EP 1 [1-2]
โธ่เอ๊ย! ป่านนี้ผู้ชายคนนั้นก็ไม่รู้เดินไปถึงไหนแล้วเนี้ย จะให้ฉันรอใส่หลังคนอื่นน่ะเหรอไม่มีทางสักหรอก! ฉันรีบเดินออกจากร้านเพื่อเดินหาผู้ชายคนนั้นทันที เมื่อกี้ฉันก็ไม่ทันได้มองหน้าเขาซะด้วยสิ เพียงแค่มองหางตาเท่านั้นว่าเขาใส่สูทสีดำ ดูท่าทางแล้วเหมือนพวกบอดี้การ์ดมากกว่า
“หายไปไหนวะเนี้ย!”
พลั่ก!
ตุบ!
“โอ๊ยยย!”
ฉันหันหลังกลับมาชนกับผู้ชายคนหนึ่งจนหงายหลังลงไปนั่งอยู่ที่พื้น
“ขอโทษครับ”
“ไม่มีตาหรือไงยะ”
ฉันพูดพลางพยายามลุกขึ้นยืนส่วนไอผู้ชายคนนั้นก็ยืนมองหน้าฉันนิ่งเลยล่ะ เป็นอะไรของเขาทำหน้าอย่างกับเจอผี
“นี่นาย!”
“คุณว่าไงนะ”
เหมือนเขาเพิ่งได้สติก่อนจะถามกลับมา ดูหน้าตาท่าทางก็ดีไม่น่าจะซุ่มซ่ามนะ
“ฉันถามว่าไม่มีตาหรือไงยะ ถึงไม่เห็นว่าฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้”
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแอล”
ผู้ชายอีกคนที่เพิ่งเดินตามมาถามขึ้น เหมือนว่าเขาจะเป็นลูกน้องของคนที่เดินชนฉันนะ แต่ว่าหน้าตาเขาก็ดูคุ้นๆ จนทำให้ฉันก้มลงมองที่มือของเขา บิงโก! เขาถือถุงของร้านนั้นอยู่จริงๆ
“คุณ! ฉันตามหาคุณแทบจะทั่วห้างแล้ว”
“ตะ ตามหาผมทำไมครับ”
“ฉันต้องการของในถุงนั่นค่ะ คุณขายต่อให้ฉันได้ไหม”
ผู้ชายทั้งสองคนก้มลงมาถุงในมืออีกครั้งก่อนคนที่เดินชนฉันจะพูดขึ้นมา
“คงจะไม่ได้ครับ ถุงนี่เป็นของผม”
เขาพูดพร้อมกับหันมามองฉันด้วยหน้าตาที่กวนประสาท
“ที่คุณเดินชนฉันเมื่อกี้ ฉันขอรับคำขอโทษเป็นของในถุงนั่นแล้วกัน คุณคงจะไม่อยากให้ใครมองว่าคุณเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบหรอกใช่ไหม”
“หึ!”
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันไปรับถุงนั้นมาจากลูกน้องเขาแล้วยื่นมาตรงหน้าฉัน ฉันบอกแล้วไงคนอย่างเมเบล อยากได้อะไรก็ต้องได้
“ขอบ.. นี่!”
ฉันยื่นมือไปรับถุงนั่นแต่เขากับชูมันสูงขึ้นทันที
“ถุงนี่เป็นของคนสำคัญของผม ผมคงให้คุณง่ายๆ ไม่ได้หรอก”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันต้องการรับคำขอโทษเป็นของในถุงเท่านั้น อ่อ แต่ฉันจ่ายเงินให้นายนะไม่ได้เอาฟรีๆ หรอก”
“จริงๆ ผมไม่จำเป็นจะต้องขอโทษอะไรคุณด้วยซ้ำเพราะคุณต่างหากที่หันกลับมาชนผมเอง”
“นี่นาย!”
นายคนนี้มันบ้าชะมัดเลย!
“ผมมีสิทธิ์ที่จะให้หรือไม่ให้คุณก็ได้ เพราะมันเป็นของของ ผม”
“แต่ฉันต้องการจะใส่มันวันนี้ไง นายก็ให้แฟนนายรอไปก่อน
สิ”
“แฟน? เหอะ แล้วทำไมเขาต้องรอด้วยในเมื่อผมซื้อมันมาได้แล้ว”
“เพราะฉันต้องการจะซื้อต่อ นายพูดไม่เข้าใจหรือไง”
เขาเดินเข้ามาหาฉันอีกสองสามก้าวแต่ไม่มีทางหรอกที่คนอย่างฉันจะถอยหนี
“เด็กเอาแต่ใจอย่างคุณอยู่ที่บ้านเขาคงจะตามใจจนเคยตัวเลยสินะ”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน!”
“เฮ้อออ ~ เอาเป็นว่าผมขอโทษอีกครั้งแล้วกันที่คุณเดินมาชนผม แต่ผมไม่มีเวลากับเรื่องไร้สาระสักเท่าไร”
พูดจบเขาก็ยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกไป คิดว่าจะเดินออกไปได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ
“นี่! หยุดนะ!”
เขาหยุดชะงักนิดหน่อยแต่ไม่ได้หันกลับมามองหน้าฉัน
“อย่าหันหลังให้ฉัน ฉันไม่ชอบ! หันกลับมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้!”
“พอดีว่าผมไม่ใช่คนของคุณ คงไม่จำเป็นจะต้องทำตามคำสั่งเด็กน้อยเอาแต่ใจอย่างคุณ!”
“นาย!”
“โอ๊ย! ยัยเด็กบ้า”
ฉันเดินเข้าไปกระทืบรองเท้าส้นเข็มลงที่เท้าเขาเต็มๆ โทษฐานที่กล้ามาปากดีใส่ฉัน ของนั้นฉันไม่เอาก็ได้
“อุ๊ป! คิดว่าจะแรงกว่านี้สักอีก”
ฉันพูดจบก็เดินออกมาจากตรงนั้น วันนี้มันวันบ้าบอคอแตกอะไรกัน ทำไมถึงมีเรื่องให้ฉันหงุดหงิดอยู่เรื่อยเลยนะ
?xxx
“รถคุณหนูจอดอยู่ที่ชั้นสามแล้วครับ”
“ขอบใจ”
ฉันกดวางสายก่อนจะเดินเข้าร้านทำเล็บ คงต้องหาอะไรคลายเครียดสักหน่อย อย่าให้ฉันเจออีกนะไอคนบ้า ฉันจะกัดให้จมเขี้ยวเลยคอยดูเถอะ
บริษัท ที.เอส.เค.กรุ๊ป จำกัด
วันนี้ฉันเข้ามาหาเฮียเบที่บริษัทพนักงานหันมามองกันบ้างตามปกติแต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
“ไปไหนของเขา หรือจะมีประชุม”
ฉันเปิดประตูห้องทำงานของเฮียอัลที่ตอนนี้เฮียเบเข้ามาทำหน้าที่แทนอยู่แต่กลับไม่เจอใครเลยสักคน แม้กระทั่งผู้ช่วยเลขาหน้าห้อง
แอดดดดด!
“เฮ้ย! น้องมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เฮียเบเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับทำงานอย่างกับเห็นผีทันทีที่เห็นฉันยืนอยู่ในห้อง ทำไมใครๆ ก็ชอบทำหน้าแบบนี้เวลาเจอฉัน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
“เมื่อกี้ค่ะ ทำไมเฮียต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“เปล่าๆ แล้วน้องมีอะไรหรือเปล่า”
“เดี๋ยวนี้มาหาเฮีย หนูต้องมีอะไรด้วยเหรอคะ”
“เฮียมีคุยงานกับพาร์ทเนอร์ต่อน่ะ กลัวน้องจะเบื่อไง”
เฮียเบดูมีท่าทางอึกอักแปลกๆ เหมือนไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่ตอนนี้อย่างนั้นแหละ
“พาร์ทเนอร์หรือสาวๆ”
“พาร์ทเนอร์ครับ หิวไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มิสเตอร์แอลมาถึงแล้วค่ะคุณเบ”
เสียงเคาะประตูดังแทรกขึ้นก่อนที่ทิตาผู้ช่วยเลขาหรือว่าผู้ช่วยเจ๊ไหมนั่นแหละจะเปิดประตูห้องเข้ามา
“บอกให้เขาไป...”
“ไปไหนครับคุณเบ”
ยังไม่ทันที่เฮียเบจะพูดจบประตูก็ถูกดันออกให้กว้างกว่าเดิมก่อนที่เจ้าของเสียงเมื่อสักครู่นี้จะเดินเข้ามา และทันทีที่เขากับฉันหันมองหน้ากัน ฉันก็รู้ได้เลยนอกจากที่เขาบอกว่าโลกนี้มันกลมจะเป็นเรื่องจริงแล้วโลกมันยังแคบอีกด้วย
“นาย!”
แขกที่เพิ่งเข้ามาคือผู้ชายที่เดินชนกับฉันที่ห้างยังไงล่ะ นี่บริษัทเราไม่คัดกรองพาร์ทเนอร์ที่จะทำงานด้วยเลยหรือไงกัน
“หึ!”
เขามองหน้าฉันก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ สีหน้าเขาไม่ได้
ดูตกใจที่มาเจอฉันที่นี่ อย่างว่าแหละนะฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลตั้งเจริญกิจสกุล ถ้าพาร์ทเนอร์บริษัทเล็กๆ อย่างเขาอยากจะมาร่วมทุนก็คงต้องสืบประวัติบริษัทมาหน่อย
“ผมว่าเชิญคุณแอลที่ห้องประชุมเล็กดีกว่าครับ”
“จะคุยงานกันเลยไหมครับ พอดีผมมีธุระต่อด้วย”
“หึ! จะมาขอร่วมทุนแล้วยังจะเรื่องมากอีก”
“เบลลล~”
ฉันพูดพึมพำออกมาเพื่อตั้งใจให้เขาได้ยิน แต่เฮียเบกลับเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ชิ! ก็แค่คนร่วมทุนกระจอกๆ ทำไมต้องแคร์ด้วย