บทที่ 13 รู้ทันนะเพื่อน
ด้านบิลลาพ่อของฮัสลานนั้นก็เดินเข้ามาเห็นภรรยาของเขากำลังคุยกับคนสนิทอยู่ก็ยิ้มให้ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป เมื่อเห็นว่าทั้งสองนั้นมีท่าทีลับลมคมนัย
“คุยอะไรกันอยู่เหรอคุณ ทำไมลับๆล่อๆแบบนั้น” บิลลาเอ่ยถามออกไปแล้วก็เข้าไปนั่งข้างๆภรรยาของเขา
“ก็คุยเรื่องลูกชายตัวดีของเราน่ะสิคะ ตอนนี้ได้ข่าวว่ารับผู้ช่วยเลขาผู้หญิงมาทำงานด้วย ฉันก็เลยจะให้ไอช่าไปสืบดูน่ะสิคะว่าผู้หญิงคนนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ลูกเราหาผู้หญิงมาเป็นแม่ของหลานเราหรือเปล่า” อามูนีพูดบอกไปแบบไม่ปิดบัง เพราะเรื่องนี้เธอและสามีนั้นค่อนข้างจะซีเรียสมาก
“อ่อ ผมก็นึกว่าอะไร แต่ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันมั้งคุณ ลูกเราบอกว่าจะจ้างผู้หญิงมาอุ้มบุญให้ไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับผู้ช่วยเลขาล่ะคุณ” บิลลาพูดบอกไปแบบไม่เข้าใจ เพราะลูกชายก็รับปากแล้วว่าจะมีหลานให้พวกเขา แต่ใช้วิธีทางการแพทย์ด้วยการอุ้มบุญแทน นั่นก็คือเอาน้ำเชื้อของลูกชายไปผสมกับไข่ที่มีประสิทธิภาพที่สุด แล้วก็เอาไปฝากในตัวของผู้หญิงที่ลูกชายของเขาเป็นคนเฟ้นหา
“ก็มันแปลกนิคะคุณ ลูกชายเราน่ะไว้ใจใครง่ายๆซะที่ไหนล่ะคะ ทำงานกับอาลีมาเป็นสิบกว่าปีไม่เคยคิดจะมีผู้ช่วยเลขาเลย แต่อยู่ๆกับรับผู้ช่วยมาในช่วงนี้ที่เราอยากจะได้หลานกันแบบนี้ ฉันว่ามันแปลกนะคะคุณ ฉันถึงได้ให้ไอช่าไปสืบจากอาลีมาไงคะ” อามูนีพูดบอกไปด้วยสีหน้าท่าทางสงสัย
“คุณนี่ทำอะไรอย่างกับไม่รู้จักนิสัยลูกชายตัวเองอย่างนั้นแหละ หากฮัสลานคิดจะเลี้ยงผู้หญิงจริงๆ คงไม่เอามาไว้ใกล้ตัวแบบนั้นหรอก โดยเฉพาะที่ทำงานน่ะ ผมว่าผู้ช่วยเลขาอะไรนี่คงไม่เกี่ยวอะไรกันหรอก ลูกเราก็คงจะเอามาช่วยงานอาลีเท่านั้นแหละ” บิลลาพูดบอกไปตามความคิดของเขา
“งั้นคุณลองดูหน้าของผู้ช่วยเลขาของลูกชายตัวเองหน่อยไหมคะ…นี่ค่ะ…สวยไหมคะ” อามูนีพูดบอกไปก็ส่งไอแพดให้สามีดูแบบอดไม่ได้ เพราะผู้ช่วยเลขาสวยขนาดนี้เลยเนี่ยนะ
“อืม…สวย ก็เหมาะที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้ลูกชายเราได้ ทำไมคุณ แค่เขาสวยคุณก็คิดว่าเขาเป็นเด็กของลูกชายเราแล้วหรือไง” บิลลาเอ่ยถามภรรยาออกไป เพราะเขาเชื่อว่าลูกชายของเขาไม่สนใจพนักงานของตัวเองหรอก
“เฮ้อ…เอาที่คุณสบายเถอะค่ะ ฉันจะคิดอะไรมันก็เรื่องของฉันก็แล้วกัน” อามูนีพูดบอกไปแบบอดไม่ได้ เมื่อสามีของเธอนั้นยืนกรานมาซะอย่างนั้นมันจึ้งทำให้เธอหงุดหงิดใจมากขึ้นจนเธอลุกหนี
“แล้วคุณจะไปไหนหึ ผมอุตส่าห์จะชวนคุณออกไปทานอาหารด้วยกันข้างนอก” บิลลาพูดไปเมื่อภรรยาของเขาลุกหนีทำท่าจะเดินออกไป
“ออกไปทานคนเดียวเถอะค่ะ ตอนนี้ฉันทานไม่ลง…เบื่อคนแถวนี้…ชิ…” อามูนีพูดบอกไปก็เชิดหน้าใส่สามีแล้วเธอก็เดินออกไปทันที
“นี่นายหญิงของเธออารมณ์เสียอะไรอีกเนี่ยไอช่า…ยิ่งแก่ก็ยิ่งเอาใจยากขึ้นทุกวัน เฮ้อ…” บิลลาพูดบ่นกับไอช่าแม่บ้านสาวประจำตัวของภรรยาอย่างอดไม่ได้
“ก็นายท่านพูดไม่เข้าหูนายหญิงนิคะ นายหญิงก็เลยหงุดหงิดแบบนั้น ต่อไปนายท่านก็เออออห่อหมกไปกับนายหญิงเถอะค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของคุณฮัสลานน่ะ” ไอช่าพูดบอกไป เพราะดูท่านายท่านจะไม่รู้เรื่องเอาซะเลยว่าเมียตัวเองน่ะหงุดหงิดใจเรื่องอะไร
“อ่อ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ทำหน้าบึ้งออกไปก็เพราะอย่างนี้นี่เอง นายหญิงของเธอนี่ก็ยังไง จะคะยั้นคะยอให้ฮัสลานมันมีเมียมีลูกให้ได้เลยหรือไง…เห็นผู้หญิงที่ไหนเข้าใกล้ลูกชายหน่อยไม่ได้ เป็นต้องสงสัยไปหมด ลูกชายฉันจะไม่มีเมียก็เพราะเมียฉันนี่แหละ เฮ้อ….เจ้ากี้เข้าการไม่เข้าเรื่อง” บิลลาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ จนไอช่านั้นได้แต่ยิ้มออกมาแห้งๆ
“นายหญิงก็คงจะกลัวตระกูลบรูฮัมนีไม่มีคนสืบสกุลมั้งคะนายท่าน เพราะนายน้อยก็เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล…” ไอช่าพูดบอกไปอย่างอธิบายให้นายใหญ่เข้าใจ
“อืม…มันก็จริง แต่เรามีเงิน หากฮัสลานอยากจะมีลูกจริงๆ จะมีพร้อมกันสักสิบคนก็ยังได้ แต่มันอยู่ที่ลูกชายฉันมันไม่อยากจะมีไง มันถึงได้ล่วงเลยมาจนป่านนี้น่ะ ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นให้ฮัสลานมันหาแม่พันธ์ที่โดนใจมันได้เท่านั้นแหละ เธอก็เตือนนายหญิงของเธอหน่อย วุ่นวายกับลูกมากๆ เดี๋ยวลูกจะไม่ยอมมีหลานให้น่ะ…” บิลลาพูดบอกไปแล้วก็ทำหน้าจริงจังออกมา เพราะเขาก็หวังไม่ต่างจากภรรยาของเขาหรอก แต่ลูกชายของเขาไม่ยอมเลือกผู้หญิงที่จะมาอุ้มท้องลูกสักที แล้วจะให้พวกเขาทำยังไงล่ะ นอกจาะรออยู่แบบนี้
“ค่ะนายท่าน ดิฉันจะพยายามเตือนนายหญิงค่ะ งั้นดิฉันขอตัวตามนายหญิงไปก่อนนะคะ….” ไอช่าพูดบอกไปก็ก้มหน้าลงทันที เพราะเธอจะเตือนอะไรได้ล่ะ เธอเป็นแค่คนใช้นะ ขนาดนายท่านเป็นสามียังเตือนไม่ได้เลย ไอช่าคิดในใจอย่างอดไม่ได้ จากนั้นเธอก็เดินตามนายหญิงของเธออกไป เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงได้ฟังนายท่านบ่นอีกยาวแน่
“เฮ้อ…” บิลลามองตามไปแล้วก็ถอนหายใจออกมาทันที เพราะในบ้านนี้มันช่างเงียบเหงาซะจริง ถ้ามีเด็กสักคนมาวิ่งเล่นมันก็คงจะดีไม่น้อยเลยจริงๆ
ห้าโมงเย็น…
พอมารียาเลิกงานแล้วเธอก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่เธอนั้นต้องท่านจำเรื่องราวเกี่ยวกับฮัสลานมาเกือบทั้งวันแล้ว ทำให้เธอนั้นอยากจะกลับไปนอนหลับพักผ่อนเต็มทีแล้ว
“จะกลับแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมไปส่ง บ้านของจาซุสทางผ่านบ้านผมพอดี” ฮัสลานเดินออกมาแล้วเอ่ยพูดออกไป เพราะเขาอุตส่าห์ยอมเลิกงานเร็วเพื่อจะไปส่งเธอกลับบ้านพอดีเลย
“ห้ะ…ทางผ่านเหรอครับนาย…” อาลีที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆถึงกับทำหน้าตกใจทันที เพราะบ้านของเจ้านายและบ้านของจาซุสน่ะมันคนล่ะทางกันเลยนะ นี่เจ้านายของเขาลงทุนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“อืม…ก็ทางผ่านไง นายลืมไปแล้วหรือไงล่ะ ไหนๆเราก็จะกลับอยู่แล้วก็แวะส่งมารียาเขาหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวจาซุสมันจะหาว่าฉันแล้งน้ำใจ” ฮัสลานพูดบอกไปแบบเก๊กๆ
“อ่อ ขอบคุณนะคะคุณฮัสลานที่มีน้ำใจกับฉัน แต่คุณจาซุสเขาให้คนขับรถที่บ้านมารอรับฉันแล้วนะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มให้เขาไป เพราะจาซุสและพี่สาวของเธอให้รถมารอรับเธอตอนเลิกงานแล้ว
“จาซุสนี่มันใจดีกับคุณจริงๆเลยนะ…งั้นก็กลับบ้านดีๆก็แล้วกัน…” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็เดินออกไปทันที เพราะไอ้เพื่อนตัวแสบของเขามันดันเสนอหน้าให้คนขับรถของมันมารับแล้ว แล้วเขาจะไปส่งเธอได้ยังไงกัน แม่ง คิดแล้วมันน่าเจ็บใจจริงๆ
“ค่ะ…แล้วคุณ…อ่าว..” มารียาตอบไปก็กำลังจะพูดกับเขา แต่เขากลับเดินตรงออกไปแล้วทำให้เธอนั้นมองตามแบบงงๆเลยทีเดียว
“ปกติของเจ้านายเขาแล้วล่ะ อีกหน่อยคุณก็ชิน ป่ะ เราก็กลับกันเถอะ” อาลีพูดบอกไปก็หยิบกระเป๋าแล้วรีบเดินตามเจ้านายของเขาไป ส่วนมารียาเองก็เช่นกัน เธอก็รีบวิ่งตามทั้งสองไปทันทีก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน มารียาก็ยืนนิ่งๆอย่างเกร็งๆเลยทีเดียว
ฮัสลานที่ก็ยืนนิ่งเช่นกัน แต่สายตาของเขาก็มองเธอที่เอาแต่ก้มหน้าด้วยสายตาจดจ้อง เพราะเขาอยากจะไปส่งเธอ แต่เธอกลับดันมีรถมารอรับแล้ว มันจึงทำให้เขานั้นรู้สึกหงุดหงิดเหลือเกิน
“มารียา…เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าคุณทำอาหารเช้ามาให้ผมด้วยนะ ผมอยากจะลองชิมฝีมือการทำอาหารของคุณ…” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขาไม่รู้จะหาอะไรมาคุยกับเธอแล้ว จึงมอบหน้าที่ให้เธอทำในวันพรุ่งนี้ซะเลย
“คะ…ทำอาหารเช้าเหรอคะ…แต่ในข้อมูลที่คุณอาลีให้บอกว่าคุณฮัสลานทานแค่กาแฟไม่ใช่เหรอคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแบบสงสัย เพราะในข้อมูลที่อาลีมาให้เธออ่านนั้นบอกว่าเขาไม่ทานข้าวเช้า เขาจะทานแค่กาแฟและขนมปังเท่านั้นนิ
“ก็ผมอยากจะเปลี่ยนบ้างไม่ได้หรือไง…คุณก็ทำๆมาเถอะ … ติ้ง…” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วลิฟต์ก็เปิดออก ทำให้ฮัสลานนั้นเดินนำออกมาทันที
“ไม่คิดจะถามเราเลยหรือไงว่าเราทำอาหารเป็นไหม เฮ้อ…” มารียาพูดบ่นออกไปแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งๆแล้วก็เดินตามเขาออกไปแต่ก็เลือกที่จะเดินช้าลง เพราะกลัวเขาจะสั่งอะไรเธอมาอีก
จากนั้นฮัสลานก็เดินไปขึ้นรถของเขาแล้วเขาก็แลมองมารียาแล้วเธอก็ก้มหัวให้เขาเป็นการบอกลาแล้วเธอก็รีบเดินไปขึ้นรถที่มารอรับเธอทันที ฮัสลานก็มองรถของมารียาขับเคลื่อนออกไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนจะบอกให้อาลีขับรถกลับบ้าน
พอมารียาถึงบ้านก็ไปเล่าให้พี่สาวของเธอฟังเกี่ยวกับเรื่องที่ทำงานของเธอในวันนี้ แล้วเธอก็บ่นเรื่องความเรื่องมากของฮัสลานไปจนพี่สาวของเธอขำใส่เธอใหญ่เลย เพราะเธอดันเข้าไปสมัครงานกับเขาเอง ดังนั้นเธอก็ต้องรับมือกับเจ้านายอย่างเขาให้ได้ เพราะงานที่นี่ก็ยิ่งหายาก และที่สำคัญเจ้านายที่เป็นกันเองแบบนี้ก็ไม่ได้หาง่ายๆเช่นกัน ทำให้มารียานั้นต้องสู้ต่อไปกับการทำงานที่นี่
ส่วนอาลีพอกลับบ้านไปเขาก็ถูกแม่ของเขานั้นถามเกี่ยวกับเรื่องผู้ช่วยเลขาของเขาแบบนักโทษเลยทีเดียว แต่เขาก็ยืนกรานที่จะไม่ตอบอะไรจนแม่ของเขาพาเขามาพบกับนายหญิง ทำให้เขานั้นนั่งทำหน้ายิ้มแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตรงนี้
“ตอบมาตามตรงอาลี ว่าทำไมลูกชายของฉันถึงรับผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเป็นผู้ช่วยทำไม ฉันไม่คิดหรอกนะว่าที่นายทำงานคนเดียวมาตลอดจะทำงานไม่ไหวจนต้องมีผู้ช่วยน่ะ ผู้หญิงคนนั้นใช่ผู้หญิงของฮัสลานหรือเปล่า…” อามูนีพูดออกไปแล้วก็มองหน้าอาลีแบบจดจ้อง
“ยังไม่ใช่ครับนายหญิง…แต่เจ้านายก็จ้องจะเคลมเขาอยู่ครับ…” อาลีตอบไปแล้วก็ก้มหน้าลงแบบกลัวสายตาของนายหญิงตอนนี้มาก
“หมายความว่ายังไงหึ บอกฉันให้เข้าใจสิอาลี” นายหญิงถามย้ำออกไปอย่างอยากรู้ เพราะไม่เข้าใจที่อาลีพูดเท่าไหร่
“คือเจ้านายเขาชอบมารียาครับ แต่ว่าเธอไม่ได้ชอบเจ้านายเลย ตอนที่เจ้านายเสนอให้เธอมาเป็นแม่อุ้มท้องให้กับลูกของเจ้านาย เธอก็ปฎิเสธครับ เจ้านายก็เลยวางแผนรับเธอเข้ามาเป็นผู้ช่วยของผมเพื่อจะหาทางรวบหัวรวบหางเธอครับ” อาลีพูดบอกไปตรงๆอย่างเข้าใจเลยทีเดียว
“ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาปฎิเสธลูกชายของฉันหึ ฮัสลานเพียบพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าตาแล้วก็ฐานะ ใครๆก็อยากจะได้ลูกชายฉันทั้งนั้น ผู้หญิงคนนี้เลิศเลอมาจากไหนไม่ทราบถึงขั้นตั้งให้ลูกชายฉันวางแผนที่จะรวบหัวรวบหางน่ะ” อามูนีพูดออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึงอย่างอดไม่ได้
“ก็เจ้านายเขาชอบนิครับนายหญิง จะทำยังไงได้ล่ะครับ อีกอย่างเขาก็ไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายด้วย เจ้านายก็ต้องลงทุนทำแบบนี้ล่ะครับ…แต่ที่ยากก็คือเจ้านายคิดจะให้เขาท้องแบบธรรมชาตินี่แหละครับ แค่จีบเขายังไม่ติดเลย จะเอาอะไรมาทำให้เขาท้องล่ะครับ วันก่อนนอนห้องเดียวกันแท้ๆ เจ้านายก็ยังไม่ได้กินเขาเลยนะครับ…”อาลีพูดบอกไปเพราะเจ้านายของเขาดูจริงจังกับเรื่องนี้มาก
“ผู้หญิงคนนี้เล่นตัวขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย…สงสัยว่าฉันต้องช่วยลูกชายของฉันให้สมหวังหน่อยซะแล้ว…ชักช้าแบบนี้ฉันก็ไม่ได้หลานกันพอดี…อาลี อาทิตย์นี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงที่บ้าน นายชวนผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่ด้วย ฉันจะดูสิว่าถ้าเจอฉันแล้วยังเล่นตัวอยู่อีกไหม…แล้วก็ห้ามให้ฮัสลานรู้เรื่องนี้ล่ะ ไม่งั้นนายเจอดีแน่” อามูนีพูดออกไป เพราะถ้าลูกชายของเธอถูกใจคนนี้เธอก็จะช่วยอีกแรง ดูสิว่าจะสำเร็จไหม
“ครับๆนายหญิง…” อาลีพูดตอบไปแบบยอมๆ เพราะทั้งบ้านหลังนี้ไม่มีใครขัดใจนายหญิงได้เลยสักคน เขาก็ต้องเชื่อฟังและทำตามน่ะสิ ดูท่างานนี้มารียาจะเจอศึกหนักซะแล้ว
สองวันผ่านไปมา
มารียาก็ทำงานร่วมกับฮัสลานได้เป็นอย่างดี และตอนนี้เธอก็เริ่มเรียนรู้งานต่างๆกับอาลีจนเริ่มทำงานหลายๆอย่างได้แล้ว แต่หน้าที่หลักของเธอก็คือการเตรียมอาหารเช้าให้กับฮัสลาน ซึ่งเธอก็มีตัวช่วยนั่นคือเชฟที่บ้านของจาซุสที่ช่วยเธอเตรียมอาหารให้กับฮัสลาน แต่ต่อจากนี้เธอก็คงต้องพึ่งตัวเองแล้ว เพราะตอนนี้เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่พักที่บริษัทจัดให้แล้ว
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าบริษัทของมีนจะให้ที่พักดีๆกับพนักงานขนาดนี้” กวินตาพูดออกไปขณะเดินสำรวจห้องพักของน้องสาวที่มันมีห้องนอนและห้องครัวรวมถึงห้องนั่งเล่นแบบสะดวกสบายให้
“มีนก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ แต่คุณอาลีบอกว่ามันสมกับตำแหน่งงานที่มีนทำแล้ว มีนก็เลยไม่ได้อะไร คิดซะว่ามันแลกมากับการที่มีนต้องรับความกวนประสาทจากเจ้านายอย่างเขาก็แล้วกันค่ะ” มารียาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เพราะวันนี้เธอย้ายเข้ามาแล้วก็จัดของร่วมกับพี่สาวตั้งแต่เย็นแล้ว
“หึๆ ก็ดีแล้วล่ะ เจองานหนักๆแล้วมีห้องพักดีๆให้พักผ่อนก็ดีแล้ว พี่เองก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ที่จริงพี่อยากให้มีนพักกับพี่ที่บ้านคุณจาซุสเขานะ มีนแน่ใจแล้วนะว่าจะมาอยู่ที่นี่น่ะ” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้กับน้องสาวของเธอไป
“มีนแน่ใจแล้วค่ะพี่กวาง…มีนรบกวนคุณจาซุสเขามาเยอะแล้ว ตอนนี้มีนดูแลตัวเองได้แล้วก็ควรจะย้ายออกมา ไว้ตอนไหนที่มีนไม่ไหว มีนค่อยกลับไปนะคะ หึๆ” มารียาพูดบอกไปก็หัวเราะขำๆใส่พี่สาวของเธอ
“อืม…ถ้าไม่ไหวก็กลับมา พี่กับคุณจาซูสยินดีต้อนรับเราเสมอ” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็มองน้องสาวอย่างเอ็นดู
“ค่ะพี่กวาง นี่ก็ดึกแล้วมีนว่าพี่กวางกลับเลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวคุณจาซุสเขาจะเป็นห่วงอีก” มารียาพูดบอกไป เพราะนี่ก็จะสามทุ่มอยู่แล้ว
“คุณจาซุสเขาไปดื่มกับพวกเพื่อนๆเขาน่ะ คงจะกลับดึกๆนู้นแหละ เพราะฉะนั้นวันนี้พี่อยู่ทานข้าวกับเราแล้วค่อยกลับก็แล้วกัน พี่ให้คนขับรถไปซื้อมาให้แล้ว เดี๋ยวก็คงมา” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนเขา และเขาก้คงจะกลับดึกมากๆแน่ เธอจึงสามารถอยู่กับน้องสาวจนดึกได้
“งั้นดีเลยค่ะ มีนเตรียมไวน์มาฉลองห้องใหม่พอดีเลย งั้นเรามาดื่มด้วยกันนะคะ” มารียาพูดบอกไปก็ยิ้มออกมา เพราะเธอได้ซื้อมาไว้ฉลองห้องใหม่ของเธอพอดี
“จัดไปเลยน้องรัก…” กวินตาพูดบอกไปก็เดินไปที่เค้าน์เตอร์อาหารของน้องสาวทันที ส่วนมารียาก็เอาไวน์มาเปิดแล้วหยิบแก้วมาเทไวน์ใส่ทันที จากนั้นสองพี่น้องก็นั่งจับไวน์รออาหารมาไปเรื่อยๆ
ด้านจาซุสก็มาร่วมงานวันเกิดของราชิดที่จัดขึ้นที่บ้านอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้เขานั้นได้มาร่วมสังสรรค์กับพวกเพื่อนๆนักธุรกิจของเขารวมถึงฮัสลานเองก็ด้วย และตอนนี้เขากับฮัสลานก็กำลังโดนสาวๆที่มาเต้นระบำโชว์หน้าท้องในคืนนี้เต้นยั่วยวนใส่ ทำให้พวกเขานั้นมองสาวๆที่เต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาอย่างชอบใจ
“ดูท่าคืนนี้แกกับฉันจะไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าแล้วล่ะว่ะ” ฮัสลานพูดบอกไปขณะที่สายตาของเขามองไปยังสาวหน้าคมที่เต้นส่ายโพกอยู่ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วเขาก็โยนเงินใส่พวกเธออย่างชอบใจ
“แกคนเดียวสิวะ เอาฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย ฉันไม่ได้สนใจสักหน่อย” จาซุสพูดบอกไปเพราะเขาคิดว่าสาวๆพวกนี้สวยก็จริง แต่พวกเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“ตั้งแต่แกเลี้ยงผู้หญิงคนนั้น แกเปลี่ยนไปมากนะจาซุส นี่ขนาดมีสาวมาเต้นยั่วยวนขนาดนี้แกก็ไม่สนใจเลยเหรอวะ” ฮัสลานเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนหนุ่มของเขาจะไม่สนใจสาวๆพวกนี้น่ะ
“ก็เขาแซ่บกว่าผู้หญิงพวกนี้นิวะ แล้วทำไมฉันต้องสนใจด้วย” จาซุสพูดบอกไปแล้วยิ้มมุมปากใส่เพื่อนหนุ่ม เพราะเขาอยู่กับกวินตามานานแต่เขาไม่เคยเบื่อเธอเลยก็เพราะว่าเธอไม่เคยทำอะไรจำเจกับเขาเลยต่างหาก เขาถึงได้เลี้ยงเธอไว้นานเป็นปีๆแบบนี้
“หึๆ เป็นคำตอบที่แสบทรวงมาเลยว่ะ…งั้นแกก็ให้เงินเป็นกำลังใจพวกสาวๆหน่อยเถอะ เขาอุตส่าห์มาเต้นยั่วขนาดนี้แล้ว อย่าเสียน้ำใจ” ฮัสลานพูดบอกไปก็โปรยเงินใส่สาวๆไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาชอบมองของสวยๆงามๆแบบนี้
“…แล้วแกจะเอาสาวๆพวกนี้กลับด้วยเหรอ นี่มันนางโชว์นะโว้ย….เจอของเด็ดให้จะทำยังไงวะ…” จาซุสเอ่ยถามออกไป เพราะท่าทางของเพื่อนเขานั้นดูดี้ด้าชอบใจที่พวกสาวๆเต้นยั่วยวนมาก และนางโชว์ส่วนใหญ่ของที่นี่ก็สาวข้ามเพศซะด้วย ดังนั้นเขาจึงต้องถามเพื่อนหนุ่มให้แน่ใจ
“ฮ่าๆ แกคิดว่าฉันจะเอาสาวๆพวกนี้กลับงั้นเหรอวะ ฉันก็แค่ล้อแกเล่นเท่านั้นแหละ แกก็รู้ว่าฉันน่ะเลือกขนาดไหน เพราะฉะนั้นยั่วแค่นี้ไม่ทำให้ฉันกระดิกนิ้วเรียกขึ้นเตียงได้หรอก” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เพราะเขาก็แค่ชอบสนุกกับการได้ดูอะไรยั่วยวนแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟันไม่เลือกสักหน่อย
“แล้วมารียาพอจะทำให้แกกระดิกนิ้วเรียกขึ้นเตียงได้ไหมล่ะ…หรือเขาต้องเป็นคนกระดิกนิ้วเรียกแกวะ ฮ่าๆ” จาซุสพูดออกไปแล้วก็หัวเราะอย่างสะใจ เพราะเขารู้ทันเพื่อนหนุ่มที่ต้องการจะกินมารียาแต่ดูท่ามันจะยากจนเพื่อนของเขานั้นต้องลงทุนทำอะไรหลายๆอย่างเลยเพื่อจะได้เธอไปใกล้ตัวแบบนั้น ทำไมเขาจะมองไม่ออกล่ะ เขาเป็นเพื่อนมันมาตั้งแต่ห้าขวบนะ แค่มันมองมารียาเขาก็รู้แล้วว่ามันคิดยังไงน่ะ