บทย่อ
ใครมันจะไปรู้จากมาเฟียหนุ่ม เจ้าหนี้ของทับทิม เขาจะกลายเป็นเด็กชายในวัยเยาว์คนนั้น นานมาแล้วทับทิมเคยสัญญาอะไรบางอย่างไว้กับเขา แต่เมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป ทุกอย่างย่อมมีลืมเลือนเป็นธรรมดา หากแต่เด็กชายในวัยเด็กคนนั้นไม่เคยลืมคำสัญญาของเธอ เขาจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญา โชคร้ายของทับทิมที่ต้องเจอเขาอีกครั้ง และมากไปกว่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต หรืออะไรลิขิตกันแน่ ทับทิมดันจำช่วงเวลาเกี่ยวกับเขาไม่ได้ มิหนำซ้ำอีกฝ่ายบีบบังคับเธอจนจนมุม ท้ายที่สุดศักดิ์ศรีที่เธอรักษามาอย่างดีก็ถูกพรากไป เพราะเขา...
ตอนที่ 1 เริ่มต้น
‘ฉันเองก็หมดหนทางช่วยแกแล้วจริง ๆ เงินที่เคยให้แกไปล่ะ ใช้หมดแล้วเหรอ’
“หมดแล้วน่ะสิ ทั้งเอาไปจ่ายค่าเทอม ค่าใช้จ่ายแต่ละวัน จะเอาอะไรไปจ่ายหนี้เขา พวกมันมาทวงฉันแทบจะทุกวัน แถมยืมไม่ถึงล้าน ตอนนี้หนี้พุ่งถึงห้าล้านบาท เอารัดเอาเปรียบกันชัด ๆ”
‘แล้วยังไงฉันจะหาทางช่วย ระหว่างนี้แกไปหาที่หลบเจ้าหนี้ก่อนเถอะ’
“ขอบใจนะ แค่นี้ก่อนนะ”
“เฮ้อ!” หญิงสาววัยยี่สิบสามปีถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างอ่อนใจ เมื่อดึงโทรศัพท์ที่แนบหูออกมา แล้ววางสายเพื่อนสนิท ก่อนจะโยนมันทิ้งไว้บนเตียงแบบไม่ใส่ใจนัก เธอรู้สึกถดถอยต่อความลำบากของตัวเองที่เผชิญหน้าต่อความลำบากเพียงลำพัง ชีวิตของเธอนอกจากจะไร้ทางออก
มิหนำซ้ำยังมีหนี้ก้อนโตเป็นแจ็กพอร์ตชิ้นใหญ่ ที่มีเจ้าหนี้ขาโหดตามทวงหนี้จำนวนเป็นล้าน ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ถึงอย่างนั้นทับทิมกลับไม่ยอมแพ้ ยอมละทิ้งต่อทิฐิตัวเอง เพื่อบากหน้ากลับไปหาพ่อแม่อย่างแน่นอน
พวกเขาตัดขาดกับเธอ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกบุญธรรมโดยสมบูรณ์ เพราะเหตุผลบางอย่าง แถมยึดทรัพย์สินทุกอย่างที่เคยยกให้เธอทั้งหมด ไม่ให้เหลือติดตัวมาด้วย ทับทิมเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพี่น้องที่ไหน เธอจึงไม่หลงเหลืออะไรในชีวิตสักอย่าง เดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่อย่างสิ้นเนื้อประดาตัว
จากเด็กกำพร้าแห่งบ้านอุ่นใจ สู่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเศรษฐีเป็นถึงคุณหนู ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย วัน ๆ แทบไม่ต้องหยิบจับอะไร มีคนเหล่าแม่บ้าน คอยประเคนให้ถึงที่ ทำให้ชีวิตแต่ละวันของเธอผ่านไปได้อย่างราบเรียบ และสบายใจ ไม่ต้องกังวลใจต่อหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนยามนี้
เธอต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง สิ่งที่ไม่เคยทำก็ต้องลงมือทำเองทั้งหมด ถึงจะท้อและเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด เพื่อแลกกับค่าเงินไม่กี่บาทกับอาชีพเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้าเพื่อมาจ่ายค่าเทอม ซึ่งตอนนี้ทับทิมกำลังเรียนมหา’ ลัย ปี 4 แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะอยู่กับความลำบากนี้ โดยไม่คิดจะหันไปพึ่งพาพ่อแม่บุญธรรมที่รักเธอแบบผิด ๆ
ทับทิมกวาดสายตาหม่นหมองมองไปรอบ ๆ หอพักขนาดเล็กสมกับราคาเดือนละสามพันบาทด้วยความรู้สึกหลากหลายจนพูดไม่ออก ก่อนจะหลุบตามองฝ่ามือขาว ของตนเอง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฝ่ามือเธอคงนุ่มนิ่มน่าสัมผัสมาก หากแต่ตอนนี้นั้นหยาบกระด้างขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากการใช้งานมันหนักจนเกินไป
ทับทิมรีบสะบัดหัวไล่ความคิดสับสนที่พยายามข่มจิตใจเธอให้กลับไปหาครอบครัวบุญธรรม...
หลังจากนั้น หญิงสาวพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างตัว ซึ่งด้านในมีพื้นที่คับแคบ เป็นเพียงช่องสี่เหลี่ยมให้พอแทรกตัวเข้าไปด้านในได้ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก เธอเลือกไม่ได้จึงต้องอยู่ตามฐานะพอมีพอกินของตัวเอง
สามสิบนาทีผ่านไป…ทับทิมให้กำลังใจตัวเอง จนรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ระหว่างนั้นก็จัดการสวมใส่ชุดเสื้อผ้าราคาถูกตามตลาดนัด จนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ด้วยชุดเดรสกระโปรงสั้น ใบหน้าสวยหวานประทินเครื่องสำอางสีอ่อนแต่งแต้มอ่อน ๆ ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีพีชตุ่น ๆ ค่อย ๆ ระบายยิ้มออกมาจาง ๆ มือเรียวบางสางผมตัวเองเพื่อจัดทรงเป็นลอนสวย ขณะท่อนขาเรียวเร่งรีบวิ่งไปสวมใส่รองเท้าส้นสูงประมาณห้านิ้วที่วางอยู่ข้างมุมห้องนอน เพราะเกรงว่าจะชักช้าไปทำงานช้า
หลังจากเลิกเรียนเธอต้องรีบกลับมาแต่งตัวที่ห้องพัก เพื่อไปทำงานพิเศษต่อ แต่เงินอันน้อยนิดเมื่อบริหารไม่ดีพอ ใช้จ่าย และเที่ยวดื่มตามเพื่อนคนอื่น ๆ แบบฟุ่มเฟือยไม่ระมัดระวัง ทำให้ทับทิมต้องทำการกู้ยืมเงินนอกระบบ ดอกเบี้ยโหดของคำว่าโหด เธอหยิบยืมเขามาเพียงจำนวนหนึ่งแสนบาท
แต่เวลาผ่านไปไม่เกือบห้าเดือน จำนวนหนี้รวมถึงดอกเบี้ยก็พุ่งสูงเป็นหลักล้านบาทจนน่าตกใจ เมื่อไม่มีจ่ายเจ้าหนี้ขาโหดกับจำนวนเงินมากมายขนาดนั้น เธอจึงเลือกที่จะหลบหนีไปเรื่อย ๆ พอมีจ่ายสักก้อนค่อยเอาไปใช้หนี้เองถึงที่ที่ไปยืมมา
เพราะเช่นนี้เธอจึงโทร.ไปขอความช่วยเหลือจากแพรพลอย ผู้เป็นเพื่อนสนิท ทว่าที่บ้านของแพรพลอยเองไม่ได้ร่ำรวยมาก นางจึงช่วยได้เพียงแค่บางส่วนเท่าที่สามารถช่วยได้ ทับทิมเข้าใจเพื่อนสาวดี จึงไม่เซ้าซี้พาลให้แพรพลอยต้องลำบากใจ…นั่นคือที่มาคร่าว ๆ ว่าทำไมถึงเป็นหนี้มาเฟียได้
ทับทิมรีบเดินเข้าร้านเมื่อเดินไม่กี่สิบถึงยี่สิบก้าวก็มาถึงร้านเหล้าหลัง มหา'ลัย ที่ทำงานพิเศษของเธอ ซึ่งตกแต่งด้วยสายไฟส่องแสงระยิบระยับ ห้อยระโยงระยางหลากสีสัน ด้วยความหวาดกลัวเรื่องเมื่อวานที่เธอเพิ่งเจอมากับตัวเองไม่นานมานี้ ทำให้ทับทิมรีบเดินเข้าร้านอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่เคยเห็นแต่ในข่าว บัดนี้เธอกลับได้พบเจอมันด้วยตัวเองเสียแบบนั้น
หากเท้าความกลับไป เมื่อวานนี้มาเฟียหนุ่มเจ้าของหนี้ที่เธอติดค้างเขา ส่งลูกน้องมาดักข่มขู่เธอกลางทางระหว่างเดินกลับห้องพัก
เนื่องจากเลยกำหนดวันที่ส่งดอกเบี้ย พวกเขาเกือบจะฆ่าเธอด้วยการใช้มีดที่จี้กลางลูกกระเดือก กรีดผิวหนังของเธอให้เสียโฉม ทำให้เธอหวาดกลัวจนตัวสั่น และทำงานหนักเป็นเท่าตัวเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้เลิกแล้วต่อกันซะ
ถึงแม้ไม่เคยเห็นหน้าเจ้านายใหญ่ หรือที่พวกลูกน้องเรียกเขาว่ามาเฟีย แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความโหดเหี้ยมของเขา
ปกติทับทิมจะรับหน้าที่แค่เสิร์ฟเหล้า ทว่าวันนี้เธอกลับไม่เลือกงาน ทำควบคู่ทั้งเสิร์ฟ และนั่งดื่มเป็นเพื่อนคุยกับลูกค้า เพราะจะได้รายได้เพิ่มเป็นสองเท่า ทำให้เธอมีเงินสักก้อนไปจ่ายหนี้จากการตัดสินใจคิดน้อยที่ไปยืมเงินพวกเขามา
แขกห้องวีไอพียื่นแก้วแอลกอฮอล์มาให้ เธอรับแก้วจากลูกค้ามา แล้วยกขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย ทำให้เธอได้ทริปจากลูกค้าแก้วต่อแก้วที่กระดกจนพร่องไปทั้งแก้ว
ทับทิมนั่งขนาบข้างบริการพวกเขาจนพึงพอใจ ถึงแม้ไม่ใช่ทางถนัดของเธอเลยสักนิด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด
จนตอนนี้ทับทิมรู้สึกเริ่มกรึ่ม ๆ เวียนหัวเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัวเธอ จึงคิดว่าเงินที่ได้จากวันนี้คงมากพอที่จะใช้หนี้เขา หญิงสาวจึงเดินออกมาจากกลุ่มลูกค้า ขอตัวออกมาแบบแนบเนียน
ทับทิมยกแขนค้ำยันเคาน์เตอร์อ่างล้างมือภายในห้องน้ำของร้าน ซึ่งเบื้องหน้าสะท้อนรูปร่าง ใบหน้าของเธอผ่านกระจกบานใหญ่
แต่ทับทิมก็ต้องรีบสะบัดหน้าเมื่อยิ่งจ้องมองเท่าไร ภาพทุกอย่างที่กวาดตามองก็เริ่มพร่าเบลอ เธอรีบเปิดก๊อก ใช้ความเย็นฉ่ำของน้ำซับตามกรอบหน้าเพื่อเรียกสติ เพราะตอนนี้เธอรู้ตัวดีว่ากำลังโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน
'อ๊ะ อ๊า เคเดนคะ~'
ฝอยน้ำเสียงดังซู่ซ่า จากก๊อกไหลกระทบอ่างล้างมือทรงกลม แบบกระเบื้อง กลับไม่สามารถกลบเสียงบางอย่างที่ดังเล็ดลอดผ่านมาให้หญิงสาวได้ยินเลยสักนิด
เสียงครวญครางปานจะขาดใจดังมาจากห้องน้ำห้องหนึ่งด้านหลังของทับทิม เธอชะงักมือที่วักน้ำใส่ใบหน้า แล้วค่อย ๆ ปิดก๊อกน้ำ ก่อนจะเอี่ยวตัวหันไปมองหาต้นเสียง เสียงครางนั้นยิ่งโหมกระหน่ำพร้อม ๆ กับเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นรอบรูหูสองข้างของเธอ
ป่วนประสาทคนแบบเธอจนเกิดความรำคาญ ไม่ต้องบอกก็ทราบได้โดยไม่ต้องไขข้อสงสัยเลยสักนิดว่าในห้องน้ำห้องนั้น กำลังเกิดศึกสงครามอะไรอยู่
ด้วยความเครียดที่อัดอั้นมาทั้งวัน ทับทิมจึงไม่สามารถทนต่อความไม่อายผีบ้านผีเรือน หรืออายคนอื่นบ้างที่เข้ามาได้ยินอะไรชายหนุ่มหญิงสาวเจ้าครางระงมสู้ฟัดกัน สูดลมหายใจพลางกัดปากทำเสียงอย่างเสียวกระสัน จนทับทิมสยิวมวนท้องน้อยตาม
เธอจึงตะโกนบอกไปโดยไม่อายปาก และกล้ามาก เพราะความเมาครอบงำสติ
"เอาเบา ๆ หน่อยค่ะเกรงใจคนอื่นซะบ้าง!"
ปึก ๆ ๆ
"ซี้ด อ๊า!"
แต่แทนที่เสียงนั้นมันควรผ่อนเบาลง กลับดังสนั่นแรงขึ้น จนกลัวว่าผนังกำแพงห้องน้ำ รวมไปถึงพื้นกระเบื้องที่สั่นไหวจากแรงปะทะของพวกเขา จะทำให้ร้านเหล้าพังถล่มลงมา หรือกลัวว่าอวัยวะพวกเขาจะฉีกขาด
เอ๊ย...
ทับทิมรีบสะบัดหัวไล่ความคิดลามก แล้วรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ หนีคู่รักลามก ที่ฝ่ายชายมีชื่อว่า เคเดน
เธอจะจำไม่มีวันลืมแน่!
“พี่เก้า ทิมกลับก่อนนะคะ” หลังจากทับทิมวิ่งหน้าตื่นออกมา หญิงสาวก็รีบเข้าไปบอกลาผู้จัดการสาวของร้าน ซึ่งฝ่ายนั้นที่กำลังรินเหล้าให้ลูกค้าเงยหน้ามามองก่อนเอ่ยตอบ
“กลับเถอะ เดี๋ยวทางนี้พี่ให้เด็กเก็บร้านเอง ทิมดูไม่ไหวแล้วเดี๋ยวเดินกลับคนเดียวอันตรายด้วย” เก้าเป็นคนรับทับทิมเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะเพื่อนสาวของอีกฝ่ายเป็นญาติห่าง ๆ กับเก้า แพรพลอยเลยฝากงานให้ทับทิมจนได้เข้ามาทำงานที่นี่ได้ง่ายขึ้น
“ค่ะ” เมื่อถึงเวลาเลิกงานตามกฎของทางร้าน และบอกลาเพื่อน ๆ ร่วมงานเรียบร้อย ร่างอรชรเดินโซซัดโซเซออกจากที่ทำงานมาเรื่อย ๆ เธอคอตก ดวงตาปรือฉ่ำด้วยความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เพิ่งดื่มไปไม่รู้กี่แก้ว พลางมองถนนหนทางที่แต่ก่อนไม่คุ้นตานัก แค่ยามนี้เธอกลับคุ้นชินกับวิวทิวทัศน์แบบนี้เสียแล้ว
จนกระทั่งมาถึงห้องพักขนาดเล็ก แง้มประตูห้องเปิดแล้วปิดลงกอนแบบเบามือ กระเป๋าสะพายข้างที่กำไว้แน่นก่อนหน้านี้ถูกโยนทิ้งลงบนเตียงนอน จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ก้มถอดรองเท้าส้นสูงอย่างทุลักทุเล พอจัดการกับทุกอย่างเสร็จด้วยความหนักอึ้งของหัวสมอง ทับทิมจึงไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดอีก
ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงนอน เนื้อผ้าหนาหยาบ ไม่มีความนุ่มที่จะสบายตัวเหมือนชีวิตเธอแต่ก่อน
ความแรงจากการทิ้งน้ำหนักตัว ทำให้ทับทิมนิ่วหน้าเจ็บ แต่ถึงกระนั้นคนเมาคงไม่สนใจ เปลือกตาเธอปิดลงในไม่ช้า จนกระทั่งได้ยินเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ สิ่งบ่งบอกว่าเธอได้หลับพักผ่อนแล้ว