EP 3 [3-1]
“อเกน!”
“อ่อ ผมผู้กองเตชินท์ครับ ว่าที่คู่หมั้นของอเกน”
พี่ชินพูดพลางจับมือฉัน ซึ่งนั้นก็ทำให้เฮียเบถึงกับกำหมัดแน่น
“เหอะ! ก็แค่ว่าที่.. ที่ไม่รู้จะได้หมั้นหรือเปล่า”
“อย่างน้อยก็ไม่ใช่ของเก่าครับ”
“มึง!”
ผั๊วะ!
เฮียเบต่อยเข้าที่หน้าพี่ชินเต็มๆ ก่อนจะตามเข้าไปต่อยเขาซ้ำจนฉันต้องรีบเข้าไปห้าม
“หยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้”
“ปกป้องมันทำไม! หรือว่าชอบมัน”
“นี่โรงพยาบาลนะคะ ช่วยเคารพสถานที่ด้วยมันไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาทำอะไรใครตามอำเภอใจก็ได้! และฉันจะรักใครชอบใครมันก็เรื่องของฉัน คุณไม่เกี่ยว!”
“อ่อออ~ นี่จะไปกินข้าวแล้วคงไปกินอะไรๆ กันต่อใช่มะ?”
เพี๊ยะ!
“อย่าคิดว่าทุกคนจะมีนิสัยต่ำเหมือนคุณ”
เฮียเบหันกลับมามองหน้าฉันด้วยสายตาตัดพ้อ นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับการที่เขาพูดดูถูกฉัน
“ถ้ารู้สถานะตัวเองแล้วก็ช่วยอยู่ในที่ของตัวเองด้วยนะครับ”
“เสือก! มึงจะเอาอีก..”
เฮียเบพุ่งตัวมาหาพี่ชินอีกครั้งแต่ฉันเข้าไปยืนบังเอาไว้ก่อน ทำไมเขาถึงได้ทำตัวอันธพาลแบบนี้นะ
“หยุดนะ! กลับไปได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเรียกรปภ.มาลากคุณนะ”
“หึ! ถ้าคิดว่าจะได้สมหวังกับมันเหรอ เฮียบอกเลยว่าไม่มีทาง!”
พูดจบเขาก็เดินหันหลังออกไป ฉันถอนหายใจแล้วหันกลับไปหาพี่ชิน
“เป็นยังไงบ้างคะ เอ่อ ไปทำแผลก่อนไหมคะ”
มุมปากของพี่ชินแตกแถมแก้มยังมีรอยช้ำด้วย
“ไม่เป็นไรครับ แค่นิดหน่อยเองไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลานะ”
ผับ Solizz
เบต้า⚡️
“กูกลับมาทั้งที ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยดิวะ”
ไอพบเพื่อนสมัยมัธยมของผมเพิ่งเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก วันนี้มันก็เลยมาจัดงานเลี้ยงฉลองที่ผับของผม ถ้าไม่ใช่ไอพบวันนี้ผมก็คงไม่ออกมาแล้วด้วยซ้ำเพราะผมไม่มีอารมณ์จะปาร์ตี้หรือคุยกับใครทั้งนั้น
“กูมาก็บุญล่ะ”
“ฮ่าๆ เป็นเหี้ยอะไรไหนบอกกูดิ”
“มึงไม่ต้องรู้หรอก”
“เรื่องน้องเกนอะดิ”
ผมหันไปจ้องหน้ามันทันที ขนาดอยู่เมืองนอกมันยังรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ
“ฮ่าๆ ไม่ต้องจ้องกูขนาดนั้น กูแค่เดา เรื่องในชีวิตที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ได้ก็มีแค่เรื่องเดียว”
“ทำไมวะ! ใครๆ เขาก็ดูออกกันหมดว่ากูรู้สึกกับเกนแค่ไหน มีแต่เจ้าตัวนั้นแหละที่ไม่รู้อะไรเลย”
“แล้วมึงรู้ตัวหรือยังว่าไปทำเรื่องเหี้ยอะไรไว้ ให้เขาหนีมึงไปขนาดนั้น”
“ไม่รู้!”
“เอาหน่าเพื่อน มึงก็ต้องค่อยๆ ถามไม่ใช่ไปแสดงสันดานแบบนั้นให้น้องเขายิ่งโกรธมึงมากกว่าเดิม”
มันพูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ ด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนเยาะเย้ยมากกว่าปลอบใจ หึ! คิดว่าผมไม่รู้เรื่องของมันหรือไง
“ทำเป็นปลอบใจกู! เอาเรื่องของมึงให้รอดเถอะ”
“เรื่องอะไร”
“มึงคิดว่าจะปิดน้องกูได้นานแค่ไหนครับ มิสเตอร์แอล”
“ไอเบ! มึงหุบปากแล้วเหยียบไว้เลยนะ”
“ฮ่าๆ ก็อยู่ที่ว่ามึงทำตัวดีหรือเปล่า”
“แมร่งเอ้ยย!”
มันหยิบแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนคนอื่นๆ
“ว่าที่คู่หมั้นเหรอ หึ!”
ผมไม่ยอมแพ้กับเรื่องแค่นี้หรอก
โรงพยาบาล
“มึงแน่ใจนะว่ากูจะไม่ตาย”
“เออ กูจับจังหวะได้แล้วกัน”
“หึ ถ้ากูตายจะมาหลอกมึงคนแรกเลย”
ตอนนี้ผมมาดักรอเกนอยู่ที่โรงพยาบาลกับไอแกรมมันวางแผนให้ผมมาง้อเกนที่โรงพยาบาล ซึ่งฟังจากแผนมันแล้วผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า แต่ก็คงต้องลองดูสักครั้ง
“นั้นไงมาแล้ว กูไปรอตรงนู้นนะ”
“เออๆ”
ผมเดินเข้าไปหาเธอที่ตอนนี้กำลังหิ้วกระเป๋าเดินออกมาจากห้อง เหมือนกำลังจะกลับบ้าน
“คุณหมอครับ”
“คะ.. คุณ!”
เธอมองหน้าผมก่อนจะเดินเบี่ยงหลบไปอีกทางซึ่งผมก็ยังคงเดินตามเธอไป
“เฮียมีเรื่องจะคุยกับหนู”
“แต่ฉันไม่มี”
“คุยกันก่อนได้ไหม!”
ผมพูดพร้อมกับคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ให้หันกลับมาคุยกัน
“นี่! ปล่อยนะ คุณทำบ้าอะไรเนี้ย”
“ถ้าอยากจะร้องโวยวายให้คนหันมามองเยอะกว่านี้ก็เชิญเลย”
เธอจ้องผมด้วยความไม่พอใจ แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวเลยสักนิด
“เฮียไม่ขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้...แต่เฮียจะจีบหนูใหม่”
“ห๊ะ?”
“ก็ในเมื่อหนูไม่ยอมบอกว่าโกรธเฮียเรื่องอะไรและไม่ยอมกลับมาคืนดี เฮียก็จะตามจีบหนูใหม่ไง”
“นี่คุณควรจะไปเช็คสมองนะ ฉันจะติดต่อให้”
“งั้นคงต้องส่งหนูไปเช็คร่างกายด้วยเหมือนกัน”
“ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“หนูไม่มีหัวใจ”
ประโยคของผมทำให้เธอหันไปมองทางอื่นก่อนจะหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง
“คนที่ไม่มีหัวใจมันน่าจะเป็นคุณมากกว่านะ”
“ก็..เพราะหัวใจเฮียมันอยู่ที่หนูมาตลอด”
ผมพูดพร้อมกับค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่มันเอ่อล้นอยู่ตรงขอบตาของเธอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเธอก็ยังขี้แงเหมือนเดิม ผมดึงเธอเข้ามากอดแล้วคราวนี้เธอก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไร
“ฉันจะต้องทำยังไงเหรอ คุณถึงจะยอมปล่อยฉันไปสักที”
เธอพูดด้วยเสียงอู้อี้อยู่ที่หน้าอกของผม
“เฮียเคยลองปล่อยหนูไปแล้ว....แต่สุดท้ายมันก็ทำไม่ได้”
เธอผลักผมออกทันทีแต่ก็สู้แรงผมไม่ได้ทำได้แค่ดันหน้าอกผมเอาไว้เท่านั้น
“ต้องให้ฉันทรมานไปถึงไหน!”
“แล้วเฮียต้องทำยังไงหนูถึงจะหายโกรธ”
“ไป ตาย ซะ!”
เธอพูดพร้อมกระทืบเท้าผมเต็มๆ ก่อนจะสะบัดตัวแล้ววิ่งหนีออกไป ซึ่งมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถกระบะคันหนึ่งกำลังขับมาด้วยความเร็ว
“เกนน!”
“กรี๊ดดดดด!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดด
พลั่ก!
ตุบ!
อเกน PART☔️
ฉันวิ่งออกมากลางถนนโดยไม่ทันได้ดูเลยว่ามีรถกำลังพุ่งมาทางนี้ เฮียเบวิ่งเข้ามาผลักฉันก่อนที่ตัวเขาจะโดนรถคันนั้นชนเข้าเต็มๆ จนกระเด็นหล่นลงหัวกระแทกที่ฟุตบาทข้างถนน
“เฮียเบ!”
ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหาเขาทันที เลือดไหลจากหัวของเขาเต็มไปหมด ซึ่งตอนนี้ตัวเขาเองก็หมดสติไปแล้วด้วย
“เฮียอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ฮือๆ ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วยย”
“เฮีย! ไอเหี้ยยยย”
คนนี้น่าจะเป็นน้องชายของเฮียเบ ฉันเคยเจอเขาไม่กี่ครั้งเราก็เลยไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ เขาวิ่งเข้ามานั่งลงข้างๆ เฮีย ก่อนทำท่าเหมือนจะเข้ามาขยับตัวเฮียแต่ฉันต้องห้ามเอาไว้ก่อน
“อย่าขยับตัวเขานะ! เราไม่รู้ว่าเขามีกระดูกส่วนไหนที่หักบ้างหรือเปล่า”
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรีบวิ่งกันเข้ามาพร้อมกับเตียงและอุปกรณ์ต่างๆ ใช้เวลาไม่นานเขาก็พาเฮียเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินทันที
“เกน แกใจเย็นๆ ก่อนนะ เดี๋ยวให้พี่พิชดูเคสนี้เอง”
นนนี่รีบวิ่งเข้ามาหาฉันที่หน้าห้องฉุกเฉินทันที
“ฉัน ฉันอยากช่วยเขาเอง ฮือๆ”
“แก! แกดูตัวเองด้วยแกไม่ไหวหรอก”
“เชื่อมือพี่นะเกน”
“ฝากด้วยนะคะพี่พิช”
ฉันพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งร้องไห้ตรงนั้นทันที ฉันไม่ได้อยากจะให้เขาตายจริงๆ ถึงฉันจะไม่ได้อยากกลับไปรักกับเขาอีกแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากจะให้เรื่องราวมันจบลงแบบนี้
“ไปนั่งรอที่เก้าอี้ตรงนั้นเถอะครับ”
แกรมเดินเข้ามาจับไหล่ฉันทั้งสองข้างเพื่อช่วยพยุงให้ลุกขึ้นไปนั่งรอที่เก้าอี้ ซึ่งสีหน้าเขาตอนนี้ก็ดูกังวลไม่น้อยไปกว่าฉัน คงต่างกันแค่เขาไม่ได้ร้องไห้เท่านั้น เวลาผ่านไปไม่นานเฮียอัลและ
คุณไหมก็รีบวิ่งกันเข้ามาที่หน้าห้องฉุกเฉิน
“ทำไมมันถึงโดนรถชน!”
เฮียอัลหันไปถามแกรมทันทีที่มาถึง ซึ่งเขาก็ดูมีท่าทีอึกอักนิดหน่อยก็จะตอบออกไป
“เฮียเบมันชวนมาหาเจ๊เกน แต่ว่า...”
“เป็นเพราะเกนเองค่ะเฮียอัล คือเกนกับเฮียเบคุยกันไม่เข้าใจ เกนเดินหนีออกมาซึ่งจริงๆ คนที่ถูกรถชนควรจะเป็นเกนมากกว่าแต่เฮียเบเข้ามาช่วยเกนเอาไว้”
ฉันลุกขึ้นตอบเฮียอัลออกไปตามความจริง เพราะถ้าเขาไม่เข้ามาช่วยฉันเรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ เฮียอัลหันมามองหน้าฉันเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไปก่อนจะถอนหายใจออกมาแทน
“แล้วหมอว่าไงบ้าง”
“จากอาการที่เกนดูเบื้องต้นชีพจรยังเต้นปกติค่ะ แต่ยังไม่รู้ว่ามีกระดูกส่วนไหนที่หักบ้าง ส่วนที่สำคัญที่สุดคือศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักเพราะมันฟาดลงที่ฟุตบาท”