บท
ตั้งค่า

EP 2 [2-1]

“ถ้าคุณทำอะไรฉัน คุณจะไม่มีวันได้เจอฉันอีกเลยเหมือนกัน”

ฉันเงยมองหน้าเขาอย่างท้าทายก่อนจะตอบออกไป ในแววตาเขาไหววูบนิดหน่อยก่อนจะยอมปล่อยมือแล้วลุกขึ้นนั่งที่ข้างเตียง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้เขาลุกขึ้นเดินออกไปไม่นานก็เดินกลับมาด้วยถุงอะไรสักอย่างสองสามใบ

“ไปล้างหน้าแปรงฟันสิ จะได้มากินข้าว”

เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เดินออกจากห้องนอนไป ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเพราะยังรู้สึกเวียนหัวสุดๆ ไปเลย ขอเลิกขาดเลยนะกับแอลกอฮอล์เนี้ย ครั้งเดียวก็เกินพอ

“แปรง...”

ห้องนี่ไม่ใช่คอนโดที่เขาเคยอยู่ตอนเราคบกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือของใช้ของฉันมันยังคงตั้งอยู่ข้างๆ เขา เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ คิดว่าแค่หยิบของใช้เก่าๆ พวกนี้มาตั้งเอาไว้แล้วฉันจะลืมเรื่องราวที่ผ่านมางั้นเหรอ ง่ายไปหน่อยมั่ง

ฉันจัดการเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดของตัวเองเมื่อคืนแต่ก็เลือกใส่เสื้อของเขาคลุมเอาไว้ข้างนอก ล้างหน้าล้างตานิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปที่ประตู

“จะไปไหน”

“จะกลับ”

“จะกลับยังไง”

“แท็กซี่”

“มีเงินเหรอ”

คำถามของเขาทำให้ฉันชะงัก นี่ฉันมาแค่ตัวจริงๆ นะเนี้ยแม้แต่กระเป๋าหรือโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีเลย

“หึ! มานั่งกินข้าวก่อน เดี๋ยวเฮียออกไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ”

แก๊ก!

“ว๊ายย!”

ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เปิดประตูออกจากห้อง ตัวของฉันก็ลอยขึ้นเพราะเขาเข้ามาอุ้มฉันพาดบ่าแถมยังเดินดุ่มๆ ไปที่โต๊ะกินข้าวโดยไม่สนใจเลยว่าฉันที่มีอาการแฮงค์และเลือดกำลังไหลลงหัวตอนนี้จะเวียนหัวมากแค่ไหน

“ปะ ปล่อยฉัน ลง”

“หนูดื้อขึ้นเยอะเลยนะรู้ตัวไหม!”

เขาวางฉันนั่งลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะเอามือทั้งสองข้างค้ำลงเพื่อกั้นฉันเอาไว้ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกพะอืดพะอมสุดๆ เลยล่ะ

“จะต้องให้พูดอีกกี่รอบ ว่าอย่าเรียกฉันแบบนี้อีก”

“เมื่อก่อนหนูชอบให้เฮียเรียกแบบนี้”

“ก็นั้นมันเมื่อก่อน อย่าอินกับความรักเด็กๆ แบบนั้นไปหน่อยเลย”

ประโยคของฉันทำให้เขาเงียบลงทันทีสายตาเริ่มฉายแววความโกรธเข้ามาแทน

“ความรักเด็กๆ หึ จะบอกว่าเมื่อก่อนแค่เล่นๆ เหรอ”

“ก็มันแค่ป๊อปปี้เลิฟอะ ทำไมต้องมาคิดจริงจังด้วย”

ฉันพูดพร้อมเลือกหันไปมองทางอื่น ฉันไม่อยากมองหน้าเขาตอนนี้ สายตาแบบนี้แหละที่มันทำให้ฉันตกอยู่ในวังวนเดิม ๆ

“ถ้าเก่งจริงทำไมไม่เดินมาบอกเลิกกันดีๆ จะหนีหายไปทำไมวะ!”

เขาพูดพร้อมเขย่าไหล่ฉันทั้งสองข้าง อาการพะอืดพะอมก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีก

“อย่า เขย่า ฉัน ปล่อยยยย”

“ทำไมละ หา! ตอบสิ!”

“ปล่อยฉัน”

“ทำไมเกน!”

“อ้วกกกก!”

“กะ เกน เป็นอะไรไหม”

สุดท้ายฉันก็อ้วกออกมาใส่ไหล่เขาเต็มๆ ก็เขาไม่ยอมหยุดเขย่าแขนฉันสักที ไม่เข้าใจอาการของคนแฮงค์บ้างเลยหรือไงกัน แต่เขาเองก็ไม่ได้ถอยหนีไปไหนกลับเอื้อมมือมาลูบหลังฉันเบาๆ

“แฮงค์อยู่ใช่ไหม เวียนหัวมากหรือเปล่า”

หงึกๆ

ฉันเลือกที่จะพยักหน้าแทนคำตอบเพราะตอนนี้มันเวียนหัวมากจริงๆ แถมยังรู้สึกแสบคอจากที่อ้วกไปด้วย

“อ๊ะ! ปะ ไปไหน”

อยู่ๆ เขาก็อุ้มฉันลงจากโต๊ะเดินไปที่ห้องน้ำก่อนจะค่อยๆ วางฉันนั่งลงบนชักโครกแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก

“จะทำอะไร”

“ถอดเสื้อสิ จะให้เฮียใส่เสื้อที่มีรอยอ้วกหนูเต็มไปหมดแบบนี้อะเหรอ”

เขาถอดเสื้อของตัวเองออกเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง

“ฉะ ฉันถอดเอง”

“เฮียจะอาบน้ำให้ไง หนูคงไม่คิดจะกลับบ้านสภาพนี้หรอกนะ”

“ฉันอาบเองได้!”

ฉันรีบตอบออกไปทันที เขาคิดอะไรอยู่จะมาอาบน้ำให้ฉัน เมื่อก่อนเขาไม่แม้แต่จะทำท่าทางรุ่มร่ามใส่ฉันเลยด้วยซ้ำ เอ๊ะ! ฉันคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนทำไมกันเนี้ย

เบต้า PART⚡️

ผมปล่อยให้เธอจัดการอาบน้ำตัวเองส่วนผมก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง ถึงเธอจะพยายามปิดกั้นความรู้สึกมากแค่ไหน แต่ยังไงผมก็ดูออกว่าเธอยังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แต่ผมไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรเธอถึงเลือกที่จะทิ้งผมไป

แอดดดด!

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นเรียกสติให้ผมหันกลับไป แต่กลับเจอเจ้าตัวที่ยื่นหน้าออกมาแทน

“ฉันไม่มีชุด”

“อ่อ เดี๋ยวเฮียเอาให้”

ผมลุกขึ้นไปหยิบเสื้อยืดคอกลมสีชมพูที่เธอเคยซื้อให้แต่ผมไม่คิดจะใส่มันเลยสักครั้งเพราะรู้สึกว่ามันแบ๊วเกินกว่าจะมาอยู่บนตัวของผม

“อะ”

เธอมองเสื้อตัวนั้นแล้วชะงักนิดหน่อยแต่ก็รับเข้าไปโดยไม่พูดอะไร ไม่นานก็เปิดประตูเดินออกมา

“ไปกินโจ๊กหน่อยจะได้กินยา”

“ฉันอยากกลับบ้าน”

เธอตอบออกมาพร้อมกับยืนจ้องหน้าผมด้วยสายตาเฉยชา

“กินข้าว กินยา นอนพัก ถ้าหายหน้าซีดแล้วเฮียจะไปส่ง”

“ฉันไม่อยากกิน คุณไม่เข้าใจหรือไงจะต้อง..”

“มานั่งสิ กำลังร้อนๆ เลยจะได้รู้สึกดีขึ้น”

ผมทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดแล้วจับไหล่เจ้าตัวมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าว เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่สุดท้ายก็ยอมตักโจ๊กเข้าปาก เรื่องความดื้อเธอสู้ผมไม่ได้หรอก

ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามพลางมองหน้าเธอ ถ้ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอก็ถือว่าเปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะ เธอไม่ใช่เด็กดัดฟันผมเปียคนเดิมอีกแล้ว ส่วนนิสัยก็คงจะดื้อขึ้นเยอะแถมยังปากร้ายขึ้นอีกด้วย ทั้งที่เหมือนก่อนเธอแทบจะไม่กล้าเถียงผมเลยสักคำ

‘โทรไปทำไมไม่รับ’

‘เฮือก! นี่พี่มาดักรอหนูหน้าโรงเรียนจริงอะ’

‘ก็ยืนอยู่นี่ไง’

‘เมื่อคืนหนูหลับไปแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะไม่รับสายสักหน่อย’

เธอพูดออกไปตามความจริงก็เขาเล่นโทรมาตอนห้าทุ่มกว่า

แล้ว ใครจะมานั่งรอโทรศัพท์ของเขากัน

‘เด็กอนามัยจัง’

‘หนูต้องตื่นเช้า แล้วพี่มาหาหนูเรื่องแค่นี้เหรอ’

‘ตอนสองทุ่มทำอะไร’

‘ก็...ฟังเพลงบ้าง ดูละครบ้าง’

‘งั้นคืนนี้โทรไปสองทุ่ม รับด้วยล่ะ’

“กินอีก”

ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอวางช้อนลงทั้งที่กินเข้าไปได้แค่สามคำเท่านั้นเอง

“ก็มันจะอ้วกไม่เคยแฮงค์หรือไง”

“ไม่เคย! เพราะรู้ตัวเองว่ากินได้แค่ไหน”

เธอเลือกที่จะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะรู้ว่ายังไงก็เถียงไม่ชนะ ผมเดินอ้อมไปนั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะตักโจ๊กยื่นไปตรงหน้า แต่เธอก็ยังปิดปากสนิทเหมือนเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel