EP 2 [2-1]
คลินิกทันตกรรม
“ทรายจะเข้าตรวจด้วยใช่ไหม” ข้าวโพดหันมาถามฉันทันทีที่เรามาถึงคลินิก
“ลองดูก็ได้”
ฉันตอบกลับไปพลางมองสำรวจรอบๆ คลินิก ซึ่งที่นี่มีสโลแกนว่า ‘รอยยิ้มของคุณเป็นเรื่องสำคัญของเรา’ ดูจากป้ายต่างๆ ที่ติดอยู่ในคลินิก ทำให้รู้ว่าที่นี่มีทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับสูงในด้านทันตกรรมทุกสาขา ทั้งการจัดฟัน ศัลยกรรมช่องปาก ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน รวมไปถึงการทำฟันปลอม
“ทราย ช่วยเลือกหน่อยสิว่าเราใส่สีอะไรดี” ข้าวโพดกำลังยื่นชาร์ตสียางที่จะต้องใส่เหล็กดัดฟันมาตรงหน้า
“อืมมม สีเหลืองไหมจะได้สมชื่อข้าวโพดไง”
“หา! เอาจริงดิ”
“ฮ่าๆ ล้อเล่น”
ฉันหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นสีหน้าของข้าวโพด ดูเธอจะตกใจและเชื่อจริงๆ ว่าฉันอยากให้เธอใส่สีเหลือง
"อย่างโพดต้องแนวพาสเทลนะ เอาสีชมพู ม่วง ฟ้า เขียว เหลืองพาสเทลไหม”
“ก็ดีนะ ต้องน่ารักมากแน่ๆ เลย”
“ชมตัวเองก็ได้ด้วย”
ข้าวโพดลุกขึ้นเดินไปหาพนักงานเพื่อแจ้งสีที่เธอต้องการจะใส่แล้วกลับมานั่งลงข้างๆ ฉันเหมือนเดิม
เรานั่งรอคิวกันอยู่ประมาณสิบห้านาที พนักงานแจ้งให้เราเดินขึ้นห้องที่ชั้นสองห้องตรวจหนึ่ง ซึ่งฉันสามารถเข้าไปพร้อมกับข้าวโพดได้เลยเพราะจองคิวหมอคนนี้เอาไว้
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
“สวัสดีครับ”
ข้าวโพดเอ่ยทักคุณหมอที่นั่งพิมพ์งานหน้าคอมพิวเตอร์ โดยที่หมอนั่งหันหลังให้กับเรา
“อ้าว วันนี้มีเพื่อนด้วยเหรอครับ” คุณหมอถามขึ้นเมื่อหมุนเก้าอี้กลับมาแล้วเจอฉันยืนอยู่ด้วยอีกคน
หมอฟันคนนี้หล่อเหมือนที่ข้าวโพดพูดไว้จริงๆ ด้วย ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนแต่ก็เหมือนมีออร่าระยิบระยับเป็นประกาย ไม่ว่าจะดวงตา ปากหรือจมูกก็ล้วนถูกพระเจ้าบรรจงปั้นมาแน่ๆ
“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าไปให้
“เดี๋ยวหมอใส่อุปกรณ์ให้คุณข้าวโพดก่อนนะครับ ส่วนของคุณ..”
“ทรายค่ะ” ฉันรีบตอบออกไปทันทีเมื่อหมอเว้นระยะเหมือนจะถามชื่อของฉัน
“ส่วนของคุณทรายเดี๋ยวรอตรวจนะครับ”
“ได้ค่ะ” พูดจบฉันก็เดินไปนั่งรออยู่ด้านซ้ายมือของห้อง
ผู้ช่วยและคุณหมอบอกให้ข้าวโพดนอนลงบนเตียงและเริ่มทำการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการใส่เหล็กดัดฟันให้ข้าวโพด เวลาที่หมอตั้งใจทำงานเขาดูมีเสน่ห์มากๆ
“เรียบร้อยครับ”
ผู้ช่วยคุณหมอยื่นกระจกให้ข้าวโพดส่องเพื่อเช็คความเรียบร้อยและนั่นก็เรียกรอยยิ้มหวานหยดย้อนจากเพื่อนสาวของฉันได้ทันที
“น่ารักไหมทราย”
“น่ารักมาก”
“วันนี้มันจะตึงๆ หน่อยนะครับเพราะว่าใส่อุปกรณ์ครั้งแรก คุณข้าวโพดอาจจะยังไม่ชินหรือถ้ารู้สึกว่าปวดมากหมอสั่งยาแก้ปวดไปให้แล้วนะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
ข้าวโพดยิ้มร่าก่อนจะหันไปส่องกระจกอีกครั้งแล้วลงจากเตียงมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ฉัน
“คุณทรายขึ้นเตียงได้เลยครับ”
“หมอชวนหนูขึ้นเตียงเหรอคะ”
“อะ...เอ่อ... เตียงตรวจครับ”
“ฮ่าๆ ทรายล้อเล่นค่ะ”
คุณหมอถึงกับพูดตะกุกตะกักทันทีที่โดนฉันพูดแซว แถมหูของคุณหมอตอนนี้ยังแดงจัดอีกด้วยสงสัยว่าเขาจะไม่เคยโดนคนไข้แซวมาก่อน
ฉันนอนลงที่เตียงหลังจากบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อในช่องปากจากผู้ช่วยคุณหมอเรียบร้อย
“เดี๋ยวหมอขอตรวจสุขภาพช่องปากก่อนนะครับ”
บางทีมันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะที่ต้องมานอนอ้าปากให้คุณหมอสำรวจทุกซอกทุกมุมแบบนี้ อุ้ย! ฉันหมายถึงซอกฟันนะ ไม่ได้คิดอะไรลามกเลย
“โอเคครับ ลุกขึ้นนั่งได้เลย”
หลังจากนั้นหมอก็อธิบายเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปากของฉัน ซึ่งสรุปโดยรวมคือมันไม่มีปัญหาอะไรเลย หรือถ้าฉันอยากจะดัดฟันก็อาจจะฉันเวลาไม่นานแต่หมอก็ไม่ค่อยแนะนำเพราะฟันของฉันดีอยู่แล้ว
“มีอะไรจะถามหมอเพิ่มเติมไหมครับ”
“คุณหมอชื่ออะไรเหรอคะ”
“ผมชื่อหมอปีครับ”
“ปีใหม่เหรอคะ”
“ปีแสงครับ” หมอพูดพร้อมหันมามองหน้าฉันก่อนจะถอดแมสออกแล้วยกยิ้มเบาๆ ที่มุมปาก
“มีอะไรสงสัยอีกไหมครับ”
“มีค่ะ หมอมีแฟนหรือยังคะ”
“ทรายยย”
คราวนี้เป็นเสียงของข้าวโพดที่พูดแทรกขึ้นมา ก่อนจะทำท่าทางเหมือนให้ฉันหันไปสังเกตหน้าของผู้ช่วยคุณหมอที่ตอนนี้กำลังจ้องหน้าฉันตาเขม่น
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการรักษาฟันด้วยเหรอครับ”
“เกี่ยวข้องโดยตรงเลยค่ะ”
“ยังไงครับ”
“ก็ถ้าหมอยังไม่มีแฟน หมอก็จะรักษารอยยิ้มเพิ่มได้อีกหนึ่งคนตามสโลแกนคลินิกค่ะ”
“ฮ่าๆ หมอยังไม่มีแฟนครับ”
“ถึงคิวต่อไปแล้วค่ะ!”
ผู้ช่วยคุณหมอพูดกระแทกเสียงพร้อมเดินไปเปิดประตูห้องตรวจ เพื่อต้องการไล่ฉันกับข้าวโพดทางอ้อมนั่นเอง
“งั้นไว้เจอกันใหม่นะคะคุณหมอปี” ฉันพูดพร้อมเดินออกมาจากห้องตรวจกับข้าวโพด
“ผู้ช่วยคนนั้นเขาทำหน้าเหมือนจะกินหัวทรายแล้วนะ”
“ฮ่าๆ ช่างเขาสิ กูไม่ได้จริงจังขนาดนั้นอยู่แล้ว”
“แล้วทรายไปแกล้งแซวหมอทำไม”
“ตอนแรกก็ว่าจะจีบ แต่ดูอาการผู้ช่วยก็รู้แล้วว่าแอบกินกันชัวร์
แบบนี้ฉันขอบาย”
“จ้าาา”
อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้มั่งฉันถึงยังไม่มีแฟน ฉันไม่เชื่อว่าเราต้องยอมโง่หรือยอมตาบอดเพื่อความรัก เพราะความรักที่ดีจะไม่มีทางทำให้ฉันต้องรู้สึกเป็นทุกข์
มหาวิทยาลัย
“ไอ้ทรายทำไมวันนี้ไม่รอกูวะ” แกรมเดินเข้ามาถึงก็โยนชีทเรียนลงบนโต๊ะแล้วบ่นพลางมองหน้าฉัน
“กูไปหามึงแล้วแต่มึงไม่อยู่ห้องเอง”
“มึงก็รู้ว่าถ้ากูไม่อยู่ห้อง กูจะ...”
“พี่แกรมคะ” ยังไม่ทันทีแกรมจะพูดจบ น้องนักศึกษาผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาที่โต๊ะของพวกเราเสียก่อน
คนแรกนี่สเปคแกรมเลยล่ะ เพราะน้องเขาทั้งผิวขาว น่ารัก จัดฟันตัวเล็กๆ เหมือนหมากระเป๋าและเขาก็คือคนที่เรียกชื่อของแกรมเมื่อกี้นี้
ส่วนคนที่สองก็สไตล์คล้ายๆ กันต่างกันแค่ไม่ได้ดัดฟันเท่านั้นเอง
“น้อง... อะไรนะ”
แกรมหันไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะพูดประโยคถัดมาที่เล่นเอาน้องผู้หญิงถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว
“นี่พี่แกรมจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อมิ้นเลยเหรอคะ”
น้องผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองชื่อมิ้นตอนนี้ได้แต่ยืนกำหมัดแน่น ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นคู่กรณีเมื่อคืนนี้แน่ๆ
“แล้วน้องมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ก็เมื่อคืนเราได้กันแล้วนะคะ พี่แกรมต้องเป็นแฟนกับน้องสิ”
คำตอบของน้องเล่นเอาเพื่อนๆ ในคณะที่นั่งอยู่แถวนั้นหันมามองก่อนจะหันกลับไปราวกับมันเป็นเรื่องปกติ
“ชะตาขาดแล้วอิน้องเอ้ย” โบ้ทหันหน้าเข้ามากระซิบกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม
น้องคนนี้ไม่ใช่คนแรกหรอกค่ะที่มาตามแกรมแบบนี้ แต่ฉันบอกได้เลยว่าทุกคนมีจุดจบแบบเดียวกัน
--------------------------
เฮียแกรมมันร้ายยยย