บท
ตั้งค่า

๓ เป็นแค่พี่ชาย (๒)

“พี่ว่าน่าจะหิวข้าว พี่หิวข้าวแหละ” หยัดกายยืนให้มั่นแล้วยิ้มให้หล่อนเพิ่มความน่าเชื่อถือ เล่นเอาเขมิกาต้องตามน้ำไม่อยากขัด เดี๋ยวเขาหาข้ออ้างมาบอกหล่อนไม่ได้

“อ้อ หิวข้าวน่ะเอง”

“ป่ะ กลับเลยดีกว่า” เดินนำหน้าเธอโดยกอดตุ๊กตาหมีเอาไว้ เรียกความสนใจจากคนที่เดินผ่านแต่เหมือนเขายังไม่รู้ตัว หญิงสาวที่เดินตามหลังจึงได้โอกาสฉีกยิ้มกว้างพลางหัวเราะเสียงเบา จะแปลกไหมที่หล่อนรู้สึกว่าพี่แมนน่ารัก

เขาน่ารักมากๆ เลยล่ะ!

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตู หล่อนวางผ้าเช็ดตัวลงในตะกร้าสำหรับซัก แล้วค่อยกลัดกระดุมชุดนอนลายคิตตี้สีหวานแหวว จากนั้นจึงเร่งฝีเท้าเพื่อมาเปิดประตูห้องไม่ให้คนข้างนอกคอยนาน

เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ก็พบหญิงสาวที่สูงกว่าตนเกือบสิบเซนติเมตรยืนกอดตุ๊กตาเอาไว้ พลางทำหน้าเศร้าแล้วมองเธอนิ่ง

“พี่ป่าน...มากลางดึกมีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน เธอไม่ได้กลับมากินข้าวเย็นที่บ้านเพราะรับประทานอาหารจากข้างนอกพร้อมอหัสกรแล้ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คนที่อู่ขับรถมาส่งถึงบ้านเพื่อความสะดวก

ตุ๊กตาขนนิ่มสีน้ำตาลที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่สำหรับหล่อน ถูกวางอยู่หัวเตียงอย่างโดดเด่น เธอไม่มีทางลืมเด็ดขาดว่าใครเป็นคนมอบมันให้ในวันที่แสนเจ็บปวดและความรู้สึกยุ่งเหยิง

“เค้ามานอนกับตัว เค้ากลัวตัวร้องไห้” ถึงจะตัวสูงกว่าแต่คำพูดเต็มไปด้วยความน่ารักที่สองพี่น้องมีให้กันตลอด...ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม

มนัสนันท์ อาจหาญชัย เปรียบเสมือนเจ้านายของหล่อนเพราะเธอเป็นน้องสาวที่แท้จริงของปีย์มนัส เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านอาจหาญชัยที่เธอเป็นผู้อาศัยและพึ่งใบบุญตั้งแต่ยังแบเบาะ

มารดาของหล่อนมาหางานทำในเมืองหลวงเพื่อส่งเงินไปจุนเจือครอบครัว พอดีได้เข้ามาเป็นแม่บ้านโดยความเมตตาจากคุณผู้หญิง ที่กำลังตั้งท้องลูกสาวเช่นเดียวกัน ไม่นานมนัสนันท์ก็ลืมตาดูโลกก่อน แล้วไม่กี่เดือนถัดมาหล่อนถึงได้ออกจากท้องแม่

แต่น่าเสียดายที่เกิดคนละปี...พี่สาวเกิดปลายปีส่วนหล่อนเกิดต้นปี

“โธ่ ไข่ไม่ร้องไห้หรอกค่ะ พี่ป่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ น้องสาวของพี่คนนี้เข้มแข็งกว่าที่พี่คิดอีก” ยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายมั่นใจ เชื่อว่าข่าวการอกหักของเธอคงรู้กันทั้งบ้านแล้วแต่ส่งหน่วยกล้าตายมาเพียงคนเดียว

ทั้งสองเดินเข้ามาในห้อง ก่อนมนัสนันท์จะจับจองพื้นที่บนเตียงกว้าง กอดตุ๊กตาที่ถือมาด้วยไว้แน่น

ถึงจะไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกันแต่หล่อนก็รักและเอ็นดูเขมิกามาตลอด ถึงขั้นสถาปนาตนเองเป็นพี่สาว ออกหน้าแทนน้องทุกอย่าง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาทำร้ายหนูไข่ไม่ได้เด็ดขาด

บ้านอาจหาญชัยไม่ว่าจะเจ้าของบ้านหรือบรรดาแม่บ้านคนสวย ต่างก็ให้ความเอ็นดูหล่อนกันทั้งนั้น จนกลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเสียแล้ว

“ไม่เอา เค้าจะนอนกับตัว เค้าไม่ปล่อยให้ตัวอยู่คนเดียวแล้วคิดฟุ้งซ่านหรอก” กว่าจะยอมให้น้องมีแฟนก็จบมหาลัยมาสองสามปี ใครจะคิดว่าคบไม่นานกลับมีเรื่องสร้างแผลใจขนาดใหญ่แก่หล่อน

“พี่ป่านคิดมากไปแล้ว งั้นคืนนี้มานอนกับไข่ก็ได้ค่ะ...ยินดีต้อนรับพี่สาวที่อายุมากกว่า...สามเดือนอยู่แล้ว” พูดพลางกระโดดขึ้นบนเตียงแล้วกอดคนที่สถาปนาตนเองเป็นพี่สาว คอยปกป้องดูแลหล่อนมาตลอดระยะเวลาที่เรียนอนุบาลจนจบปริญญาตรี

เป็นยิ่งกว่าพี่น้องเสียอีก...

วันที่แม่เธอจะพากลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดด้วยกัน ก็เป็นมนัสนันท์ร้องไห้คร่ำครวญขอให้หล่อนอยู่เมืองหลวง จนคุณผู้หญิงต้องออกโรงแทนพร้อมให้คำมั่นจะส่งเสียหล่อนเรียนจนจบปริญญาตรี ให้อยู่ในบ้านอาจหาญชัยในฐานะลูกสาวอีกคน

“หนูไข่น่ารักกับเค้าที่สุดเลย” สองพี่น้องกอดกันกลอม ก่อนจะปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนใต้ผ้าห่มผืนหนา

เขมิกาหยิบตุ๊กตามากอดเอาไว้ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ดีที่ไม่เป็นภูมิแพ้ไม่อย่างนั้นคงได้จามทั้งคืน

“ตัวมีอะไรอยากระบายก็พูดมาได้เลยนะ เค้ายินดีรับฟังตัวทุกอย่างเลย” กำลังจะหลับตาลงคนข้างกายก็เอ่ยด้วยความเป็นห่วง น้องสาวเพิ่งอกหักวันนี้แต่เหมือนจะทำใจได้เร็วเกินคาด ไม่มีแววตาเศร้าหรือร้องห่มร้องไห้ให้เห็นสักนิด

แปลกเกินไปหรือเปล่า...

“ไข่ต้องพูดอะไรคะ”

“เค้ารู้ว่าตัวเสียใจ ไอ้ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นมันกล้ามาจีบตัวทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว” พูดแล้วก็โมโหจนต้องกอดตุ๊กตาของตนแน่น อยากฉีกอกผู้ชายที่บังอาจมาทำให้น้องสาวตนเสียใจเป็นชิ้น แล้วโปรยให้ฉลาดในทะเลได้กิน...จะโหดเกินไปหรือเปล่านะ

“พี่ป่านรู้ได้ไง”

“พี่ปีย์บอก...แล้วพี่ปีย์ก็รู้มาจากพี่แมน” พรูลมหายใจเสียงเบาพลางส่ายศีรษะ

“บอกต่อกันเป็นทอดๆ เลยนะคะ”

“เค้าเป็นห่วงตัวมากนะ มีแฟนคนแรกก็ไม่สมหวังกลัวจะเป็นแผลใจให้ตัว..แล้วตัวจะไม่กล้ามีความรักอีก ตัวอย่าคิดแบบนั้นเลยนะ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถึงครั้งแรกจะเริ่มไม่ดีแต่ใครจะรู้ว่าครั้งที่สองมันอาจจะดีมากก็ได้”

พยายามโน้มน้าวไม่ให้น้องคิดมาก เธอเองก็เคยมีแฟนแล้วเลิกไปหลายคนเพราะเข้ากันไม่ได้ หรืออีกฝ่ายนอกใจ ใช้เวลาในการรักษาบาดแผลแต่ละครั้งค่อนข้างนาน นอกเสียจากจะมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ สร้างความทรงจำใหม่ที่ดีร่วมกัน

เธอจึงอยากให้เขมิกาพบรักครั้งใหม่ที่ดี...

โดยไม่รู้เลยว่าที่น้องสาวไม่ร้องไห้หรือเจ็บปวดอย่างที่คิด เพราะตอนนี้ได้มีชายอีกคนเข้ามานั่งอยู่ในใจแล้ว ซึ่งหล่อนไม่กล้าบอกใคร...

“ค่ะ ไข่จะจำคำพี่ป่านไว้”

“เก่งมากเด็กดีของเค้า นอนดีกว่านะ..อยากร้องไห้หรือเปล่า เค้าเตรียมกระดาษทิชชู่มาด้วย” หมอนที่หล่อนกอดมีพื้นที่มาพอสำหรับใส่กระดาษทิชชู่ จึงเอามาด้วยเผื่อเป็นประโยชน์แก่เขมิกา ทว่าคนฟังกลับกลั้วหัวเราะอย่างนึกขัน

การอกหักครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของคนในครอบครัว เธอเองซึ้งใจมากกว่าจะเสียใจให้ผู้ชายพรรค์นั้น

“ไม่อยากร้องค่ะ” ตอบอย่างจริงใจ เล่นเอามนัสนันท์ถึงกับอดใช้กระดาษทิชชู่ที่อุตส่าห์เตรียมมา เลือกหันมาทางเจ้าของห้องพลางวาดวงแขนเป็นการโอบกอด ครั้งล่าสุดที่พวกเรานอนด้วยกันก็เมื่อแปดปีก่อน...ตอนพี่สาวจะต้องไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศหนึ่งเทอม

ไม่อยากเชื่อว่าเวลาจะผ่านมารวดเร็ว จนตอนนี้เติบใหญ่กันหมดแล้ว ปีย์มนัสมีแฟนสาวที่คบหาอย่างจริงใจ ส่วนพี่สาวเธอก็มีชายหนุ่มดาหน้ามาให้เลือกหลากหลาย

เธอก็...มีชายที่หมายปองคนใหม่แล้วเช่นกัน

“งั้นนอนนะ” ปลอบปะโลมแล้วซุกกายเข้าหากัน เขมิกาเลือกหลับตาลงแล้วยกยิ้มมุมปากเมื่อภาพในความมืดเป็นใบหน้าคมที่ยิ้มกระจ่าง

ความรักคิดจะมาก็ไม่ทันให้ตั้งตัวเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel