3
3
นกยูง....
ฉันนั่งรอแม่จนหลับไปตอนไหนไม่รู้รู้ตัวอีกทีก็ตอนแม่มาปลุก
"นกยูงตื่นลูก"
"ฮืออ แม่ให้เลือดเสร็จแล้วเหรอคะ"
"เสร็จแล้วจ๊ะเรากลับกันเถอะนะ"
"แล้วคุณลุงล่ะคะ"
"ตอนนี้คุณหมอยังรักษาอยู่ข้างในคุณพยาบาลบอกว่าให้เรากลับก่อนก็ได้ไว้เราค่อยมาเยี่ยมคุณลุงวันหลัง"
"ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ครอบครัวคุณลุงมีใครมาเยี่ยมคุณลุงบ้างหรือยังคะแม่"
"อันนี้แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เดี๋๋ยวคุณพยาบาลคงติดต่อครอบครัวคุณลุงเองส่วนเรากลับกันเถอะแม่ต้องกลับไปเก็บของที่ร้านอีก"
หลายวันต่อมา.....
"แม่คะวันนี้เราไปเยี่ยมคุณลุงกันมั้ย" ฉันถามแม่ตอนที่เรากำลังช่วยกันเก็บของกลับบ้าน
"นกยูงอยากไปเยี่ยมคุณลุงเหรอลููก"
"ค่ะนกยูงเป็นห่วงคุณลุงไม่รู้มีใครไปเยี่ยมบ้างหรือยัง" แม่ชั่งใจคิดคครู่นึงก่อนจะตอบ
"ถ้านกยูงเป็นห่วงคุณงั้นเราก็ไปเยี่ยมคุณลุงกัน"
"นกยูงรู้ว่าแม่เองก็เป็นห่วงคุณลุงเหมือนกันใช่มั้ยคะ^^"
"ก็เป็นห่วงตามประสาคนรู้จักกันน่ะลูก"
"แน่นะคะ นกยูงว่ามากกว่านั้นน๊าาาา" ฉันแซวแม่ตัวเองเพราะฉันสังเกตหลายครั้งที่เวลาคุณลุงมาทานอาหารที่ร้านแม่จะยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนคนกำลังมีความรักถึงฉันจะไม่เคยมีความรักแต่ฉันก็ดูออกเพราะฉันอ่านนิยายบ่อยๆ อาการแม่เหมือนคนตกหลุมรักเลยส่วนคุณลุงก็เช่นกันชอบแอบมองแม่อยู่บ่อยๆ เวลาแม่เผลอ ถ้าให้เดาฉันคิดว่าคุณลุงกับแม่คงมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ฉันไม่ว่าอะไรแม่หรอกนะถ้าแม่จะมีความรักฉันอยากเห็นแม่มีความสุขมีคนดูแล คุณลุงจากที่ฉันรู้จักคุ้นเคยทัศนคติของท่านดีมากๆ ท่านสอนให้ฉันรู้จักชีวิตรู้จักมองโลกในความเป็นจริงคุณลุงบอกว่าฉันน่ะโลกสวยเกินไปท่านกลัวฉันจะโดนหลอก ท่านสอนว่าเวลาจะคบใครก็ดูให้ดีๆ ให้เผื่อใจไว้บ้างซึ่งฉันก็จำและรับฟังทุกอย่างที่ท่านสอน เท่าที่รู้จักมาท่านก็เป็นคนดีคนหนึ่งแต่ของแบบนี้มันก็ต้องดูกันยาวๆ ฉันกลัวว่าแม่จะเจ็บอีกฉันรู้ว่าแม่มีอดีตที่ไม่ดีฝังใจแม่ถ้าคุณลุงเป็นคนดีจริงๆ ฉันก็อยากให้ท่านดูแลแม่แทนฉัน ถึงท่านจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรขอแค่เป็นคนดีก็พอฉันขอเท่านี้จริงๆ
เราสองคนมาถึงโรงพยาบาลแม่กับฉันก็เดินไปถามพี่พยาบาลที่นั่งอยู่หน้าเคาท์เตอร์ว่าอาการคุณลุงเป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่ทราบว่าคนไข้ชื่ออะไรคะ"
"เอ่อ ชื่อ...ชื่อ" ฉันกับแม่ต่างพากันอ้ำอึ้งเพราะจนถึงตอนนี้ฉันกับแม่ก็ยังไม่รู้จักชื่อคุณลุงเลย
"ชื่อคนไข้ฉันไม่ทราบค่ะแต่เมื่อวันก่อนฉันเป็นคนให้เลือดเค้าน่ะค่ะ"
"ขอทราบชื่อคุณด้วยค่ะ" จากนั้นแม่ก็บอกชื่อแม่ไปจนกระทั่งข้อมุลของแม่ขึ้นหน้าจอว่าได้บริจาคเลือดให้ใครไปเมื่อวาน แล้วชื่อคุณลุงก็ปรากฏขึ้นหน้าจอ
"อ่อ คุณอนิรุจ วิเศษไพศาล ตอนนี้คนไข้ยังไม่รู้สึกตัวนะคะ แต่คุณหมอได้ย้ายไปห้องพักแล้วสามารถเข้าเยี่ยมได้ค่ะ^^"
"ขอบคุณค่ะ" แม่กล่าวขอบคุณพี่พยาบาล พอได้เบอร์ห้องพร้อมชื่อคุณลุงที่พี่พยาบาลจดใส่กระดาษมาให้ฉันกับแม่เราก็เดินไปตามทางที่มีป้ายบอก เราขึ้นลิฟท์มาจนกระทั่งถึงห้องพักที่เป็นโซนวีไอพี มันดูหรูหรามากเหมือนโรงแรมมากกว่าโรงพยาบาล
"แม่จ๋าเรามาผิดชั้นหรือเปล่า"
"ไม่น่าจะผิดนะลูก เราก็เดินมาตามทางที่พี่พยาบาลแจ้ง" เราสองแม่ลูกยืนงงกันอยู่ สักพักก็มีพยาบาลเดินถือแฟ้มผ่านมาฉันก็รีบถามทันที
"ขอโทษนะคะพี่คนสวย ไม่ทราบว่าห้องนี้อยู่ตรงไหนคะ"
"คุณสองคนมาเยี่ยมคนไข้ห้องนี้เหรอคะ" พี่พยาบาลถามพร้อมกับมองฉันกับแม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ใช่ค่ะ"
"แน่ใจนะคะว่ามาไม่ผิด"
"จะผิดได้ยังไงคะพี่พยาบาลข้างล่างตรงเคาท์เตอร์จดมาให้เราแบบนี้ค่ะ" ฉันตอบกลับพี่พยาบาลด้วยความไม่พอใจนิดๆ เพราะดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อพร้อมสายตาดูถูกอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะฉันกับแม่เรามาด้วยชุดที่เพิ่งขายของเสร็จแม่ยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนออกเลยส่วนฉันก็ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนรองเท้าแตะมา
"ถ้าอย่างงั้นก็ตามมาค่ะแต่บอกไว้ก่อนนะคะห้ามส่งเสียงดังรบกวนคนไข้เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเชิญคุณออกจากห้องทันที"
"ไม่ต้องบอกก็ทราบค่ะ มารยาทขั้นพื้นฐานที่โรงเรียนสอนมาเหมือนกันค่ะ" ฉันอดไม่ได้ที่จะตอบโต้กลับ ปกติฉันไม่ใช่คนแบบนี้หรอกนะแต่พยาบาลคนนี้ใช้สายตาดูถูกฉันกับแม่เกินไป ทำกับฉันฉันไม่ว่าอะไรหรอกเพราะฉันเป็นเด็กแต่มาทำสายตาแบบนี้กับแม่ของฉันฉันไม่ยอมหรอก
"นกยูงพูดกับพี่เค้าดีๆ หน่อยลูก ขอโทษพี่เค้าซะ"
"ขอโทษค่ะ" ฉันขอโทษอย่างจำใจ
เราสองคนเดินตามพยาบาลมาจนถึงหน้าห้องๆ หนึ่งหน้าห้องมีชื่อคุณลุงติดอยู่ เราสองคนค่อยๆ แง้มประตูเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะเกรงว่าคุณลุงจะตื่น และพอเข้ามาในห้องฉันถึงกับตาโตและอยากจะร้องว๊าวออกมาห้องพักของคุณลุงไม่ต่างจากด้านนอกเลยมันหรูหรามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงคนไข้เฟอร์นิเจอร์ทีวีตู้เย็นและภายในห้องยังมีห้องอีกหลายห้องฉันใช้สายตามองไปรอบๆ ซึ่งค่าห้องห้องนี้คงจะแพงมากๆ แน่ๆ มันต่างจากห้องที่ฉันเคยนอนตอนเป็นไข้เลือดออกตอนเป็นเด็ก ตอนนี้คุณลุงยังนอนหลับไม่ได้สติฉันมองใบหน้าคุณลุงที่มีบาดแผลตรงศรีษะซึ่งตอนนี้มีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ เราสองคนมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เจอใครเลยทำไมไม่มีญาติคุณลุงมาเยี่ยมเลยสักคนหรือคุณลุงไม่มีญาติอยู่ตัวคนเดียวเพราะคุณลุงแกก็ไม่เคยเอ่ยถึงใครเลยนอกจากภรรยาของแกที่เสียไปแล้ว
"แม่ขาทำไมไม่มีใครมาเฝ้าคุณลุงเลยล่ะคะ" ฉันมองไปรอบๆ ห้องอีกรอบแต่ก็ไม่เจอใครเลยซึ่งอันที่จริงต้องมีญาติมาเยี่ยมหรือมาเฝ้าแล้วที่นี่ไม่มีใครเลย
"อาจจะมาแต่เราไม่รู้ก็ได้นะลูกเราเองก็ไม่ได้มาอยู่กับคุณลุงทั้งวันบางทีญาติคุณลุงอาจจะมาตอนที่เราไม่อยู่ก็ได้"
"อืมมนั่นสินะคะ นกยูงก็ลืมคิดไป"
"ไม่มีใครมาเยี่ยมลุงทั้งนั้นแล่ะลูก" ฉันกับแม่รับหันไปดูคุณลุงที่ตอนนี้นอนลืมตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
"คุณลุงฟื้นแล้ว^^" ฉันรีบเดินเข้าไปใกล้ๆ คุณลุง
"คุณลุงเป็นยังไงบ้างคะ"
"ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะลูก ขอบใจนะที่มาเยี่ยมลุง"
"เมื่อกี๊คุณบอกว่าไม่มีใครมาเยี่ยมเลยเหรอคะ"
"อืมม ใช่ผมไม่มีญาติมีก็แค่ลูกชายเพียงคนเดียวแต่เขาไม่ได้อยู่ที่ไทย เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะ" ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณลุงมีลูกชายด้วยเพราะท่านไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลย