ความจริงในอดีต
นกยูง....
"จะให้ฉันโทรบอกลูกชายคุณมั้ยคะ"
"ไม่ต้องหรอกตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วพรุ่งนี้ก็คงออกไปนั่งกินข้าวแกงร้านคุณได้แล้ว ขืนบอกไปมีหวังเจ้าลูกชายตัวดีของผมจะรีบกลับมาแล้วโวยวายใส่ผม ผมขี้เกียจฟังมันบ่นน่ะ" คุณลุงพูดติดตลกแต่ดูเหมือนแม่ของฉันท่านจะเป็นห่วงคุณลุงมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาฉันก็เลยพูดแทนแม่
"ไม่เป็นอะไรมากอะไรกันคะคุณลุงคุณลุงถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินเพราะเสียเลือดมากด้วยนะคะ"
"แต่ตอนนี้ลุงไม่เป็นอะไรแล้วไงหนุนกยูง"
"แต่คุณก็ควรแจ้งให้ลูกชายคุณทราบนะคะที่ฉันบอกก็เพราะเป็นห่วงนะคะยิ่งคุณบอกว่าไม่มีญาติที่ไหนคุณยิ่งต้องบอกให้ลูกชายของคุณให้ทราบเพราะเค้ามีแค่คุณคุณเดียวอย่าหาว่าฉันแช่งเลยนะคะถ้าเกิดคุณเป็นอะไรไปโดยที่เค้าไม่รู้คุณคิดว่าเค้าจะรู้สึกยังไงคะ"
"ไว้ผมจะโทรบอกเขาเองก็แล้วกันขอบคุณมากนะที่เป็นห่วงผม^^"
สักพักคุณหมอกับพยาบาลคนเดิมที่ฉันปะทะคารมด้วยก่อนเข้ามาในห้องนี้ก็เดินเข้ามาแต่ฉันก็ทำเป็นไม่สนใจ
"เดี๋ยวหมอขอตรวจอาการคุณรุจหน่อยนะครับ"
"อืม"
"เอ่อถ้าอย่างงั้นฉันกับลูกสาวขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะะ"
"อย่าเพิ่งกลับเลยอยู่เป็นเพื่อนผมก่อน" คุณลุงบอกกับแม่ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
"อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังต้องนอนรอดูอาการอีกสักระยะนะครับคุณรุจเพื่อความสบายใจ"
"ขอบคุณนะหมอที่ดูแลรักษาผมอย่างดี"
"ไม่เป็นไรครับมันคือหน้าที่ของหมออยู่แล้ว อ่อยังไงผมก็ขอบคุณคุณผู้หญิงมากเลยนะครับที่ช่วยให้เลือดคุณรุจไม่อย่างนั้นอาการคุณรุจคงแย่กว่านี้"
"ไม่เป็นไรค่ะฉันยินดีแล้วก็เต็มใจช่วยค่ะ"
"นี่แปลว่าคุณบริจาคเลือดให้ผมงั้นเหรอ" แม่ไม่ได้ตอบแต่ยิ้มให้คุณลุง
"ขอบคุณคุณมากๆ เลยนะผมไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงตอนนี้ผมเป็นหนี้ชีวิตคุณแล้วนะ"
"อย่าคิดแบบนั้นเลยค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขอประทานโทษนะคะ พวกเรามาเยี่ยมท่านประธานค่ะ" ทุกคนรวมทั้งฉันมองไปที่หน้าประตูห้องที่มีพี่ๆ ที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาหลายคนยืนเรียงกันอยู่ในมือของทุกคนมีกระเช้าผลไม้ดอกไม้ในมือ นี่อย่าบอกนะว่าท่านประธานบริษัทคือคุณลุง
"อย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"
หลังจากคุณหมอกับพยาบาลออกไปแล้วพวกพี่ๆ พนักงานบริษัทก็ต่างพากันทยอยเข้ามาในห้อง
"ท่านประธานคะพวกเราเป็นตัวแทนของพนักงานในบริษัทเอาของมาเยี่ยมท่านค่ะ"
"อืมขอบใจทุกคนมากนะ"
"อ้าวน้องนกยูงน้าดาวเรืองทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ" พี่คนนึงที่เป็นลูกค้าประจำที่ร้านถามฉันกับแม่ด้วยความสงสัย
"อ่อคือนกยูงกับแม่มาเยี่ยมคุณลุงน่ะค่ะ"
"คุณลุง??"
"แปลว่าน้องนกยูงรู้จักท่านประธานงั้นเหรอ"
"รู้จักแค่ว่าเป็นคุณลุงค่ะไม่ได้รู้ว่าเป็นประธานบริษัท" ฉันบอกไปตามตรง
"ฉันกับลูกขอตัวกลับก่อนนะคะเราต้องรีบกลับไปเก็บของน่ะค่ะ" จู่ๆ แม่ก็ลากแขนฉันออกมาจากห้องโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ร่ำลาคุณลุงเลย ฉันไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไรทำไมถึงรีบออกมาแบบนี้
"แม่ทำไมดูรีบๆ จังเลยนกยูงยังไม่ได้ลาคุณลุงเลย"
"ต่อไปอย่าเรียกท่านว่าคุณลุงอีกนะนกยูง"
"อ่าวทำไมล่ะคะแม่"
"ท่านเป็นถึงประธานบริษัทเป็นเจ้าของที่ๆ เรามาเช่าขายของแม่ไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดี นกยูงคงไม่ทันเห็นสายตาของคนหลายคนที่มองเราเมื่อกี๊" ฉันยังไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่พูดอยู่ดี แต่ฉันก็ไม่อยากเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ พอกลับมาถึงบ้านฉันก็ถามแม่ไปตรงๆ
"แม่จ๋านกยูงยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรนกยูงถึงเรียกคุณลุงไม่ได้ทำไมต้องเรียกท่านแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ๆ ที่ไปเยี่ยมคุณลุงเหรอจ๊ะ
"พวกเค้าอาจจะคิดว่าเราไปทำตัวสนิทกับคุณลุงเพื่อผลประโยชน์น่ะสิลูก คุณลุงเป็นถึงเจ้าของบริษัทใหญ่โตส่วนเราเป็นแค่แม่ค้าขายข้าวแกงข้างทาง ใครเห็นก็อาจจะคิดว่าเราหวังผลประโยชน์จากคุณลุง แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าเราแบบนั้น ต่อไปนี้ถ้าคุณลุงมาที่ร้านอีกนกยูงก็อย่าไปพูดเล่นกับท่านอีกนะลูกเข้าใจมั้ย"
"เข้าใจค่ะ" ฉันรับคำแม่แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ก็ตาม ที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้ว่าคุณลุงคือเจ้าของบริษัทเวลาคุณลุงมาทานข้าวที่ร้านเราก็พูดคุยกับคุณลุงปกติแล้วทำไมทุกคนถึงต้องคิดแบบนั้นด้วย
หลายอาทิตย์ต่อมา....
"ดาวเรือง นกยูง"
"คุณลุง^^" ฉันเผลอเรียกท่านว่าคุณลุงแม่ก็หันมาทำตาดุใส่ฉันทันทีพอนึกขี้นได้ว่าต้องเรียกแบบไหนฉันก็รีบเปลี่ยนสรรพนามทันที
"สวัสดีค่ะท่านประธาน" ฉันยกมือไหว้คุณลุงก่อนจะช่วยแม่มัดถุงแกง
"ทำไมถึงเรียกลุงแบบนั้นล่ะนกยูงเรียกคุณลุงแบบเดิมก็ได้"
"ไม่ได้หรอกค่ะท่านเป็นถึงประธานบริษัทที่ฉันมาขอเช่าที่ขายของดิฉันกับลูกไม่บังอาจเรียกท่านอย่างเมื่อก่อนได้อีกขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อก่อนฉันกับลูกสาวอาจจะพูดล่วงเกินท่านไป" น้ำเสียงแม่เหมือนจะพูดประชดคุณลุงซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรแม่ถึงพูดแบบนั้น
"ดาวเรืองคุณโกรธผมใช่ไหม"
"ฉันจะไปโกรธท่านเรื่องอะไรคะ"
"ก็เรื่องที่ผมไม่เคยบอกคุณว่าผมเป็นเจ้าของที่นี่ผมขอโทษนะที่เคยปิดบังคุณกับหนูนกยูง"
"ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ ฉันมันก็แค่แม่ค้าข้าวแกงธรรมดาท่านเป็นถึงเจ้าของบริษัทท่านอย่ามาขอโทษคนอย่างดิฉันเลยค่ะ" ฉันทำได้แต่แอบมองดูแม่กับคุณลุงคุยกันไปมาเหมือนคุณลุงกำลังง้อแม่อยู่ยังไงยังงั้นเลยหรือฉันคิดไปเองก็ไม่รู้ค่ะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ฉันไม่เข้าใจเท่าไหร่ และหลังจากวันนั้นคุณลุงก็ยังมาทานข้าวที่ร้านทุกวันมาทั้งเช้าทั้งบ่ายเลยค่ะแต่แม่ก็ไม่ค่อยพูดกับคณลุงเหมือนแต่ก่อนเหมือนแม่พยายามตีตัวออกห่างคุณลุง
วันนี้เป็นวันหยุดร้านคือแม่จะหยุดร้านเดือนละสองวันวันนี้เราสองคนไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืดเหมือนทุกวันแต่แม่ก็ยังตื่นเช้าอยู่ดีฉันก็เลยตื่นตามแม่ และในขณะที่เราสองคนกำลังช่วยกันทำกับข้าวกินในตอนเช้าก็มีคนมาตะโกนเรียกหน้าบ้านฉันก็เลยรีบวิ่งออกไปดูปรากฏว่าเป็นคุณลุงซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าคุณลุงรู้ที่อยู่เราได้ยังไง แต่ฉันก็ออกไปเปิดประตูให้คุณลุงเข้ามา พอแม่เห็นว่าเป็นคุณลุงแม่ก็จะลุกหนีแต่คุณลุงรีบเดินมาจับมือแม่ไว้ ฉันเห็นแบบนั้นก็เลยแอบออกมาอยู่ด้านนอกเพราะฉันคิดว่าแม่กับคุณลุงคงมีเรื่องคุยกัน
แต่ฉันก็ไม่ได้ไปไหนไกลฉันแอบฟังอยู่ตรงหน้าต่าง
"ดาวเรืองทำไมคุณต้องหลบหน้าผมด้วย"
"ฉันจะหลบหน้าคุณทำไมคะมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ฉันต้องหลบหน้าคุณ"
"ผมรู้ว่าผมผิดที่ปิดบังคุณ แต่ผมมีเหตุผล"
"............."
"คุณไม่อยากรู้เหรอว่าเหตุผลของผมคืออะไร"
"ไม่อยากรู้ค่ะ"
"ตอนแรกผมไม่เคยคิดที่จะปิดบังอะไรคุณเลยผมมาทานข้าวร้านคุณเพราะคุณทำอาหารอร่อยมากแต่ยิ่งนานวันเข้าผมเริ่มรู้แแล้วว่าไม่ได้เป็นเพราะรสชาติอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ผมรู้สึกถูกชะตากับคุณรู้สึกเอ็นดูหนูนกยูง ผมอายุก็จะห้าสิบแล้วถ้าผมจะขอพูดกับคุณตรงๆ ว่าผมชอบคุณคุณจะว่าอะไรผมมั้ย"
"คุณรุจ"
"ตั้งแต่ภรรยาผมเสียไปผมก็ไม่เคยเปิดใจหรือรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนไหนเลย จนกระทั่งมาเจอคุณคุณเป็นผู้หญิงที่ดีในสายตาผมคุณยอมที่จะบริจาคเลือดให้กับผมแต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้ผมชอบคุณ ผมนับถือคุณจริงๆ คุณเก่งมากที่สามารถเลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียวได้ด้วยตัวเองไม่หวังพึ่งพาใครผมผมชื่นชมในตัวคุณจริงๆ นะดาวเรือง"
"..........."
"และที่ผมไม่กล้าบอกความจริงกับคุณว่าผมเป็นใครก็เพราะผมรู้ไงว่าถ้าคุณรู้คุณอาจจะไม่อยากคุยกับผมเพราะผมรู้ว่าคุณรักศักดิ์ศรีของตัวเองแค่ไหนคุณกลัวว่าคนอื่นจะมองคุณว่าคุณหวังอะไรจากผมทั้งที่ไม่ใช่เลยคุณไม่ใช่คนแบบนั้น เป็นผมต่างหากที่หวังผลประโยชน์จากคุณ คุณรู้มั้ยว่าผมหวังอะไร ผมหวังว่าคุณจะมีใจให้กับผมเหมือนที่ผมมีใจให้กับคุณ ผมชอบคุณนะดาวเรืองผมพร้อมจะดูแลคุณกับหนูนกยูง"
"มันเป็นไปไมได้หรอกค่ะ ถ้าคุณรู้ว่าฉันเคยผ่านอะไรมาก่อนคุณอาจจะรับไม่ได้และอาจจรังเกียจฉันก็ได้"
"คุณพูดเหมือนกับว่าคุณเคยผ่านเรื่องราวเลวร้ายมา"
"มันยิ่งกว่าเลวร้ายอีกค่ะ" หลังจากนั้นแม่ก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้คุณลุงฟังอย่างไม่ปิดบัง ฉันคิดว่าที่แม่เล่าเพราะแม่อยากให้คุณลุงตัดใจจากแม่ แต่เปล่าเลยค่ะมันไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิด