EP 3 [3-2]
เฮียอัลทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ก่อนที่คุณไหมจะนั่งลงข้างๆ และจับมือเฮียเบาๆ ส่วนฉันก็ทำได้แค่กลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง
สามชั่วโมงต่อมา
พี่พิชเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมาทำให้พวกเราที่นั่งอยู่ตรงนั้นรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาทันที
“เป็นยังไงบ้างคะพี่พิช”
“พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่คงต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดก่อนเพราะคนไข้เสียเลือดเยอะมากอาจจะเกิดภาวะช็อกได้ กระดูกแขนขวาหัก กระดูกขาซ้ายร้าว ส่วนศีรษะที่กระแทกหมอเย็บแผลไว้แล้วครับ”
“น้องผมจะฟื้นขึ้นมาปกติหรือเปล่าครับ”
“ข้อนี้หมอต้องรอคนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วทำการตรวจเช็คอีกครั้งครับ”
“ขอบคุณมากนะคะพี่พิช แล้วนี่จะย้ายเขาไปไหนคะ”
“คงต้องย้ายไปอยู่ห้องปลอดเชื้อก่อนถ้าผ่านคืนนี้ไปได้แล้วเราถึงจะย้ายคนไข้เข้าห้องพัก”
“ขอบคุณมากครับ”
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวเกนตามไปค่ะ”
“เดี๋ยวญาติคนไข้รบกวนตามไปทำประวัติของคนไข้ที่ห้องทะเบียนด้วยนะคะ”
“เดี๋ยวจัดการเอง”
แกรมหันมาบอกเฮียอัลก่อนจะเดินตามพยาบาลไป
“ตอนนี้เรายังเข้าเยี่ยมไม่ได้ใช่ไหมคะ”
คุณไหมหันมาถามฉัน
“ค่ะ ห้องปลอดเชื้อยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวเกนจะเข้าไปดูเฮียเบให้เองค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก เกนกลับไปพักเถอะกำลังจะเลิกงานไม่ใช่เหรอ ตรงนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอเจ้าของไข้เขาแล้วกัน”
เฮียอัลพูดเสียงนิ่งๆ ก่อนจะจับมือคุณไหมเดินออกไปโดยที่คุณไหมหันมาส่งยิ้มให้ฉันนิดหน่อย ประโยคของเฮียอัลเหมือนจะตอกย้ำว่าฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเฮียเบอีกแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องเข้าไป
?สมาย
“ฮัลโหล”
“แกอยู่ไหน นนนี่โทรมาบอกฉันว่าแกร้องไห้หนักมากเพราะว่าผู้ชายที่แกเจอที่ผับรถชน เขาคือใคร เฮียเบใช่ไหม”
“ใช่”
“แล้วทำไมเขาถึงโดนรถชน มันเกิดอะไรขึ้น แกไปอยู่กับเขาได้ยังไง”
“เขาเข้ามาช่วยฉัน ฮึกๆ ฮืออ แก~ เพราะว่าเขาเข้ามาช่วยฉันมันถึงได้เป็นแบบนี้”
“แกใจเย็นๆ ก่อนนะเว้ย ฉันใกล้ถึงที่โรงพยาบาลแล้วแกไปรอฉันที่ห้องนนนี่นะ เดี๋ยวฉันเข้าไป”
“อืม”
ฉันกดวางสายก่อนจะเดินไปที่ห้องพักหมอธนนท์หรือว่าห้องของนนนี่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ”
“ฉันเอง”
“แก! เอ่อ คือฉันไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของแกนะแต่ว่าผู้ชายคนนั้นเขาคือคนที่แกเจอในผับใช่ป่ะ คือแบบว่าแกกับเขา เอ่อ...”
“เขา...เป็นแฟนเก่าฉัน”
“ห๊ะ! อย่าบอกนะว่าแฟนคนแรกคนเดียวของแกที่สมายมันบอกว่าสุดแสนจะเหี้- เอ่อ..เจ้าชู้น่ะ”
ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ ทั้งๆ ที่คิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันลืมเขาได้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว พอมันเกิดเรื่องแบบนี้มันเหมือนกับว่าตัวฉันเองกำลังจะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งๆ ที่ฉันเดินออกมาได้ตั้งหกปีแล้วแท้ๆ
นนนี่ยื่นมือมาลูบหลังฉันเบาๆ เพื่อปลอบใจโดยไม่มีคำพูดใดๆ จนสมายเปิดประตูห้องเข้ามา
“เกนนนน~ แกโอเคใช่ไหม”
“ไม่ ไม่โอเคสักนิด”
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“เขามาขอโทษฉัน มาขอโอกาสจากฉันแต่แกเข้าใจใช่ไหมว่าเรื่องที่ฉันเจอมาฉันทำใจให้อภัยเขาไม่ได้ ฮือๆๆ และฉันก็ไล่ให้เขาไปตาย แต่ฉันไม่ได้อยากให้เขาตายจริงๆ ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย”
“ใจเย็นๆ แก มันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก แกไม่ได้ผิดนะเว้ย”
“แต่ต้นเหตุมันก็มาจากฉัน ทำไมเขาจะต้องเข้ามาช่วยฉันทำไมไม่ปล่อยให้รถชนฉันไปเลย”
“แกจะบ้าเหรอ! ฉันก็พอรู้คร่าวๆ นะว่าแกกับเขามันเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่การที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกแบบนี้ เขาก็คงรักแกมากเหมือนกันแหละไม่งั้นคงไม่เข้าไปช่วยโดยไม่คิดชีวิตแบบนี้หรอก แกก็รู้พวกผู้ชายเจ้าชู้น่ะมันรักตัวเองจะตาย เวลาเปลี่ยนอะไรๆ มันก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้”
นนนี่บ่นออกมายกใหญ่จนสมายหันไปจ้องหน้าเพื่อปรามให้เงียบลง ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเงียบคิดถึงเรื่องราววันนั้น วันที่ทำให้ความรักที่สวยงามของฉันมันจบลง
6 years ago
คอนโดเฮียเบ
“ผลสอบหนูออกวันนี้หรือเปล่า”
“ออกพรุ่งนี้ต่างหาก ขี้ลืมจังเฮียแก่แล้วนะ”
ฉันโกหกออกไปเพราะจริงๆ แล้วผลสอบของฉันมันจะออกคืนนี้ต่างหากแล้วฉันก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าถ้าผลสอบของฉันออกมาคืนนี้ฉันจะรีบมาเซอร์ไพร์เขาที่คอนโดทันที แต่ถ้าสอบไม่ติดก็คงอยากจะมาหาเขาคนแรกอยู่ดีนั้นแหละ
“แก่อะไร ยังฟิตอยู่เลย”
“อะไรฟิต”
ฉันพูดพร้อมหันไปมองหน้าเขาอย่างล้อเลียน จริงๆ แล้วเขาไม่เคยทำอะไรเกินเลยกับฉันหรอกนะ เพราะเขาบอกว่าอยากให้ฉันเรียนจบก่อนมากสุดก็แค่จุ๊บปากเบาๆ เท่านั้น
“หึ! สงสัยจะต้องโชว์ให้เด็กมันดูหน่อยแล้ว”
เขาพูดก่อนจะหันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน แล้วค่อยๆ ขยับตัวเข้ามา
“กรี๊ด! เฮียเบ เกนไม่เล่นนะ”
ฉันกำลังจะลุกขึ้นหนีแต่เขาดันคว้าเอวของฉันลงไปนั่งบนตักของเขาได้ก่อน แถมตอนนี้ยังกอดฉันไว้แน่นอีกด้วย
“ใครบอกว่าเฮียจะเล่น”
“งั้นก็ปล่อยสิคะ”
“เฮียจะทำจริงๆ ต่างหาก”
ทันทีที่จบประโยคเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบฉัน ซึ่งคราวนี้มันไม่ใช่แค่การจุ๊บปากอย่างที่เขาเคยทำ มือของเขาจับไว้ที่ท้ายทอยของฉันเมื่อเห็นว่าฉันจะหันหนีพร้อมกับทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจที่ฉันขัดขืน ก่อนจะจูบเข้ามาอีกครั้ง ลิ้นร้อนๆ เริ่มสอดเข้ามาให้โพล่งปากของฉันซึ่งนั้นทำให้ฉันเกิดอาการสมองว่างไปเลย รู้ตัวอีกทีตอนนี้ฉันก็นอนอยู่บนโซฟาโดยที่มีตัวเขาคร่อมทับอยู่ มือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกาย มันทำให้ฉันรู้สึกหวิวแปลกๆ จูบของเขาเริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ มือที่แค่ลูบไล้เบาๆ ก็เริ่มบีบเคล้นที่เอวของฉันเหมือนพยายามยับยั้งอารมณ์ตัวเองก่อนจะค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ้งโดยที่ตอนนี้ปลายจมูกยังคงคลอเคลียไปมาอยู่ที่แก้มฉันเบาๆ
“อยากโชว์ความฟิตกว่านี้นะ แต่กลัวเด็กจะเตลิด”
เขากระซิบข้างหูฉันเบาๆ ก่อนจะแกล้งจุ๊บลงมาที่ซอกคอของฉัน
“เฮียยย~”