วิวาห์เลี้ยงเดี่ยว

41.0K · ยังไม่จบ
ไหมขวัญ
145
บท
19.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มัตสยาตกใจเขาแทบทรุด ที่จู่ ๆ ท่านประธานสุดหล่อผู้ไม่สนใจผู้หญิงก็มาขอเลขาแม่หม้ายลูกติดอย่างเธอแต่งงาน “เฮ้อ! คุณนี่นะ ดื้อจริง ๆ” วาทีถอนหายใจแล้วจับหญิงสาวให้หมุนตัวมาเผชิญหน้ากัน และด้วยความที่เพิ่งตื่นทำให้มัตสยายกมือขึ้นบังหน้าตัวเอง มองลอดผ่านระหว่างนิ้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกลั้นขำอยู่ เลยอดไม่ได้ที่จะถามเสียงเขียว “อะ อะไรคะ” “ผมเพิ่งรู้นะว่านอนแล้วตื่นขึ้นมาเจอใครสักคนแบบนี้มันก็รู้สึกดีเหมือนกัน” ชายหนุ่มว่าพลางกอดกระชับร่างสมส่วนที่นอนตัวแข็งทื่อ “ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าไม่เคยตื่นแล้วมาเจอผู้หญิงบนเตียงน่ะ” มัตสยาไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงเง้างอดที่พูดออกไปนั้นมันทำเอาวาทีถึงกับหลุดยิ้มออกมา “หึงเหรอ” “ไม่ใช่ค่ะ” มัตสยาลดมือลงพร้อมกับปฏิเสธเสียงสูง วาทีเห็นความลนลานนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “แต่มันคนละความรู้สึกนี่ อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่ปัจจุบันกับอนาคตผมกำหนดมันได้นะ ว่าที่ตรงนี้จะให้ใครอยู่” ชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นจิ้มหน้าผากคนที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองเบา ๆ “เห็นตอนทำงานเนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ปากหวานใช่เล่นนะคะ” “ชิมดูไหมล่ะ” “หื้อ” มัตสยาส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไว ใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก และแทบกลั้นใจตายเมื่อชายหนุ่มคะยั้นคะยอ “น่าชิมหน่อยเถอะ” “ไม่เอาค่ะเกรงใจ” มัตสยาคิดว่าตัวเองปฏิเสธเสียงหนักแน่น ทว่าจริง ๆ แล้วมันทั้งสั่นและแผ่วเบา “คนกันเองเกรงใจทำไม อีกอย่างผมเต็มใจนะ” วาทีกระซิบที่ข้างใบหู ทำเอามัตสยาถึงกับขนลุกซู่ “ไม่เอาค่ะ มัทยังไม่ได้แปรงฟันเลย” “ผมไม่ถือ” วาทีดึงมือที่ปิดปากตัวเองของมัตสยาออกแล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยดึงหญิงสาวเขามาชิดขึ้นกว่าเดิม แล้วใช้ปากประทับลงบนปากเม้มเอาไว้แน่น เพียงเท่านั้นมันก็คลายออกให้เธอได้พิสูจน์ความหวานจากปากของเขาว่าจริงเท็จแค่ไหน แม้จะไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาแค่เรื่องจูบมัตสยาผ่านมันมาแล้ว คิดเอาไว้ว่าถ้าโดนจริง คงพอรับมือได้ ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย อ่อนระทวยกับสัมผัสและจุมพิตที่ชายหนุ่มมอบให้ จนเคลิบเคลิ้มตอบสนองกลับตามที่เขานำพา “อยากไปต่อไหม” มัตสยาพยักหน้า ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วรีบส่ายหน้าพร้อมกับยกมือกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองอย่างเขินอายที่ร่างกายเผลอไปตอบรับเขาเสียอย่างนั้น “ซื่อสัตย์กับตัวเองหน่อยสิ” วาทีบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ขยับตัวลุกขึ้นแล้วก้มลงจูบที่มุมปากของหญิงสาวเบา ๆ “แต่วันนี้ไม่ได้หรอก บอกแล้วไงผมไม่ทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้าเด็ก และที่สำคัญไว้เราแต่งงานกันก่อนดีกว่า ฉะนั้นถ้าอยากกินผมก็แต่งงานกับผมซะ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานเลขาพลิกชีวิตแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆเศรษฐีโรแมนติกพระเอกเก่ง

ตอนที่ 1 มรสุมชีวิต (1)

1

มรสุมชีวิต

มัตสยานั่งมองลูกน้อยที่กำพร้าพ่อตั้งแต่ยังแบเบาะ สลับกับคนเป็นพ่อที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังจากที่สามีของเธอทิ้งไปไม่นาน คนเป็นพ่อก็ลื่นล้มจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและตอนนี้ก็กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ทำให้ตอนนี้มัตสยากลุ้มใจเอามาก ๆ ทั้งลูกน้อยทั้งคนเป็นพ่อ เธออยากออกไปหางานทำ แต่ยังคิดไม่ตกว่าจะเอาอย่างไรดี

“เชื่อแม่เถอะว่าดูแลได้ พ่อแกก็ไม่ได้ดูแลอะไรมากมาย จริงไหมหลานยาย” นางมินตราหันมาหยอกล้อหลานสาววัยกำลังน่ารัก อย่างเอ็นดูระคนสงสาร ไม่คิดว่าครอบครัวของลูกสาวจะมาพังทลายลงเพราะมือที่สาม

“ไม่ได้หรอกค่ะ” มัตสยาแย้ง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามันลำบากมากแค่ไหน ลำพังแค่ลูกสาวของเธอวันไหนงอแงก็เล่นเอาไม่ได้พักเลยทีเดียว ถ้าปล่อยให้แม่ที่อายุมากแล้วมาดูแลผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กับเด็ก

แบเบาะคงได้เหนื่อยจนล้มป่วยไปอีกคนแน่ “มัทว่าจะจ้างคนมาเลี้ยงยัยหนู เอาแค่ช่วงที่มัทไปทำงานก็พอ”

“เปลืองเปล่า ๆ เก็บเงินไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า ตอนนี้เสาหลักมีแค่แกแล้วนะมัท” นางมินตรามองลูกสาวอย่างเห็นใจ ลูกก็ยังเล็กผัวก็มาทิ้งงานก็ยังไม่มีทำ

“ค่ะ” มัตสยาพยักหน้ามองอีกสามชีวิตที่ตัวเองจะต้องดูแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ เรื่องงานบางทีเธออาจจะต้องให้ญารินดาเพื่อนสนิทลองช่วยดูให้อีกแรง ไม่สนหรอกว่าการที่จะได้งานมาจะเป็นเด็กเส้นหรือไม่เส้น ขอเอาตัวให้รอดจากวิกฤตในครั้งนี้ให้ได้ก่อน

และในขณะที่นั่งใคร่ครวญอยู่นั้นเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น “แม่ดูยัยหนูให้หน่อยนะคะจะไปดูก่อนว่าใครมา” นางมินตราไม่ได้ตอบรับ แต่ยกหลานสาวขึ้นมาอุ้มและหยอกล้อ ทำให้หนูน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ

มัตสยาเดินไปชะเง้อคอมองไปก่อนจะขมวดคิ้วกับรถตู้ไม่คุ้นตาที่จอดรออยู่หน้าบ้าน “มาหาใครคะ” เธอถามชายที่ยืนหันหลังให้ และพออีกฝ่ายหันมาเธอถึงกับเปิดยิ้ม เพราะเป็นคนขับรถที่แสนจะคุ้นตา “ยัยวายเหรอคะ”

“ใช่ครับ” อีกฝ่ายตอบรับกลับมาอย่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเมื่อก่อนหญิงสาวไปเที่ยวเล่นที่บ้านของเจ้านายบ่อย ๆ

“งั้นเข้ามาเลยค่ะ” มัตสยารีบเปิดประตูบ้านให้รถตู้คันใหญ่ได้วิ่งเข้าไปในบ้าน โดยที่พอเธอปิดประตูเสร็จก็รีบวิ่งไปหาคนที่กำลังลงจากรถ “ยัยวาย...”

“ไงแก” ญารินดาที่ในอ้อมแขนมีลูกน้อยวัยสามเดือนหันมาทักทายคนที่วิ่งเข้ามากอดเธออย่างดีใจ

“นาดามาให้น้าอุ้มหน่อยเร็ว น่ารักตัวโตเท่าพี่ของขวัญแล้วนะเนี่ย” มัตสยายกเด็กน้อยแก้มยุ้ยมาอุ้มและหอมให้สมกับความคิดถึง ก่อนจะหันไปทักทายชายหนุ่มรูปหล่อที่จูงมือลูกสาวคนโตอย่างน้องนาเดียร์ลงจากรถ “สวัสดีค่ะพี่แดนน้องนาเดียร์”

“สวัสดีค่ะ น้องของขวัญล่ะคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้แล้วถามหาน้องน้อยอีกคน

“ในบ้านกับคุณยายค่ะ” บอกแค่นั้นเด็กน้อยก็วิ่งฉิวเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคย “เข้าบ้านกันเถอะ ฉันกำลังคิดถึงแกอยู่พอดี”

ญารินดามองหน้าเพื่อนที่ดูหม่นเศร้าแล้วพยักหน้ารับ ตบบ่าอีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ “แสดงว่าใจเราตรงกันสินะ ว่าแต่คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” หญิงสาวถามขณะเดินเข้าไปข้างในบ้าน

“ได้มาอยู่บ้านเหมือนสีหน้าจะสดใสขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ยังบ่นเก่งเหมือนเดิม” ตอนท้ายมัตสยากระซิบเบา ๆ เพราะคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงนั่งเล่นกับหลานอยู่ที่โซฟา

ญารินดากับแดนไทยกมือไหว้ผู้สูงวัยทั้งสองแล้วถามสารทุกข์สุกดิบพวกท่านเล็กน้อย ก่อนจะหันมาคุยกับมัตสยาที่มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา

“พี่เชนได้มาหาลูกบ้างไหม” ญารินดาถามถึงอดีตสามีของเพื่อนรัก เท่าที่รู้ตั้งแต่คลอดเคยมาครั้งเดียวจากนั้นก็เงียบหายไปเลย จนตอนนี้น้องของขวัญก็เจ็ดเดือนเข้าไปแล้ว

“ช่างเถอะ เลิกกันแล้วไม่มาก็อย่ามาวุ่นวาย”

“แต่เขาเป็นพ่อน่าจะรับผิดชอบบ้างนะ” ญารินดาแย้ง เธอรู้ดีว่าการเลี้ยงลูกคนเดียวท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้มันยากลำบากมากแค่ไหน

“ตัวพี่เชนไม่เท่าไหร่หรอกแก แต่แฟนใหม่เขาน่ะสิ พี่เชนมาเยี่ยมลูกครั้งเดียวโทรมาต่อว่าฉันว่าอยากได้ผัวคืนเอาลูกมาอ้างโน่นนี่นั่นบลา ๆๆๆ ฉันทนไม่ได้เลยด่าไปทั้งผัวทั้งเมีย งี่เง่ามากก็ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันดีที่สุด” คิดแล้วมัตสยาก็ได้แต่ส่ายหน้า ถ้าให้อดีตสามีมาร่วมรับผิดชอบลูกแล้วต้องมาประสาทเสียเพราะแฟนใหม่ของอีกฝ่าย สู้เธอเลี้ยงคนเดียวไม่ดีกว่าหรือ

ญารินดาที่เพิ่งรู้เรื่องฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ “ฉันก็ว่างั้นแหละ แล้วแกจะเอาไงต่อ” หญิงสาวมองหลานสาวตัวน้อยที่ตอนนี้คนเป็นยายและตา รวมถึงลูกสาวคนโตของเธอกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน

“ว่าจะปรึกษาเรื่องนี้อยู่พอดี ฉันอยากไปทำงาน...” พูดยังไม่ทันจะจบประโยคดีด้วยซ้ำแดนไทที่ตอนนี้รับหน้าที่ดูแลลูกสาวคนเล็กอยู่ก็แทรกขึ้น “พี่ช่วยได้นะ”