนมากเช่นกัน มิตรภาพของพวกเธอนั้นสำคัญมากกว่าเงินทอง

“ผัวโซ่ขาาา…คืนนี้เมียนุ๊กจะพาผัวไปฉลองนะคะถือว่าเป็นการขอบคุณ” นุ๊กเดินมานั่งเบียดเคนโซ่ที่โซฟารับแขกเอาหัวมาซบไหล่หนาของเขาอย่างออดอ้อน

“มีใครไปบ้าง”

“ก็มีพวกเราทุกคนนี่แหละ”

“นุ๊กฉันไม่ไปได้ไหมแกรู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะไข้” เฟื่องนิมมานที่เธอนั้นไม่อยากไปเพราะเคนโซ่ไปด้วยเธอเลือกที่จะปฏิเสธ

“อีเฟื่องมึงนั่นแหละยิ่งต้องไปเคนโซ่มันอุตส่าห์ขับรถมาส่งเป็นธุระให้ทุกอย่าง”

“เออ ๆ ไปก็ไปแต่กูขอไปโฮสนะ”

“ชิ! ทั้งปีแหละมึงอีเฟื่องติดน้องริวกิล่ะสิ”

“เปล่าน้องเค้าติดกูต่างหากอีนุ๊ก”

“งั้นเจอกันที่ร้านสี่ทุ่มนะทุกคนวันนี้แยกย้ายกันแค่นี้ฉันขอตัวกลับคอนโดก่อน” เฟื่องบอกลาทุกคนและเดินสะพายกระเป๋าออกจากห้องแล้วไปยืนรอรถที่หน้าสำนักพิมพ์

“เธอทำไมถึงไม่ให้ฉันไปส่ง” รถสปอร์ตหรูสีเทาของเคนโซ่จอดอยู่ตรงหน้าเขาถามเธออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

“ฉันเรียกรถสะดวกกว่านายกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ ขอบคุณมากนะโซ่”

“ถ้าเธอไม่อยากติดหนี้บุญคุณฉันอีกเรื่องก็ขึ้นรถมาฉันจะไปส่งเอง”

“ไม่ง่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเหล้านายเองที่บาร์”

“เฟื่องนิมมานอย่าทำให้ฉันโกรธถ้าฉันลงไปฉันเอาเธอในรถแน่” สายตาคมและน้ำเสียงดุดันของเคนโซ่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่พอใจจึงขยับตัวกำลังจะเปิดประตูรถ เพื่อลงไปลากตัวคนดื้อให้ขึ้นรถไปกับเขาเฟื่องรู้จักนิสัยเขาดีว่าเขาเป็นคนพูดจริงทำจริงจึงรีบเปิดประตูรถแล้วเข้านั่งอย่างว่าง่าย

“ไอ้บ้า นายมันโรคจิต”

“เหอะ! เร็ว ๆ ฉันร้อน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel