บท
ตั้งค่า

III? : ก็ฆ่าเลยดิ!

อเมซิ่งมาก… ม๊ากกกกกกก!!! ไม่เห็นมีอะไรที่แปลกไปจากเดิมสักนิด บีเบลยืนนิ่งพร้อมกับมองไปรอบๆตัว ผู้คนที่เดินสวนเธอไปมาก็ปกติไม่ต่างจากคนทั่วไป

“..ไหนละ ไม่เห็นมีอะไรเลย?” แต่คิรัวร์ก็ดูไม่สนใจสักนิด เหมือนกำลังมองหาใครสักคนก่อนจะเดินนำหน้าไปไกล เป็นฉันที่วิ่งตามหลังอยู่เนี่ย

“คิรัวร์ รอก่อนสิ”

ขวับ! เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันสตั้นอยู่กับที่ ก็เพราะว่าจู่ๆพวกผู้คนที่เดินไปมาก็หยุดเดินแล้วหันมองฉันเป็นตาเดียวนะสิ

‘กลิ่นมนุษย์’

“…..”

‘ท่านคิรัวร์พามนุษย์มางั้นเหรอ?’

“…..” บีเบลเริ่มห่อตัว สายตาที่จ้องมองเธอ ทำให้ใจหวั่น แต่พอคิรัวร์เดินมาจับแขนฉัน ทุกคนก็ดูเหมือนจะตกใจไปกันใหญ่

“..พวกนั้นเป็นอะไร”

“แปลกใจที่ฉันพาเธอมา”

“แปลกใจ?.. งั้นก็แปลว่า”

“ที่นี่ ถิ่นฉัน”

“!!!!!”

“ยะ อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้ก็…”

“…..”

“!!” ยมทูต! ยมทูตทั้งนั้นเลยเหรอ!!! บีเบลกวาดสายตามองไปรอบๆตัว ยมทูตพวกนี้… ฉันแยกไม่ออก เหมือนคนปกติจนเกินไป! ทุกอย่างไม่ต่างจากมนุษย์เลยอะ เห็นทีจะมีก็แค่… รอยสักเหรอ หรือสัญลักษณ์อะไรสักอย่างที่ใต้ตาซ้าย เหมือนกับคิรัวร์ สัญลักษณ์พระจันทร์เสี้ยวสีเหลืองนวล

“มานี่”

“อ๊ะ!” มือเย็นๆจับแขนบางให้เดินตาม จนเข้ามายังห้องทึบๆ.. ไม่สิเป็นแค่ตรอกซอยทึบๆ มีม่านมูลี่เป็นลูกปัดหลากสี สไตล์คล้ายๆฮีโมเบียนทำนองนั้น

คิรัวร์ลากฉันเข้ามา และหลังม่านดังกล่าวก็พบกับหญิงวัยกลางคนที่ลดแว่นลงต่ำเพื่อมองฉันกับคิรัวร์สลับกัน

“…หมายความว่าไง ท่านคิรัวร์?”

“…..” ท่าน… คิรัวร์ถูกเรียกด้วยคำนี้ ฉันเอี้ยวใบหน้ามองคนตัวสูงที่มองด้านข้างสันจมูกคือคมราวกับใบมีด

“ทำไมถึงลบความจำไม่ได้ ดูให้ที”

“…หมอดูเหรอนาย?”

“ถ้าโลกเธอเรียกแบบนั้น.. ก็ตามนั้นละ”

“…..”

“ข้าคือผู้ที่รู้ชะตา…” หญิงวัยกลางคนเอ่ยย้ำ

“……”

“นั่งสิ แล้วช่วยสำรวมต่อหน้าท่านคิรัวร์ด้วย”

“..ทำไมละ คิรัวร์ดูเด็กกว่าคุณตั้งเยอะ ฉันควรสำรวมเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณมากกว่า”

ปึง! ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยกำไลลูกปัดตีกับโต๊ะตรงหน้าอย่างแรงจนฉันรู้สึกแสบมือแทน.. นี่ฉันคงไปทำอะไรผิดแปลกไปจากสิ่งที่พวกเขาเชื่อถือกันมั้ง บีเบลรีบก้มหน้าแล้วบีบมือตัวเองแน่น ในขณะที่คิรัวร์เหลือบมองคนข้างๆ

“…นางไม่เข้าใจหรอก”

“…..” บีเบลเงยหน้า คนตัวสูงพูดกับหมอดูอย่างที่ฉันเข้าใจ

“ท่านคิรัวร์ ท่านก็รู้ว่าศักดิ์ของท่านมันต่างจากพวกข้า”

“….” อีกหนึ่งเรื่องใหม่ที่รู้.. นอกจากยมบาลที่เป็นเฮดตัวใหญ่ของดินแดนหลังความตายแล้ว ยมทูตก็มีตำแหน่งแบ่งขั้นกันด้วยแฮะ..

“ข้าไม่เดือดร้อน เจ้าก็ไม่ควรเดือดร้อน”

“แต่ว่าท่าน!”

“ดู” เพราะคิรัวร์ย้ำด้วยเสียงนิ่ง และท่าทางขึงขังจนฉันเองก็รู้สึกได้ หญิงคนนี้เลยทำได้แค่ถอนหายใจและพยักหน้ารับคำ คิรัวร์คง… อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเธอคนนี้

“ข้าขอฝ่ามือ”

“……” นิ่งอยู่นานก่อนที่บีเบลจะยอมยื่นมือเธอให้กับหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ใช้เวลานานอยู่นะ.. ฉันก็เข้าใจว่าเธอจับมือฉันแล้วจะรู้อะไรต่อมิอะไรทันทีซะอีก

“…บางสิ่ง บางสิ่งที่เป็นสีดำ”

“…ค๊ะ?”

“ก้อนหิน… ก้อนหินสีดำ” ฉันเงยหน้ามองคิรัวร์ด้วยความไม่เข้าใจ สมองฉันจดจำได้หมดว่าฉันมีสิ่งใดที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอคนนี้พูด.. แต่มันไม่มีไง… หินสีดำ…

“คืออะไร?”

ตึง! อีกครั้งที่ฝ่ามือแม่หมอตีกับโต๊ะอย่างแรงจนฉันรีบชักมือกลับ

“เธอมีศิลานิลดำ ศิลานิลดำ!!!”

“….???”

“ศิลาที่เป็นสมบัติของดินแดนหลังความตาย! เพราะสิ่งนั้น! มันทำให้ท่านไม่สามารถลบล้างความจำของเธอได้!” แม่หมอแอคติ้งโอเว่อร์เกินเบอร์มากกกกก เธอถอยหลังครูดจนแทบจะถูกกำแพงกลืนกิน

“ศิลานิลดำ” คิรัวร์พูดเสียงเบา

“..มันคืออะไรนาย? ไม่มีหรอกนะ ฉันไม่มีสิ่งที่แม่หมอบอก”

“ไม่… เธอมีมัน”

“นี่คิรัวร์ ฉัน ไม่ มี” พูดจบ เขาก็จับมือฉันแล้วลากฉันออกไปจากตรงนี้ เดินฝ่าดงยมทูตหน้าตาดีเหมือนรวมตัวกันมาออดิชั่น แล้วมุ่งหน้าไปยังตัวบ้านแบบ.. โมเดิรน์ ยมทูตพาฉันตกตะลึงไปหลายเรื่องแล้วนะ ตั้งแต่แปลงร่าง วาร์ปได้ แล้วยังจะดูรวยขนาดนี้อีก โลกเราช่างไม่ยุติธรรม มนุษย์สิควรมีสิทธิมีเงินทองมากกว่ายมทูตที่ตามเก็บดวงวิญญาณอะ!

แถมยมทูตยังจมูกดีราวกับเป็นหมาป่าหวงถิ่น ฉันถูกลากไปทางไหน ผู้คนตรงนั้นก็จะแตกตื่นราวกับฉันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

“นี่! นายจะพาฉันไปไหน!”

“……”

“คิรัวร์!”

ฟึ่บ! บีเบลสบัดมือหลุดออกจากการจับกุมของยมทูตหนุ่ม ก่อนจะถูกปลายเคียวพระจันทร์เสี้ยวจี้ที่คอหอยอีกครั้ง!

“นะ.. นี่”

“ลงไป”

“..ลงไปไหน?”

“ลงบ่อ”

“บะ.. บ้าเหรอนาย! ฉันว่ายน้ำไม่เป็น!” ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าถูกพามาหยุดที่บึงน้ำนิ่งๆใสๆจนมองไม่รู้ว่าข้างล่างไปบรรจบที่ตรงไหน เพราะมันสวยจนน่ากลัวยังไงละ..

“ลง!”

“…ฉันตายแน่ ถ้าฉันลงไป”

คิรัวร์ไม่ฟังฉัน.. ชีวิตดี๊ดีอะ เจอยมทูตหล่อๆ แต่กลับถูกเคียวจากเขาจ่อคอแล้วสั่งให้ลงบ่อแบบนี้อีก.. ฉันยึกยักอยู่นาน หน้าฉันต้องเหมือนคนร้องไห้แน่ๆ ฉันกลัวน้ำลึก… แค่เห็นก็หายใจไม่ออกแล้ว นี่มันไม่ใช่บึงบัวแบบที่ผีสาวตัวนั้นเสียชีวิตที่นั่นตนนั้นนิ..

“ถ้าเธอไม่บอก ก็ลง”

“ฉันจะบอกได้ไงละก็ฉันไม่รู้!”

“ลง”

“….!!!!” สุดทางจะเลือก ถ้าไม่จมน้ำตาย เคียวนี้ก็ปาดคอฉันตายนี่แหละ..

บีเบลฝืนใจพยายามค่อยๆก้าวขาลงไปในบ่อใหญ่ ความใสของมันไม่อาจประเมินความลึกของมันได้ และฉันกลัวเหลือเกินว่าจะมีอะไรดึงฉันลงไปใต้ล่าง

แต่ไม่นานนักพอฉันลงมาในบ่อ คิรัวร์ก็ทิ้งเคียวแล้วเดินลงมา ตามฉันมาแบบติดๆ มือฉันรีบคว้าเสื้อผ้าสักส่วนของอีกฝ่ายเพราะเท้าฉันเริ่มสัมผัสพื้นผิวไม่ได้ทีละนิด ทีละนิด

“คิรัวร์!”

ฟุ่บ! ไอ้บ้า! คิรัวร์ลงมาเพื่อกดหัวฉันลงใต้น้ำ ฉันตีแขนไปมา จับคว้าแขนหนาเท่าที่ฉันจะทำได้ ก่อนจะรู้สึกว่าคิรัวร์ประคองฉันมากกว่าจะจงใจกดน้ำกัน ดวงตาเล็กค่อยๆลืมตื่นใต้น้ำ ภาพที่เห็นคือใบหน้าของคิรัวร์ที่อยู่ใต้น้ำไม่ต่างจากเธอ ใบหน้าของเขาจ้องมองเข้ามายังนัยต์ตาของฉัน ยื่นแขนให้ฉันจับเกาะ และช่วงเวลาที่ฉันได้สบตากับเขา… กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะถูกดันให้โผล่พ้นเหนือน้ำ

ซ่า~

“เฮือก! อะ แค่กๆ! แค่กๆ! นายทำบ้าอะไร! จะฆ่ากันหรือไง!”

“เธอมีมันจริงๆ”

“มีอะไร.. แค่กๆ~ ไอ้หินดำอะไรนั่น ไม่มีซะหน่อย~”

“ไปเอามันมาให้ฉัน”

“นี่! ถามจริงนะ เพื่ออะไรกันเนี่ย? นายเป็นยมทูต นายต้องไปตามเก็บดวงวิญญาณให้บอสนายดิ จะมาถามหาหินสีดำสีนิลอะไรนั่นทำไม” บีเบลยังมั่นใจว่าเธอไม่มีสิ่งนั้น สิ่งที่เรียกว่าศิลานิลดำ ศิลาที่ได้ชื่อว่าเป็นสมบัติของดินแดนหลังความตาย

“ต้องให้ฉันฆ่าเธอก่อนหรือไง!” ก่อนจะตวาดเสียงใส่กัน

“เออ! ก็ฆ่าเลยดิ! จะได้รู้ว่าฉันไม่มีไอ้สิ่งที่พวกนายต้องการ!” ร่างบางพยายามดันตัวเองขึ้นมาบนฝั่ง ร่างกายที่เปียกปอนทำให้เธอเดินหนีร่างสูงได้ไม่สะดวก

หมับ! ก่อนจะถูกคว้าข้อเท้าแล้วถูกคิรัวร์ออกแรงดึงลาก

“บีเบล! นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”

“ฉันก็ไม่ได้เล่น!” ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาเพราะถูกร่างสูงกดตรึงไว้กับพื้นหายใจถี่ แววตาที่หนักแน่นทำให้คิรัวร์รับรู้ได้ ว่าตัวบีเบลอาจจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ไหล่กว้างที่คร่อมร่างเล็กของบีเบลเริ่มทำหยดน้ำร่วงหล่นใส่เธอ

“ต่อให้นายฆ่าฉัน ฉันก็บอกไม่ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน เพราะว่าฉันไม่มีสิ่งที่นายตามหา”

“……”

“ไม่มีจริงๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel