EP 2 [2-2]
“กินอีกสามคำ”
“...”
“อยากกินโจ๊กหรืออยากกิน..อย่างอื่น”
ประโยคหลังผมพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น เจ้าตัวถึงกับรีบหันหน้าหนีทันที
“ฉันกินเอง”
“หึ”
เธอแย่งช้อนไปจากมือผมแต่กินไปได้คำเดียวก็ทำท่าพะอืดพะอมขึ้นมาอีก ผมก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบยาแก้แฮงค์มาให้ ดีนะที่ผมยังมีติดห้องไว้บ้างแม้ว่าผมจะไม่ได้กินมันเลยก็ตาม
“กินยาแล้วไปนอนพัก”
“ฉันจะกินยาแล้วกลับบ้าน”
“ทำไม ไม่กล้านอนห้องเฮียเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ฉันไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องนอนที่นี่”
เธอพูดพร้อมกับรับยาในมือผมไปกินแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มตาม
“พอใจคุณแล้วใช่ไหม ฉันจะได้กลับ”
“ไม่อยากอยู่ใกล้เฮียขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แค่คิดว่าต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคุณไปอีกสักห้าวินาที ฉันก็อยากจะกลั้นใจตายแล้ว”
“หึ! งั้นก็คงต้องอดทนหน่อยแล้วล่ะ เพราะเฮียจะไม่มีวันปล่อยหนูไปอีกแล้ว”
อเกน PART☔️
“เพื่ออะไร! ที่ผ่านมายังทำร้ายกันไม่พออีกเหรอ”
ฉันถามออกไปอย่างเหลืออด หรือเขาลืมไปแล้วว่าฉันก็มีชีวิตจิตใจไม่ต่างจากเขา
“ก็มันเรื่องอะไรล่ะ! อยู่ๆ หนูก็หนีหายไปไม่มาบอกลากันเลยสักคำ เฮียยังไม่เข้าใจเลยว่าเคยไปทำร้ายอะไรหนู”
“หึ! นี่เมียคุณเขาไม่ได้บอกอะไรคุณเลยเหรอ”
“เมีย? เฮียไม่เคยมีเมีย!”
“ไม่มีหรือว่าเยอะจนนับไม่หมด!”
ฉันถามกลับออกไปพร้อมยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก ฉันไม่อยากกลับไปเป็นคนอ่อนแออีกแล้ว ฉันไม่อยากจะต้องกลับไปนั่งร้องไห้เป็นเด็กขี้แงคนนั้นอีกแล้ว
“ให้เรื่องทุกอย่าง มันจบแค่วันนั้นเถอะค่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับเดินไปที่ประตูแต่ยังไม่ทันจะเปิดเจ้าของห้องก็เดินมาดึงแขนฉันไว้ก่อน
“ถ้ายังไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร เฮียไปส่ง... แค่ไปส่งก็กลับ”
เขาเปิดประตูห้องให้ฉันแล้วเดินนำไปที่รถ ระหว่างทางไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันอีก ฉันเลือกที่จะให้เขาไปส่งที่คอนโดของสมาย ถ้ากลับบ้านสภาพนี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามคุณพ่อกับคุณแม่
คอนโดสมาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แก! เข้ามาก่อน”
ฉันเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาพร้อมถามเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อคืน สมายเล่าให้ฟังก่อนจะเอามือมาจับไหล่ฉันเบาๆ
“แกไหวไหมวะ”
“...”
ฉันเลือกที่จะพยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ
“อยู่กับฉัน แกไม่ต้องแกล้งเข้มแข็งก็ได้”
“ฮึกๆ ฮืออ ฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรกับเขาเอาไว้วะมาย ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปสักที”
“ให้ฉันไปคุยให้ไหม หรือเอาพวกลูกน้องพ่อฉันไปด้วยเลย”
“ไม่ต้องหรอก ให้มันจบลงแค่นี้เถอะ ฮือๆ”
“ฉันขอถามอะไรแกหน่อย อย่าโกหกนะเว้ย”
“...”
“แก.. ยังรักเฮียเบอยู่ใช่ไหมวะ”
ฉันหันมองหน้าสมายก่อนจะหันกลับมาก้มหน้าร้องไห้อีกครั้ง
‘เป็นแฟนกันนะ’
เขาพูดพร้อมกับยื่นช่อดอกเฟอร์เรโรรอชเชอร์ ช็อตโกแลตที่เธอชอบกินเวลาอ่านหนังสือมาให้
‘ทำอะไรของพี่เนี้ย ไม่อายคนหรือไง’
‘อายสิ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้เราก็ไม่ยอมเป็นแฟนพี่สักที’
‘โอ๊ยย หนูอายคน’
‘แล้วจะตกลงไหมเนี้ย คนมองเต็มหมดแล้วนะ’
วันนี้เขานัดเธอออกมาที่สวนสาธารณะ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาคงจะมาถ่ายรูปเล่นปกติตามที่เขาชอบ ส่วนเธอเองก็มานั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่ทันทีที่เธอมาถึงกลับโดนเซอร์ไพร์จากเขาสักอย่างนั้นและตอนนี้คนที่เดินผ่านไปมาก็เริ่มหันมาสนใจกันเยอะแล้วด้วย
‘เป็นก็เป็นค่ะ’
ฟอดดด!
‘พะ...พี่!’
ทันทีที่เธอรับช่อดอกไม้มาจากเขา เขาก็ก้มลงขโมยหอมแก้มของเธอซึ่งเล่นเอาเธอถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที
“ฮึกๆ ฮือๆๆ แก..”
ฉันส่ายหน้าไปมาจนสมายดึงฉันเข้าไปกอดเอาไว้
“ไม่เป็นไรแกๆ ร้องไห้ให้พออยู่กับฉัน แกร้องไห้ให้เต็มที่เลย”
โรงพยาบาล PKL
วันนี้ฉันมาทำงานตามปกติและดูเหมือนวันนี้คนไข้จะเยอะมากๆ อีกด้วย ฉันนี่วุ่นวายตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เพิ่งจะได้นั่งพัก
“บ่ายสองแล้วเหรอเนี้ย”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญค่ะ”
“สวัสดีครับน้องเกน”
“อ้าวพี่ชิน สวัสดีค่ะ”
พี่ชินหรือผู้กองเตชินท์ เป็นลูกเพื่อนสนิทของพ่อฉัน เดินถือช่อดอกกุหลาบเข้ามาในห้อง เหอะ! ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าฉันไม่ชอบดอกกุหลาบมากๆ
“ดอกไม้สำหรับคุณหมอคนสวยครับ”
ไม่ชอบพอๆ กับคำพูดเห่ยๆ พวกนี้ด้วย
“ขอบคุณนะคะ แล้วนี่พี่ชินมาหาหมอเหรอคะ”
“มาหาเรานั้นแหละ ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหมเนี้ย”
“เอ่อ ค่ะ”
“นั้นไง พี่ว่าแล้วเชียว ตอนนี้พักใช่ไหมงั้นลงไปหาอะไรกินกัน”
“คือเกนพักไม่นานถ้าออกไปข้างนอก..”
“โรงอาหารข้างล่างก็ได้ครับ พี่รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ออกไปข้างนอกหรอก”
“ก็ได้ค่ะ”
ทางผู้ใหญ่อยากจะให้เราสองคนแต่งงานกัน แต่ฉันกับพี่ชินไม่เห็นด้วย ตอนแรกฉันก็คิดว่าเรื่องมันจะจบเพราะเขาก็ไม่ได้ชอบฉัน แต่เปล่าเลยเขากลับเสนอว่าให้เราสองคนทำความรู้จักกันมากกว่านี้ก่อน
“อเกน!”
ฉันกับพี่เตชินท์หันกลับไปตามเสียงเรียก เจอเฮียเบกำลังยืนมองหน้ามองมาทางเราสองคนอยู่
“เพื่อนน้องเกนเหรอ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ”
“เพราะเราเป็นมากกว่านั้นน่ะครับ”
เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาโอบไหล่ฉันแน่น
“คุณ!”
“ผมเบต้าครับ เป็นแฟนของหมอเกน”
“แฟน”
พี่ชินหันมามองหน้าฉัน ซึ่งฉันก็รีบสะบัดแขนออกจากการโอบของเขาทันที
“แค่แฟนเก่าที่กัดไม่ปล่อยน่ะค่ะ”