บท
ตั้งค่า

๓ เป็นแค่พี่ชาย (๑)

เป็นแค่พี่ชาย

เขมิกาเลือกจะเดินกอดตุ๊กตารอบงาน พวกเธอไปเล่นโยนห่วงแต่ก็เหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จึงผละมาเดินเล่นแล้วเลือกซื้อของที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ หญิงสาวถึงได้ชวนเขาไปโซนอื่นอย่างเช่นของกิน

เมื่อเวลาผ่านไปกระเพาะก็ย่อยอาหารช่วงบ่ายที่กินแล้ว ตอนนี้ท้องจึงร้องประท้วงด้วยความหิว หญิงสาวตรงเข้าไปร้านขายของกิน ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้น ยำใส่ถ้วย ทาโกะยากิและน้ำผลไม้ปั่น ถือเต็มมือโดยมีอหัสกรถือช่วย

ระหว่างเดินหล่อนก็กินไปด้วย ถึงเขาจะบอกให้ไปนั่งกินดีๆ ก็ไม่ยอมเชื่อ หล่อนจัดการอาหารจนเกือบหมด...เพียงคนเดียว

เล่นเอาเขามองตาค้างไม่คิดว่าหญิงสาวจะกินหมด แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ อาหารเที่ยงที่กินด้วยกันหล่อนยังจัดการเรียบ โดยมีเขาช่วยแค่นิดเดียว

ตัวเล็กแต่กินจุไม่ใช่เล่นเลย...

“กอดไม่ปล่อยเลยนะ ไหนบอกไม่ชอบไง” เอาขยะทั้งหมดไปทิ้งแล้วเอ่ยล้อเลียนคนที่บอกว่าไม่อยากได้ตุ๊กตา แต่ตอนนี้ไม่ยอมปล่อยมันเลย กลับกอดไว้แน่นจนคนที่พยายามเอามาให้เธอต้องยิ้มแก้มปริ หายเหนื่อยกับเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นหล่อนชอบ

“ก็นุ่มดี” บอกข้อดีของมัน โดยไม่ยอมพูดความจริงว่าหลงรักเจ้าหมีตัวนิ่มเข้าให้แล้ว...

เธอคิดเหมือนกันว่ามันเร็วเกินไปหรือเปล่า ระยะเวลายังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงในการเลิกกับแฟน แล้วตกหลุมรักคนใหม่ซึ่งอันตรายยิ่งกว่าคนเก่า แต่ความรู้สึกของหล่อนก็ชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ว่าคิดกับเขาแค่พี่น้อง

คงต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ชอบอหัสกรก็เพราะหน้าตา ทว่าหากลองมองลึกลงไปจิตใจต่างหากที่สำคัญ เพื่อนของพี่ชายคนนี้น่ารักกับหล่อน

ทั้งการพูดคุยและวิธีการเข้าหา ความอึดอัดแปรเปลี่ยนเป็นคุ้นชินและอบอุ่นยามอยู่ด้วยกัน

จะว่าหล่อนเป็นหญิงมากรัก...ก็คงได้มั้ง

“อ่ะ...พี่แมน อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์” พอเดินผ่านโซนเครื่องเล่น แขนหนาก็ถูกคว้าเอาไว้ทันที ทั้งที่เขากำลังจะเดินผ่านอย่างรวดเร็วแล้วแท้ๆ

ร่างสูงแหงนมองชิงช้าสวรรค์แล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่รู้จะโทษอะไรดีที่ทำให้ตัวเองกลัวความสูง จะปฏิเสธก็เกรงว่าหล่อนจะล่วงรู้ความลับข้อนี้ของตนเอง ทั้งกลัวผีและกลัวความสูง...มันไม่เท่เอาเสียเลย

“ไม่เอาหรอก!...มัน มันร้อนจะตาย อยู่ข้างนอกก็อึดอัดด้วย กระเช้าก็แคบ ขึ้นไปก็ไม่รู้จะทำอะไร ไม่ต้องขึ้นหรอก พี่ว่าเราไปดูอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ” พยายามหว่านล้อมให้เขมิกาคล้อยตาม แต่หล่อนก็แหงนมองชิงช้าสวรรค์พลางเหลียวมองอหัสกรแล้วทำตาปริบ

“พี่แมนกลัวความสูงเหรอคะ” แค่คำเดียวแต่จี้ใจดำจนคนอายุมากกว่าต้องปฏิเสธเป็นพัลวัน

“เฮ้ย พี่จะกลัวได้ไง ไม่กลัว ไม่กลัวเลย” ส่ายหน้าไปมาจนหล่อนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ มาอีหรอบนี้ฟันธงล้านเปอร์เซ็นว่าเขาต้องกลัวความสูง แต่ถ้าเอ่ยออกไปก็มีแต่ทำให้ชายหนุ่มเสียหน้าซะเปล่า จึงต้องตะล่อมแล้วใช้วิธีการอ้อน

เหมือนที่เคยทำกับปีย์มนัสจนพี่ชายใจอ่อนยอมตามใจหล่อนหลายครั้ง

“งั้นขึ้นเป็นเพื่อนไข่หน่อยสิ นะ นะคะ” กระตุกแขนหนาแล้วเอ่ยเสียงอ่อน เล่นเอาคนแพ้ทางลูกอ้อนเผลอมองใบหน้าสวยอย่างเผลอไผล ค่อยตอบรับราวคนละเมอ

“กะ ก็ ก็ได้” เสียงไชโยของร่างบางทำให้เขาได้สติ มารู้ตัวอีกทีตนก็ถูกต้อนเข้าไปในลูกกรงทรงกลมเสียแล้ว พร้อมกับการเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าขึ้นไปข้างบน มือหนากำเข้าหากันแล้วค่อยเปลี่ยนจากฝั่งตรงข้ามเป็นนั่งข้างเขมิกา

เธอเห็นอย่างนั้นก็แอบอมยิ้ม นึกขันในใจว่าผู้ชายตัวโตสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรจะกลัวความสูง

“พี่ว่า พี่นั่งข้างไข่ดีกว่า” ขยับเข้าไปใกล้ร่างบางมากกว่าเดิม เหมือนต้องการหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตัวเอง ปกติไม่ค่อยมาเที่ยวกับสาวเท่าไหร่ ส่วนมากถ้านัดเจอกันก็ตามห้างสรรพสินค้าหรือผับบาร์เพื่อความเป็นส่วนตัว

มาเจอเขมิกาที่ลากเขาไปดูหนังผีบ้างล่ะ ขึ้นชิงช้าสวรรค์บ้างล่ะ...ต้องยอมรับเลยว่าเปิดโลกให้ชายหนุ่มพอสมควร

แต่ขอครั้งนี้ครั้งเดียวพอ ครั้งหน้าไม่เอาอีกแล้ว กลัวจนฉี่จะราดแต่ก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ อย่าทำอะไรขายหน้าต่อหน้าสาวเด็ดขาด ถึงเธอจะเป็นน้องสาวของเพื่อนก็ตาม

“พี่แมนต้องการหมีไปกอดไหมคะ” อาการของเขาทำให้หล่อนเลือกจะยื่นหมีไปตรงหน้าชายหนุ่ม เล่นเอาร่างหนาแทบจะคว้ามาจากมือบาง แต่ก็เลือกจะรักษาท่าทีเอาไว้

“พี่ว่า พี่แค่ถือให้ ถือให้แป๊บเดียวไข่น่าจะนั่งสบายกว่า” เขมิกาพยายามกลั้นขำเอาไว้ กลัวเขาจะเสียมั่นใจหากหล่อนถามอีกรอบ ต้องคิดหาคำอธิบายมากมายอีก จึงทำเพียงพยักหน้าให้ชายหนุ่ม ก่อนตอบเสียงนุ่ม

“ค่ะ ขอบคุณที่ถือให้นะคะ” การขึ้นชิงช้าสวรรค์ครั้งนี้ จึงไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะหล่อนเอาแต่มองคนข้างกายที่หลับตาแล้วกอดตุ๊กตาหมีแน่น ไม่แน่ว่าปากที่ขมุบขมิบอาจจะกำลังท่องบทสวดมนต์อยู่ก็ได้

หล่อนใช้เวลานี้พินิจใบหน้าคมอย่างถี่ถ้วน ต้องยอมรับว่าความหล่อเขากินขาด ดวงตาคมลึก จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากรูปกระจับสีอ่อน...ไหนจะความเนียนของผิวหน้าจนเธอยังอายอีก

“มะ มันค้างเหรอ!” พอชิงช้าสวรรค์หยุดเขาก็ลืมตาจนร่างบางรีบเสหน้าหลบ กลัวชายหนุ่มจะรู้ว่าตนแอบมอง แต่เวลานี้อหัสกรไม่มีอารมณ์จะมาสังเกตใครหรอก เขาคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ระทึกขวัญ

“ปกติค่ะพี่แมน” ปลอบชายหนุ่ม รู้ว่าน่าจะกดหยุดให้ชมวิว หรือล้อเล่นกับความกลัวของพวกตน แต่เสียดายที่คนอย่างเขมิกาไม่กลัวความสูง

บันจีจัมพป์เธอก็เล่นมาแล้ว...ห่วงแต่คนข้างกายเนี่ยแหละ ขาสั่นไปหมดแล้วมั้ง

“หนูไข่กลัวใช่ไหม เดี๋ยวพี่ช่วยกอดแขนเอาไว้นะจะได้หายกลัว” ขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดแขนหญิงสาวเอาไว้ กลายร่างเป็นหนุ่มน้อยสูงแค่ร้อยสิบเซนติเมตรทันที ทำให้หล่อนยิ่งเอ็นดูเขามากกว่าเดิม กลั้นขำแทบไม่อยู่กับอาการกลัวจนตัวสั่น

“อึก ค่ะ ได้ค่ะ” เม้มปากแน่นเมื่อจะเปล่งเสียงหัวเราะ แล้วยอมให้อหัสกรกอดตลอดการเล่นชิงช้าสวรรค์ เป็นการใกล้ชิดกันครั้งแรกของพวกเขา ที่กลิ่นกายหนายังหอมติดจมูกเธอ จนเลือกจะหันออกข้างนอก

กลัวว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงกว่าปกติของตน

“ลงแล้ว ลงแล้ว! เราออกไปกันดีกว่านะ จะได้กลับบ้านด้วยถ้าดึกกว่านี้ไอ้ปีย์ได้ฆ่าพี่พอดี” พอลงมาข้างล่างเขาก็รีบกอดหมีแล้วเดินออกมาจากลูกกรงทรงกลม หนีให้ห่างจากมันที่สุดแต่เหมือนขาจะไม่เป็นใจ มันกลับทรุดลงจนรีบบางรีบเข้ามาพยุง

“โอ๊ะ ทำไมขาอ่อนล่ะคะ” เจอกันวันเดียวแต่เห็นอหัสกรหลายมุมจนหล่อนลืมความเศร้าจากการถูกหักหลังจนสิ้น สนุกกับการมองเพื่อนของพี่ชายมากกว่า

รักครั้งใหม่จะมาเร็วเกินไปไหม...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel