บทย่อ
ใครบอกว่าเขาข้ามเส้นเพื่อนสนิท ในเมื่อเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนเลยด้วยซ้ำ
บทนำ เจอกันครั้งแรก
“โอ๊ยยย! ยังไม่หมดอีกเหรอเนี้ย”
ทราย ปรางทราย เด็กสาววัยสิบแปดปีบ่นขึ้นในขณะที่เธอกำลังวิ่งไปที่ลานกิจกรรมเพื่อทำการเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง
วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใจกลางเมือง เป็นมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก เหล่าข้าวของเครื่องใช้ทันสมัยตามค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากนักศึกษาในสถาบัน
“แวะตรงนี้ก่อนแล้วกัน” ทรายพูดพร้อมกับพาตัวเองแวะเข้าห้องน้ำในอาคารเรียนที่อยู่ระหว่างทางไปอาคารกิจกรรม
เพราะเมื่อคืนจัดปาร์ตี้ส้มตำที่บ้านกับแม่และน้องชายแท้ๆ วันนี้เธอก็เลยต้องมารับกรรมโดยการนั่งเฝ้าชักโครกในห้องน้ำเป็นรอบที่สี่แล้ว
“ทางนี้”
ทรายสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงของคนที่เข้ามาในห้องน้ำ แต่มันจะไม่น่าตกใจเลยถ้าเขามาเข้าห้องน้ำปกติ แต่นี้กลับมีเสียงของผู้ชายอีกคนดังขึ้นมาด้วยนั้นเอง
“ตรงนี้จะดีเหรอครับพี่”
“ในนี้แหละ ไม่มีใครหรอก มาเร็วพี่หิวจะแย่อยู่แล้ว”
หิว ในห้องน้ำ ผู้หญิงกับผู้ชาย นี่อย่าบอกนะว่า...
ทรายทบทวนประโยคที่เธอได้ยินแล้วประมวลผลออกมาได้ทันที คำว่าหิวที่ผู้หญิงคนนั้นพูดคงไม่ได้หมายถึงคำว่า หิวข้าว แน่นอน
“อ๊ะ! แกรม อื้มม”
เสียงของคนข้างนอกถึงกับทำให้ทรายตกยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง พลางคิดในใจว่านี่มันเวรกรรมอะไรของเธอกันแน่ท้องก็เสีย ยังต้องมานั่งฟังคนพลอดรักกันแถมยังไม่กล้าส่งเสียงดังออกไปอีก
ปัง!
ทรายสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงปิดประตูของห้องข้างๆ ดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงประกอบกิจกรรมของห้องข้างๆ ที่เธอไม่อยากจะคิดภาพตามเลยจริงๆ
“พี่ขอดูหน่อยนะ ว่าไอติมแท่งนี้ของแกรมมันน่ากินแค่ไหน”
“อ่าส์...”
แม้ว่าเธอจะพยายามปิดหูแน่นแค่ไหนแต่เสียงสนทนาและกิจกรรมอันล่อแหลมนั้นก็ยังดังเข้ามาให้ได้ยินอยู่ดี
‘ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย’
ปัง!
“เฮือก!”
“คนจะขี้โว้ยย!”
เกิดความเงียบขึ้นทันทีที่ทรายยกมือขึ้นทุบผนังห้องน้ำแล้วตะโกนประโยคนั้นออกไป ไม่นานเสียงเปิดประตูของห้องข้างๆ ก็ดังขึ้นและบรรยากาศรอบข้างก็กลับมาสงบเหมือนเดิม
‘อดอยากปากแห้งมาจากไหนวะ ห้องน้ำมหาวิทยาลัยก็ไม่เว้น’
“เฮ้ย! จะสายแล้ว”
ทรายก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะอุทานออกมาอีกครั้ง เธอรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะวิ่งไปที่ลานกิจกรรมเพื่อเข้ารับน้องทันที
กิจกรรมรับน้องของคณะบริหารธุรกิจในปีนี้เป็นการจัดกิจกรรมที่ได้รับการลงมติจากรุ่นพี่ในคณะว่าจะเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ไม่เอาระบบโซตัส เพราะพวกเขาวางเป้าหมายของการจัดกิจกรรมนี่ขึ้นเพื่อให้นักศึกษาที่เข้าใหม่ได้ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ในคณะและเรียนรู้วิธีการประพฤติปฏิบัติตัวในคณะด้วยนั่นเอง
กิจกรรมภายในคณะดำเนินมาถึงช่วงที่รุ่นพี่ให้นักศึกษาใหม่จับกลุ่มจำนวนหกคนเพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ในคณะและสาขาของตัวเอง โดยจะสามารถแยกสาขาได้จากสีของป้ายชื่อที่ทุกคนแขวนอยู่
และกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากรุ่นพี่สาวๆ ในคณะมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นกลุ่มที่นั่งอยู่มุมขวาสุดในลานกิจกรรมเพราะมีแกรมม่านั่งอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยนั่นเอง
“สวัสดี ฉันแกรมม่า”
แกรมม่า ติณณภพ ตั้งเจริญกิจสกุล ชายหนุ่มวัยสิบแปดปีที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนสาวๆ ต้องมองจนเหลียวหลัง ทรงผมที่ถูกเซตให้เข้ากับหน้าตาเป็นอย่างดี บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวดูแลและใส่ใจตัวเองดีมากแค่ไหน คิ้วหนาปลายโก่งขึ้นเล็กน้อยรับกันได้ดีกับดวงตาคล้ายเม็ดอัลมอนด์ จมูกโด่งเหมือนเทพเจ้ากรีกและริมฝีปากหนาสีอมชมพูทำให้องค์ประกอบเครื่องหน้าของเขาช่างครบครันไม่มีที่ติ
“ฉันชื่อโบ้ทนะ”
โบ้ท สมาชิกคนที่สองของกลุ่มเริ่มแนะนำตัว ใบหน้ารูปไข่สีอมชมพูทำให้เขาดูหล่อเหลาจนสามารถถูกทาบทามจากแมวมองได้ง่ายๆ บวกกับนิสัยติดตลกและคุยสนุกทำให้เขาดูเป็นคนที่น่าเข้าหามากที่สุดในบรรดาผู้ชายสามคนของกลุ่มตอนนี้
“ราม”
ราม หรือพระรามแนะนำตัวออกมาสั้นๆ เท่านั้น นั่นยิ่งทำให้เขาดูดุมากกว่าเดิม ใบหน้าคมเข้มสมชายชาตรีของเขาโดดเด่นออกมาท่ามกลางคนจำนวนมาก ทำให้เขาก็เป็นจุดสนใจของสาวๆ ในคณะเช่นกันแต่เขากลับชอบที่จะทำสีหน้าเรียบนิ่งทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้ามาสนทนากับเขาสักเท่าไหร่
“ฉันชื่อทราย”
ทราย ปรางทราย สมาชิกสาวสวยคนแรกของกลุ่มแนะนำตัวขึ้นบ้าง เธอมีผมดัดลอนสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลัง ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิตทำให้เธอดูน่ารักน่าทะนุถนอม จมูกเรียวปลายเชิดขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงความดื้อรั้นในตัวเธอได้เป็นอย่างดี แต่ก็ช่างดูเข้ากับปากเรียวกระจับสีชมพูเสียเหลือเกิน
“สวัสดีนะ ฉันชื่อข้าวโพด”
ข้าวโพด สาวอวบน่ารักน่าฟัดของกลุ่ม เพราะเธอมีส่วนสูงเพียงแค่หนึ่งร้อยห้าสิบแปดแต่กลับมีน้ำหนักถึงหกสิบกิโลจึงทำให้เธอดูจะเป็นสาวอวบที่สุดในกลุ่ม ผิวขาวชมพูระเรื่อเหมือนคนที่ทานมะเขือเทศวันละสิบลูก ดวงหน้าแก้มกลมจนน่าหยิกบวกกับรอยยิ้มน่ารักพิมพ์ใจ ยิ่งทำให้เธอดูน่าแกล้งและน่ามันเขี้ยวเข้าไปใหญ่
“ฉันชื่อพิเพอร์ จะเรียกพิ เรียกเพอร์ หรือคนสวยฉันก็ไม่ติด”
พิเพอร์ สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่ม สาวแซ่บสุดเซ็กซี่เจ้าของใบหน้ารูปไข่สวยเก๋ราวกับนางแบบ ปากสีแดงอวบอิ่มพูดพร้อมกับมองหน้าสมาชิกในกลุ่มทีละคน เธอเป็นคนชอบวางแผนและช่างสังเกตเป็นที่สุด ถ้าคนกลุ่มนี้จะต้องเป็นเพื่อนกันไปตลอด เธอก็อยากจะรู้จักตัวตนของพวกเขาให้มาที่สุด
“ดูเหมือนว่าเราจะเรียนสาขาเดียวกันหมดเลยนะ” โบ้ทพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าตอนนี้สมาชิกในกลุ่มทุกคนแขวนป้ายสีน้ำเงินกันหมด
“พี่เขาให้เราทำความรู้จักกันให้มากที่สุดอ่า เผื่อเขาเรียกออกไปข้างหน้า เราจะทำความรู้จักยังไงกันดี”
ข้าวโพดพูดพร้อมกับหันมองหน้าสมาชิกในกลุ่มทุกคนก่อนจะรีบก้มหน้าลงทันทีที่สบตากับเจ้าของป้ายชื่อ ‘พระราม’
‘คนอะไรหน้าดุอย่างกับคุณครูฝ่ายปกครอง’
นั่นคงจะเป็นประโยคที่ข้าวโพดทำได้แค่คิดในใจเท่านั้น ขืนพูดออกไปไม่รู้ว่าเธอจะโดนเขาจับไปฆ่าหมกป่าหรือเปล่า
“เอางี้! เราจะเป็นเพื่อนกันใช่มะ พูดกูมึงได้หรือเปล่า”
คราวนี้ทรายเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาบ้าง ก่อนจะหันไปสบตากับแกรมที่กำลังนั่งมองหน้าเธออยู่
‘แกรม ทำไมชื่อมันคุ้นหูจังวะ’
“ได้ดิ กูจะได้ไม่ต้องแอ๊บด้วย”
พิเพอร์ตอบกลับมาพลางถอนหายใจ ราวกับว่าก่อนหน้านี้เธอกำลังทำอะไรที่มันขัดกับความเป็นตัวของตัวเอง
“เฮ้ย!”
‘แกรม! มันชื่อของคนที่มีอะไรกับผู้หญิงในห้องน้ำเมื่อเช้านี่หว่า นี่
ฉันต้องเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้เหรอวะเนี้ย’
ทรายอุทานพร้อมหันไปจ้องหน้าแกรมอีกครั้ง ทำให้สมาชิกทั้งกลุ่มหันไปมองหน้าทรายเป็นตาเดียว
“มองหน้ากูแบบนั้นหมายความว่าไง” แกรมเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย นั่งกันอยู่ดีๆ มาอุทานแล้วมองหน้าเขาอย่างกับเจอผี
“ปะ เปล่า.. กูแค่เพิ่งนึกอะไรออก” ทรายปฏิเสธออกไป พลางคิดว่าหลังจากรับน้องเธอจะไม่มีทางเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้เด็ดขาด
ระหว่างที่สมาชิกทั้งหกคนกำลังพูดคุยเพื่อปรับตัวกันอยู่ รุ่นพี่ในคณะสามสี่คนเดินมาที่กลุ่มของพวกเขาจนทำให้บนสนทนาต้องหยุดลง
“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อพี่ฟางนะคะเป็นคนดูแลเรื่องการคัดเลือกน้องนักศึกษาเข้าประกวดดาวและเดือนของคณะค่ะ”
“...”
ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากสมาชิกในกลุ่ม เพราะตอนนี้ทุกคนยังไม่เข้าใจว่ารุ่นพี่จะเดินเข้ามาแนะนำตัวกับพวกเขาทำไม
“คือ พี่อยากจะขอให้น้องทรายและน้องแกรมลงประกวดดาวเดือนของคณะค่ะ”
“หา! ทรายเนี้ยนะ” ทรายพูดพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของชื่ออีกคนที่ยังคงนั่งหน้านิ่งไม่ได้มีท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธออกมา
“ใช่ค่ะ พวกพี่ๆ ลงมติกันแล้วก็เลยเดินเข้ามาแจ้งเราน่ะ”
“ไม่ประกวดได้ไหมพี่ หนูไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ค่ะ พี่ไปชวนคนอื่นเถอะ”
“ช่วยพี่หน่อยนะน้องทราย ถือว่าทำเพื่อคณะไงคะ”
รุ่นพี่อีกคนพูดขึ้นเสียงดังกว่าเดิมและนั้นก็ทำให้ตอนนี้นักศึกษาใหม่ที่กำลังจับกลุ่มแนะนำตัวกันอยู่นั้นหันมามองหน้าเธออย่างกดดัน
‘เอาไงดีวะเนี้ย’
“ต้องทำอะไรบ้างเหรอครับพี่”
คราวนี้เป็นแกรมที่ถามขึ้นบ้าง รุ่นพี่มีสีหน้าที่ดูคลายกังวลลงทันทีเมื่อแกรมดูมีท่าทางว่าจะเข้าร่วม
“ก็แค่ซ้อมเดิน เตรียมความสามารถพิเศษ แล้วก็เตรียมตัวพวก
ตอบคำถามนิดหน่อยเท่านั้นเองจ๊ะ”
ฟางตอบกลับหนุ่มรุ่นน้องอย่างเขินอาย นี่แค่เขาถามแล้วยิ้มตอบกลับมาเท่านั้นเองมันกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนเธอกำลังโดนเขาสารภาพรักเสียอย่างนั้น
“แค่นี้เอง มึงก็ถือว่าช่วยพี่เขาแล้วกัน”
“แต่กู...”
“ผมกับทรายตกลงครับพี่”
“ขอบคุณมากน้า เดี๋ยวถึงวันที่ต้องซ้อมแล้วพี่จะบอกพวกเราอีกรอบนะ”
ทรายถึงกับนั่งอ้าปากค้างกับคำตอบของแกรมที่ตอบกลับรุ่นพี่ไปโดยที่ไม่ได้สนใจฟังความคิดเห็นของเธอเลย
“ไอแกรม กูยังไม่ตอบตกลงเลย”
“เอาหน่า แค่ประกวดดาวเดือนเอง มึงจะอะไรนักหนาวะ”
และความคิดที่ว่าหลังจากจบรับน้องเธอจะออกห่างจากผู้ชายที่ชื่อ แกรมม่าให้มากที่สุดก็ล่มสลายลงตรงหน้า เพราะพวกเขาต้องเข้าร่วมการซ้อม การเก็บตัวอยู่ด้วยกัน จนสุดท้ายกิจกรรมต่างๆ ก็ทำให้เขาทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน