ตอนที่ 3
ep3
ปั้ง !!!!
“เสียงปืนดังสนั่นพร้อมกลิ่นไอเขม่าลอยมาแตะจมูก ฉันค่อยๆจับแขนตัวเองแล้วลืมตาขึ้นมา”
“นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม” มองไปรอบๆ ตัวพบฝาผนังที่มีรอยกระสุนอยู่ใกล้ๆตัวฉัน นี่เขาตั้งใจไม่ยิงฉันหรือว่ายิงพลาด ก็ไม่น่าใช่
“ใช่...เธอยังไม่ตาย....ตอนนี้”
“แล้วทำไมคุณไม่ยิงฉันไปเลย จะรออะไรอีก”
“ตายเลยมันง่ายไป” เขาหันกลับไปมองลูกน้อง กึ่งพยักหน้านิดหน่อย ก่อนมองกลับมาที่ฉัน
“ฮึก คุณมันเลว คนใจร้าย”
“เงียบ...ลุกขึ้นมาแล้วไปกับฉัน ง่ายๆ!!”
“ไม่...ฉันไม่ไปไหนกับคุณ คนใจร้าย” เขาไม่สนใจเสียงของฉันขอแถมยังลากแขนฉันไปตามเขามายังในตัวบ้านหลังใหญ่ แล้วทุ่มฉันลงใส่พื้นในห้องโถงกว้าง
“แม่บ้าน...” เวลาไม่ถึง1นาที ก็มีแม่บ้านและลูกน้องที่อยู่ในบ้านมารวมกัน
“มาแล้วค่ะ คุณนที” เสียงป้าแม่บ้านคนหนึ่งพูดขึ้นมา เขาชื่อว่านที ชื่อของผู้ชายใจร้ายคนนี้
“เชิญพวกคุณ ใช้งานผู้หญิงคนนี้ได้เต็มที่ ถ้าใครไม่ใช้ผมจะจับไปส่งเกาะพร้อมกับผู้หญิงคนนี้”
“ค่ะๆ” แม่บ้านมีทั้งสูงวัย วัยกลางคน รวมถึงยังวัยรุ่นก็มี ต่างคนต่างรับคำสั่งตะกุกตะกักด้วยความกลัว
“ดี” เขาเขาก็เดินหนีขึ้นไปยังด้านบนของบ้าน ฉันถึงกลับปล่อยโฮอีกครั้ง เกิดมาฉันไม่เคยลำบากเลยไม่เคยแม้แต่ทำงานบ้านด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ เกิดมาอาภัพพ่อแม่ไม่พอ ยังมาคอยรับกรรมแทนคนอื่นอีก
“ไม่เป็นไรนะหนู มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอก ป่ะ ไปทำงานกัน” ป้าคนใจดีคนหนึ่ง เดินเข้ามาปลอบฉัน
“ป้าจะไปปลอบมันทำไม ใช้มันไปถูกระจกแทนพวกหนูสิ” สาววัยรุ่นกลางๆสองคน มองด้วยสายตาที่เหยียดฉัน
“แต่หนูไม่เคยทำอะไรสักอย่างเลยค่ะป้า หนูจะทำได้ไหม” ฉันไม่สนใจสองคนนั้นพูดแต่หันกลับมาคุยกับป้าใจดีแทน
“ป้าชื่อป้าดำนะ ค่อยๆทำไปเดี๋ยวก็เป็น ดีกว่าโดนจับไปส่งที่เกาะนะ”
“เกาะ ...คือ อะไรคะป้าดำ?” เกาะคือไรฉันก็อดสงสัยไม่ได้ ทำไมคุณนทีขู่มาต้องมีแต่คนกลัว
“เหมือนซ่องแหละหนู เขาจะส่งต่อเพื่อไปขายบริการ” ฉันได้ยินถึงกับสะดุ้ง
“หื้ออ”
“ไปๆทำงานกันเถอะ เดี๋ยวคุณนทีจะลงมาเห็น” ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเอง ฉันก็ตามป้าดำมาทำงานบ้าน ปัดกวาดเช็ดถู ไป ป้าแกก็สอนไป เพราะฉันเองก็ไม่เคยทำมาก่อน
“เหนื่อยจัง” ฉันนั่งลงที่พื้นพร้อมกับพูดกับตัวเองเบาๆ เพราะฉันเพิ่งจมน้ำมาไข้ก็ขึ้น แถมยังมาทำงานบ้านตั้งแต่ สายยันบ่ายข้าวก็ไม่ได้กิน
“ใครให้เธอพัก ออกไปเช็ดกระจกข้างนอกด้วย” สาววัยรุ่นปลายสองคน เดินมาสั่งให้ฉันไปเช็ดกระจกข้างนอกทั้งๆที่ก็ลมแรงๆมืดฝนเหมือนพายุเข้า
“แต่ฝนจะตกนะคะ เช็ดตอนนี้มันก็น่าจะเปื้อนอีก” ฉันตอบไปด้วยความใสซื่อไม่ทันคนเท่าไหร่ จากคนที่เคยสบายมาก่อนอยู่ๆมาตกเป็นคนใช้มันไม่ง่ายเลย
“เปื้อนก็เช็ดใหม่สิ เธอมาทำหน้าที่อะไรยังไม่รู้อีกหรอ” พี่สองคนนี้ชื่อว่า พลอย และ ขวัญ
“ทราบค่ะ แต่...”
“ไม่ต้องมาเถียง ไปเช็ด” สองคนโยนผ้าพร้อมถังน้ำยามาให้ฉัน ฉันจำเป็นต้องออกไป พร้อมกับบรรยากาศลมแรง
“เห้อ น่ากลัวจัง” ฉันทำไปเช็ดไปด้วยความระแวง เพราะลมแรงพัดเอากิ่งไม้ใบหญ้า รวมทั้งฝุ่นมาเต็มไปหมด และไม่นานฝนก็ตกอย่างหนัก ฟ้าร้องแรง ฉันเลยรีบวิ่งเข้าบ้าน เพื่อหาที่หลบฝน
“ครื้นนน เปรี้ยง!!”
“อร้ายยย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรฉันเนี่ย” เสียงฟ้าผ่าอย่างหนัก เเละเม็ดฝนตกอย่างแรง เมื่อวิ่งมาถึงประตูบ้าน ฉันก็เปิดประตูบานใหญ่ ..แต่ปรากฏว่า มันเปิดไม่ได้ ถูกล็อคมาจากด้านใน มีเพียงช่องกระจกเล็กๆไว้มอง เข้าไปข้างในก็เห็นพี่สองคนนั้นยืนมองมาที่กระจก ตรงฉันอยู่
“พี่พลอย พี่ขวัญ เปิดปลดล็อคให้ไข่มุกหน่อยค่ะ” ฉันตะโกนเข้าไปหวังพี่สองคนจะได้ยิน แต่เขาทั้งสองกลับมองไปทางอื่น ทั้งๆที่ก็เห็นฉันยืนหนาวเปียกอยู่ เขาทั้งสองตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหม
“ฮึบ หนาวว” รู้อย่างงั้นฉันเลยได้แต่กอดเข่าร้องไห้ตากฝนอยู่หน้าบ้าน เขาคงไม่เปิดประตูให้ฉันหรอก ฉันเองก็เพิ่งมานี่วันแรก ไม่รู้ว่าตรงไหนพอมีที่หลบฝนบ้าง ได้แต่กอดตัวเองขดตัวอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ ที่มีแต่คนใจร้าย
จนเวลาผ่านไปนานเกือบจะมืดสนิทก็ยังไม่มีคนออกมา ฝนก็ตกแรง1-2ชั่วโมงไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ฉันรู้สึกอ่อนเพลีย และหนาวสั่นจนเข้ากระดูก และไม่นานหัวฉันก็หนักก่อนจะวูบหมดสติ.....ภาพตัดไป