บทย่อ
“อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
บทที่ 1 บทนำ
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างอันอวบอัดของ “มีน มารียา เวทติวัตร” กำลังย่างกายออกมาจากอาคารผู้โดยสารในประเทศพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หลังจากที่เธอไปทำงานเป็นไกด์ที่ภาคใต้เกือบสองเดือน เพราะทางลูกค้าลงไปดูงานที่นั่นจนเธอนั้นปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย จนกระทั่งเสร็จภารกิจนี้เธอถึงได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพตามปกติ
“มีน…จะกลับยังไง….ให้พี่ไปส่งไหม เดี๋ยวสามีของพี่มารับ” ลูกปลารุ่นพี่ที่ไปทำงานด้วยกันเอ่ยถามมารียาอย่างมีน้ำใจ เพราะเด็กสาวนิสัยก็ค่อนข้างจะน่ารักเลยทีเดียว
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลูกปลา พอดีแฟนของมีนบอกว่าจะมารับน่ะค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแฟนหนุ่มของเธอได้อาสามารับเธอในวันนี้แล้ว
“หูย…คุณปรมินทร์นี่น่ารักกับเราตลอดเลย…คอยรับคอยส่งแบบนี้สงสัยอีกไม่นานมีนคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้งเนี่ย…” ลูกปลาเอ่ยแซวออกไป เพราะแฟนของมารียานั้นเป็นลูกค้าของบริษัทที่พวกเธอเคยทำงานให้ จนทำให้เขาเจอกับมารียาและสานสัมพันธ์กันมาจนถึงตอนนี้
“ไม่มีหรอกค่ะพี่…อย่าแซวมีนเลยค่ะ เรื่องข่าวดีของมีนกับพี่ปาล์มคงอีกนานเลยล่ะค่ะ เราพึ่งคบกันได้ปีเดียวเองค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะเธอกับปรมินทร์กำลังคบกันได้แค่ปีเดียวเอง และเธอกับเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างทำงาน จะเอาข่าวดีที่ไหนมาล่ะ
“อืม…จะกี่ปีถ้าคนมันใช่ จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องได้แต่งงานแหละ ดูอย่างพี่สิ คบกับสามีแค่หกเดือนเองพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว พวกพี่ยังรักกันมาได้เป็นสิบๆปีเลย” ลูกปลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มออกไป
“ที่รัก…ผมอยู่ทางนี้….” เสียงของนพคุณสามีของลูกปลาเอ่ยเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สามีพี่มารับแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะมีน ไว้เจอกันที่ทำงานนะ บ้ายบาย” ลูกปลาพูดบอกไปก็ยิ้มให้มารียาไปอย่างอบอุ่น ก่อนจะรีบเข็นรถเข็นกระเป๋าไปยังรถของสามีที่จอดอยู่มุมด้านหน้านั้นทันที
“เฮ้อ….แล้วนี่พี่ปาล์มอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาอีกนะ เมื่อวานเราก็บอกแล้วนิว่าเราจะถึงกี่โมง…”มารียาพูดบ่นไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาแฟนหนุ่มทันที แต่เขาก็ไม่รับสายของเธอเลย ทำให้เธอนั้นโทรซ้ำๆอยู่หลายรอบทีเดียว
“ทำอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมไม่รับสายเลยเนี่ย…ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันหน่อย พี่ปาล์มนะพี่ปาล์ม เจอตัวแล้วต้องบ่นหน่อยแล้ว ” มารียาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้
เพราะปรมินทร์มักจะมีงานรัดตัวแบบนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเข็นรถออกไปทางแท็กซี่ที่พึ่งส่งผู้โดยสารลงไปก่อนหน้านี้ทันที เพราะโทรไปไม่รับแบบนี้เธอก็ไม่ควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไป
“พี่คะ ไปคอนโดเทอมินาร์ดหนึ่งเก้าที่สุขุมวิทค่ะพี่” มารียาพูดบอกไปเพราะนั่นเป็นคอนโดที่เธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ และก็มีมุกดาน้องสาวต่างแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยอีกคนเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่น้องสาวเรียนอยู่
“ได้ครับ เชิญคุณขึ้นรถเลยครับ เดี๋ยวผมยกกระเป๋าให้เองครับ…” คนขับแท็กซี่บอกไปก็เข้าไปเข็นรถกระเป๋าไปไว้ใกล้ๆท้ายรถ แล้วเขาก็รีบขนกระเป๋าของลูกค้าใส่ท้ายรถทันที
ส่วนมารียาก็เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่ดันมีกระเป๋าสะพายเล็กๆวางอยู่ที่เบาะ
“พี่คะ นี่กระเป๋าของผู้โดยสารที่พึ่งลงไปหรือเปล่าคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแล้วหยิบกระเป๋านั้นขึ้นมาให้พี่คนขับแท็กซี่ดู
“อ่อ ใช่แล้วครับ…ของฝรั่งแขกสองคนนั้นแน่ๆเลย เขาพึ่งลงไปเมื่อกี้เลยครับ นั่นไงครับ ที่ใส่เสื้อสีขาวกับสีดำที่เดินเข้าไปตรงนั้นไงครับ…” หนุ่มแท็กซี่พูดออกไปแล้วหันไปมองหาผู้โดยสารที่พึ่งลงจากรถของเขาไปเมื่อกี้แล้วรีบชี้ให้หญิงสาวดูทันที
“งั้นพี่รอตรงนี้แปปนึงนะคะ เดี๋ยวหนูจะเอากระเป๋านี่ตามไปให้เขาแปปนึง…” มารียาหันไปมองตามแล้วก็เจอเจ้าของกระเป๋าแล้ว เธอจึงรีบเอ่ยบอกไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนจะถือกระเป๋าสะพายเล็กนี่ตรงไปหาผู้ชายสองคนนั้นอย่างเร่งรีบ
“คุณคะ…คุณคะ โอ๊ย…” มารียาเข้าไปเรียกผู้ชายที่ใส่เสื้อสีขาวแล้วทำท่าจะเอามือแตะที่แขนของเขา แต่เขากลับหันมาแล้วเอามือจับแขนของเธอแล้วบิดอย่างแรงจนเธอเจ็บจนต้องร้องออกมา ก่อนจะมองหน้าของชายตรงหน้าที่ทำร้ายเธออย่างเอาเรื่อง
และแล้วมารียาก็ต้องทำหน้าอึ้งออกมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าหล่อๆที่คมเข้มของเขา จมูกเป็นสัน คิ้วดกดำ หนวดเคราเป็นทรงอย่างสะอาดสะอ้าน นี่ขนาดใส่แว่นตานะเนี่ย ยังโคตรหล่อเลย แถมกลิ่นตัวก็โคตรหอม พวกแขกขาวนี่หน้าตากินขาดจริงๆ มารียาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้านเศรษฐีหนุ่มอย่าง “ฮัสลาน ราเชด บรูฮัมนี” ก็หันมามองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ชิดเขาด้วยสายตาจดจ้องผ่านแว่นตาสีดำนี่ แล้วเขาก็มองอย่างพิจารณาว่าเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะอะไร แต่แม่ง ผู้หญิงคนนี้โคตรสวยเลย
“โอ๊ย…คุณ…ปล่อยฉันก่อน…ฉันแค่จะเอากระเป๋าของคุณมาให้…คุณลืมไว้ในแท็กซี่ที่คุณลงมาเมื่อกี้…อือ…” มารียาร้องไปแล้วก็พูดภาษาอังกฤษออกไปอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นตั้งใจจะเอากระเป๋ามาคืนเขา ทำให้เขานั้นรีบปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
“กระเป๋าของนายจริงๆด้วยครับ…” อาลีลูกน้องคนสนิทของฮัสลานเอ่ยพูดบอกไป เมื่อเห็นเธอถือกระเป๋าของเจ้านายของเขาอยู่จริง
“ผมขอโทษ..ผมไม่ได้จะทำร้ายผู้หญิง ผมคิดว่าคุณจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ” ฮัสลานพูดออกไปแบบรู้สึกผิด เพราะเธอถือกระเป๋าของเขาอยู่ในมือจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน…เอากระเป๋าของคุณไปสิคะ…”มารียาพูดออกไปแล้วเอามือจับที่ข้อมือของตัวเองแบบระคายเคืองแบบปวดๆ เพราะเขาเล่นบีบซะแรงเลย ข้อมืออวบๆของเธอเลยเจ็บแปลบๆเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ…อ่อ เดี๋ยวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะเธอยังจับข้อมืออยู่แบบนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอน่าจะเจ็บอยู่
“อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองไม่จำเป็นต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันขอตัวนะคะ พอดีให้พี่แท็กซี่เขารออยู่ข้างนอกน่ะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเขินๆอย่างงงๆ ก่อนจะรีบชิ่งหนีเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ครับ…ขอบคุณมากนะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะมองเธอยิ้มตอบเขามาแล้วก็หันหลังเดินออกไป เขาก็มองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนสวยใจดีแบบนี้ด้วย
“สวยแล้วยังใจดีอีกนะครับนาย…เงินในกระเป๋าเป็นตับๆแต่เขากลับวิ่งเอามาคืนให้เรา ” อาลีพูดออกไปแล้วมองด้วยรอยยิ้มที่เธอมีน้ำใจขนาดนี้
ฮัสลานก็มองตามเธอไปแล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะหันมามองลูกน้องของเขาที่มองตามเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม เขาก็มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ทันที
“พรึบ…อ่ะเอาไป ต่อไปก็อย่าสะเพร่าลืมกระเป๋าอีก ไม่มีคนสวยใจดีให้นายบ่อยๆหรอกนะอาลี ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ฮัสลานพูดไปก็เอากระเป๋าโยนใส่ลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเชคอินกับพนักงาน เพราะเขาต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปคูเวตด่วน เพราะงานที่นั่นกำลังมีปัญหาใหญ่
ด้านมารียาก็รีบกลับไปขึ้นแท็กซี่แล้วเธอก็เดินทางกลับไปที่คอนโดของเธอ แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับภาพของกวินตาลูกสาวของแม่เลี้ยงของเธอ ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้าของเธอด้วย เพราะพอแม่ของเธอตายพ่อก็เอาน้องเมียมาเป็นเมียเลย
“พี่กวาง…มีนว่าถ้ากลับถึงห้องจะโทรหาพี่กวางพอดีเลยค่ะ…มีอะไรหรือเปล่าคะ” มารียารับสายแล้วเอ่ยพูดทักทายพี่สาวไป
“เปล่า พี่ก็แค่จะโทรมาถามเราว่ากลับถึงกรุงเทพหรือยังเท่านั้นเอง” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว
“ถึงเมื่อกี้เองค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่นั่งรถแท็กซี่ไปที่คอนโดอยู่ค่ะ…แล้วทำไมวันนี้พี่กวางตื่นเช้าจังเลยคะเนี่ย ที่ดูไบมันพึ่งจะแปดโมงเองนะคะ” มารียาเอ่ยถามไปเพราะดูไบเวลาจะช้ากว่าไทยสามชั่วโมง
“คุณจาซุสเขาไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีธุรกิจน้ำมันที่คูเวตมีปัญหาน่ะ เขากับหุ้นส่วนก็เลยต้องบินไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นน่ะ พี่ก็เลยว่างทั้งวันเลย…อ่อ…พี่ลืมไปเลย เมื่อวานพี่จ่ายค่าคอนโดงวดสุดท้ายให้แล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปเอาเอกสารที่นิติบุคคลด้วย พี่ให้เขาโอนเป็นชื่อของมีนแล้ว” กวินตาพูดบอกน้องสาวไป เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลจาซุส มหาเศรษฐีหนุ่มที่ซื้อตัวเธอมาเป็นสาวใช้คอยบำเรอให้เขาตามที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ได้เงินมากพอที่จะทำให้เธอส่งเสียให้คนที่บ้านได้แบบสบายๆ แม้กระทั่งคอนโดที่น้องสาวทั้งสองคนอยู่ เธอก็เป็นคนซื้อให้
“ทำไมโอนเป็นชื่อมีนล่ะคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ที่กวินตาโอนเป็นชื่อของเธอ
“ก็พี่ซื้อให้มีนไง เอาไปเถอะ เพราะกว่าคุณจาซุสเขาจะเบื่อพี่ พี่ก็คงจะผ่อนบ้านที่ไทยได้อีกสักหลังแล้วล่ะ แล้วก็คงจะมีเงินกลับไปตั้งตัวที่ไทยสักก้อน…” กวินตาพูดออกไปแบบไม่รู้เลยว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งวันไหน ที่แน่ๆตอนนี้กอบกวยได้เธอก็ต้องรีบ
“แต่นี่ก็ปีกว่าแล้วนะคะที่พี่อยู่กับเขามา บางทีคุณจาซุสเขาอาจจะรักพี่กวางก็ได้นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงจะปล่อยพี่ไปนานแล้ว ” มารียาพูดไปความความคิดของเธอ เพราะตอนแรกที่เธอรู้ว่าพี่สาวไปเป็นนางบำเรอของมหาเศรษฐีคนนี้เธอก็ไม่ได้สนับสนุนเลยสักนิด แต่มันเป็นทางที่พี่สาวของเธอเลือกแล้ว เธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกวินตา
“ต่อให้เขารักพี่ยังไง พี่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเขาเท่านั้นแหละ พี่เป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเขา ครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานพี่ก็ต้องไป…ตอนนี้อายุของเขามันถึงช่วงที่ต้องแต่งงานแล้ว ไม่นานครอบครัวของเขาก็คงจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับเขาแล้วล่ะ…” กวินตาพูดออกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งเมียคนแรกเป็นชาวดูไบหรือมุสลิมด้วยกันเอง ส่วนน้อยที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งพวกเศรษฐีแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทั้งนั้น
“อย่าเข้าดราม่าแบบนี้สิคะพี่กวาง เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นอย่างพึ่งคิดไปไกลสิคะ” มารียาพูดบอกไปเพื่อให้พี่สาวสบายใจ
“พี่ก็แค่เผื่อใจไปก็เท่านั้นเอง…เวลาเจอสถานะการณ์นั้นจริงๆจะได้ทำใจได้ไง…พี่ไม่โชคดีแบบเราหรอก ที่มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารสุดหล่อน่ะ” กวินตาพูดไปก็แอบแซวน้องสาวไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าใจไปมากกว่านี้
“เฮ้อ…อย่าพูดถึงพี่ปาล์มเลยค่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับมีน วันนี้กลับหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าติดงานหรือว่าไปติดสาวที่ไหนกันแน่…สองเดือนมานี้ยิ่งคุยกันน้อยๆอยู่ด้วย จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยค่ะพี่กวาง” มารียาพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็ยุ่ง เขาเองก็ยุ่ง จะโทษใครก็ไม่ได้
“เอาน่า คบกันมาจะหนึ่งปีแล้วก็ต้องรอดแล้วล่ะ รักเขาแล้วก็อดทนหน่อยสิเราน่ะ” กวินตาพูดบอกไปแบบให้กำลังใจน้องสาว
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ วันนี้คบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วด้วย…ถ้าพี่ปาล์มลืมล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ค่ะ” มารียาพูดบอกพี่สาวไป จากนั้นเธอก็พูดเม้าท์กับพี่สาวไประหว่างที่เดินทางไปที่คอนโดของเธอ
ณ คอนโดของมารียา
ภายในห้องก็ถูกจัดด้วยช่อกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดและที่พื้นก็มีกลีบกุหลาบสีขาวโรยไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะมีกล่องสีขาวใหญ่ๆตั้งอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมีลูกโป่งลอยละล่องอยู่ที่เพดานแล้วมีริบบิ้นห้อยลงมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
“พี่ปาล์มทำเซอร์ไพร์สให้พี่มีนขนาดนี้ ไม่คิดว่ามุกจะน้อยใจบ้างเหรอคะ” มุกดาเอ่ยถามออกไปแล้วค่อยๆเข้าไปหาปรมินทร์ที่จัดเตรียมห้องไว้เซอร์ไพร์สมารียากลับมาซะจนเธออดอิจฉาไม่ได้เลย
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอมุก…เอามือออกไป…เดี๋ยวพี่ต้องไปรับมีนเขาที่สนามบิน” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยเสียงเข้มก็เอามือของเขาไปจับมือของมุกดาออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“จะรีบไปรับทำไมล่ะคะ กว่าพี่มีนจะมาถึงก็อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมงนู้นล่ะมั้งคะ มุกว่าพี่ปาล์มมาเอาใจมุกก่อนดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมุกก็ไม่รับประกันว่ามุกจะเผลอพูดเรื่องของเราสองคนตอนไหน” มุกดาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากใส่ปรมินทร์ไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เลิกขู่พี่สักทีเถอะมุก เรื่องของเราสองคนมันเกิดขึ้นก็เพราะความเมา ความเข้าใจผิดทั้งนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะถ้าคืนนั้นเขาไม่เมาและมาที่นี่ เขาก็คงไม่เผลอตัวไปหลับนอนกับมุกดา จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก
“แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วหลังจากคืนนั้นพี่ปาล์มก็มานอนกับมุกตลอดเลยนิคะ ทำไมคะ แค่พี่มีนจะกลับมาแค่นี้ พี่ปาล์มคิดจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วเหรอคะ พี่มีนเขาจะรู้ทำหน้ายังไงนะคะ ถ้าเขารู้ว่าแฟนตัวเองมาเอากับน้องสาวแบบนี้…” มุกดาพูดออกไปก็ค่อยๆเอามือแกะดุมเสื้อชุดนักศึกษาของตัวเองออกช้าๆทีละเม็ดๆ พร้อมกับส่งสายตามองปรมินทร์แบบยั่วยวน