บทที่ 15 แม่สื่อแม่ชัก
พอลิฟต์เปิดออกอามูนีก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของลูกชายทันที ทำให้อาลีที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องนั้นถึงกับตกใจเลยทีเดียวที่นายหญิงโผล่มาแบบนี้
“นายหญิง มาได้ยังไงครับ” อาลีเอ่ยถามออกไปแล้วก็รีบลุกขึ้นไปหานายหญิงและแม่ของเขาที่เดินตามนายหญิงมา
“ฉันก็จะมาดูหน้าของผู้ช่วยเลขาของลูกชายฉันน่ะสิ ไหน เด็กคนนั้นอยู่ไหน ทำไมไม่มานั่งทำงานอยู่กับนายหึอาลี” อามูนีเอ่ยถามออกไปแล้วมองโต๊ะทำงานข้างๆอาลีอย่างอยากรู้
“ตอนนี้มีนเขาเอาเอกสารไปให้เจ้านายเซ็นต์ในห้องครับนายหญิง อ่อ นายหญิงอย่าพูดอะไรกับมีนเขาเลยนะครับ ไม่งั้นเจ้านายเล่นงานผมแน่ๆ” อาลีพูดบอกไปเพราะกลัวว่านายหญิงของเขาจะมาพูดอะไรใส่มารียาทำให้เสียเรื่องอีก
“หน้าฉันดูโง่มากหรือไงหึ ฉันไม่ทำให้เสียเรื่องหรอกน่า ฉันแค่จะมาดูหน้าของเด็กคนนี้ก็เท่านั้น นายกับไอช่ารออยู่ข้างนอกนี่แหละ ฉันจะเข้าไปเอง ไอช่า เอาของมา” อามูนีพูดบอกไป ก่อนจะบอกให้ไอช่าเอาของที่เธอเตรียมมาเป็นข้ออ้างมาให้เธอทันที
“นี่ค่ะนายหญิง” ไอช่าพูดไปก็เอากระตร้าของกินให้กับอามูนีไปทันที จากนั้นอามูนีก็เดินเข้าไปในห้องโดยอาลีนั้นรีบไปเปิดประตูให้แทบไม่ทันเลย
“ฮัสลานลูกรักของแม่…” เสียงของอามูนีพูดออกไปแล้วเดินเข้าไปหาลูกชายของเธอที่ตอนนี้กำลังนั่งกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่เธอนั่งหันหลังทำให้เธอนั้นยังไม่เห็นหน้า
ฮัสลานก็เงยหน้าขึ้นมามองแม่ของเขาแบบตกใจที่ท่านมาหาเขาถึงที่นี่ ส่วนมารียาก็หันไปมองตามเสียงที่ร้องเรียกชื่อฮัสลาน ส่วนประโยคหลังเธอก็ฟังไม่เข้าใจแล้วเพราะเป็นภาษาอาหรับ แล้วเธอก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม แถมยังสวยมากๆเลยด้วย
“แม่มาทำไมครับ…” ฮัสลานเอ่ยถามแม่ของเขาออกไปเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้มารียารู้ว่านี่คือแม่ของเขา แล้วเขาก็ลุกจากโต๊ะทำงานแล้วเดินเข้าไปหาแม่ของเขาทันที ทำให้มารียานั้นมองแบบสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน
“ก็แม่เอาของโปรดลูกมาให้น่ะสิ แล้วแม่ก็จะมาบอกลูกด้วยว่าวันเสาร์นี้ที่บ้านเราจะจัดงานเลี้ยงน่ะ ให้ลูกกลับไปที่บ้านด้วย ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้ใครกัน” อามูนีเห็นลูกชายตอบเธอเป็นภาษาอังกฤษก็ทำหน้างงออกมา แต่พอเห็นหญิงสาวที่เป็นคนต่างชาติก็เข้าใจ เธอจึงพูดภาษาอังกฤษตอบไปแบบรับมุกของลูกชายทันที
“อ่อ นี่มารียาเขาเป็นผู้ช่วยเลขาของผมน่ะครับแม่…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะดูท่าแม่ของเขาจะรู้ว่าเขารับผู้ช่วยเลขามาแน่ๆ ถึงได้มาหาเขาถึงที่บริษัทแบบนี้
“สวัสดีค่ะ…” มารียายกมือไหว้แบบไทยๆไปแล้วก็ก้มหน้าให้เป็นการเคารพหญิงสาวตรงหน้า แล้วเธอก็ยิ้มอ่อนๆออกมา
“ผู้ช่วยเลขาของลูกงั้นเหรอ หน้าตาสวยใช้ได้เลยนิ…รูปร่างก็ดูดีมากเลย ถามตรงๆนะหนู หนูไม่ใช่เด็กของลูกชายฉันใช่ไหม” อามูนีแกล้งถามลองเชิงออกไปด้วยสีหน้ายิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“แม่ครับ เขาไม่ใช่เด็กของผม…เขาเป็นแค่ผู้ช่วยเลขาครับ แม่เอาของมาให้ผมไม่ใช่เหรอครับ” ฮัสลานพูดตอบไปแบบปฎิเสธทันที ก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่องไม่อย่างนั้นแม่ของเขาปล่อยโป๊ะแล้วเขาอดได้เธอแน่ เขาต้องรีบพาตัวแม่ของเขาออกไปเดี๋ยวนี้เลย
“เดี๋ยวสิฮัสลาน แม่ถามเขาไม่ได้ถามเราสักหน่อย แล้วไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ แม่อยากจะรู้จักผู้ช่วยเลขาของลูก อ่ะหนู ตอบฉันมาสิ” อามูนีพูดใส่ลูกชายไปก็หันมาถามหญิงสาวตรงหน้าอย่างจดจ้อง
“มะ ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่ได้เป็นเด็กของคุณฮัสลานเขาค่ะ หนูมาทำงานแบบสุจริตไม่ได้มีเรื่องเชิงชู้สาวค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะไม่ต้องการให้แม่ของเขาเข้าใจผิด
“อ่อ ฉันก็นึกว่าหนูจะเป็นเด็กที่ลูกชายฉันเอามาเลี้ยงไว้ใกล้ตัวซะอีก ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป แต่หนูไม่สนใจลูกชายฉันบ้างเหรอ ตอนนี้ลูกชายฉันรับสมัครผู้หญิงมาเป็นแม่ของลูกนะ หนูสนใจไหมล่ะ เปลี่ยนจากผู้ช่วยเลขามาเป็นแม่ของหลานฉัน สนใจไหมจ้ะ” อามูนีแกล้งพูดถามออกไปแบบมีชั้นเชิง พราะเธออยากจะรู้ว่าเธอเด็กสาวจะตอบยังไง เธอจะได้ช่วยลูกชายของเธอให้สมหวังได้สำเร็จ
“แม่ครับ แม่ไปถามเขาแบบนั้นทำไมครับ…ผมว่าแม่รีบกลับบ้านไปดีกว่าครับ อย่ามาก่อกวนผมทำงานกันเลยนะครับ ผมขอร้อง” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วเข้าไปกอดผู้เป็นแม่เพื่อจะพาตัวแม่ของเขาออกไปทันที เพราะเล่นถามเธอแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอกดดันน่ะสิ
“ปล่อยแม่เดี๋ยวนี้นะฮัสลาน แม่แค่ถามเขาเผื่อแม่หนูคนนี้เขาจะสนใจก็เท่านั้น เพราะขืนรอให้เราหามาน่ะ จะอีกกี่ร้อยกี่ชาติก็ไม่รู้ ปล่อยแม่…แม่จะฟังคำตอบของแม่หนูคนนี้” อามูนีพูดออกไปด้วยเสียงเข้ม ทำให้ฮัสลานนั้นยอมปล่อยแม่ของตัวเองแต่โดยดี ก่อนจะเอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจกับความจุ้นจ้านของแม่ตัวเอง
“อ่อ คือหนูทำงานผู้ช่วยเลขาก็ดีแล้วล่ะค่ะ เรื่องแม่ของลูกคุณฮัสลานก็ให้คนอื่นที่เขาสนใจดีกว่าค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเกร็งๆ เพราะแม่ของฮัสลานนั้นดูจะเอาคำตอบจากเธอให้ได้เลย
“เฮ้อ…น่าเสียดายจริงๆเลย แล้วหนูทำงานกับลูกชายฉันใกล้ชิดกันแบบนี้ไม่คิดจะชอบลูกชายฉันบ้างเหรอ ฮัสลานกำลังโสดอยู่นะ ถ้าหนูจะชอบเขาฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ” อามูนีพูดเปิดทางให้ลูกชายของเธอแบบสุดๆ ในเมื่อลูกไม่กล้า แม่ก็จัดการเอง
ฮัสลานได้ยินแบบนั้นก็เอามือตีหน้าผากตัวเองอย่างอดไม่ได้ เมื่อแม่ของเขาเล่นพูดชงเขาให้เธออย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น ตายๆ ที่เขาพยายามหว่านล้อมเธอมาตลอดนั้นพังเพราะแม่ของเขาแล้ว
“อ่อค่ะ…หนูทราบค่ะ แต่ว่าหนูไม่ได้สนใจคุณฮัสลานในเชิงชู้สาวแบบนั้น เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องก็ดีแล้วค่ะ” มารียาพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มแห้งๆออกไปอย่างเกร็งๆ
ฮัสลานได้ยินแบบนั้นก็แอบจุกกับคำพูดของเธอ แม่นะแม่จะมาถามให้เขาช้ำใจทำไมเนี่ย ทำให้เขาหันหน้าไปมองหน้าของแม่เขาด้วยสีหน้ามึนตึงทันที แต่แม่ของเขาก็ยังมาขยิบตาใส่เขาอีก ให้ตายเถอะ เขาจะทำยังไงกับแม่เขาดีเนี่ย
“ถ้าเธอคิดแบบนั้นได้ก็ดี ฉันก็แค่ถามลองใจเธอไปงั้นๆแหละ เพราะลูกชายฉันน่ะเขาไม่เคยรับผู้ช่วยเลขามาก่อน ฉันก็กลัวว่าจะมีนอกมีนับอะไรกัน ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร…” เดี๋ยวฉันจะช่วยให้มีเอง หึๆ อามูนีพูดต่อในใจแล้วก็ยิ้มออกมาแบบเจ้าเล่ห์ เพราะเธอชักจะชอบผู้หญิงคนนี้ซะแล้วสิ
“ทีนี้แม่กลับไปได้หรือยังครับ แค่นี้แม่ก็ทำให้ผู้ช่วยเลขาของผมเขาเกร็งจนไม่รู้จะเกร็งยังไงแล้วนะครับ” ฮัสลานพูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง จนมารียามองก็ยิ้มใส่เขา เพราะเขาก็เป็นเจ้านายที่ดีนะถึงแม้จะกวนประสาทหน่อยๆก็เถอะ
“ยัง…เพราะที่แม่มาวันนี้ไม่ใช่แค่จะเอาของมาให้ลูกหรอก แม่จะมาบอกลูกว่าวันอาทิตย์นี้ที่บ้านเราจะจัดงานเลี้ยง ให้ลูกกลับบ้านด้วย ส่วนหนูน่ะ ฉันถูกชะตากับหนูเป็นพิเศษ ฉันเชิญหนูไปงานเลี้ยงที่บ้านของฉันด้วยนะ หนูต้องไปนะฉันจะรอ” อามูนีพูดบอกไปแล้วก็หันไปหามารียาทันที เพราะเธอจงใจมาชวนเด็กคนนี้ด้วยตัวเธอเองเลย เด็กคนนี้จะได้ไม่ปฎิเสธ
ฮัสลานได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้มออกมาทันที วันนี้แม่ของเขาทำดีอยู่เรื่องเดียวก็เรื่องชวนเธอไปงานเลี้ยงที่บ้านนี่แหละ ให้มันได้อย่างนี้สิครับแม่ ถูกใจลูกชายคนนี้จริงๆ
“ได้ค่ะ ถ้านายหญิงเชิญขนาดนี้แล้ว หนูไปแน่นอนค่ะ…” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแม่ของฮัสลานเชิญเธอด้วยตัวเองแบบนี้ เธอจะปฎิเสธลงได้ยังไงล่ะ
“แต่’ตัวสวยๆเซ็กซี่ๆไปได้เลยนะหนู ที่บ้านของฉันเราไม่ถือเรื่องการแต่งตัว เราจัดกันแบบส่วนตัวน่ะจะใส่อะไรไปก็ใส่เลยจ้ะ เอาให้สวยที่สุดเลยนะ” อามูนีพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มก่อนจะเข้าไปจับแขนของเด็กสาวแล้วยิ้มใส่อย่างเอ็นดู ยิ่งดูใกล้ๆก็ยิ้มสวย แถมยิ้มยังมีเสน่ห์อีก ไม่แปลกใจเลยทำไมลูกชายของเธอถึงชอบน่ะ
“ค่ะ…หนูจะพยายามนะคะ ” มารียาพูดตอบไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอจะสวยยังไงล่ะในเมื่อเธอน่ะหุ่นอวบอัดแน่นไปทั้งตัวแบบนี้ เธอไม่ได้ผอมเพรียวสักหน่อย
“แค่พยายามไม่ได้ เฮ้อ ฉันไม่ไว้ใจเลย ไหนๆวันนี้ฉันก็ว่างแล้ว หนูช่วยไปเดินช็อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ หนูวัยรุ่นอยู่คงช่วยฉันเลือกเสื้อผ้าสวยๆใส่วันมะรืนนี้ได้ ฉันจะได้ซื้อชุดสวยๆให้หนูด้วย” อามูนีพูดบอกไปแบบเพราะรู้ว่ายังไงลูกชายของเธอคงไม่ยอมแน่ๆ
“แต่มารียาเขาทำงานอยู่นะครับแม่ แม่จะมาพาพนักงานของผมไปเวลาทำงานได้ยังไงครับ คนอื่นเขารู้เขาก็จะมองไม่ดีสิครับ…อย่าทำให้ผมเสียการปกครองสิครับแม่” ฮัสลานพูดบอกแม่ของเขาไปแบบไม่ยอมให้แม่ของเขาพาเธอไป
“ใช่ค่ะนายหญิง หนูก็คิดเหมือนคุณฮัสลานเขานะคะ ส่วนเรื่องชุดของหนูเดี๋ยวหนูจัดการเองค่ะ ขอบคุณที่นายหญิงเอ็นดูหนูนะคะ..” มารียาพูดบอกไปแบบปฎิเสธเช่นกัน เพราะถ้าแม่ของเขาซื้อชุดให้เธอเธอก็จะยิ่งเกร็งใจเข้าไปอีกน่ะสิ
“ไม่ได้ ฉันเป็นคนเชิญหนูไปงานที่บ้านนะ กะทันหันแบบนี้หนูจะไปหาชุดที่ไหนทันล่ะ เอาอย่างนี้ละกัน เย็นนี้เลิกงานแล้วก็ให้ฮัสลานพาหนูไปเลือกชุดก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นหนูก็ต้องไปกับฉันตอนนี้ เวลางานนี่แหละ” อามูนีพูดออกไปแล้วยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะแลไปหาลูกชายแล้วขยิบตาใส่ไป
ทำให้ฮัสลานนั้นมองแม่ของเขาแล้วยิ้มออกมา เพราะดูท่าแม่ของเขาจะไม่ได้มาป่วนแล้วล่ะ แต่ท่านมาช่วยเขาต่างหาก สงสัยจะกลัวไม่ได้หลานแน่ๆ ถึงลงทุนเล่นละครตบตาซะขนาดนี้น่ะ สุดยอดเลยแม่เขาเนี่ย
“แม่ถามผมหรือยังครับว่าผมน่ะว่างไหม…ผมก็มีธุระที่ต้องไปทำต่อนะครับ” ฮัสลานแกล้งเล่นตัวไปแบบไม่ยอม เพราะถ้าเขายอมก็ดูจะเป็นใจเกินไป
“อย่างเราจะมีอะไรหึ แม่สั่งให้ไปก็ไปเถอะน่า…”อามูนีพูดบอกไปแล้วมองลูกชายแบบค้อนๆ เธออุตส์มาเป็นแม่สื่อให้แล้วยังจะมาเล่นตัวอยู่อีก
“โอเคครับ งั้นผมพาเขาไปซื้อก็ได้ พอใจหรือยังครับ” ฮัสลานพูดตอบแม่ของเขาไปด้วยสีหน้าเหมือนจะไม่เต็มใจ ทำให้มารียานั้นมองแล้วก็รู้สึกเกรงใจเข้าไปใหญ่
“อืม…อย่าลืมล่ะ แล้วเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะโทรหาเรา ถ้าเราไม่ไปส่งหนูมารียาเขาซื้อชุดสวยๆล่ะก็ แม่จัดการเราแน่… งั้นฉันกลับก่อนนะหนู ไว้เจอกันที่งานเลี้ยงที่บ้านของฉันนะ แล้วฉันจะรอเจอหนูนะ” อามูนีพูดบอกลุกชายไปด้วยเสียงเข้ม ก่อนจะหันมาพูดกับมารียาด้วยเสียงอ่อนหวาน
“ค่ะนายหญิง…ขอบคุณนะคะ” มารียาพูดบอกไปก็ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม ทำให้อามูนีนั้นยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กสาว
“จ้ะ…งั้นฉันไปนะ” อามูนีพูดบอกไปก็ยิ้มให้ ก่อนจะแลไปมองลูกชายแล้วยักคิ้วให้แบบเจ้าเล่ห์ แล้วฮัสลานก็ยิ้มแล้วยักคิ้วตอบกลับมาแบบรู้กัน จากนั้นอามูนีก็เดินออกไปจากห้องทำงานของลูกชายทันที
“มัวแต่มองอยู่นั่นแหละ กลับมาทำงานต่อได้แล้วคุณ…แล้วเลิกงานเย็นนี้เดี๋ยวผมจะพาคุณ”ปซื้อชุดตามที่แม่ผมบอก” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็เดินหลังกลับไปที่โต๊ะของเขาทันที ก่อนจะอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“ที่จริงคุณฮัสลานไม่ต้องไปก็ได้นะคะ ฉันพอจะมีชุดของตัวเองอยู่ค่ะ” มารียาพูดบอกไปเพราะเธอเกรงใจเขาที่ต้องไปส่งเธอทั้งๆที่เขาก็เป็นเจ้านายของเธอ
“คุณไม่ได้ยินที่แม่ของผมบอกหรือไงหึ ว่าท่านจะโทรมาหาผมน่ะ เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องปฎิเสธอะไรแล้ว ผมจะพาไปซื้อเอง…” ฮัสลานพูดบอกไปด้วยเสียงเข้ม แล้วเขาก็ก้มหน้าแก้งอ่านเอกสารต่อไป เพราะไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะแย้งไม่หยุดแน่ ดีนะที่แม่ของเขาบอกว่าจะโทรหา เขาถึงได้มีข้ออ้างมาใช้กับเธอน่ะ
“ค่ะ…” มารียาตอบไปแบบจำใจ ดูท่าว่างานนี้เธอจะปฎิเสธไม่ได้แล้ว เพราะแม่ของเขาจะโทรมาเช็คซะขนาดนี้ เธอก็คงต้องรับน้ำใจครั้งนี้เอาไว้แล้วล่ะ
ด้านอามูนีพอออกไปด้านนอกแล้วก็ทำให้ไอช่าและอาลีที่นั่งอยู่รีบลุกขึ้นมาหาทันที เพราะอามูนีเล่นหายเข้าไปในห้องตั้งนาน ก็ไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นยังไงบ้าง
“เป็นยังไงบ้างคะนายหญิง” ไอช่าเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
“เป็นยังไงล่ะ ฉันก็ตีบทแตกเลยน่ะสิ หึๆ ฉันถูกใจเด็กคนนี้มากเลยไอช่า ช่างพูดช่างจา กล้าตอบแบบตรงๆไม่กลัวใคร แถมหน้าตาก็สวย มารยาทก็ดี แต่ติดที่เขาไม่สนใจลูกชายฉันเลยน่ะสิ เฮ้อ…ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนที่ไม่สนใจลูกชายของฉันอยู่ ฉันก็เลยเป็นแม่สื่อช่วยลูกชายซื่อบื้อของฉันซะเลย...ดูสิว่าฉันช่วยเป็นสะพานให้แบบนี้แล้ว ตาฮัสลานจะยังเฉยอยู่อีกไหม” อามูนีพูดบอกไปแล้วก็ทำหน้ายิ้มออกมาแบบเจ้าเล่ห์
“ยังไงคะนายหญิง ดิฉันไม่เข้าใจเลย” ไอช่าทำหน้างงเพราะไม่รู้ว่านายหญิงทำอะไรกับการเป้นแม่สื่อให้กับนายน้อยกับผู้หญิงคนนี้
“เฮ้อ…ฉันขี้เกียจจะเล่าแล้ว เรากลับบ้านไปเตรียมตัวเรื่องงานเลี้ยงวันอาทิตย์นี้ดีกว่า ว่าฉันจะทำยังไงดีถึงจะให้เด็กคนนี้ตกลงปลงใจกับลูกชายฉันน่ะ ไปกลับกันดีกว่า…อ่อ ส่วนอาลี เย็นนี้ถ้าฮัสลานพามารียาไปซื้อของ ให้นายถ่ายรูปรายงานฉันด้วยนะ” อามูนีพูดบอกไปเพราะเธออยากจะรู้เรื่องราวของทั้งสองแบบกระชั้นชิด
“ครับนายหญิง” อาลีพูดตอบไปก็ก้มหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี จากนั้นอามูนีก็เดินออกไปแล้วก็ตามด้วยไอช่าที่รีบเดินตามออกไปติดๆ ทำให้อาลีนั้นเงยหน้าขึ้นมามองตามนายหญิงไป
“นายหญิงออกโรงเองแบบนี้ ไม่รอดแน่ๆ…” อาลีพูดบอกไปแล้วก็ส่ายหน้าไปมาทันที เพราะดูท่างานนี้เจ้านายของเขาจะมีตัวช่วยเด็ดซะแล้ว
จากนั้นมารียาก็ขนเอกสารที่ฮัสลานเซ็นต์นั้นออกมา แล้วก็เอาไปแจกจ่ายให้กับหัวหน้าแผนกต่างๆตามที่อาลีสั่ง พอเธอกลับขึ้นก็มานั่งพักที่เก้าอี้ทำงานอย่างเหนื่อยๆ เพราะเธอเล่นไปส่งเอกสารไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น ไม่รู้ว่าบริษัทของเขามันจะใหญ่โตไปไหน
“นี่เธอ…อาลีไปไหน…เธอมานั่งทำอะไรตรงนี้” เซดาหนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทที่พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเอ่ยถามออกไป เพราะปกติจะมีแค่อาลีเท่านั้นที่นั่งอยู่ตรงนี้ แต่อยู่ๆกลับมีผู้หญิงมานั่งเสนอหน้าอยู่ที่นี่แล้วเธอก็แปลกใจน่ะสิ
“อ่อ ดิฉันเป็นผู้ช่วยเลขาของคุณอาลีค่ะ ตอนนี้คุณอาลีน่าจะไปเข้าห้องน้ำมั้งคะ พอดีเมื่อกี้ฉันเดินไปส่งเอกสารมาน่ะค่ะ บอกชื่อและเบอร์ไว้ก่อนไหมคะ เดี๋ยวถ้าคุณอาลีมาฉันจะให้เขาโทรกลับไปหา” มารียาพูดบอกไปตามหน้าที่ของเธอ
“ผู้ช่วยเลยขางั้นเหรอ นี่ฉันไปอเมริกาแค่สองอาทิตย์ อาลีก็มีผู้ช่วยโผล่มากแล้วเหรอเนี่ย…หึ ฉันไม่ได้มาพบอาลี แต่ฉันจะมาพบฮัสลาน และเธอช่วยจำชื่อและตำแหน่งของฉันเอาไว้ด้วยนะ ทีหลังฉันมาเธอจะได้ไม่ต้องถามคำถามโง่ๆกับฉันอีก” เซดาพูดบอกไปแล้วเอามือกอดหน้าอกพูดออกไปด้วยสีหน้าแสยะยิ้มออกมา
มารียาได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันแล้วถอนหายใจออกมาอย่างอดทน ก่อนจะฝืนยิ้มออกไปแล้วเอ่ยถามเธอว่าเธอเป็นใครมาจากไหนทันที เพราะกร่างแบบนี้ก็คงจะมีตำแหน่งใหญ่ในบริษัทนี้ไม่น้อยเลย เธอก็ไม่ควรจะมีปัญหาด้วย
“แล้วคุณชื่ออะไรล่ะคะ ต่อไปฉันจะได้จำเอาไว้” มารียาพูดถามไปแล้วกัดฟันยิ้มให้ไปแบบจำยอม
“ฉันชื่อเซดา เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของที่นี่ และก็เป็นคนสนิทของพี่ฮัสลานเขาด้วย ต่อไปถ้าฉันมาที่นี่ หวังว่าเธอจะไม่คิดว่าฉันมาพบอาลีหรอกนะ” เซดาพูดออกไปแล้วมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสีหน้าจดจ้อง เพราะการที่มีผู้หญิงมาใกล้ตัวฮัสลานแบบนี้มันทำให้เธอไม่ชอบใจเท่าไหร่
“ค่ะคุณเซดา งั้นคุณจะพบคุณฮัสลานตอนนี้เลยไหมคะ ฉันจะได้บอกให้คุณฮัสลานทราบ หรือว่าไม่ต้อง ในเมื่อคุณก็สนิทกับคุณฮัสลานนิคะ จะเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้…” มารียาเอ่ยถามออกไป ทั้งๆที่กฎของฮัสลานก็มีไว้ชัดเจนแล้วว่าถ้าจะเข้าพบเขาต้องขออนุญาติก่อนเท่านั้น ซึ่งเธอก็ไม่เคยเห็นใครฝ่าฝืนกฎนี้มาก่อนเลย เธอเลยลองเชิงดูว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าไหม
“ถึงฉันจะสนิทกับพี่ฮัสลานแค่ไหน แต่ฉันก็อยู่ในกฎระเบียบของบริษัท ดังนั้นเธอก็ทำหน้าที่ของเธอไป บอกเขาไปว่าฉันมาพบก็พอ…” เซดาได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันทันที เพราะแม่ผู้ช่วยนี่ชักจะต่อปากต่อคำกับเธอเกินไปแล้ว เธอไม่โง่ขุดหลุมฝังตัวเองหรอก ถ้าเขาไปโดนไม่บอกเธอก็โดนฮัสลานดุใส่อีกน่ะสิ ดังนั้นเธอจึงพูดออกไปแบบเนียนๆอย่างนั้นไม่ให้เสียหน้า
“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ…” มารียาพูดบอกไปก็กดโทรศัพท์โทรหาฮัสลานที่อยู่ด้านในห้องทันที
ส่วนเซดาก็ยืนกอดหน้าอกรอพร้อมกับมองแม่เลขานี่แบบพิจารณา เพราะหน้าตาของแม่เลขานี่ก็สวยไม่น้อยเลย แม่นี่จะมาอ่อยฮัสลานของเธอไหมนะ แต่อวบอ้วนแบบนี้พี่ฮัสลานคงไม่สนใจหรอก