บท
ตั้งค่า

บทที่1 เขาคือใคร 1

บทที่1

เขาคือใคร

เมื่อ3,333ปีก่อน

ที่อียิปต์

ราชินีฟาริอามุนพาวรกายอวบอิ่มในพัสตราภรณ์เครื่องทรงอียิปต์ยุคโบราณดำเนินกรีดกรายผ่านเหล่านางกำนัลที่พากันหมอบตัวลงต่ำไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์โดดเด่นขององค์ราชินีฟาริอามุนด้วยเกรงพระอาญาจากพระอารมณ์อันไม่คงที่ของราชินีสาวนั่นเอง

พักตร์เฉยเชิดด้วยมาจากตระกูลสูงส่งเพียงชำแลหางพระเนตรมองเหล่านางกำนัลชั้นต่ำอย่างไม่สู้จะสนพระทัยนัก พระราชดำริ(ความคิด)ล่องลอยไปถึงบุรุษผู้เป็นยอดปรารถนาหนึ่งเดียวในหทัย เพียงแค่ดำริก็ดูเหมือนพักตร์คมสันของบุรุษผู้งามสง่าผู้นั้นจะลอยล่องเข้ามา ยิ่งทำให้พระนางหทัยเต้นถี่ เลือดลมสาวสูบฉีดพลุ่งพล่านจนทั่วพระวรกาย

“พระองค์จะทรงสรงน้ำเลยหรือไม่เพคะ” นางกำนัลมูซาผู้ถวายการรับใช้องค์ราชินีอย่างใกล้ชิดมากที่สุดเปิดปากถาม

เนตรดำใหญ่ซึ่งถูกเขียนด้วยผงถ่านจนคมกริบมักมีวี่แววความเฉยเมยจนไม่มีใครอ่านพระดำริออก แม้แต่พระสวามีของพระนางเองก็ตาม ชำเลืองมองนางกำนัลผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างครุ่นคิด หากพระนางมีแผนการใหญ่ที่จะต้องลงมือ ก็นับว่านางกำนัลผู้นี้คงจะยินยอมช่วยพระนางและหากแผนรั่วไหล นางกำนัลมูซาผู้นี้ก็คงจะยอมเป็นแพะแทนพระนางเช่นกัน โอษฐ์อิ่มคลี่รอยสรวลอย่างมาดมั่นในหทัยก่อนจะหันไปทางนางมูซา

เพียงแค่พักตร์เนียนสีน้ำผึ้งขยับขึ้นลงช้าๆนางกำนัลมูซาก็รีบหันไปสั่งนางกำนัลอีกคนซึ่งนั่งรอท่ารับคำสั่งอยู่ทันที

“เมซา เจ้าไปเตรียมอาภรณ์ขององค์ราชินีฟาริอามุน”

พระราชินีค่อยๆเสด็จดำเนินเข้าสู่ห้องสรงที่ตกแต่งเลียนแบบธรรมชาติ โดยมีต้นไม้ขนาดย่อมประดับอยู่เป็นหย่อมๆที่กึ่งใจกลางห้องมีสระสรงส่วนพระองค์ที่มองดูแล้วน่าลงไปแหวกว่ายเพื่อรับพรจากเทพเจ้า มูซาค่อยๆโปรยกลีบดอกไม้หอมสีสวยสดจากพานเงินลงสู่สระสรงใสสะอาด ก่อนจะหยิบขวดแก้วเล็กๆที่บรรจุน้ำหอมที่กลั่นจากดอกไม้หลายชนิดที่มีใช้ในเชื้อพระวงศ์เท่านั้นหยดใส่ในน้ำหนึ่งหยด เพื่อให้กลิ่นหอมจากบุปผาพิสุทธิ์ติดวรกายขององค์ราชินีทั้งยามทิวาและราตรี

นางกำนัลสามคนช่วยกันถอดเครื่องทรงออกจากองค์ของราชินีฟาริอามุน วรกายดูจะเบาโหวงเมื่อเครื่องทรงอิสริยาภรณ์ทองคำแท้หนักอึ้งถูกปลดออกจนหมด พระอาภรณ์เนื้อลื่นถูกเปลื้องออกรูดลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นวรองค์สมส่วน พระมังสาสีน้ำผึ้งเรียบเนียนสวย พระนางเสด็จลงสู่สระสรงด้วยวรกายเปลือยเปล่า เพราะเป็นความเชื่อดั้งเดิมของชาวอียิปต์ว่าหากไม่สวมอะไรลงแหวกว่ายสู่สายธาราแล้วจะเป็นการชำระบาปและรับพรจากเทพเจ้าได้ทุกสัดส่วนของร่างกาย

…สายน้ำที่เย็นฉ่ำหากแฝงไปด้วยความเงียบเหงาและอ้างว้างจะเหมือนหทัยของข้าในยามนี้หรือไม่ ทุกสัมผัสที่วารีกระทบกายของข้าทุกสัดส่วน ก่อให้เกิดความสะท้านเยือกและฤทัยเต้นรัวราวจะจับไข้...นี่ใช่ไหมความรู้สึกของพระนางอย่างที่เป็นอยู่ทุกครั้งเมื่อต้องอยู่กับชายสูงศักดิ์แห่งดินแดนทะเลทรายนี้ แต่กลับเผลอใจไปสวามิภักดิ์กับบุรุษอีกผู้หนึ่ง…

พระวิสูตร(ผ้าม่าน)สีเงินแพรพลิ้วผืนใหญ่ที่ผูกติดกับพระแกล ดูจะวูบไหวไปมาเมื่อสายลมต้องจับ....เนตรดำใหญ่ทอดพระเนตรระเรื่อยอย่างไม่สนพระทัยอะไรเป็นพิเศษจนไปหยุดชะงักสายเนตร(สายตา)ที่พระวิสูตรผืนนั้น ยามสายลมต้อง ดูเหมือนผ้าแพรจะพลิ้วไหว ชายผ้าด้านล่างดูจะกวัดไกวจนเห็นคล้ายๆเท้าของใครอยู่หลังผ้าสีเงินนั้น

พระราชินีฟาริอามุนถอนพระปัสสาสะอย่างระอาพระทัย ก่อนจะตรัสสุรเสียงดังจนเหล่านางกำนัลนับสิบที่ยืนรอถวายการแต่งองค์และความสะดวกพากันสะดุ้งโหยง

“พวกเจ้าออกไปก่อน”

สิ้นรับสั่ง นางกำนัลนับสิบก็พากันก้มหน้าเดินออกจากห้องสรงไป ความเงียบสงัดที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความอึดอัดในหทัยของราชินีฟาริอามุนไม่น้อย ดวงเนตรดำใหญ่เฉยชายามตรัสประโยคออกไปราวกับว่ามีใครอยู่ในห้องด้วย

“ออกมาได้แล้ว” ไม่ต้องรอให้พระนางเสียเวลาตรัสเรียกอีกครั้ง ชายผู้หนึ่งก็ก้าวออกมาจากหลังพระวิสูตรทันทีราวกับว่ารอเวลานี้มานาน

“เจ้ามาทำไมอีก” ราชินีฟาริอามุนเบือนพักตร์มาทอดพระเนตรชายผู้บังอาจล่วงล้ำเข้ามาในที่ส่วนพระองค์เช่นนี้

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำมองพระนางอย่างชื่นชม ปทุมถันอวบอิ่มที่พ้นผิวน้ำขึ้นมาดูจะสะท้อนไหวตามจังหวะการหายใจ หยดน้ำเกาะพราวทั่ววรองค์ราชินีฟาริอามุนดูจะเพิ่มเสน่ห์ให้กับพระนางอีกเท่าตัว

“พระนางน่าจะทรงรู้ดีว่ากระหม่อมมา....เพื่อจะทำอะไร” ดวงตาคมจับจ้องที่อุระขวบอวบที่เห็นเพียงรางๆในม่านน้ำด้วยความคิดที่เตลิดไปไกลตามประสาบุรุษเพศจนแทบกู่ไม่กลับ

“นี่เจ้า!” องค์ราชินีฟาริอามุนคำรามในลำพระศออย่างกราดเกรี้ยวแต่ไม่อาจจะต่อว่าอะไรรุนแรงได้เนื่องจาก...พันธะสัญญา....ที่มีร่วมกัน

“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ...ยามนี้...ไม่สมควร” พระนางทรงหันพักตร์ไปอีกทางอย่างหมางเมิน ด้วยไม่อาจหักห้ามอารมณ์อยากสาดคำตรัสเลวร้ายใส่ชายชู้ เล่นเอาชายหนุ่มโทสะแล่นขึ้นเป็นริ้วๆ

หนอย ทรงทำเป็นหยิ่งเช่นนั้นหรือ ถึงจะสูงส่งเป็นถึงองค์ราชินีเคียงคู่ฟาโรห์....แต่พระนางก็เป็นเมียเขาด้วยเช่นกัน

“หากไม่ใช่ยามนี้...แล้วจะรอยามไหนอีกล่ะ...องค์ราชินี...กระหม่อมเบื่อการที่ต้องรอคอยเต็มทน” มือหนาหยาบกร้านเพราะเคยแต่จับอาวุธฟาดฟันศัตรูรีบปลดชุดของตัวเองออกทันควันก่อนจะกระโจนลงน้ำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel