บทย่อ
“นาย.. อายุเท่าไหร่แล้ว?” “พันหนึ่งร้อยสิบปี” “หะ ห๊าาา! พะ พันหนึ่งร้อย สะ สิบปี!” “ตกใจอะไร? ยมทูตมีชีวิตเป็นนิรันดร์” **หากปาฎิหารย์คือความลลังเลของพระเจ้าจริงๆละก็ ฉะนคนนี้นี่แหละจะทำให้พระเจ้าลังเลกับเรื่องของฉันให้ได้เลยคอยดู**
I? : แรกพบสบตา
ล่ารักมิติร้าย ?
__แฟนตาซีอีโรติก__
“นาย.. อายุเท่าไหร่แล้ว?”
“พันหนึ่งร้อยสิบปี”
“หะ ห๊าาา! พะ พันหนึ่งร้อย สะ สิบปี!”
“ตกใจอะไร? ยมทูตมีชีวิตเป็นนิรันดร์”
☾✡☽✡☾✡☽
คิรัวร์
ยมทูตหนุ่มรูปงาม แฝงตัวอยู่ท่ามกลางหมู่มนุษย์ คอยตามเก็บดวงวิญญาณที่ถึงฆาตให้ไปชดใช้กรรมในปรโลก
บีเบล
หญิงสาวจิตใจดีงาม ช่วยดวงวิญญาณที่น่าสงสารให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ตามความเชื่อที่เธอเข้าใจ
W a r n i n g
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษาค่อนข้างรุนแรง เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หากมีการคัดลอกหรือนำไปดัดแปลง หากพบเจอจะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย! ทันที
หาก‼️พบเจอการคัดลอกนิยาย สามารถแจ้งได้ที่ FACEBOOK ฝากกดติดตามกันด้วยนะคะ
----------------------------------------
“โอ๊ยยย!!!”
ปึง! กองหนังสือถูกวางกระแทกโต๊ะอย่างแรง หญิงสาวผมยาวสีบรอนด์สลวยหันไปจ้องมองที่นอกหน้าต่าง
“จะเรียกร้องอะไรหนักหนาาา รู้แล้วว่าต้องการความช่วยเหลือออ”
ฉัน.. บีเบล เพิ่งกลับถึงบ้านหลังจากเลิกงานที่บริษัท ก็แค่พนักงานเงินเดือนทั่วไป แต่… สิ่งที่ไม่ทั่วไปสำหรับชีวิตฉันก็คือ.. บีเบลวางทุกอย่างลงกับโต๊ะแล้วเดินไปสัมผัสกับกระจกของตัวบ้าน สายตาจ้องมองไปยังด้านนอก ความมืดครอบคลุมในขณะที่วันนี้มีอากาศเย็นสวนทางกับกรมอุตุแจ้ง
“..วันนี้ฉันไม่ว่าง ขออีกสักสองสามวันได้ไหม เดี๋ยวจะตามให้”
“ก็รู้.. แต่คนไม่ว่างไง ถ้าอยากจะไปเกิดใหม่ก็ช่วยเข้าใจฉันด้วยนะ “
“หวังว่าจะเข้าใจนะคะ”
ใช่ค่ะ… บีเบลคนนี้มองเห็นวิญญาณ และฉันก็ช่วยมาตลอดตั้งแต่ฉันได้ความสามารถพิเศษนี้มาหลังจากประสบอุบัติเหตุเฉียดตายเมื่อสองปีก่อน ความตายมันน่ากลัวนะ วิญญาณพวกนี้ก็น่าสงสาร บางคนตายทั้งที่ยังมีห่วง บางคนโดนฆ่าตาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม วิญญาณจำพวกนี้แรงอาฆาตแค้นสูงมาก และเป็นวิญญาณจำพวกที่ฉันไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ เพราะอะไรนะเหรอ.. เพราะฉันจะถูกดูดพลังงานจากความแค้นที่วิญญาณเหล่านั้นมีนะสิ
“อย่าเข้าไปยุ่งเลยเบล”
เสียงของมูน เพื่อนชายที่บริษัทดังขึ้นในหัว มันชื่อ มูน ที่แปลว่าพระจันทร์ มันเองก็ดันสนใจเรื่องเร้นลับ แถมยังตามติดฉันต้อยต้อยหากรู้ว่ามีวิญญาณมาขอความช่วยเหลือจากฉัน
บีเบลปิดม่านแต่สุดท้ายก็ต้องเปิด ภายใต้ความแข็งกระด้างกลับมีความอ่อนโยนแฝงอยู่ สุดท้ายร่างบางก็เดินออกจากตัวบ้านแล้วตรงไปหาดวงวิญญาณที่ร้องขอความช่วยเหลือ
“…ให้ตายสิ อย่าทำให้สงสารจะได้ไหม”
‘ได้โปรด~ ช่วยฉันที~’ วิญญาณของหญิงสาวที่พลัดตกน้ำยืนร้องขอด้วยความเวทนา สีกายที่ซีดเผือดและใบหน้าที่ซีดราวกับปูนปั้นปลาสเตอร์
“…จิ๊ งั้นเธอนะ ตายที่ไหน”
‘สถานที่ตาย~’
“อื้ม”
‘บึงบัวใต้สะพาน~’ ดวงวิญญาณชี้ตรงไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งฉันคิดได้ว่ามันห่างจากตัวบ้านของฉันไม่เท่าไหร่ ฉันไม่ใช่พวกจิตสัมผัสหรือมีญาณทิพย์บรรเทาทุกข์ให้ใครนะ ฉันช่วยของฉันเงียบๆแล้วคนเดียวที่รู้เรื่องของฉันก็มีแต่มูน
‘ทำให้ฉันได้ใช่ไหม~’
“ถ้าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายอะนะ..”
‘แน่นอน ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย~’
“..แต่ก็นะ ถ้าไม่ได้ฆ่าตัวตาย ก็ไม่เห็นจะต้องรีบไปเกิดเลยนิ การพลัดตกน้ำมันก็เป็น.. อุบัติเหตุ เพราะฉะนั้น เธอควรจะอยากร่ำลาคนที่รักมากกว่าจะตามติดฉันมาเพื่อให้ฉันส่งไปเกิดแบบนี้.. ดูจากสภาพเธอแล้ว.. เพิ่งจะตายด้วยซ้ำ?”
‘…..’ วิญญาณสาวยืนนิ่ง
“มีแต่พวกหนีกรรมเท่านั้นแหละที่อยากจะรีบไปเกิดแบบใจจะขาด”
‘~’
“เธอนะ… ไม่ได้ฆ่าตัวตายจริงๆนะ?” อีกครั้งที่บีเบลย้ำถาม ท่าทางเลิ่กลั่กของสาวที่ตายเหมือนกำลังจะแสดงละคร แต่บีเบลก็จิตใจดีเกินไป เธอมักมีข้อแก้ตัวสำหรับทุกดวงวิญญาณเสมอ
“อ่าๆ ไม่ต้องทำหน้าร้องไห้ พาฉันไปหน่อยสิ ที่ที่เธอตาย”
วิญญาณสาวล่องลอยนำหน้าก่อนจะมาถึงบึงบัวดังกล่าว แขนซีดชี้ตรงไปยังกลางบ่อบัว ดงบัวที่ขึ้นรกรังนี่คง.. เป็นส่วนที่ทำให้เธอตาย.. ไม่อยากจะคิดเลยว่าใต้น้ำจะเต็มไปด้วยอะไรบ้าง
“รอแป๊บนะ” ฉันกำลังก้มหาบางสิ่ง บางสิ่งที่จะพอเป็นสิ่งเชื่อมโยงกันระหว่างหญิงสาวคนนี้กับเส้นทางชดใช้กรรมก่อนที่จะได้ไปเกิด เอาจริงๆคือฉันไม่รู้วิธีอะไรเลย รู้แต่ว่าต้องจับของบางสิ่งแล้วมันจะมีแสงสว่างแวบเข้ามาก็เท่านั้น
ในขณะที่บีเบลกำลังหลับตาและใช้สมาธิ ภาพในนิมิตยังไม่ทันได้เชิดฉาย รอยยิ้มแสยะสยองของหญิงสาวตัวซีดก็ผุดขึ้นบนใบหน้าก่อนจะพุ่งแรงญาณของตัวเองตั้งใจจะปลิดชีพของบีเบลเพื่อให้เป็นตัวตายตัวเเทน
‘ตายซะเถอะ!’ เสียงยืดยานดังสนั่นในหัวของตัวเอง และทันทีที่มือซีดกำลังจะผลักดันบีเบลได้สำเร็จ
หมับ!
“อ๊ายยยยย!!!’ เสียงกรี๊ดของของผีสาวดังสลั่น เผยดวงตาและไฟอาฆาตแค้นออกมาอย่างเต็มตัว
“เอ๊ะ!” เสียงกรี๊ดนั่นทำฉันลืมตาขึ้น แล้วก็เห็นบุคคลที่สาม ชายร่างสูงสง่าใส่ชุดคลุมที่ดำทมึน แผ่นหลังกว้างยืนขว้างฉัน แถมยังใช้มือจับแขนของผีสาวคนนี้อีกด้วย!
“อะไรกัน! ผู้ชายคนนี้มีไอความน่ากลัวตลบอบอวลรอบตัวไปหมด ดวงตาคมที่เหลือบมองฉันเพียงนิด ดวงตาสีแดงฉาน… อะไร ผีใหม่อีกตัวงั้นเหรอ?
“นี่นายผีใหม่.. ปล่อยเธอคนนี้นะ”
“ข้าไม่ใช่ผี”
“..ละ แล้วนายเป็นใคร นายจับผีได้ ก็แสดงว่านายเป็นผีอะ!” อีกครั้งที่เขาจ้องมองฉัน สายตาดุๆน่ากลัวนี่ก็ทำฉันใจเต้นจนเกือบจะตายได้อะ..
“เจ้านี่เอง…”
“..อะ อะไร?”
“ที่ก้าวขาเข้ามาช่วยวิญญาณพวกนี้ไม่เว้นวัน”
“…..”
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เสียงเย็นยะเยือกสะท้อนไปรอบทิศ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คน ไม่ใช่ผี.. งั้นเขาเป็นอะไร!
“…ก็ อย่ามาว่าฉัน นายต่างหากเป็นตัวอะไร ฉันเป็นคนที่เห็นผีแต่จับผีไม่ได้ แต่นาย….” ไอเย็นที่มัดข้อแขนของหญิงสาวตัวซีดเผือดที่สีหน้าแสยะร้ายน่ากลัวกระชับแน่นขึ้นเมื่อเธอพยายามจะดิ้นหนี
“ข้ามาเพื่อจับวิญญาณร้ายที่คิดจะหนีระบบกฎของปรโลก”
“….ปะ ปรโลก?” เดี๋ยวนะ จับวิญญาณ… ไปรับกฎ… ตามที่ฉันเคยอ่านเจอ…. ไหนจะไอเย็นๆ เสียงก้องๆสะท้อนๆ…
บีเบลมองหน้าร่างสูงสตั้นไปหลายวิ ริมฝีปากสั่นสะท้าน มือไม้สั่นราวกับเสียขวัญและตกใจ
“อยะ อย่าบอกนะว่านายเป็น!”
“…..”
“ยะ ยมทูต!!!”
“คนที่ขวางกรรมวิญญาณ ฝืนกฎปรโลกจะมีอายุขัยสั้นลงหนึ่งปีต่อหนึ่งดวงวิญญาณที่ได้ช่วยไว้หนึ่งดวง นั่นคือกฎ”
“!!!!!”
“ถ้ารักตัวเอง… หยุดก้าวเข้ามาในโลกที่ไม่ใช่โลกของเจ้า” เพียงเสี้ยววินาที ร่างของผู้ชายตัวสูงก็หมุนวนหายไปกลางอากาศ ไปพร้อมกับผีสาวตัวซีดด้วย
“ยะ ยมทูต จริงเหรอ!” ฉันถามตัวเอง ก็ฉันไม่เคยอ่านเจอ ว่ายมทูต จะปรากฎตนต่อหน้ามนุษย์นิ.. แถมคนเมื่อกี้เขายังดู… หล่อเกินกว่าจะเป็นยมทูตเก็บวิญญาณอะ แต่วาร์ปที่หมุนร่างเขาและผีสาวตนนั้นให้หายไปก็ทำให้รู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่ผีสางธรรมดาๆแน่นอน แต่แค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้นละ คนตายเท่านั้นที่มีสิทธิ์เจอยมทูต!
เอ๊ะ! หรือว่าฉันตายแล้วแบบไม่รู้ตัว? ไม่ใช่สิ!
“นี่! ยมทูตออกมาคุยกันก่อนสิ! นายเป็นผีใช่ไหม! อย่ามาหลอกกันให้ง่ายเลยนะ! ออกมาสิ!!!”
“…..” แต่ทุกอย่างก็เงียบสงัดดังเดิม มีเพียงฉันและบึงบัวที่เงียบงัน
??????????
ขอใจให้ยมทูตตนนี้โหน่ยยย??