บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ชณิกามาศพาตัวเองเข้ามายืนอยู่หน้ากระจกภายในห้องน้ำของโรงแรม หญิงสาวต้องการมุมเงียบๆ ในการเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาหลังจากที่มันกระเจิดกระเจิงหายไปกับน่านนที...มือบางยื่นไปตรงก๊อกน้ำเพื่อล้างไม้ล้างมือ หวังให้ความเย็นจัดนั้นช่วยทำให้จิตใจสงบลงก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองน้อยๆ เมื่อตระหนักว่าความอุ่นร้อนของเขามันยังไม่จางหาย สายตาและคำพูดที่กระซิบอยู่ใกล้ๆ มันทำให้เธอใจสั่น แม้ว่าเขาจะชอบทำให้เธอใจสั่นอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะทำถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้...

หญิงสาวข่มตาเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง และเมื่อสติที่หายไปกลับคืนมา ตากลมใสนั้นก็มีแต่ความขึ้งเครียดเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ สิ่งที่เธอเองก็ลำบากใจที่จะทำ...

“ถือว่าเป็นคำขอร้องจากแม่คนหนึ่งแล้วกันนะช่อม่วง” ยามนั้นคุณหญิงขอร้องแทบจะเป็นอ้อนวอน มือเรียวนั้นเย็นจัด แววตาของนางสะท้อนถึงความทุกข์ใจของหัวอกคนเป็นแม่อย่างไม่ปิดบัง ทั้งที่คุณหญิงเป็นคนเข้มแข็งมาตลอด

“แต่สองคนนั้นเขารักกันนะคะ” เมื่อคุณหญิงเอ่ยปากขอร้อง เธอยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ “ไม่ใช่ว่าช่อม่วงไม่อยากช่วยนะคะคุณหญิง แต่คุณซีก็เมตตาช่อม่วงมาตลอดเหมือนกัน”

“แล้วเธอจะยอมให้คนที่เมตตาเธอมาตลอดต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเลือกรักคนผิดอย่างนั้นหรือ ถือซะว่าเห็นแก่ที่ฉันคอยช่วยเหลือเธอมาตลอดเถอะนะช่อม่วง แล้วฉันจะไม่ขออะไรเธออีกเลย” พอเจอประโยคที่เหมือนจะต้องการให้เธอเห็นถึงบุญคุณของนาง ก็ทำเอาชณิกามาศพูดอะไรไม่ออกยอมตกปากรับคำคุณหญิง แม้จะรู้ว่าผลที่ตามมามันอาจจะทำให้เธอกับน่านนทีเข้าหน้ากันไม่ติดไปตลอดก็ตาม

ชณิกามาศถอนหายใจหนักๆ และนึกปลอบใจตัวเองว่าอะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด อัครภักดีธาดามีบุญคุณกับเธอ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องตอบแทน...หญิงสาวหยิบเอาต่างหูในกล่องกำมะหยี่มาใส่ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำก้าวเข้าไปในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ ประดับประดาด้วยแสงไฟสีทองอร่าม กลิ่นขนมหวานและของว่างตำหรับชาววังฟุ้งกำจายชวนให้ผ่อนคลาย บวกกับเสียงเพลงจากเปียโนและไวโอลินซึ่งเปิดคลอไปทำให้บรรยากาศมีแต่ความหอมหวานและอบอุ่น สมกับชื่อโรงแรมฮันนี่ สวีต

ร่างแบบบางในชุดราตรีเดินไปกึ่งกลางของห้องอันเป็นที่ตั้งของโต๊ะขนาดใหญ่ซึ่งมีบรรดาขนมหวานและของว่างนานาชนิดจัดเรียงไว้อย่างสวยงาม หญิงสาวอมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินเสียงชื่นชมจากบรรดาแขกเหรื่อในงานหลังจากได้ชิมขนมหวานเหล่านั้น

“เอ่อ...ขอโทษนะครับ” เสียงหนึ่งทักขึ้นจากทางด้านหลัง ชณิกามาศหันไปมองแล้วก็พบกับร่างสูงใหญ่ภูมิฐานในชุดตำรวจสีกากีบนบ่าประดับดาวสามดวงยืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ทำให้เธอจำต้องยิ้มตอบอย่างเสียไม่ได้ แม้จะรู้สึกว่าคนตรงหน้าดูเป็นคนเจ้าชู้อยู่ไม่น้อยก็ตาม

“ค่ะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม

“ผมร้อยตำรวจเอกอิทธิพัทธ์ครับ คือผมอยากจะทำความรู้จักกับคุณน่ะครับ เห็นคุณยืนมองของหวานพวกนี้อยู่นานแล้วคงเลือกไม่ถูกใช่ไหมครับว่าอยากลองทานอันไหน เดี๋ยวผมแนะนำให้มั้ยครับ พอดีผมทานขนมของโรงแรมนี้มาแทบจะทุกชนิดแล้ว” ได้ทีนายตำรวจหนุ่มก็เริ่มคุยโวหมายจะสานสัมพันธ์โดยหารู้ไม่ว่าคนที่เจ้าตัวกำลังคุยด้วยคือเจ้าของสูตรขนมพวกนี้

“เอ่อ...คือว่า...” เธอจะพูดอย่างไรดีล่ะที่จะไม่ทำให้นายตำรวจหนุ่มคนนี้หน้าแตก

“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ไอ้แพท” เสียงห้าวเข้มดุน้อยๆ ดังขึ้นจนสองหนุ่มสาวสะดุ้ง โดยเฉพาะชณิกามาศที่ถึงกับนิ่งงันไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามาหาเธอ วูบหนึ่งที่ใบหน้าหวานเป็นสีระเรื่อขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในลิฟต์ แต่พอเห็นว่าเขามากับใครตากลมใสก็หลุบต่ำ

“อ้าว ไอ้ซี...สวัสดีครับคุณกุล แหม...พอดีฉันกำลังจะแนะนำอาหารพวกนี้ให้คุณ...” อิทธิพัทธ์ทำหน้าระรื่นให้น่านนทีกับแฟนสาว รวมทั้งโบกมือทักทายชินกฤตและธนทัต เพื่อนอีกสองคนในเครื่องแบบประจำเหล่าทัพของตัวเองที่เดินตามน่านนทีมาติดๆ ด้วย

“นี่ช่อม่วง...เธอเป็นคนทำขนมพวกนี้ คงไม่ต้องรบกวนนายให้แนะนำหรอกมั้ง” น่านนทีว่าพลางจ้องเขม็งจนนายตำรวจหนุ่มรู้สึกตงิดๆ กับสายตานั้น แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักได้แต่หันไปส่งยิ้มหวานให้ชณิกามาศที่รับยิ้มอย่างแกนๆ แก้เก้อ

“แหม...ขอโทษนะครับผมไม่ทราบจริงๆ ว่าขนมพวกนี้เป็นฝีมือของคุณช่อม่วง แต่อร่อยมากเลยนะครับ ของทุกอย่างประณีตบรรจงมาก” อิทธิพัทธ์ชื่นชม และเขาก็ไม่ได้กล่าวเกินจริงสักนิด เพราะขนมทุกอย่างล้วนได้รับการพิถีพิถันมาอย่างดี อย่างขนมช่อม่วงก็จับจีบห่อเป็นดอกไม้สวยงาม ล่าเตียงก็ตกแต่งได้พอดีคำ ไม่นับแกงบวดฟักทองที่แกะสลักเป็นรูปใบไม้น่ารับประทาน ขนมลูกชุบสีสวย และอื่นๆ อีกมากมาย

“ขอบคุณมากนะคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel