บทที่ 11ฉันมันเลวในสายตาเธอ
กองถ่าย
“พี่โก้คะเฟื่องมีธุระด่วนที่สำนักพิมพ์ค่ะ”
“มีเรื่องอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะเฟื่องรีบไปขอตัวก่อนนะคะ แพมโทรมาบอกว่าให้รีบไปด่วน”
“โอเคครับค่อย ๆ ขับนะพี่เป็นห่วงถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย”
“ค่ะ” ร่างบางที่รีบร้อนเพราะเธอได้รับสายจากเพื่อนเนื่องจากแพมตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินยักยอกรายได้ของสำนักพิมพ์ เฟื่องจึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากกองถ่ายแล้วตรงไปที่รถของตัวเอง
“พรึบ!”
“อุ๊ย!” มือบางที่กำลักจะเปิดประตูรถหรูถูกมือหนาของเคนโซ่ดึงเอาไว้และเขาเอาตัวเองยืนขวาง
“เธอต้องไปกับฉัน” เคนโซ่แอบตามเธอมาและบังคับฉุดกระชากเธอให้ไปขึ้นรถกับเขา
“โซ่อย่ามายุ่งกับฉันตอนนี้ได้ไหม ฉันกำลังรีบ”
“รีบไปไหนไปหาผัวคนใหม่?”
“อี๊! ทำไมฉันต้องมาเถียงกับคนแบบนายด้วยโน้นเมียนายอยู่ในกองถอยไป”
“เหอะ! หึงเหรอ…”
“หึงบ้าหึงบออย่างนายนี่นะฉันขยะแขยง”
“เธอต้องมาคุยกับฉันก่อนจะหนีไปแบบนี้ไม่ได้”
“โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรของนายมีคนโกงเงินฉันที่สำนักพิมพ์นายถอยไปฉันต้องไปจัดการ”
“เธอลืมไปแล้วเหรอว่าติดค่าข้าวฉันหนึ่งมื้อ”
“โซ่ฉันขอร้องนะฉันรีบจริง ๆ” ร่างบางน้ำตาคลอเบ้าตาแดงก่ำเธอรู้สึกกังวลใจมากและไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาตอนนี้
“มาเถอะเฟื่องเธออย่าลืมสิว่าฉันจัดการให้เธอได้”
ในรถ
เฟื่องนิมมานที่ตอนนี้ตกใจและกังวลเธอจึงยอมนั่งรถไปกับเคนโซ่ทั้งคู่ต่างไม่มีใครพูดอะไร ร่างบางเอาแต่เหม่อลอยสายตาเพ่งมองไปข้างทางบรรยากาศในรถเงียบสงัดมีเพียงเสียงเพลงสากลที่เคนโซ่เปิดคลอเบา ๆ
Rrrrrrrrrrrrrrrr! เสียงโทรศัพท์ของเฟื่องนิมมานได้ดังขึ้น
แพม : ฮัลโล...เฟื่องมึงอยู่ไหนรีบ ๆ หน่อยพี่การเงินกำลังจะหนีฉันกับพี่พัตเตอร์และอีนุ๊กช่วยกันจับนางไว้
เฟื่อง : อยู่ในรถแพมอย่าให้นางหนีนะฉันจะจัดการให้เด็ดขาด แกตรวจดูดีแล้วใช่ไหมว่านางโกง
แพม: อื้อ! ทำใจดี ๆ นะเฟื่อง เท่าที่ฉันเจอเงินหายไปกว่าสิบล้าน
เฟื่อง : สิบล้าน ……. ฮือๆ ๆ ๆ
หลังจากวางสายเฟื่องนิมมานร้องไห้ออกมาเธอสติหลุดเพราะมูลค่าความเสียหายมันมากมาย เคนโซ่ที่มองดูอยู่และได้ยินทุกอย่างเขารู้สึกปวดใจและอยากจะช่วยเธอจึงหักพวงมาลัยจอดรถข้างทาง
“นายจอดทำไมสมน้ำหน้าฉันล่ะสิ…ฉันไม่มีอารมณ์จะมาเถียงนายตอนนี้หรอกนะโซ่” ใบหน้าสวยมุดหน้าลงเธอไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาเพราะหลังจากวันนั้น วันที่เกิดเรื่องที่โรงอาหารสมัยเรียนเธอร้องไห้ให้เขาเห็นเป็นครั้งสุดท้าย
“ฉันเป็นคนเลวในสายตาเธอขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฮือ ๆ ๆ ตามสบายจะหัวเราะจะเย้ยฉันก็เอาให้เต็มที่นะ”
“อย่าร้องไห้เฟื่องฉันไม่ชอบ”
“อึก! ไม่ชอบก็อย่ามาอยู่ใกล้ฉันที่ผ่านมาชีวิตฉันที่ไม่มีนายมันก็สงบและมีความสุขมาก ตั้งแต่เจอนายฉันก็ซวยตลอด”
“อย่าร้องฉันรู้สึกเจ็บ” มือหนาปาดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าสวยเขามองดูเธอด้วยความรู้สึกสงสารและเจ็บปวด มือหนาอีกข้างก็ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองแล้วเอี้ยวตัวเข้าไปกอดอดีตแฟนสาวอย่างอ่อนโยนนี่เป็นครั้งแรกที่เขาดูอบอุ่นและอ่อนโยนกับเธอ
“ฮือ ๆ ๆ ฉันต้องทำยังไงโซ่” ร่างบางร้องไห้จนตัวโยนเธอสั่นไปทั้งตัวใบหน้าสวยซบที่อกแกร่ง กลิ่นกายหอมจากน้ำหอมราคาแพงที่เป็นเอกลักษณ์เป็นกลิ่นเดิมเคนโซ่ยังคงตัวหอมเหมือนเดิม
“ฉันจะช่วยเธอเอง” มือหนาลูบไปที่หัวทุยของอดีตแฟนสาวเป็นการปลอบทั้งคู่ต่างกอดกันอยู่แบบนั้นนานหลายนาที เมื่อเฟื่องนิมมานเริ่มตั้งสติได้จึงดันตัวออกมาจากอ้อมกอดเขา
“นายควรจะอยู่กับพิมพ์มาดาไม่ใช่ฉัน และฉันเห็นนายกับเธอทำอะไรกันที่ห้องน้ำไม่ได้ตั้งใจจะมอง”
“น่ารักนะ” ปากหยักกระตุกยิ้มเขามองดูคนที่ร้องไห้ไม่ห่วงสวยถึงเธอจะร้องขนาดไหนมันก็สวยอยู่ดี
“อื้ม! ก็เป็นดาวมหาลัยและเป็นนางเอกด้วยไม่น่ารักก็แปลกนายเองก็คลั่งรักเธอขนาดนั้น” เธอพูดถึงพิมพ์มาดาตามความรู้สึก
“บื้อ! เธออัจฉริยะด้านการแต่งนิยายแต่โง่เรื่องอื่น” ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าสะสวยที่มีแต่น้ำตา ร่างบางที่ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาเพราะมันใกล้มาก
“ฉันไม่ได้เข้าหาพิมพ์ก่อนเธอเป็นคนหลอกฉันให้เดินไปส่งที่ห้องน้ำ และหล่อนก็เป็นคนมาจูบฉันเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
“นายจะมาบอกฉันทำไม”
“บอกไว้ก่อนฉันอาจจะดูดีขึ้นมาบ้างในสายตาเธอนะเฟื่อง”
“ฝันไปเถอะ…เหอะ!” ใบหน้าสวยหันหน้าหนีเธอไม่อยากจะฟังคำพูดหวานหูที่เคยหลงของผู้ชายเจ้าชู้อย่างเขาอีก
“เฟื่อง”
สิ้นเสียงเรียกเฟื่องจึงหันหน้ามาแต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะใบหน้าหล่อเหลาราวรูปปั้นเทพบุตรยื่นมารอรับหน้าสวยเอาไว้ ปากบางจึงเผลอไปโดนปลายจมูกโด่งรั้นเป็นสันเคนโซ่ยิ้มเพราะเขาตั้งใจจะให้ร่างบางหันหน้ามาชนกับหน้าเขา
“อื้ม!”
“ฉันอยากจะจูบเธอ”
ร่างบางที่ได้ยินประโยคคุกคามนั้นตัวแข็งและหูอื้อไปหมดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เผลออีกทีปากของเขาก็จูบไปที่ปากบางสีชมพูของเธอเสียแล้วเคนโซ่บรรจงจูบเธออย่างละมุน ครั้งนี้เขาดูละเมียดละไมอ่อนโยนและใจเย็นกว่าครั้งก่อนเพราะบรรยากาศที่พาไปและความต้องการลึก ๆ เฟื่องนิมมานที่ไม่เคยให้ชายคนไหนจูบนอกจากเคนโซ่ จึงเผยอปากอ้ารับลิ้นสากของเขาให้เข้ามาในโพรงปากเล็กเธอลืมตัวตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง
“ฉันคิดถึงเธอ”
“อื้อ….” ปากเล็กครางเสียงเบาในลำคอเธอตื่นเต้นและรู้สึกดีแบบแปลก ๆ เคนโซ่ช่ำชองกับเรื่องแบบนี้มากเขาสามารถทำให้เฟื่องเคลิ้มไปกับรสจูบอันแสนหวาน มือหนาที่จับตรงไหล่บางเลื่อนมาคลำที่หน้าอกอวบเต็มมือเขานั้นบีบและล้วงเข้าไปที่คอเสื้อยืดรัดรูปที่มันเว้าลึกจนเห็นเนินออกสวย
“อ่าส์! เฟื่อง”
“อื้อ...เคนโซ่อย่าทำแบบนี้”
“ฉันหยุดไม่ได้แล้วทูนหัว”
เมื่อพูดจบมือหนาที่ซุกซนจึงแหวกคอเสื้อยืดรัดรูปสีขาวออกมันง่ายมาก เพราะแค่กระตุกนิดหน่อยเสื้อก็หลุดเผยให้เห็นเต้าแฝดสวยขนาดเต็มมือที่ซ่อนอยู่ในบาร์สีขาวสะอาดเต็มตา ทั้งความสวยและขนาดที่มันสมส่วนใบหน้าหล่อเหลาไม่รอช้าก้มลงไปกดจมูกดอมดมกลิ่นกายสาวที่มันติดจมูกเขานั้นไม่เคยลืมเลือน ปากหยักดูดตามซอกคอยาวไล่ลงมาที่เนินอกอวบสร้างความสยิวจนร่างบางต้องหลับตาพริ้มและกัดปาก
“งื้อ! พะ…พอก่อน” มือบางพยายามดันไหล่หนาของเขาออกแต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งดูดแรงขึ้น
“นี่คือการลงโทษแบบของฉันข้อหาแต่งตัวโป๊” ปากหยักจึงขบไปที่เนินอกและดูดจนเกิดรอยแดงทิ้งร่องรอยฟันและรอยจูบเต็มไปหมดผิวขาว เนียนนั้นแดงไปทั้งตัว เขานั้นแทบคลั่งเฟื่องนิมมานทำเขาเตลิดอารมณ์พลุ่งพล่าน
“ได้โซ่พอเถอะอย่าทำแบบนี้…”
“และนี่รอยดูดตรงคอนี้เป็นการลงโทษที่เธออ่อยผู้กำกับนั่นต่อหน้าฉัน” เคนโซ่ดูดไปที่คอยาวอีกครั้งเขาดูดจนเกิดรอยแดง
“อ๊าส์! ฉันต้องไปสำนักพิมพ์เคนโซ่หยุด”
เมื่อเคนโซ่พึงพอใจที่เขาได้แกล้งอดีตแฟนสาวและแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการฝากรอยรักเอาไว้บนตัวเธอ เขาจึงหยิบเสื้อคลุมของตัวเองหลังรถมาสวมให้ร่างบางเพราะถ้าปล่อยให้เธอลงรถไปในชุดเดิมคนที่มองดูก็รู้ว่าเธอไปทำอะไรมา
“ใส่เอาไว้ถ้ายังแต่งตัวแบบนี้อีกฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเธอแน่”
“นายมันบ้าเคนโซ่”
“หึ! รู้ช้าไปนะเธอ”
ทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปสำนักพิมพ์นิมมานและเคนโซ่ขับรถสปอร์ตหรูเหยียบไปด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน เขานั้นต้องการไปให้ถึงเร็วที่สุดและไปจัดการคนที่กล้าโกงเงินของคนที่เขานั้นหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด
“กรี๊ดดด! ขับเร็วเกินไปแล้วโซ่ฉันกลัว”
“รถฉันมันเร็วได้กว่านี้อีกเฟื่อง”