บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ต้านเสือที่ประตูหน้า หมาป่ากลับเข้าทางประตูหลัง

บทที่ 5

ต้านเสือที่ประตูหน้า หมาป่ากลับเข้าทางประตูหลัง

อาหมิงเปิดผ้าม่านเพื่อสังเกตภายนอก เห็นจางกุ้ยเดินห่างออกไปจากรถม้า เขาได้จังหวะจึงรีบไปนั่งด้านหน้ารถม้า ถือสายบังเหียนบังคับม้าให้วิ่งห่างออกไป โดยมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่เขายังพอจะจดจำได้

ฮี้!!

เสียงร้องของม้าเรียกความสนใจจากจางกุ้ย เขาหันหลังกลับไปมองจึงพบว่า อาหมิงได้บังคับรถม้าของเขาให้ห่างออกไปแล้ว แม้เขาจะรีบวิ่งตามไปแต่ฝีเท้าของคนกับฝีเท้าของม้าจะเทียบกันได้อย่างไร เพียงไม่นานรถม้าก็เลือนหายไปจากครรลองสายตาของจางกุ้ย

“บัดซบ!!”

จางกุ้ยสบถออกมาด้วยความหัวเสีย เหยื่อที่เขาพบได้ด้วยความบังเอิญกลับหนีเขาไปเสียแล้ว อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะมีเงินตำลึงทองมาอยู่ในถุงเงิน

จางกุ้ยนั้นมีใบหน้าที่ดูหล่อเหลาใจดี อ่อนโยน ภาพลักษณ์ของเขาดูสะอาดสะอ้าน บางครายังดูสง่างามคล้ายบัณฑิตที่ทรงภูมิความรู้ เขายังเคยใช้ใบหน้านี้ในวัยหนุ่มล่อลวงสตรีที่มีเงินทอง จนเมื่อสตรีพวกนั้นหมดประโยชน์เขาจึงได้ละทิ้งสตรีพวกนั้นไป แต่เมื่อเขามีอายุมากขึ้นใบหน้าของเขาก็มิอาจจะล่อล่วงสตรีได้อีก เขาจึงได้เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ มาเป็นคนขับรถม้ารับจ้าง คอยมองหาเหยื่อที่เป็นเด็กหรือสตรี เพื่อนำพวกนางไปขายกับนายหน้าค้าทาส ซึ่งจุดนัดพบของพวกเขาคือกระท่อมกลางป่าหลังนี้ แต่ครั้งนี้เหยื่อของเขากลับรู้ตัวเสียก่อน ช่างน่าเจ็บใจนัก!!

จางกุ้ยได้แต่เตะดินและต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่บริเวณตรงนั้น เป็นการระบายโทสะที่อัดแน่นอยู่เต็มท้องของเขา คอยดูเถิด หากเขาเจอสองพี่น้องนี่อีกครั้ง เขาจะต้องล้างแค้นที่ทั้งสองทำกับเขาได้เจ็บแสบถึงเพียงนี้

อาหมิงบังคับรถม้าให้วิ่งรวดเร็วจนฝุ่นด้านหลังลอยฟุ้งไปหมด เมื่อเห็นว่าออกมาไกลแล้ว เขาจึงได้บังคับม้าให้วิ่งช้าลง

“ตกใจหรือไม่หลิงเอ๋อร์”

“ไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่ปลอดภัยดีนะเจ้าคะ” เด็กหญิงที่นั่งอยู่ในรถม้าเอ่ยถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วง เมื่อครู่ม้าออกตัววิ่งเร็วมาก โชคดีที่นางหาที่จับเอาไว้เสียก่อน มิเช่นนั้นคงอาจจะได้แผลมาบ้าง

“พี่ไม่เป็นอะไร ข้างหน้าจะถึงเมืองสุยแล้ว เราจะค้างคืนที่โรงเตี๊ยมเมืองสุยกัน” เมื่อรู้ว่าน้องสาวไม่ได้เป็นอะไร เขาก็เบาใจขึ้น สองมือจับบังเหียนม้าแน่นแล้วบังคับม้ามุ่งหน้าสู่เมืองสุย เสียงรถล้อม้าบดถนนด้วยความเร็วอีกครั้ง จนรถม้าโยกโยน เพราะเวลานี้ใกล้จะมืดเต็มที โจรป่าแถวนี้ชุกชุมนัก เด็กหนุ่มจึงต้องรีบบังคับม้าให้เข้าสู่ตัวเมืองสุยโดยเร็ว

ฮี้!!!

“โอ๊ยยย!!”

รถม้าคนเก่าคันใหม่เสียหลักจนเกือบจะพลิกคว่ำลง โชคดีที่อาหมิงหยุดม้าทันเสียก่อน ข้างหน้านั้นมีขอนไม้ท่อนใหญ่วางขวางเอาไว้ จึงทำให้อาหมิงต้องบังคับให้ม้าหยุดทันควัน ทำให้ร่างเล็กของอาหลิงที่นั่งอยู่ในรถม้าตัวกระแทกกับผนังของรถม้า

“อาหลิงๆ เป็นอย่างไรบ้าง พี่ขอโทษข้างหน้ามีขอนไม้ขวางทางอยู่ พี่จึงต้องรีบหยุดเช่นนี้” เด็กชายเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางร้อนรน

“ไม่…ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก” เด็กหญิงที่ลุกขึ้นได้แล้วเอ่ยตอบผู้เป็นพี่ชาย แม้ว่าบริเวณตรงขมับของนางจะมีเลือดสีแดงไหลลงมาก็ตาม

มือเล็กรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากดบาดแผลเอาไว้ เพื่อให้เลือดหยุดไหล

“พี่จะอ้อมไปอีกทางหนึ่ง เจ้าหาที่จับด้วยเล่า”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านพี่”

เมื่อมิอาจจะผ่านไปเส้นทางนี้ได้มีแต่ต้องอ้อมไปอีกทางเท่านั้น ขณะที่อาหมิงกำลังบังคับม้าให้เหลียวหลังกลับ ริมทางที่มีแต่ต้นไม้ กลับมีชายหนุ่มฉกรรจ์ หน้าตาน่ากลัว หนวดเครายาวเฟิ้ม ถือดาบเล่มใหญ่พุ่งตัวมากว่า 10 คนมาที่รถม้า ทั้งยังดักหน้าดักหลังไม่ให้รถม้าผ่านออกไปได้

อาหมิงที่เห็นเช่นนั้นพลันหัวใจตกไปที่ตาตุ่ม เหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นเต็มแผ่นหลังด้วยความหวาดกลัว เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนเขากับน้องสาวเพิ่งจะหนีตายมาจากชายหน้าเนื้อใจเสือ (หน้าตุดูใจดีมีเมตตา แต่ใจคอโหดเหี้ยม) แต่มาตอนนี้กลับจะต้องมาตายเพราะถูกโจรป่าดักปล้นเช่นนั้นหรือ

ชีวิตของพวกเขาสองพี่น้องช่างบัดซบยิ่งนัก…

“ลงมา!! ถ้ายังไม่อยากตาย”

บุรุษที่ตัวใหญ่ที่สุด และมีใบหน้าโหดเหี้ยมตวาดใส่อาหมิงด้วยเสียงดุร้าย ดูท่าว่าชายผู้นี้คงจะเป็นหัวหน้าของโจรป่า

“นาย…นายท่านปล่อยข้าน้อยไปเถิดขอรับ ข้าน้อยไม่มีสิ่งของมีฆ่าอะไรเลย ได้โปรดอย่าทำอะไรข้าน้อยเลยขอรับ” อาหมิงเอ่ยขึ้นมาอย่างใจกล้า หากเขาโอนอ่อนพวกโจรป่าอาจจะไว้ชีวิตเขากับน้องสาวก็เป็นได้

“ไปลากมันลงมา” ชายที่เป็นหัวหน้าเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม

จบคำโจรป่าอีกสองคนก็ปีนขึ้นไปลากตัวอาหมิงลงมาที่พื้น ทั้งยังใช้ฝ่าเท้าเตะไปที่ใบหน้าของอาหมิงเต็มแรง ด้วยความริษยา อายุยังน้อยแต่กลับมีผิวหน้าขาวผ่อง ดูท่าน่าจะเป็นลูกของคนมีเงิน แล้วยังมากล้าโกหกพวกเขาอีก

อาหลิงที่นั่งอยู่ในรถม้า ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองด้วยความหวาดกลัว เนื้อตัวของเด็กหญิงสั่นเทาเมื่อรู้ว่ามีพวกโจรป่าเข้ามาทำร้ายพี่ชาย หยาดน้ำตาไหลรินลงมาข้างแก้มนวล

“ฮึกๆๆ”

“ไปดูซิ ข้างในมีของมีค่าอะไรบ้าง”

“ขอรับ” ลูกน้องสองคนเอ่ยตอบรับ พลางรีบกระโดดขึ้นไปดูภายในรถม้า อาหมิงเอ่ยห้ามเสียงหลงพยายามคลานไปกอดขาหัวหน้าโจรป่า

“ไอตัวน่ารำคาญ!!” ฝ่าเท้าหนาใหญ่เตะไปที่ท้องน้อยของอาหมิงจนแรง จนร่างผอมสูงของเด็กอายุเพียง 12 หนาวกระอักโลหิตออกมา กลิ่นเลือดลอยคลุ้งไปทั่ว

“ปล่อย ปล่อยข้านะ”

“ฮ่าๆๆ ได้ของดีขอรับ” เสียงหัวเราะบาดลึกเข้าไปในความรู้สึกของสองพี่น้อง

มือหนาคว้าข้อมือเล็กแล้วลากลงมาที่ด้านล่าง เมื่อพวกมันเห็นว่าเป็นเด็กหญิงที่อายุยังไม่ถึง 10 หนาว แต่กลับมีผิวกายขาวเนียนละเอียด ดวงหน้าหวานก็ฉายความงดงามออกมา พวกมันยิ่งรู้สึกคอแห้งอยากจะลิ้มลองเด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้า

พวกโจรป่ากลุ่มนี้อาศัยอยู่ในป่าลึก นานๆ ครั้งจะออกมาดักปล้นชาวบ้าน หรือคนที่ผ่านทางมา หากเป็นบุรุษพวกมันจะฆ่าทิ้งอย่างไม่ไยดี แต่ถ้าหากเป็นสตรีไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ พวกมันก็จะพากลับไปยังรังนอน และผลัดกันรังแกข่มเหงจนตาย เรื่องนี้ทางการได้ส่งทหารเข้ามาปราบปราม แต่เพราะมันชำนาญเส้นทางมากกว่า จึงหลบหลีกคนของทางการได้นานถึงเพียงนี้

“ของดีจริงๆ ฮ่าฮ่า”

โจรป่าที่เป็นหัวหน้าเหม่อมองอาหลิงด้วยความปรารถนา แววตาสีหม่นมองมาที่ร่างเล็กด้วยความกระลิ้มกระเหลี่ย เสียงเล็กของนางช่างเสนาะหูยิ่งนัก หากว่ามาร้องที่ใต้ร่างของเขาคงจะไพเราะมากเป็นแน่

“เอาตัวไป ส่วนไอสวะนี่ฆ่าทิ้งไปซะ”

“ขอรับ”

อาหลิงที่เห็นสายตาของโจรป่า พลันขนอ่อนลุกชันด้วยความขนลุก นางรู้สึกสะอิดสะเอียดจนอยากจะอ้วกออกมา ยิ่งได้ยินว่าพวกมันจะฆ่าพี่ชาย นางก็ยิ่งร้องไห้ออกมา

“ไม่ ไม่ อย่าฆ่าพี่ใหญ่” พยายามสะบัดตัวออกจากมือโสโครกของพวกโจรป่า แต่ก็ไม่เป็นผล เรี่ยวแรงของเด็กหญิงจะไปสู้แรงของชายฉกรรจ์ได้อย่างไรกัน

พวกโจรป่าพากันหัวเราะด้วยความขบขัน ยิ่งเห็นร่างเล็กร้องไห้มากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งรู้สึกบรรเทิง สนุกสนาน ใบหน้างดงามนี้ เสียงร้องนี้ ช่างสร้างความลำพองใจให้พวกมันเหลือเกิน

“เก็บเสียงของเจ้าไปร้องครางใต้ร่า…อ๊ากกก!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel