บท
ตั้งค่า

๒ ความสบายใจยามอยู่ใกล้กัน (๑)

ความสบายใจยามอยู่ใกล้กัน

จอดรถตรงช่องวีไอพีเรียบร้อยก็พาหญิงสาวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่หล่อนจองหนังเอาไว้ เขากดล็อคแล้วเดินเข้าไปข้างในโดยมีร่างบางนำหน้า ถึงจะเพิ่งเจอและไม่ค่อยสนิทกันแต่เขาก็ดูแลหล่อนเป็นอย่างดี อาจเพราะตนเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิท

“อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า เดี๋ยวพี่พาไปกิน” ระหว่างรอลิฟต์เพื่อไปยังชั้นสำหรับร้านอาหาร เขาเลือกหันมาถามความคิดเห็นของเขมิกา เพราะตนเองไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ

“พี่แมนจะอยู่เป็นเพื่อนทั้งวันเลยเหรอคะ” ไม่ได้ตอบแต่เลือกจะถามกลับ เราเพิ่งเจอกันเธอจึงค่อนข้างจะอึดอัด แม้เขาจะพยายามชวนคุยหรือเป็นกันเองมากแค่ไหน ทว่าคนที่เรียนโรงเรียนสตรีมาตลอด และเลือกเข้าเรียนในคณะที่มีผู้หญิงมากกว่าครึ่ง

เธอจึงไม่รู้ว่าควรพูดคุยหรือเข้าหาเขาอย่างไร...

“ใช่ วันนี้พี่ว่าง” แต่เหมือนอหัสกรจะไม่รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาดูเข้ากับผู้หญิงได้ง่าย เจอกันไม่กี่นาทีก็ชวนคุยปร๋อเหมือนสนิทสนมกันมานาน

เข้ามาภายในลิฟต์แก้วก็กดชั้นที่ตนเองต้องการ หล่อนคิดว่าเขาคงไม่ยอมไปไหนจนกว่ารถของตนจะเสร็จ อาจต้องผูกติดกับชายหนุ่มไปทั้งวัน เขมิการู้สึกผิดกับแฟนที่ต้องมาเที่ยวกับชายอื่น เหมือนว่าตนกำลังนอกใจเขา...

พูดถึงเรื่องนอกใจก็นึกถึงเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ตอนแรกหล่อนก็ไม่คิดจะเชื่อเพราะไว้ใจแฟนหนุ่มซึ่งคบกันมาสามเดือน เขาดูเป็นคนดีและไม่เหมือนคนคิดจะนอกใจสักนิด

แล้วเขาจะนอกใจหล่อนได้อย่างไร...มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่

“กินที่ฟู๊ดคอร์ทได้ไหมคะ จะได้หลากหลาย” ออกมาจากตู้โดยสารก็ถามพลางขอความคิดเห็นจากอหัสกร ซึ่งเขาก็พยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง

“กู๊ดไอเดีย ราคาถูกด้วย ป่ะ” เผลอจูงมือหล่อนให้เดินเร็วขึ้น ก่อนพาไปที่หน้าฟู๊ดคอร์ทซึ่งมีของกินให้เลือกอย่างหลากหลาย

จากตอนแรกที่เขมิกาแค่โยนหินถามทาง เพราะตนไม่รู้จะเลือกกินอะไรและคิดว่าเขาอาจปฏิเสธ ใครจะรู้อีกฝ่ายกลับตอบรับทันที ไหนจะจูงมือหล่อนอีกจนหญิงสาวต้องกระตุกแขนเพื่อเป็นการบอกว่าการกระทำของอีกฝ่ายไม่สมควร

ร่างหนาจึงรู้สึกตัวแล้วรีบปล่อยมือบาง เขาชินกับการถูกเนื้อต้องตัวจนเผลอทำอย่างนั้นกับน้องสาวของเพื่อนสนิท ถ้าปีย์มนัสรู้จะต้องมาหักมือตนแน่

“พี่แมนดูเป็นคนอยู่ง่ายกินง่ายดีนะคะ” ชวนคุยเพื่อหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ดูกระอักกระอวน เดินไปหยุดตรงหน้าฟู๊ดคอร์ทก่อนจะแลกบัตรในการซื้อเพื่อใช้แทนเงิน มันค่อนข้างสะดวกทั้งยังประหยัดเวลาในการจ่ายเงิน เพียงแค่แสกนเท่านั้น

อหัสกรฟังหล่อนพูดแล้วก็ยกมุมปากรู้สึกขำขัน ภายนอกเขาอาจจะดูเจ้าสำอางและติดหรูเพราะสวมแต่เสื้อผ้าแบรนด์เนม แต่ความจริงตนค่อนข้างอยู่ง่ายกินง่ายด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัว...

ความขี้เกียจไงล่ะ

เขาไม่อยากออกจากห้องในวันหยุดจึงหาอะไรง่ายๆ กิน อย่างเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออุ่นอาหารแช่แข็งที่มีเต็มตู้เย็นจากการซื้อมาแช่ไว้ เพื่อประหยัดเวลาในการกิน

“ถึงหน้าพี่จะหล่อดูเข้าหายาก แต่จริงๆ เข้าหาง่ายนะ” ขยิบตาเป็นการหว่านเสน่ห์ ลืมไปเสียสนิทว่าหล่อนไม่ใช่คนที่เขาจะเล่นกับความรู้สึกได้ จึงผละไปซื้ออาหารแล้วค่อยมากินด้วยกัน

หล่อนแยกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว ยำทะเลและทอดหอยนางรม แค่เห็นก็เปรี้ยวปากแล้ว ทว่าระหว่างรออาหารหล่อนก็มองออกไปข้างนอก กลับต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพบคนที่ควรประชุมมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ห้างสรรพสินค้า

ทำไมแฟนของเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้

“เอ๊ะ” หญิงสาวมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ตาฟาด กำลังจะทิ้งทุกอย่างแล้วเลือกเดินตามแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน เธอเหลียวมองเขาด้วยแววตาที่ไม่ใคร่จะเป็นมิตรเท่าไหร่

“จะไปไหน มีอะไรเหรอ” เหลือบมองออกข้างนอกก็ไม่พบสิ่งที่น่าสนใจ เธอพรูลมหายใจเสียงเบาเมื่อไม่เห็นแฟนของตนอยู่ข้างนอก เริ่มเป็นกังวลเสียแล้วหรือเมื่อครู่หล่อนจะตาฝาดไปจริงๆ เขาจะมาอยู่ห้างสรรพสินค้าได้อย่างล่ะ...บ้าไปแล้วไข่ขวัญ

“เปล่าค่ะ เปล่า” ส่ายศีรษะเป็นการปฏิเสธ แล้วถือถาดอาหารของตนไปยังโต๊ะที่ว่าง โดยมีชายหนุ่มเดินตามไม่ห่าง

อหัสกรเลือกนั่งตรงข้ามหล่อน แล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหารที่ตนเลือก เป็นข้าวมันไก่น่าตาอร่อยกับต้มยำกุ้งตัวโต ที่ขายข้านอกชามล่ะเกือบสองร้อย แต่อยู่ในห้างแค่หนึ่งร้อยเท่านั้น เล่นเอาคนที่กำลังหิวซดจนแทบไม่เหลือบน้ำซุป

ระหว่างนั้นเขาก็ถามคนที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ตรงหน้า ถึงมือจะคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากแต่แววตากลับเหม่อลอยเหมือนมีเรื่องบางอย่างให้ขบคิด

“แล้วจองดูหนังกี่โมงเหรอ ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วนะ” เอ่ยเพื่อเรียกสติคนตรงหน้า หล่อนก้มหน้าพลางเอื้อมมือมาตักหอยทอดมากิน ความอร่อยทำให้ตื่นจากความคิดที่วนวียน

“หนังจบแล้วค่ะ” ตอบเสียงเรียบไม่ได้สนใจเรื่องตั๋วหนังที่จอง เพราะตนจองรอบบ่ายดูจากเวลาแล้วน่าจะเล่นไปครึ่งเรื่อง เข้าไปก็ดูไม่รู้เรื่องหรอกจึงตอบไปอย่างนั้น ทำให้ร่างหนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“หา! พี่นึกว่ายังไม่ถึงเวลา อย่างนี้ก็อดดูหนังเลยสิ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จองใหม่ก็ได้” เห็นอาการของเขาก็บอกวิธีแก้

“เสียดายเงิน” ถึงแต่ละเดือนจะหารายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เขาก็ไม่อยากใช้เงินสิ้นเปลือง เขาต้องการเก็บเงินให้ถึงยี่สิบล้านก่อนอายุสี่สิบปี ตอนนี้ก็มาถึงครึ่งทางแล้วด้วย

ซึ่งความคิดนี้พอบอกมารดาท่านก็แนะนำให้ลูกชายมาช่วยธุรกิจของตนเอง แต่เขาอยากโตด้วยลำแข้งของตัวเองมากกว่า

“งั้นพี่แมนก็เลี้ยงสิคะ” ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกล้าขออย่างตรงไปตรงมา แล้วมีหรือที่อหัสกรผู้หน้าใหญ่ใจโตจะปฏิเสธ

“ขอกันโต้งๆ แบบนี้เลย เดี๋ยวพี่จัดให้ครับ เอาแบบฮันนีมูนซีทไปสิ จองเซ็ทป็อปคอร์นไว้กินด้วยก็ดี...ว่าแต่เราจะดูเรื่องอะไร” เปิดโทรศัพท์แล้วจัดการจองตั๋วให้หญิงสาวกับตนเอง เขาจองเก้าอี้ตัวใหญ่เพื่อจะได้นั่งดูหนังสบาย

ไม่วายเหลือบมองคนตรงข้ามเพื่อถามเรื่องที่หล่อนต้องการดู เห็นมีหนังต่างประเทศหลายเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมกับมีหนังผีของไทยหนึ่งเรื่อง...แน่นอนว่าเขาจะไม่กดจองเด็ดขาด จุดอ่อนของตนคือกลัวผีนี่แหละ

ถ้าดูวันนี้ไม่อยากคิดเลยว่าจะต้องนำหมอนข้างมาไว้บนเตียงกี่อัน...เพื่อไม่ให้ตนเองจินตนาการว่ามีคนอื่นนอนอยู่ด้วย

มันเป็นความลับที่เขาจะไม่ให้คนอื่นรู้เด็ดขาด

“รอยเท้าค่ะ” ทว่าชื่อหนังที่เธอเอ่ยทำให้ร่างหนาต้องตกตะลึง มือที่กำลังจะกดเลิกภาพยนตร์สั่นอย่างเห็นได้ชัด

“หนะ หนังผีเหรอ” ปากสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะเลือกดูหนังผีที่กำลังโด่งดังในประเทศ ระดับความน่ากลัวถ้าเต็มสิบก็ทะลุร้อย จนเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพียงแค่คิดว่าตัวเองต้องเข้าไปนั่งในโรงหนัง

เพื่อดูหนังผี...

“ค่ะ พี่แมนกลัวเหรอคะ” เห็นอาการของเขาจึงถามอย่างสนใจ ตนไม่คิดว่าร่างหนาจะกลัวผี ดูจากภายนอกเขาเหมือนจะไม่กลัวอะไรเสียอีก

“บ้า! ใครจะกลัว พี่ไม่มีทางกลัวหรอก เดี๋ยวจองตอนนี้เลย” รีบส่ายหน้าปฏิเสธ จะให้สาวรู้ไม่ได้ว่าตนเองไม่กล้าดูหนังผี

หลังประทานอาหารเสร็จ โดยที่อหัสกรช่วยกินยำและหอยทอดนางรมที่เหลือจนหมด เพราะหญิงสาวอิ่มเกินกว่าจะยัดมันลงได้ ทำให้ตอนนี้เขาแน่นจนเดินแทบไม่ไหว จึงรีบพากันไปบนชั้นของโรงภาพยนตร์

เขาให้เธอนั่งรออยู่ที่โซฟาด้านหน้า ส่วนตนก็เดินไปซื้อขนมขบเคี้ยวพร้อมโอบไว้ในอ้อมกอด สองมือถือแก้วน้ำขวดใหญ่จนคิดว่าจะดื่มหมดไหม อาหารที่กินลงไปเมื่อครู่ยังไม่ย่อยดีเลย

เมื่อเดินตรงมาหาร่างบางก็ยื่นแก้วน้ำให้หล่อน หญิงสาวรับมาดื่มเพียงนิดเดียวจากนั้นจึงทักคนตัวสูงที่หยิบป็อปคอร์นมาเคี้ยว

“อือ อร่อยดีนะ” บอกพลางพยักหน้า

“พี่แมนกินเยอะขนาดนั้น ยังกินขนมได้อีกเหรอคะ” เธออดทึ่งกับการย่อยของเขาไม่ได้ เมื่อครู่กินข้าวไปก็เยอะทำไมย่อยเร็วจนสามารถยัดขนมลงไปได้อีก ร่างหนานั่งลงข้างเธอแล้วหยิบขนมเข้าปากเรื่อยๆ เคี้ยวจนหล่อนรู้สึกว่ามันอร่อย

“เยอะอะไร เราน่ะกินเยอะกว่าพี่อีก” โต้กลับแล้วยื่นขนมให้เขมิกา แต่หญิงสาวก็เลือกจะส่ายหน้าปฏิเสธ เธอจะกินอะไรได้อีก อิ่มจนแน่นไปหมด

“มันอร่อยนี่นา...อีกอย่างไข่หิวด้วย..เดี๋ยวก่อนค่ะ” ยังพูดไม่ทันจบดวงตากลมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินเข้ามาต่อแถวเพื่อซื้อบัตรเข้าชมภาพยนตร์ หล่อนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่ามันเป็นความจริง เบิกตากว้างไม่ยอมกระพริบกลัวว่าภาพตรงหน้าจะเลือนหายไป

หากมองไม่ผิดผู้ชายที่ยืนข้างกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยเป็นแฟนของเธอที่บอกว่าติดประชุมเลยมาหาไม่ได้...จารุพิชญ์ สมุทรประชา

เขาทำงานแผนกเดียวกับเธอ และคอยช่วยเหลืองานยากให้ลุล่วง ตอนแรกที่เข้าบริษัทหล่อนก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ดูเงอะงะจนถูกบ่นหลายครั้ง ก็ยังมีแฟนหนุ่มคอยสอนงานจนตอนนี้รู้หมดทุกอย่าง ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างให้ถูกด่าอีกต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel