การกลับมา
นกยูง...
ฉันตื่นเต้นมากเพราะวันนี้พี่วายุจะกลับมาแล้ว ฉันตื่นมาแต่เช้าเพื่อหาชุดสวยๆ ใส่เพื่อต้อนรับพี่วายุทั้งที่พี่วายุจะมาถึงช่วงเย็น
"นกยูงตื่นเต้นมาเหรอลูกพ่อเห็นหนูเปลี่ยนชุดเป็นสิบชุดแล้ว" คุณพ่อแซวฉันเมือ่เห็นว่าฉันเปลี่ยนชุดนั้นชุดนี้แล้วไปถามท่านว่าชุดนี้เหมาะกับฉันมั้ยพี่เค้าจะชอบมั้ย
"ใช่ค่ะคุณพ่อ นกยูงอยากเจอพี่วายุไวๆ ^^" ฉันไม่เคยมีพี่มีน้องพอตัวเองจะมีพี่ชายก็อดตื่นเต้นไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ก็ตาม ฉันอยากให้พี่วายุไปรับไปส่งที่โรงเรียนจังไม่รู้ว่าฉันหวังมากไปหรือเปล่า
"เอ้อคุณพ่อขาถ้าพี่วายุกลับมาแล้วนกยูงอยากจะขอให้พี่เค้าไปรับไปส่งนกยูงที่โรงเรียนบ้างจะได้มั้ยคะนกยูงอยากไปอวดเพื่อนๆ ว่านกยูงมีพี่ชายที่หล่อมากๆ ^^"
"ได้สิลูกพี่วายุเค้าใจดีมากๆ เลยนะ"
"จริงเหรอคะ^^"
"นกยูงหนูเป็นผู้หญิงนะลูกอย่าทำอะไรเกินหน้าเกินตาแบบนี้มันไม่เหมาะเกิดพี่เค้ารำคาญไม่ชอบที่นกยูงไปวุ่นวายกับพี่เค้าจะทำยังไง"
"ขอโทษค่ะนกยุงดีใจไปหน่อยเพราะนกยูงไม่เคยมีพี่ชาย"
"คุณอย่าดุลูกเลยนะ หนูนกยูงก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆ ไปที่อยากมีพี่ชายคอยดูแลน่ะ"
"แต่ฉันกลัวว่าลูกชายของคุณจะรำคาญนกยูงน่ะสิคะ"
"ไม่หรอกวายุเค้าเป็นคนจิตใจดี ตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยทำอะไรให้ผมหนักใจเลยสักครั้งผมเชื่อว่าเค้าจะเป็นพี่ชายที่น่ารักสำหรับนกยูง" ฉันฟังคุณพ่อพูดถึงพี่วายุด้วยความรักและภูมิใจพี่เขาคงเป็นคนดีจริงๆ เขาคงจะดีกับฉันมากๆ แน่เพราะฉันน่ารักขนาดนี้^^
และเวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง ฉันยืนบีบมือตัวเองแน่นด้วยความตื่นเต้นดีใจ จนกระทั่งรถตู้ของบ้านที่ไปรับพี่วายุที่สนามบินวิ่งเข้ามาจอดตรงหน้าบันไดเข้าบ้าน ฉันชะเง้อมองว่าเมื่อไหร่พี่วายุจะลงมาจากรถสักที
ครืดดด ตึ่ก!!! คุณลุงคนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูรถก่อนจะมีร่างสูงโปร่งเดินลงมาจากรถ เขาคือพี่วายุจริงๆ ใช่ไหม ทำไมเขาถึงดูดีมากกว่าในรูปที่ฉันแอบมองทุกคืนเสียอีก ฉันมองหน้าพี่วายุจนตาค้างฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนใจของฉันเต้นแรงมากจนกระทั่งเขาหันมาสบตากับฉันเราสบตากันแว๊บนึงจนฉันเขินรีบหลบสายตาแต่ก็แอบลอบมองเขาอย่างอดไม่ได้เขาเดินไปไหว้คุณพ่อคุณพ่อกอดเขาด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
"สวัสดีครับพ่อ"
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก"
"ครับ เอ่อแล้วนี่ภรรยาใหม่ของพ่อใช่มั้ยครับ" พี่วายุมองไปทางแม่ที่ยืนข้างๆ คุณพ่อ
"ใช่แล้วลูกนี่น้าดาวเรืองเป็นภรรยาของพ่อเอง วายุจะเรียกว่าแม่ก็ได้นะลูก" ฉันไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่าพอคุณลุงพูดจบประโยคนั้นสายตาของพี่เขาดูแข็งกร้าวราวกับไม่พอใจขึ้นมาทันที แต่เพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้นพี่เขาก็ยิ้มออกมา
"ผมขออนุญาตเรียกว่าคุณน้าดีกว่านะครับเพราะดูคุณน้าอายุยังน้อยอยู่เลยเรียกคุณแม่จะไม่เหมาะ"
"ได้ค่ะคุณวายุจะเรียกน้ายังไงก็ได้ค่ะ^^" แม่ตอบพร้อมกับยิ้มให้พี่วายุ
"อ่อเกือบลืมไปเลย นี่น้องนกยูงนะลูกเป็นลูกสาวของน้าดาวเรืองแกมีศักดิ์เป็นน้องสาวของวายุนะ นกยูงหนูมาใกล้ๆ พี่เค้าสิลูกเห็นอยากเจอพี่เค้ารอพี่เค้าตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่เหรอ" คุณพ่อเรียกฉันเข้าไปใกล้ๆ พี่วายุจนฉันเขิน
"เอ่อ สวัสดีค่ะพี่วายุหนูชื่อนกยูงนะคะ ยินดีต้อนรับพี่กลับบ้านของเรานะคะ^^"
วายุ...
ยินดีต้อนรับกลับบ้านของเราอย่างงั้นเหรอ พูดออกมาได้แม่งโคตรหน้าด้านเลยคิดว่าบ้านหลังนี้เป็นของตัวเองสินะ หึ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเขาบ้านที่มีความทรงจำระหว่างเขากับพ่อแล้วก็แม่ที่เขารักสุดหัวใจถึงแม่จะไม่อยู่กับเขาแล้วก็ตาม แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครถึงกล้าพูดว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเธอเหมือนกัน ปล่อยให้หลงระเริงดีใจไปเถอะเขาสาบานว่าจะทำให้สองแม่ลูกนี่ออกไปจากบ้านของเขาให้ได้ไม่ช้าก็เร็ว
"พ่อว่าเราเข้าบ้านกันเถอะนะ วายุคงหิวแล้วนั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงกินข้าวเสร็จก็จะได้ไปพักผ่อน"
"ครับพ่อ" ผมเดินตามทุกคนเข้าไปในบ้าน ทุกอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างแม้กระทั่งรูปของแม่ที่ตอนนี้มันหายไปจากตรงที่มันเคยอยู่
"พ่อครับรูปของแม่ที่แขวนไว้ตรงนี้มันหายไปไหน" ผมชี้ไปที่ผนังตรงทางขึ้นบันไดไปชั้นสองของบ้าน
"เอ่อคือ...น้าเห็นว่ากรอบรูปมันเก่ามากแล้วน้าก็เลยเอาไปให้ร้านใส่กรอบใหม่น่ะค่ะ"
"อ่อเหรอครับผมก็นึกว่าเอาไปเก็บเพราะมันรกหูรกตาซะอีก" ผมอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปแม้จะพยายามไม่ออกอาการไม่พอใจแล้วก็ตาม
"น้าไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะน้ารู้ว่ารูปของท่านมีความสำคัญกับคนในบ้านทุกคน"
"ขอบคุณนะครับที่รู้ว่ารูปของแม่ผมมีความสำคัญ"
"เอ่อพ่อว่าเราไปที่ห้องทานข้าวกันเถอะนะ ป่ะ" พ่อเดินโอบเอวภรรยาใหม่เดินนำหน้าผมไปยังห้องทานอาหารผมมองภาพนั้นมันทำให้ผมเห็นภาพซ้อนของพ่อกับแม่ในครั้งที่ท่านยังอยู่
"เราไปทานข้าวกันเถอะนะที่รักช่วงนี้คุณทานข้าวได้น้อยมากเลยรู้มั้ยวารี"
"ก็วารีไม่สบายนี่คะพี่รุจทานอะไรก็ไม่ค่อยอร่อย"แม่ตอบพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงเพราะท่านไม่สบาย
"แต่แม่ต้องทานเยอะๆ นะครับผมอยากให้แม่อยู่กับผมไปนานๆ" ผมจำได้ว่าผมพูดกับแม่แบบนี้แล้ววันนั้นแม่ก็พยายามที่จะทานข้าวให้ได้เยอะๆ แต่สุดท้ายท่านก็อาเจียนออกมา แม่ทรงๆ ทรุดๆ อยู่แบบนั้นจนกระทั่งท่านมาจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
"พี่วายุคะ พี่วายุ" เสียงเล็กๆ ที่เรียกชื่อผมทำให้ผมตื่นจากภวังค์ความคิดเป็นนกยูงที่เรียกชื่อผม
"มีอะไร"
"เอ่อนกยูงเห็นพี่ยืนนิ่งไม่ขยับเหมือนคิดอะไรอยู่นกยูงก็เลยเรียกน่ะค่ะ"
"ฉัน..เอ่อพี่คิดถึงแม่น่ะ" ผมบอกอย่างขอไปทีเพราะไม่ได้อยากเสวนาด้วยสักเท่าไหร่
"ถ้าพี่คิดถึงคุณแม่พี่ก็ไปทำบุญให้ท่านสินะ แม่นกยูงเคยบอกว่าถ้าเราคิดถึงคนที่จากเราไปแล้วอาจจะแปลว่าท่านอยากให้เราทำบุญไปให้เหมือนเวลาที่แม่คิดถึงตากับยายแม่ก็จะไปทำบุญให้ท่าน"
"แม่พี่เสียไปเป็นสิบปีแล้วท่านคงไปเกิดแล้วล่ะ"
"ถึงท่านจะไปเกิดแล้วแต่เราก็ยังทำบุญให้ท่านได้นะคะ"
"ขอบใจนะที่แนะนำ"
"ไม่เป็นไรค่ะถ้าวันไหนพี่วายุอยากไปทำบุญให้คุณแม่พี่วายุก็บอกนกยูงได้นะคะนกยุงจะทำอาหารไว้ให้พี่ไปทำบุญ^^"
"อืม"