บท
ตั้งค่า

บทที่ 14 รู้ทันนะเพื่อน

“แกไม่ต้องมาหัวเราะเยาะฉันเลยจาซุส…ตอนนี้ไม่ได้อีกหน่อยฉันก็ต้องได้แน่ แกคิดว่าฉันจะปล่อยเขาให้หลุดมือไปหรือไง…หึ…ไม่มีทางซะหรอก” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากแบบร้ายออกมา

“นี่แกไม่ฟังที่ฉันเตือนเลยใช่ไหมวะ ฉันบอกแล้วไงว่าคนนี้ฉันขอ ถ้าแกไม่ได้คิดจะจริงจังก็อย่าไปเล่นกับความรู้สึกของเขา ถ้าแกทำเขาเสียใจเดี๋ยวผู้หญิงของฉันเขาก็คิดมากอีกอ่ะ ทำไมแกไม่ไปหาเอาไกลๆวะ ” จาซุสพูดบอกไปแล้วมองเพื่อนหนุ่มแบบจดจ้อง

“ก็ฉันถูกใจคนนี้ แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงวะ แล้วคราวนี้แกไม่ต้องมาพูดขออะไรแล้วนะ เพราะฉันตัดสินใจดีแล้วไม่งั้นคงไม่รับเขามาทำงานด้วยแบบนี้หรอก ฉันเชื่อว่าฉันทำให้เขาใจอ่อนยอมเป็นแม่ของลูกฉันแน่ๆ” ฮัสลานพูดบอกไปตรงๆ เพราะเขาเลือกเธอแล้วและเขาจะไม่เปลี่ยนใจแล้ว

“เฮ้อ…แกนี่มันดื้อด้านจริงเลยฮัสลาน งั้นฉันขอถามแกหน่อยละกัน ว่าถ้าเขายอมตกลงเป็นแม่ของลูกแกแล้ว แกจะทำยังไงต่อวะ” จาซุสเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้

“ก็เอาจนท้องเลยสิวะ…ถ้ากับเขาฉันยอมใช้วิธีธรรมชาติเลย..” ฮัสลานตอบไปแบบไม่คิดเลย เพราะถ้าเป็นเธอเขาไม่พึ่งวิธีทางการแพทย์แล้ว เขาจะพึ่งวิธีตามธรรมชาตินี่แหละ

“หึ แล้วเขาอยากจะใช้วิธีธรรมชาติกับแกเหรอวะ วันก่อนฉันเตือนเขาให้ระวังตัวกับแกเอาไว้ แกรู้ไหมเขาตอบฉันมาว่ายังไงน่ะ เขาบอกว่าแกไม่ใช่สเปคของเขา เขาไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับแกแน่ๆ แบบนี้เขาจะเอาแกลงเหรอวะ ฮ่าๆ…” จาซุสพูดออกไปด้วยรอยยิ้มขำๆ เพราะมารียายืนกรานกับเขาแบบชัดเจนเมื่อวันก่อน ว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจฮัสลานเพราะเขาไม่ใช่สเปคของเธอ

“นี่บอกฉันคนเดียวไม่พอ เขายังจะไปบอกแกอีกเหรอวะ แกคอยดูก็แล้วกันจาซุส ฉันจะยัดเหยียดความเป็นผัวให้กับมารียาเอง ดูสิว่าตอนนั้นยังจะพูดอีกไหมไม่ว่าฉันไม่ใช่สเปคน่ะ…” ฮัสลานพูดกัดฟันออกไปแล้วก็ทำหน้าอย่างมาดมั่นออกมา

“ฉันเชื่อว่าเขาไม่ยอมให้แกยัดเหยียดความเป็นผัวให้ง่ายๆหรอกว่ะ ยังไงก็สู้หน่อยนะเพื่อน เพราะเขาก็พยศไม่น้อยเลย นายคงต้องเหนื่อยหน่อยนะกว่าจะได้มาเป็นเมีย แล้วก็กว่าจะได้ลูกน่ะ… หึๆ” จาซุสพูดไปแล้วก็ยิ้มขำๆออกมา

“อะไรวะนี่ฮัสลานจะได้ลูกแล้วเหรอวะ ทำไมเร็วจัง ไหนบอกว่ากำลังหาผู้หญิงมาอุ้มบุญอยู่ไม่ใช่เหรอ” ราชิดเดินเข้ามานั่งกับเพื่อนๆของเขาหลังจากโชว์เต้นจบลง เขาเห็นทั้งสองพูดคุยกันอยู่ทำให้เขานั้นเดินเข้ามาหาเพื่อสนทนาด้วย

“แกนี่มันมาได้จังหวะตลอดเลยนะราชิด แกไม่รู้สักเรื่องมันจะตายไหมวะ” ฮัสลานพูดตอบไปแล้วมองเพื่อนหนุ่มด้วยสายตาจดจ้อง

“ก็เรื่องลูกของแกมันสำคัญนิวะ แกก็เล่าให้ฉันฟังด้วยสิ…บางทีฉันอาจจะให้คำปรึกษาแกได้ก็ได้ เพราะยังไงฉันก็มีลูกมีเมียแล้ว คนไร้ประสบการณ์แบบพวกแกอาจต้องการคำแนะนำจากฉันก็ได้” ราชิดพูดบอกไปเพราะในกลุ่มของพวกเขาสามคนนั้น มีเขาคนเดียวที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว และที่สำคัญเขาก็ยังมีลูกถึงสามคนแล้วและทุกคนก็โตเกินสิบขวบกันไปหมดแล้ว เนื่องจากเขาแต่งงานตั้งแต่ยังหนุ่ม

“หึ…เรื่องทำลูกแค่นี้จะต้องปรึกษาอะไรแกวะ นอนเอากันเดี๋ยวมันก็ท้องเองแหละ แต่ปัญหาที่ฮัสลานมันเจอตอนนี้คือผู้หญิงเขาไม่อยากได้มันต่างหาก ฮ่าๆ…” จาซุสพูดไปก็มิวายแซวเพื่อนหนุ่มไป

“ห้ะ…มีด้วยเหรอวะผู้หญิงที่ไม่อยากจะได้แกน่ะ ไหนมีรูปไหมวะ ขอดูหน้าหน่อยสิ” ราชิดเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ เพราะฮัสลานนั้นเรียกว่าเพอร์เฟคขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนไม่สนใจเพื่อนของเขาด้วย

“มีสิวะ คนนี้แกเคยเจอแล้วด้วยนะราชิด” จาซูสแกล้งพูดออกไปด้วยสีหน้ากวนๆ จนฮัสลานนั้นรีบตอบมาอย่างรวดเร็ว

“แกไม่ต้องมาอยากดูหรอก ไว้ฉันได้มาทำเมียเมื่อไหร่ฉันจะพาให้ดู ตอนนี้แกไม่ต้องมาสนใจเรื่องของฉัน เอาเรื่องงานวันเกิดของแกก่อนเถอะ มาชนแก้ว…” ฮัสลานพูดตอบไปก็ชวนเพื่อนหนุ่มบ่ายเบี่ยงไปคุยเรื่องอื่นทันที เพราะเขาไม่อยากจะขายหน้าไปมากกว่านี้ เขาก็หันไปมองจาซุสที่มันทำหน้ายิ้มขำๆเขาอย่างคาดโทษเลยทีเดียว

ราชิดก็พยักหน้ายอมๆไปเพราะเพื่อนหนุ่มหน้าเซ็งออกมาซะขนาดนั้นแล้ว เขาก็ไม่รบเร้าอะไรอีก เพราะเขาสามารถไปถามกับจาซุสทีหลังได้ ดั้งนั้นตอนนี้พวกเขาก็ชนแก้วแล้วดื่มด้วยกัน จนโชว์เต้นอีกโชว์เริ่มขึ้น หนุ่มๆเศรษฐีในงานก็โยนเงินเป็นรางวัลให้นางโชว์พวกนี้อย่างสนุกสนานท่ามกลางเสียงดนตรีที่ครึกครื้น

ณ ประเทศไทย

มุกดาก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของปรมินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของปรมินทร์อยู่ ทำให้พ่อแม่ของปรมินทร์จำใจรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ซึ่งมุกดาก็ทำตัวน่ารักกับพ่อแม่ของปรมินทร์จนพวกท่านนั้นเอ็นดูเธอ ต่างจากน้องสาวของปรมินทร์ที่คอยแซะเธอยู่ตลอด

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อคุณแม่ เมื่อคืนหลับสบายดีกันไหมคะ” มุกดาในชุดนักศึกษที่รัดติ้วและสั้นถึงขาอ่อนเดินเข้ามา ทำให้พ่อแม่ของปรมินทร์และน้องสาวของเขาถึงกับมองเธอแบบอึ้งๆ

“อรุณสวัสดิ์จ้ะหนูมุก…” อ่อนนุชพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มแห้งๆออกไป ขณะที่มองการแต่งตัวของมุกดาที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

“ใส่สั้นแบบนี้ไปเรียนหรือว่าไปทำอย่างอื่นกันแน่เนี่ย…” ปาลินพูดออกไปแบบแซะๆอย่างอดไม่ได้ เพราะตอนเธอเป็นนักศึกษาเธอก็ไม่สั้นเสมอหูแบบนี้นะ

“ขอโทษนะคะพี่ปริม มุกก็ใส่ของมุกแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีใครเดือดร้อนเลยนะคะ พี่ปริมก็ไม่น่าจะเดือดร้อนแทนนะคะ” มุกดาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้มแบบตอกกลับอย่างอดไม่ได้ ทำให้ปาลินนั้นมองมุกดาพร้อมกับกัดฟันอย่างข่มความไม่พอใจเอาไว้

“แต่เธอกำลังท้องอยู่ไม่ใช่เหรอ ใส่เสื้อผ้ารัดตัวแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นเขาจะรู้หรือไงว่าเธอท้องน่ะ อ่อ แต่เธอก็ไม่น่าจะอายนิเนอะ ขนาดแย่งแฟนพี่สาวตัวเองเธอยังไม่แคร์เลย แล้วเธอจะแคร์คนอื่นทำไมเนอะ งั้นก็ใส่ๆไปเถอะ ให้คนอื่นเขารู้ไปเลยว่าเธอน่ะท้อง…” ปาลินพูดออกไปด้วยวาจาที่เชือดเฉือนแบบสุดๆ เพราะคนที่เสแสร้งแบบผู้หญิงคนนี้ต้องจัดการแบบนี้

“ปริม พอได้แล้วลูก..จะไปว่าน้องเขาทำไม ในเมื่อตอนนี้เขาก็เป็นครอบครัวเดียวกับเราแล้ว” อ่อนนุชพูดบอกไปแบบห้ามปรามลูกสาวของเธอ เพราะเธอไม่อยากให้ทั้งสองนั้นทะเลาะกัน

“หนูไม่นับญาติกับผู้หญิงคนนี้หรอกค่ะ ขอตัวนะคะ ทานอะไรไม่ลงแล้ว…” ปาลินพูดตอบไปก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที

มุกดาก็มองตามแล้วพยายามเก็บความไม่พอใจเอาไว้ เพราะยังไงพ่อแม่ของปรมินทร์ก็อยู่ตรงนี้ด้วย เธอจะทำตัวนิสัยไม่ดีออกไปไม่ได้

“หนูขอโทษนะคะที่เข้ามาทำให้ครอบครัวของคุณพ่อคุณแม่วุ่นวาย ถ้าไม่มีหนู พี่ปริมเขาก็คงไม่โกรธออกไปแบบนั้น” มุกดาพูดออกไปก็ยกมือไหว้พ่อแม่ของปรมินทร์ด้วยท่าทางน่าสงสาร

“ไม่เป็นไรหรอกหนูมุก…ยัยปริมก็เป็นคนแบนี้แหละ หนูอย่าไปถือสาเลยนะ พ่อว่าหนูมาทานข้าวก่อนดีกว่า เสร็จแล้วจะได้ไปเรียน เดี๋ยวให้ตาปาล์มแวะไปส่ง แล้วนี่ทำไมตาปาล์มยังไม่ลงมาอีกล่ะเนี่ย” สิงขรพูดบอกไปก่อนจะถามหาลูกชายของเขา

“อ่อ พี่ปาล์มกำลังแต่งตัวอยู่น่ะค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะลงมาแล้ว…มานั้นแล้วไงคะ” มุกดาพูดบอกไปก็มองไปทางปรมินทร์ที่เดินใส่ชุดสูทเข้ามาในบ้านพอดี

“แล้วยัยปริมออกไปไหนล่ะครับ ไม่ทานข้าวเช้ากับเราเหรอ” ปรมินทร์เข้ามาแล้วเอ่ยถามทุกคนออกไป แล้วเขาก็เดินไปนั่งข้างๆมุกดา

“คงรีบออกไปทำงานน่ะ เราทานไปเถอะ…เสร็จแล้วก็ไปส่งหนูมุกเขาไปเรียนด้วย…อ่อ..แล้วเรื่องแต่งงานพ่อกับแม่คุยกันแล้วนะ เราสองคนคิดว่ารอให้หนูมุกคลอดก่อนแล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้อีกที ลูกกับหนูมุกคิดว่ายังไง” สิงขรพูดบอกไป เพราะเขาก็ยังไม่อยากให้ลูกชายแต่งงานในตอนนี้ โดยเฉพาะกับมุกดาที่ยังเรียนไม่จบแบบนี้

“ผมแล้วแต่คุณพ่อคุณแม่เลยครับ” ปรมินทร์พูดบอกไปแบบยอมๆ เพราะเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับมุกดา ขนาดเรื่องมีลูกกับเธอเขาก็ยังไม่พร้อมเลย

“แต่มุกท้องแล้วนะคะ ถ้าเราไม่แต่งงานกันครอบครัวของมุกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนคะ” มุกดาพูดออกไปแบบไม่ยอม เพราะถ้าเธอไม่ได้แต่งงานกับปรมินทร์เธอแน่ เนื่องจากเธอไม่ได้ท้องจริงๆ หากเขาจับได้เขาต้องทิ้งเธอแบบไม่ใยดีแน่

“เรื่องนี้พ่อกับแม่คุยกับแม่ของหนูมุกแล้ว แล้วคุณเพ็ญพักตร์เขาก็เห็นด้วยกับเราสองคนว่าจะให้จัดงานแต่งงานหลังจากที่หนูมุกน่ะเรียนจบแล้ว หนูต้องเข้าใจด้วยนะว่าครอบครัวของเราก็มีหน้ามีตาทางสังคมไม่น้อยเลย หากตาปาล์มจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับคนที่เหมาะสม ไม่ใช่ยังเรียนมหาลัยอยู่อย่างนี้ หนูมุกเข้าใจครอบครัวของเราด้วยนะ เพราะแค่นี้ก็ถือว่าเรายอมมากแล้ว” อ่อนนุชพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยน เพราะเธอนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ลูกชายรับผิดชอบซะเมื่อไหร่ล่ะ เธอแค่ต้องการให้มุกดาเรียนจบแล้วค่อยแต่ง ไม่ใช่แต่งตอนนี้โดยที่เธอยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำ เธอก็คงโดนพวกคุณหญิงคุณนายหัวเราะเยอะน่ะสิ

“ค่ะคุณแม่…มุกเข้าใจค่ะ…เราไม่จัดงานแต่งงานก็ได้ แต่มุกต้องการจดทะเบียนสมรสกับพี่ปาล์มค่ะ…ไม่อย่างนั้นมุกก็จะไม่เก็บเด็กคนนี้เอาไว้ให้อายชาวบ้านหรอกค่ะ…” มุกดาพูดกัดฟันตอบไปแบบยอมๆ เพราะพูดมาซะขนาดนี้แล้วจะให้เธอโวยวายให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ เธอจึงยืนกรานที่จะจดทะเบียนสมรสกับเขาแทน

ปริมินทร์ก็หันมามองมุกดาทันที เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าพ่อแม่ของเขา ส่วนพ่อแม่ของปรมินทร์เองก็หันมามองหน้ากันทันที เพราะหลานก็สำคัญเรื่องการจดทะเบียนสมรสของทั้งสองก็สำคัญไม่แพ้กัน

“ก็ได้ แต่พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าหนูกับตาปาล์มจะไปกันรอดหรือเปล่า เพื่อป้องกันเอาไว้หนูต้องเซ็นต์สัญญาว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของทางครอบครัวเราหากหย่ากัน แล้วต้องยกเด็กให้เป็นสิทธิ์ของพวกเรา แล้วเราจะมอบเงินให้ก้อนหนึ่งแทน” สิงขรพูดเสนอไปแบบตรงๆ เพราะเรื่องของทั้งสองมันเกิดจากความผิดพลาด หากแต่งงานแล้วอยู่ไม่ยืดขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

มุกดาได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไป ไม่คิดว่าครอบครัวของเขาจะทำถึงขนาดนี้ นี่ถ้าเธอท้องขึ้นมาจริงๆก็เท่ากับว่าเธอโดนครอบครัวนี้เอาเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องเลยน่ะสิ แต่ตอนนี้เธอไม่มีที่ไปแล้ว เธอก็ต้องยึดเอาใบทะเบียนสมรสของปรมินทร์เอาไว้ก่อน จะไม่ได้อะไรก็ชั่งสิ เธอก็ผลาญเงินตอนเธอเป็นเมียเขานี่แหละ เธอไม่ได้โง่สักหน่อย

“ตกลงค่ะ มุกไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองอยู่แล้ว มุกแค่อยากจะมั่นใจว่าพี่ปาล์มจะรับผิดชอบมุกก็เท่านั้นเองค่ะ” มุกดาพูดตอบไปแบบยอมๆ เพราะตอนนี้เธอต้องยอมรับข้อเสนอนี้ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่เหลืออะไรเลย เพราะตอนนี้พี่สาวของเธอก็ตัดขาดเธอไปแล้ว ใครจะมาเลี้ยงดูเธอล่ะ แม่ของเธอก็ยิ่งแล้วใหญ่ ตั้งแต่เกิดเรื่องเธอก็ไม่ได้ไปเจอท่านอีกเลย

ปรมินทร์ได้ยินแบบนั้นก็หนักใจทันที เพราะเขายังไม่อยากจะจดทะเบียนผูกมัดตัวเองกับเธอ แต่เพื่อลูกของเขาที่อยู่ในท้องของเธอ มันก็คงทำให้เขานั้นต้องยอมทำตามสิ่งที่เธอขอ ตอนนี้เธอถือว่าเขาชดใช้กรรมที่ทำกับมารียาไปก็แล้วกัน ไม่รู้ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย

วันต่อมา ณ นครดูไบ

ฮัสลานก็ให้มารียานั้นขนเอกสารกระประชุมมาให้เขาเซ็นต์ ซึ่งเธอก็มีหน้าที่เปิดหน้าเอกสารแล้วส่งให้เขาเซ็นต์ ซึ่งมันมีตั้งเรียงไว้เป็นกองเลย ทำให้มารียานั้นอดทึ่งไม่ได้กับความสามารถของเขาที่ทำงานเยอะมาก มากจนเธอคิดว่าเขาจะได้ใช้ชีวิตท่องเที่ยวแบบคนมีความสุขอย่างคนอื่นเป็นไหม

“คุณฮัสลานคะ คุณทำงานเยอะแบบนี้แล้วคุณได้ไปเที่ยวพักผ่อนบ้างไหมคะ” มารียาเอ่ยถามเขาอย่างอยากรู้

“ทำไม..คุณอยากจะไปเที่ยวกับผมงั้นเหรอ” ฮัสลานเงยหน้าขึ้นมาตอบเธอไปแบบกวนๆ ก่อนจะอมยิ้มออกไปแล้วเขาก็ก้มหน้าอ่านเอกสารแล้วก็เซ็นต์ชื่อไป

“เปล่าค่ะ ฉันแค่เห็นคุณทำงานเยอะน่ะค่ะ ก็เลยสงสัยว่าคุณจะมีเวลาพักผ่อนบ้างไหม ถ้าคุณทำงานทุกวันแบบนี้แล้วฉันจะมีวันหยุดไหมอ่ะคะ” มารียาตอบไปก็เอ่ยถามเขาเพราะที่เธอถามแบบนี้ก็เพราะเธอยังไม่รู้วันหยุดของตัวเองเลยน่ะสิ เธอเห็นเขาทำงานแบบนี้ก็คิดว่าตัวเองจะต้องทำงานจนไม่มีวันหยุดจนกว่าเจ้านายอย่างเขาจะหยุดน่ะสิ

“หึ…ผมก็นึกว่าคุณเป็นห่วงผม ที่แท้ก็ห่วงตัวเองนี่เอง ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ใช้แรงงานคุณเกินไปหรอก ในหนึ่งอาทิตย์คุณจะมีวันหยุดอยู่หนึ่งวันเท่านั้น นั้นก็คือวันอาทิตย์นี้…ส่วนวันเสาร์ผมไม่ได้เข้าบริษัท ผมจะทำงานที่บ้าน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องตามไปหาผมที่บ้าน” ฮัสลานพูดบอกไปเมื่อเขาได้ทีหาเรื่องให้เธอใกล้ชิดกับเขา

“อ่อค่ะ…ได้ค่ะ งั้นวันเสาร์ฉันจะตามไปหาคุณฮัสลานที่บ้านก็แล้วกันนะคะ ว่าแต่บ้านของคุณอยู่แถวไหนเหรอคะ วันก่อนคุณบอกบ้านคุณจาซุสเป็นทางผ่านไปบ้านคุณใช่ไหมคะ งั้นฉันก็คงจะไปถูกเพราะน่าจะไม่ไกลกันมาก…” มารียาพูดตอบไปแล้วก็จำได้ว่าเขาเคยบอกเธอว่าบ้านของเขาไปทางเดียวกันกับจาซุส

ฮัสลานถึงกับสะอึกกับคำถามของเธอทันที เพราะบ้านเขามันไม่ได้อยู่ทางเดียวกันกับบ้านของจาซุสน่ะสิ นี่เธอจะความจำดีอะไรขนาดนั้นกันเนี่ย แม่งเอ้ย ถ้าเธอรู้ว่าเขาโกหกล่ะก็ เธอต้องรู้ทันเขาแน่

“บ้านที่ผมหมายถึงคืออีกหลังหนึ่งต่างหาก บ้านที่ผมใช้ทำงานน่ะไม่ใช่หลังนั้น ไว้เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถไปรับคุณก็แล้วกัน ตอนนี้คุณย้ายเข้าไปอยู่ที่พักของบริษัทแล้วใช่ไหม…ชอบหรือเปล่า” ฮัสลานพูดตอบไปแบบเนียนๆอย่างโกหก ก่อนจะตีเนียนชวนเธอเปลี่ยนเรื่องไป

“อ่อค่ะ ชอบมากค่ะ สะดวกสบายแล้วก็กว้างขวางเอามากค่ะ” มารียาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มออกมา เพราะห้องที่บริษัทให้พักน่ะอย่างกับคอนโดหรูๆในกรุงเทพเลย

“ดีแล้วล่ะ ผมหวังว่าคุณจะทำงานกับผมไปนานๆนะ ส่วนเสาร์นี้เดี๋ยวผมจะส่งคนไปรับคุณมาทำงานตอนแปดโมงครึ่ง เตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน” ฮัสลานพูดบอกไป แล้วแอบคิดในใจว่าเขาจะพาเธอไปที่บ้านหรือว่าที่เพ้นท์เฮ้าท์ของเขาดี ถ้าที่บ้านก็ต้องเจอแม่ของเขา งั้นเขาให้เธอไปที่เพ้นท์เฮ้าท์ของเขาเลยจะดีกว่า จะได้หลบหูหลบตาแม่ของเขาด้วย เพราะถ้าแม่ของเขารู้ว่าเขารับผู้ช่วยผู้หญิงล่ะก็ คงยุ่งวุ่นวายด้วยแน่ๆ

“ได้ค่ะ…แล้วจะให้ฉันเตรียมอาหารเช้าให้ไหมคะ” มารียาตอบไปก็พยักหน้าตอบเขาไป เพราะเขาเป็นเจ้านายของเธอนิ เขาให้ไปทำงานที่ไหนเธอก็ต้องตามไปนั่นแหละ

“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจะให้คุณทำให้ผมทานที่นั่นเลย” ฮัสลานพูดบอกไป ทั้งที่ความจริงเขาหยุดงานเสาร์และอาทิตย์ แต่ด้วยความที่เขาอยากจะใกล้ชิดกับเธอเลยหาเรื่องงานมาอ้างแล้วใช้เวลาอยู่กับเธอสักหน่อย

“ห้ะ อะไรนะคะ ให้ฉันทำอาหารที่นั่นเลยเหรอคะ” มารียาพูดออกไปด้วยสีหน้าตกใจ เพราะอาหารที่เธอเอามาให้เขาทานน่ะไม่ใช่ฝีมือของเธอเลย เมื่อเช้าเธอก็ไปซื้อจากร้านอาหารมาให้เขา ถ้าเขาให้เธอทำให้ทานเขาก็รู้สิว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำน่ะ เพราะรสชาติอาหารที่เธอทำน่ะมันโคตรจะห่วยเลย

“ทำไม มีปัญหาอะไรเหรอ คุณก็ทำให้ผมทานอยู่แล้วนิ แค่เปลี่ยนที่มันคงไม่เป็นอะไรมั้ง” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็มองเธอแบบจดจ้อง

“อ่อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ…” มารียาได้แต่ทำหน้ายิ้มออกไป แล้วนึกเอาตัวรอดในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ทันทีเลยว่าเธอจะทำยังไงกับการที่ต้องไปทำอาหารให้เขาทานดี

ด้านอามูนีที่ร้อนใจอยากจะเห็นมารียานั้นก็เดินทางมาหาลูกชายของเธอถึงบริษัทเลยทีเดียว เพียงเพื่อเธอจะได้เห็นหน้าตาของเด็กสาว

“นายหญิงแน่ใจเหรอคะว่าจะไปเจอผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ดิฉันว่านายหญิงจะทำให้ไก่ตื่นมากกว่านะคะ” ไอช่าที่เดินตามนายหญิงเข้ามาในบริษัทเอ่ยพูดออกไปอย่างอดไม่ได้ เมื่อนายหญิงของเธอดันอยากจะเจอผู้ช่วยสาวคนนั้นแล้ว

“ฉันระดับไหนแล้วไอช่า อย่างฉันน่ะไม่ปล่อยไก่แน่นอน ฉันก็แค่อยากจะเห็นผู้หญิงคนนี้ตัวเป็นๆก็เท่านั้น เธอคิดดูสิ ฉันเอาผู้หญิงมาให้ฮัสลานเลือกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ลูกชายฉันก็ไม่สนใจใครเลย ฉันก็อยากจะรู้น่ะสิว่าผู้หญิงคนนี้น่ะมีอะไรดี ลูกชายฉันถึงได้ชอบน่ะ” อามูนีพูดบอกไปแล้วก็เดินเข้าไปที่ลิฟต์ทันที

“แต่คุณฮัสลานจะโอเคเหรอคะนายหญิง…” ไอช่าเอ่ยถามออกไปแล้วมองนายหญิงของเธอผ่านกระจกในลิฟต์ไป

“ก็ฉันมาแล้วจะโอเคไม่โอเคแล้วยังไงล่ะ ลูกชายฉันเคยหือกับฉันได้งั้นเหรอ” อามูนีพูดออกไปแล้วก็ทำหน้ายิ้มออกมาแบบร้ายๆ เพราะยังไงฮัสลานก็ไม่ว่าอะไรเธอหรอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel