บทที่ 2 (3)
หลังจากที่ภูวิชถูกปรายดาวชกที่ใบหน้า ร่างสูงใหญ่ยังยืนแข็งขืนอยู่ในห้องไม่นั่งหรือเดินไปไหน สองสามีภรรยาวัยชรางกเงิ่นทำอะไรไม่ถูกจากการกระทำของบุตรสาว อีกทั้งใบหน้าของชายหนุ่มก็ไม่น่าที่จะสัมมนาพูดคุยด้วยเลยสักนิด
“เอ่อ คุณจะเปลี่ยนชุดก่อนดีไหมครับ เสื้อผ้าเปียกหมดเดี๋ยวจะไม่สบาย” ประชาบอกอย่าเกรงๆ
คำก้อนเหลือบสายตามองนายก่อนจะเอ่ยแทนผู้เป็นนายว่า
“ไม่เป็นไรครับ เสื้อผ้าเราอยู่ที่โรงแรมไม่ได้เอามาด้วย”
“เดี๋ยวเอาของฉันไปเปลี่ยนก่อนก็ได้ รูปร่างไม่ไกลกันนักคงจะพอใส่ด้วยกันได้” ประชาเอ่ยอย่างมีน้ำใจ คำก้อนก้มลงมองเนื้อตัวของเขา ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อเปรียบเทียบกับคำว่าไม่ไกลกันของคนพูด
“ไม่เป็นไรครับไม่รบกวนดีกว่า” คำก้อนยังปฏิเสธ
เตือนใจเหลือบสบตากับสามีก่อนจะลุกเดินจากไป
ร่างบางในชุดผ้าขนหนูกระโจมอกโอบอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนพาเข้าห้อง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วทั้งน้าและหลาน เจอนางเตือนใจยืนอยู่กลางห้องคนเดียว
“มีอะไรจ้ะแม่ หรือพ่อหิวข้าวแล้ว รอดาวกับน้องภาแต่งตัวแป๊บ หากหิวมากบอกพ่อกินกันก่อนได้เลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เรายังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ รอดาวกับน้องภาได้ แต่แม่อยากให้ดาวไปดูคุณคนนั้นหน่อย แม่กับพ่ออึดอัด”
“มีอะไรหรือจ้ะ เขาสร้างปัญหาอะไรให้อีก” ปากถามมือก็จับหลานชายใส่เสื้อผ้าอย่างว่องไว ตามนิสัยที่เป็นคนทำอะไรเร็ว
“ดาวแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปดูเองเถอะ เดี๋ยวแม่ดูน้องภาต่อเอง”
ไม่ถามอะไรต่อ หญิงสาวร่างบางรีบแต่งตัวทันที เพียงเวลาไม่นานนัก เสื้อยืดแขนสั้นกางเกงขาสั้นแค่เข่าก็พร้อมที่จะออกจากห้อง
“แล้วแม่ก็เอาน้องภาไปหาข้าวกินนะ ไม่ต้องรอ”
สั่งมารดาเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไปหาตัวปัญหาที่อยู่ด้านนอก
มาถึงเห็นบิดายืนกระสับกระส่ายรอเธออยู่ ส่วนตัวปัญหายังยืนนิ่งในท่าเดิม โดยมีลูกน้องยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจนัก
“มีอะไรหรือคุณ ต้องการอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ได้ต้องการอะไร ขอเราอยู่กันตามลำพัง” ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชานิดๆ
“พ่อไปดูแม่กับน้องภาเถอะ ทางนี้ดาวดูแลเอง”
ประชาเดินออกไปอย่างว่าง่าย ด้วยตัวเขาเองก็ไม่อยากจะอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้มากนัก
หลังจากประชาเดินออกไป ปรายดาวก็ออกไปบ้าง ก่อนจะกลับมาพร้อมผ้าขนหนูผืนใหญ่ และเสื้อผ้าของบิดาเธออีกสองชุด
“เอ้าน้า นี่เสื้อผ้าของพ่อดาวเอง น้าคงพอใส่ได้ตัวก็ใกล้เคียงกัน มั้ง” ส่งผ้าให้ชายวัยกลางคนพร้อมกับรอยยิ้ม ชี้มือบอกทางไปห้องน้ำเสร็จ หญิงสาวจึงหันมาหาชายหนุ่มที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในห้อง
“นี่ผ้าเช็ดตัวของฉันเอง ถึงจะไม่ใช่ของใหม่แต่รับรองว่าสะอาด แล้วนี่ เสื้อกับกางเกงพ่อฉัน มันอาจจะไม่พอดีนัก เพราะคุณตัวโตกว่าพ่อ แต่คงพอใส่ได้”
ยื่นผ้าส่งให้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่จับ มีเพียงสายตาที่เหลือบแลมานิดหนึ่งอย่างหยามหยันกับเสื้อผ้าเก่าๆในมือหญิงสาว ก่อนจะเมินหันกลับไปมองที่อื่นที่ไม่ใช่ร่างบางกับเสื้อผ้า
ปรายดาวรู้สึกหมั่นไส้กับท่าทีของชายหนุ่มไม่น้อย ‘หน็อย ทำเป็นรังเกียจเสื้อผ้าคนจน อย่างนี้มันต้องเจอ’
“โอ้ยๆ!! นี่เธอจะทำอะไรฉัน”
ภูวิชโวยวายอย่างตกใจเมื่อหญิงสาวโดดกดหัวเขาลง แถมเอาผ้าเช็ดตัวเก่าๆมาโป๊ะเช็ดตามหัวตามหน้าตาเขาอย่างไม่กลัวเขาเจ็บ
“เช็ดตัวให้คุณไง บริการพิเศษทำให้ฟรี”
“ไม่ต้องมาทำอะไรให้ฉัน เอาผ้าเก่าสกปรกของเธอออกไปด้วย”
คำก็เก่าสองคำก็สกปรกดีๆ ละเลงให้ไม่ต้องยั้งมือ
“ฉันก็ไม่ได้อยากทำให้หรอกนะ แต่เพราะฉันกลัวผู้ดีอย่างคุณจะไม่สบาย เดี๋ยวต้องมาเดือดร้อนให้ยาจกอย่างพวกเราดูแล อีกอย่างเกิดคุณใจเสาะตายเพราะโดนฝนแค่นี้ขึ้นมา ฉันไม่รู้จะติดต่อกับญาติผู้ดีของคุณที่ไหน”
ปรายดาวร่ายยาว ขณะที่มือก็จับผ้าเช็ดไปตามศีรษะชายหนุ่มไม่หยุด การที่ภูวิชก้มศีรษะลงขนาดนี้ทำให้เขามองมองเห็นอกคู่งามของหญิงสาวอย่างใกล้ชิดถึงแม้ว่าจะมีเสื้อยืดปิดบังเอาไว้ก็ตาม
กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวตรงหน้า ให้ความรู้สึกแปลกใหม่กับชายหนุ่มไม่ใช่น้อย
ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง แต่มันเหมือนกลิ่นอะไรสักอย่างที่ทำให้คนได้อยู่ใกล้ได้กลิ่นแล้วรู้สึกหอมชื่นใจ
ปรายดาวไม่ได้เห็นสายตาของคนที่เธอแกล้งเช็ดศีรษะอย่างแรงๆให้ เธอจึงไม่ทันระวังตัว เมื่อแขนยาวๆของชายหนุ่มคว้าเอวบางมากอดอย่างรวดเร็ว
“ว้ายย !!!! ”