ตอนที่ 12 โหดเหี้ยม
ทับทิมถูกกระชากจนตัวปลิว แผ่นหลังบางชนปะทะเข้ากับแผงอกกำยำรุนแรง ในขณะข้อมือถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยฝ่ามือแกร่ง เขากำข้อมือเธอแน่นขึ้นเสียจนกระดูกเธอจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
"โอ๊ย!" หญิงสาวร้องเจ็บออกมา สีหน้าแสดงถึงความตระหนกเท่าใดมาเฟียหนุ่มกลับไม่ยอมผ่อนแรงบีบคั้น การกระทำอุกอาจเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาคินน์ เขาเห็นเช่นนั้นก็ยอมไม่ได้ เพราะถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่ก็ไม่เคยลงมือทำรุนแรงต่อผู้หญิงเลยสักครั้ง
"คุณ มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกันสิครับ" คินน์ผุดตัวยืนตามในภายหลัง หลังจะเดินเข้าไปช่วยทับทิมที่ถูกจับตัวเอาไว้อย่างน่าสงสาร ทว่าฝีเท้าเขากลับหยุดชะงัก ร่างกายราวกับถูกเคลือบด้วยน้ำแข็ง เมื่อลูกน้องของฝ่ายนั้นชักปืนขึ้นมาจ่อหัวเขา โดยไม่เกรงกลัวต่อสายตาหลายคนในผับนี้ที่สามารถเป็นพยานได้ หากเขาเป็นอะไรไป
"คุณอย่าทำแบบนี้เลยครับ ผับที่นี่มีกล้องวงจรปิดนะ ก่อนจะทำอะไรคิดดี ๆ ก่อนเถอะ" เนื่องจากคินน์เป็นเด็กนอก ถึงแม้จะเป็นคนไทยแต่เขาเติบโตที่ต่างประเทศจึงไม่รู้จักเคเดนผู้มีอิทธิพลของที่นี่นัก
"มึงคิดว่ามึงกำลังเล่นอยู่กับใคร!" มาเฟียหนุ่มไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวต่อคำตักเตือนจากคินน์เลยด้วยซ้ำ น้ำเสียงของเคเดนเข้มขึงขังมากขึ้นเมื่อคนตัวเล็กกระตุกแขนเขาเชิงขอร้องให้หยุด
"มึงคิดว่ากฎหมายจะทำอะไรกูได้!"
"แล้วคุณคิดว่าคุณใหญ่โตมาจากไหน" คินน์เลิกคิ้วถามสงสัยเสียจริงคนตรงหน้าใหญ่โตมาจากไหนถึงกล้ากร่างใส่เขา การทะเลาะวิวาดครั้งนี้ทำให้ลูกค้าภายในผับหันมามองสนใจ
"คะ...คุณคินน์คะ คุณกลับไปเถอะนะคะ ฉันไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โต" ทับทิมเริ่มเครียดอีกครั้ง เพราะยิ่งทั้งสองคนไม่ยอมกัน เธอเกรงว่าคินน์จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะมากกว่า เพราะที่นี่มันเป็นถิ่นของเคเดน แถมผู้ชายคนนี้คาดเดาอารมณ์ได้ยาก เขาทำได้ทุกอย่างตามที่ตนเองต้องการ คินน์อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัย
"ได้ยังไงล่ะครับคุณทิม บอกเขาปล่อยตัวคุณก่อนสิ ดูสิข้อมือคุณแดงหมดแล้ว" หญิงสาวหลุบตามองข้อมือที่ถูกกอบกำเอาไว้แน่นหนา จนผิวขาว ๆ ของตัวเองเกิดรอยแดง
แต่คำพูดของคินน์ที่ทักท้วงนั้นไม่สามารถทำให้เคเดนยอมหยุด เขาเพิ่มแรงมากขึ้นกว่าเดิม จนทับทิมต้องเก็บซ่อนอาการเจ็บปวดนั้น เพื่อให้อีกคนหายห่วง เธอเม้มปากพลางส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้ง ๆ ที่เธอบอบช้ำแทบจะแหลกสลายคามือเขาอยู่แล้ว
"ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ คุณคินน์กลับไปเถอะนะคะ ฉันขอร้องล่ะ"
"คุณกับเขารู้จักกันเหรอ" ชายหนุ่มเริ่มงงในความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชาย จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาขู่ว่าจะฆ่าเขา
"กูเป็นเจ้าของผับนี้ และผู้หญิงที่มึงจะดีลกับเธอ เธอเป็นของเล่นของกู!" ทับทิมก้มหน้าหลบความกระดากอายเมื่อเคเดนเอ่ยบอกคินน์ไปแบบนั้น เธอเป็นแค่ของเล่นไร้ค่าในสายตาเขา แต่เขาไม่ควรนำมันมาป่าวประกาศต่อหน้าคนอื่น นั่นสร้างความไม่พอใจให้แก่ทับทิมเป็นอย่างมาก
"คุณเคเดนพอได้แล้วค่ะ ทิมขอร้องล่ะ หยุดเถอะนะ" ทับทิมเขย่าแขนขอร้องอ้อนวอนเขาอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ว่าเรื่องมันกำลังลุกลามใหญ่โต แถมไอถมึนทึนที่แผ่หลารอบตัวมาเฟียหนุ่มส่อถึงอารมณ์โมโหร้าย และความดุดันไม่เป็นมิตรจากเขาอย่างเด่นชัด
"เธอก็เงียบปากของเธอซะ ฉันบอกแล้วไงอย่าก่อเรื่อง" เขาแค่นเสียงจริงจัง จนทับทิมสะดุ้งกลัวสุดตัว เพราะครั้งนี้เขาโมโหร้ายแบบเป็นจริงเป็นจังมาก ทั้งที่มันไม่ควรหยิบยกมาเป็นเรื่อง
"ทิมไม่ได้ก่อความวุ่นวายให้คุณเคเดนด้วยซ้ำ ทิมก็นั่งคุยกับคุณคินน์อยู่ดี ๆ"
"แล้วที่หยามหน้าฉันกลางผับของฉัน ถ้าฉันไม่เข้ามาซะก่อนคงไม่เอากันตรงนี้หยามหน้าฉันเลยหรือไง!" มาเฟียหนุ่มตะคอกเสียงใส่อย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาคมกริบของเขาแดงก่ำวาวโรจน์ครั้นจ้องเขม็งหญิงสาวตรงหน้า
"คุณเคเดน! มันจะมากเกินไปแล้วนะ" เขาดูถูกเธออีกแล้ว แถมครั้งนี้ยังพูดเสียงดังเสียจนลูกค้าพากันมายืนมุงดูเป็นวงกลม
"มันไม่มากไปหรอกแค่นี้ เธอกล้าหยามหน้าฉันเอง!"
"ทิมไม่ได้หยามหน้าคุณเคเดน ช่วยบอกลูกน้องของคุณลดปืนลงด้วยค่ะ นะคะ ๆ" เคเดนสะบัดมือที่เธอกำลังกุมฝ่ามือเบาพร้อมเอ่ยเสียงขอร้องอ้อนวอนเขาอย่างไม่ไยดี นอกจากเขาจะไม่ใจอ่อนแล้วมาเฟียหนุ่มก็เอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิทให้จัดการงานต่อหลังจากนี้
"ไอ้เหนือมึงส่งแขกด้วย"
ทิศเหนือที่เอาปืนจ่อกลางขมับของคินน์ก็จัดการลากตัวชายหนุ่มที่กล้าท้าทายเจ้านายของตน ทว่าช่วงจังหวะนั้นทับทิมก็รีบเข้าไปคว้าแขนของคินน์เอาไว้ได้ทัน เธอรั้งไม่ให้บอดี้การ์ดลากตัวคินน์ออกไปได้
เพราะทุกอย่างมันเป็นความผิดของเธอ คินน์ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลยด้วยซ้ำ ทำให้เธอรู้สึกผิดมาก และถ้าหากช่วยคินน์ไว้ไม่ได้เธอคงรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไปตลอดชีวิต
"คุณเคเดนอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ทิมขอล่ะ คุณจะสั่งให้ทิมทำตามคุณแค่ไหนก็ได้ แต่อย่าทำอะไรคนอื่นเลย..." ทับทิมเอ่ยเสียงสั่น เนื้อตัวเธอเองก็สั่นระริกตามน้ำเสียง
"เขาเป็นใครครับ ทำไมคุณต้องยอมเขาขนาดนั้นด้วย" คินน์ไม่วายสงสัย โพล่งถามอย่างงงงวย ในสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก
"ฉันไม่รู้จะบอกคุณยังไงดีค่ะ เอาเป็นว่าคุณกลับไปได้ไหมคะ คุณกำลังไม่ปลอดภัย" เสียงของทับทิมแผ่วเบาลง
"เธอคิดว่ามันจะเดินออกจากผับฉันได้สบายขนาดนั้นเชียวหรือ!" เจ้าของฝ่ามือหยาบกร้านซึ่งฉุดตัวเองเข้าไปใกล้แล้วโอบรัดตัวเธอไว้แน่นจนทับทิมอึดอัดแค่นเสียงเข้ม
"คุณเคเดนทิมขอเถอะค่ะ ทิมผิดเอง" ทับทิมจะร้องไห้ ซึ่งวินาทีนั้นรับรู้ได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว และน้ำใสหยดแหมะบริเวณหางตา เธอจึงเบี่ยงหน้าหลบ หมุนตัวเข้ามาหาแผงอกกำยำ ซบใบหน้าหม่นหมองลงบนไหล่กว้าง ร่างบางสั่นเทิ้มเพราะพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ เพื่อปกปิดความอ่อนแอ
"เธอเห็นหรือยังว่าการลองดีกับฉันมันส่งผลยังไงกับคนรอบข้าง!" จู่ ๆ ความกดดัน และรังสีอำมหิตจากตัวเขาก็พุ่งโจมตีความรู้สึกในใจเธออย่างหนัก บัดนั้นทับทิมจึงได้รู้อีกอย่างว่าเธอคิดผิดที่ดึงเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
"ไอ้เหนือจัดการมันซะ เก็บกวาดให้เรียบร้อย" เขาไม่มีเปลี่ยนใจ ยังคงยืนยันที่จะฆ่าคินน์ให้ได้ คำสั่งเข้มงวด เคเดนมีอิทธิพลต่อเธอ เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงเธอก็กลัวเขาจนถึงสุดขั้วของหัวใจ ภายในอกข้างซ้ายดวงน้อยกระตุกวูบ
ดวงตาฉ่ำน้ำตาเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำสั่งเมื่อครู่ ด้วยแววตาผิดหวัง เขามันโหดเหี้ยมเกินคนกว่าที่เธอคิดเสียอีก
"ถะ...ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าทิมด้วยสิคะ"
"หึ เธอกำลังออกตัวปกป้องคนอื่น" น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น มาเฟียหนุ่มบดฟันดังกรอด สันกรามคมแทบแตกหัก
"ทิมปกป้องเพราะเขาไม่ผิดค่ะ อีกอย่างทิมมีความเป็นคนมากพอ"
"เอาตัวมันออกไปจากผับกูซะ อย่าให้มันเข้ามาผับกูได้อีก!" เคเดนสั่งลูกน้องอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจหนัก ๆ ชายหนุ่มยังคงมึนงงเพราะความเมาด้วย จึงร้องโวยวายเสียงดังลั่นผับ
"ส่วนเธอมานี่!" เคเดนก้มมองตัวปัญหาตรงหน้า ก่อนจะดึงร่างบางกลับเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นสองด้วยอารมณ์กรุ่น ๆ ภายหลังที่ผับกลับเข้าสู่ปกติ
พรึ่บ!
"คุณเคเดน ทิมเจ็บนะ!" ถึงแม้ตลอดทางเดินทับทิมจะขัดขืนไม่ยอมเดินตามมา เขาจัดการอุ้มเธอขึ้นมาพาดบนบ่า ทันทีที่ถึงห้องนอนก็จับร่างอรชรบนบ่าทุ่มลงเตียงนอนแบบไม่ออมแรง ไม่มีความทะนุถนอมเธอเลยสักนิด เธอจึงผงกหัวขึ้นมาร้องโอดครวญต่อการกระทำโหดร้ายของเขา
"เธอทำตัวเองทั้งนั้น!" มาเฟียหนุ่มแก้เข็มขัดออก ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าทีละชิ้นทิ้ง ตามมาคร่อมตัวเธอเอาไว้อย่างว่องไว ในขณะเจ้าหล่อนไม่ได้ตั้งตัวจึงกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขา
"คะ...คุณเคเดนจะทำอะไรทิม" ทับทิมเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นเหมือนเจ้าเข้า เพราะหวาดระแวงต่อการกระทำเอาแต่ใจของเขา เรียวมือเล็กดันแผงอกกำยำไร้อาภรณ์ออกห่างเมื่อร่างหนาก้มลงมาทาบทับตัวเธอมากขึ้น
"กลัวฉันงั้นเหรอ เมื่อกี้ยังอวดดีทำเหมือนเก่งอยู่เลยนี่!" ใบหน้าหล่อร้ายโน้มลงมาใกล้เรื่อย ๆ จนลมหายใจเขาเป่ารดแก้มใส ทำเอาทับทิมเบือนหน้าหนี หลับตาปี๋ด้วยอาการลุ้นระทึกว่าเขาจะทำอย่างไรกับเธอ
"คะ...คุณเคเดนไม่ได้ฆ่าเขาใช่ไหมคะ" หากเมื่อครู่เธอฟังไม่ผิด เคเดนแค่สั่งให้นำตัวคินน์ออกไปจากผับ เธอละความกลัวถามถึงชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักไม่ถึงชั่วโมงด้วยความห่วงหน้าพะวงหลัง
"ยังจะไปสนใจมันอีกหรือไง ตัวเองจะโดนอะไรบ้าง เตรียมตัวเอาไว้หรือยัง!"
"โอ๊ย! ทิมเจ็บ อึก" ทันทีที่คนบนร่างว่าจบ ริมฝีปากหยุ่นก็ตะโบมจูบปากเธออย่างหนัก เม้มพลางกัดกลีบปากเธอจนบวมเป่ง ก่อนจะเคลื่อนไปหาซอกคอระหง กัดผิวขาวผ่องของสาวเจ้าจนได้เลือด และรอยฟกช้ำ ทำให้เจ้าของร่างร้องเจ็บออกมาอีกระลอก คราวนี้ทับทิมไม่อาจทนต่อความรุนแรงจากเขาได้ เธอดิ้นพล่านขืนแรงจนสุดพละกำลัง
แต่แรงอันน้อยนิดไม่สามารถสู้คนตัวโตแบบเขาได้ ทับทิมหอบเหนื่อย หยุดความพยศของตัวเอง ปล่อยให้มือหนาได้เลื่อนเข้ามาผ่านชุดเดรสเคล้นคลึงเต้ากลมหนัก ๆ ทำเอาใบหน้าสวยเปื้อนน้ำหน้าเหยเกหลายครั้งหลายครา ร่างบางนอนนิ่ง ๆ ปล่อยให้เขาลงโทษจนหนำใจ
"วันนี้ไม่เล่นตัวอีกหรือไง" ผงกหัวขึ้นมาถามอย่างใส่ยี่หระต่อท่าทีนิ่งเงียบไม่โวยวายเหมือนเมื่อสักครู่นี้ แล้วก้มดูดลำคอ และเนื้อตัวเธอต่อ เพื่อฝากร่องรอยสีกุหลาบ ตีตราความเป็นเจ้าของเอาไว้ทั่วเรือนกายขาวเนียน
"ฮึก คุณใจร้าย คุณมันเลว!" การกระทำทั้งหมดหยุดชะงักครั้นหญิงสาวสะอื้นจนตัวโยน เสียงร้องไห้แกมตัดพ้อเอ่ยออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มไม่หยุดหย่อน น้ำตาเม็ดใสไหลอาบแก้มใสเป็นสาย
เธอไม่ได้หวังว่าเขาจะเห็นใจด้วยซ้ำ คำว่าเห็นใจไม่มีในหัว เพราะทุกครั้งเขาลงมือทำอย่างแบบไร้หัวใจ และไร้ความรู้สึก ต่อให้ขอร้องวิงวอนเท่าใดมันก็เปล่าประโยชน์
"โธ่เว้ย แม่ง!" เคเดนสบถคำหยาบคายออกมาครั้นคนตัวเล็กใต้ร่างเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับเขา มาเฟียหนุ่มหยุดการกระทำ ช้อนใบหน้าสวยที่หันหนีเขาให้กลับมาปะหน้ากัน
แววตาสั่นระริกมองเธออย่างหวั่นไหว พร้อมกับหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง เพราะเคเดนแลบลิ้นเลียน้ำตาบนซีกแก้มเธอทั้งสองข้างสลับกันไปมา
"ทำไมต้องร้ายขนาดนี้ด้วย" ทับทิมเอ่ยถามด้วยทีท่ากล้า ๆ กลัว เมื่อทุกอย่างค่อย ๆ สงบลง ถึงจะไม่มากแต่เธอกลับรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย
"ถ้าเธอไม่อวดเก่งฉันก็ไม่ร้ายใส่!" พลางกระซิบข้างกกหูขาวสะอาด น้ำเสียงเขาแหบพร่าไม่ได้ใช้โทนเกรี้ยวกราดใส่เธออีก "นอนซะอย่าออกไปวุ่นวายอีก"
คราวนี้เขาลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องไม่ลืมหยิบชุดเสื้อผ้าของตนเองติดมือไปด้วย ทิ้งให้ร่างบางนอนมองแผ่นหลังกว้างหายออกไปจนลับสายตากลมใส อย่างใคร่สงสัย ตั้งคำถามกับตัวเองหลายอย่าง
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทับทิมไม่มีแววว่าจะนอนหลับเลยสักนิด เปลือกตาของเธอไม่ยอมปิดลงเสียที หนำซ้ำยังคิดมากโดยที่นึกไม่ออกว่ามีเรื่องอะไรให้คิดอีก หญิงสาวถอนหายใจอีกรอบของวัน ฝ่าฝืนต่อคำสั่งของมาเฟียหนุ่ม
"แค่ออกไปเดินเล่นคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งนะ" พึมพำกับตัวเองเสียงเบาหวิวแล้วขยับตัวลงจากเตียงนอน เดินไปหยุดยืนตรงหน้าบานประตูห้อง เธอจึงตัดสินใจแง้มเปิดประตูอย่างเบามือ
ห้องทำงานซึ่งเชื่อมติดกับห้องนอนกลับไร้แสงไฟ แต่พอมีไฟจากตัวตึกข้างเคียงบวกกับไฟตามถนนส่องเข้ามาผ่านม่านผืนบางทางหน้าต่าง พอเห็นเป็นเงาดำสลัว ๆ
"อึก อ๊า คะ...เคเดนคะ บะ...เบา ๆ สิคะ!"
ปึก!
ท่อนขาเรียวสวยหยุดชะงัก เธอไม่กล้าก้าวออกจากห้องฉับพลันครั้นได้ยินเสียงครางแว่ว ๆ บวกกับเสียงเนื้อกระทบกัน ของใครบางคนดังมาจากทิศทางของโต๊ะทำงานตัวประจำของเคเดน ทับทิมพลันใช้สายตาสาดส่องมองไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
จนกระทั่งเห็นเงาดำเป็นคลุ้ม ๆ ของชายหญิงร่างกายเปลือยเปล่าคู่หนึ่ง กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนโต๊ะทำงาน ฝ่ายหญิงเอนแผ่นหลังนอนราบไปกับโต๊ะกระจกโดยท่อนขาสองข้างตั้งชันอ้าออกกว้าง รองรับแรงกระแทกจากอีกฝ่าย ส่วนเคเดนยืนอยู่ด้านข้าง ในขณะเอวสอบหนาสวนใส่ตัวหล่อนด้วยจังหวะหนักหน่วง
ทับทิมเม้มปากแน่นไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อเหตุการณ์ตอนนี้ดี และความเจ็บแปลบบริเวณหัวใจ ทำให้เธอเฉยเมยไม่ได้อีก เร็วเท่าความคิดทับทิมผลักประตูออก พร้อมเดินเข้าไปขัดจังหวะของทั้งคู่
"กรี๊ด!!" ไฟจากห้องนอนสาดเข้ามาในห้องทำงาน ทำให้เจ้าหล่อนที่กำลังเคลิบเคลิ้มเปล่งเสียงครางระงม กรีดร้องตกใจ รีบยกแขนทาบปิดส่วนสงวนของตัวเองอย่างเหนียมอาย
หากแต่ท่อนล่างยังถ่างขาออกกว้างมากกว่าเดิม ไม่ยอมเอ่ยปากสั่งให้เขาหยุดกระทำหล่อน ทางด้านเคเดนปรายมองทับทิมอย่างไม่ใส่ใจนัก เขายังมุ่งหน้าชักพาตัวเองให้ไปถึงฝั่งฝัน
"คะ...คุณเคเดน ทำไมทำอะไรไม่เกรงใจทิมบ้าง!" ทับทิมลืมตัวว่ากำลังล้ำเส้นเขา แต่เพราะแรงโทสะมีมากกว่าสติยับยั้ง จึงเดินเข้าไปผลักหัวไหล่ร่างสูงใหญ่
จนทั้งคู่หยุดกระแทกใส่กัน หญิงสาวรีบวิ่งเก็บเสื้อผ้าบนพื้นมาใส่พอลวก ๆ ก่อนจะวิ่งหายไปด้วยความเร็ว โดยมีสายตาไม่เป็นมิตรของทับทิมมองตามหลัง
"อะไรของเธอ!" เคเดนผละห่างหญิงสาวที่ลากตัวหล่อนขึ้นมากินในที่ลับ ก่อนจะหมุนตัวมาประจันหน้ากับทับทิมตรง ๆ พลันคิ้วเข้มดกดำขมวดฉายแววไม่สบอารมณ์นัก
"คุณทำไมเอาไม่เลือกแบบนี้คะ ทิมรังเกียจคุณ" ทับทิมบอกตามตรง เนื่องจากเขาไม่เคยป้องกันตอนมีอะไรกันสักครั้ง แถมเขายังใช้ไอ้นั่นของเขาไปเอากับใครต่อใคร จนเธอนึกรังเกียจ ขยะแขยงต่อสัมผัสจากเขาที่มอบให้แก่เธอโดยไม่ยินยอม
"แล้วยังไง เธอทำหน้าที่ของเธอไม่ดีเอง" เขาตอบกลับด้วยท่าทางไม่ยี่หระ จากนั้นก็รูดเครื่องป้องกันออกจากท่อนเอ็นทรงกระบอกทิ้ง
"ทำไมทีกับทิมไม่ใช้เครื่องป้องกันบ้าง ไม่กลัวพลาดกับทิมหรือไงคะ ทิมกลัวพลาดเป็นเหมือนกันนะ"
"เธอกำลังล้ำเส้นฉันนะ ฉันจะใส่ไม่ใส่ฉันก็เรื่องของฉัน ใครใช้ให้เธออกมาข้างนอก กลับเข้าไปซะเตรียมทำหน้าที่ของเธอ เพราะเธอมาขัดจังหวะฉันเองนะ ยอมรับผลของการกระทำตัวเองไว้ได้เลยทับทิม!"
ทับทิมอึ้งต่อคำตอบจากปากหยัก เขามันเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด!